เรื่องเล่าขาน ตำนานวัฒนธรรมรถแข่งอเมริกัน
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : Job Thai Livestream (Piyanant Chawalekyangkul), www.facebook.com/jobdc2
ไหนๆ เราก็เดินหน้าสื่อ Online กันเต็มพิกัดแล้ว โลกนี้มีอะไรน่าสนใจ เราจะ “ตามไปเผือก” ฮ่ะๆ เราไม่ได้ไปเองหรอกครับ แต่เราได้ตามอัพเดตจาก “ผู้ที่มีโอกาสได้ไปจริง” และนำสิ่งที่เรียกว่า “รูปถ่าย” และ “ประสบการณ์” ของผู้เดินทาง ว่าไปเจออะไรที่น่าสนใจมาบ้าง และมาเล่าให้แฟนๆ XO AUTOSPORT ได้รับรู้กัน นับว่ามีประโยชน์กว่าการอัพขึ้น Facebook ไว้เฉยๆ ครั้งนี้เราได้เรื่องราวการเดินทางจาก Job Thai Livestream นำภาพและเล่าเรื่องราวด้วยภาพ “เพลิดเพลินเหมือนไปเดินเอง” ตามสโลแกนของ XO AUTOSPORT ครับ…
ภาคแรก ขอเปิดประเด็น “ภาคแรก” กันด้วย NHRA Motorsports Museum ซึ่งรวบรวม “ตำนานตัวแข่ง” นานาชนิด ทั้งรถยนต์ และ มอเตอร์ไซค์ จำพวก Drag Racing หลายรูปแบบ, Hot Rod, American Muscle, Top Speed ที่เอาไปวิ่งในทะเลเกลือ Bonneville และรถแข่งในตำนานอีกมากมาย ถูกนำมาบรรจุไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ Pomona City, California เชิญรับชมได้ตามสะดวกครับ…
Comment : Job Thai Livestream
สำหรับ NHRA Motorsports Museum ส่วนตัวผมว่ามันมี “ตำนาน” และ “เรื่องราว” ต่างๆ เกี่ยวกับ Drag Racing มากมายตั้งแต่ในยุคเริ่มแรก มาจนถึงปัจจุบัน ใช้เวลายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ซึ่งการแข่ง Drag Racing อย่างเต็มรูปแบบ ก็เป็นยุค “หลังสงครามโลก” ที่ อเมริกา รบชนะมา ก็จะมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกต่างๆ ที่มีความทันสมัยเข้ามามากมาย จนทำให้มีการประยุกต์ใช้กับรถยนต์ จนกลายเป็นรถแข่งในที่สุด ณ จุดนี้เอง ก็จะมีวิวัฒนาการต่างๆ เกิดขึ้นในแต่ละปี เช่น ปี 1960 ก็จะเกิดคำว่า Dragster ขึ้น, ปี 1963 มีการคิดค้นไฟปล่อยตัวแบบ Christmas Three ซึ่งเป็นมาตรฐานมาจนถึงปัจจุบัน, มีการใช้ “ไนโตรมีเธน” ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ให้การจุดระเบิดรุนแรงที่สุด เพราะมีออกซิเจนผสมอยู่มาก เอาไว้ใช้ทำ “ระเบิด” นั่นเอง, ปี 1966 เริ่มมี “นักแข่งผู้หญิง” เข้าร่วมการแข่งขัน, ปี 1969 กำเนิด “Funny Car” ขึ้นมา ซึ่งมันมี Time Line ที่ยาวนาน คงจะบอกกันไม่หมดแน่ ซึ่งส่วนตัวผมเอง อยากจะให้นักแข่งไทย ช่างไทย ได้มาดูที่นี่สักครั้งในชีวิต ถือเป็น “ต้นวัฒนธรรม” ของ Drag Racing จริงๆ มันมีไอเดียดีๆ ที่จะสามารถไปปรับใช้กับรถแข่งในไทยได้มากจริงๆ ครับ…
อย่าลืม อย่าพลาด มี “ภาค 2” อีกนะครับ จะพาไปชม “รถในตำนาน” อีกแห่งหนึ่ง แต่จะเป็นที่ไหน ยังไม่บอก อ่านอันนี้ให้จบก่อน แล้วเจอกันครับ…
- บริเวณด้านหน้า NHRA Motorsports Museum, Present by Automotive Club of Southern California เปิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 1998 เพื่อให้เป็นการ “บันทึกวัฒนธรรม” ของวงการมอเตอร์สปอร์ตในอเมริกา ตั้งอยู่ในบริเวณ Los Angeles County Fairplex บนพื้นที่ 28,500 ตารางฟุต
- รูปปั้นของ Mr. Wally Parks ผู้ก่อตั้ง (Founder) NHRA หรือ National Hot Rod Association ขึ้นมา เมื่อปี 1951 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2007
- นี่แหละ โคตรตระกูล “หน้ายาว” หรือ Dragster แต่ก่อนการแข่งขัน Drag Race มาจากการ “แข่งบนถนน” วิ่งกันทางตรงๆ ตามถนนต่างๆ นี่แหละ ตอนหลังในยุค “ฟิฟตี้” จึงมีการจัดแข่งในสนามอย่างเป็นทางการ แต่เป็น “สนามดินอัดเรียบ” นะครับ โดย Wally Parks ก็เป็นโต้โผในการจัดแข่งด้วย รถสมัยนั้นก็เน้น “เบา” ไว้ก่อน เอารถโบราณมาโมดิฟายใหม่ ถอดหลังคา ถอดบังโคลน เหลือแต่ตัวถัง เครื่อง ล้อ ทรงรถก็เป็นแบบ Single Seat (ที่นั่งเดี่ยว) เครื่องเปลือยๆ วางอยู่ด้านหน้า ตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีชื่อเรียกอะไรหรอก จน C.J. Harts ได้บอกไว้ว่า “It’s not a lakester and It’s not a roadster. Let’s just call it DRAGSTER !!!” คำว่า Dragster จึงถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน
- ตัวแข่ง Super Comp Dragster ที่ใช้เครื่องยนต์กำลังไม่แรงมากจนถึงในระดับ Top Alcohol หรือ Top Fuel มีตั้งแต่เครื่อง 4-6-8 สูบ ที่เป็นรูปแบบทั่วไป แล้วนำมาโมดิฟายกัน
- Funny Car ยุคคลาสสิค
- Top Fuel Dragster รุ่นเดอะ “THE BANKAMERICAR” ปี 1971 ทำเวลาไว้ที่ “6.38 วินาที” (ET.) ล้อหน้าเป็นซี่ลวดกันเลยทีเดียว ส่วนคันถัดไป เป็นแบบ “เครื่องท้าย” แล้ว เข้าใจว่าเปลี่ยนตำแหน่งให้ “ปลอดภัย” ถ้าเป็นเครื่องหน้า เวลา “ระเบิด” มันจะทำอันตรายให้กับคนขับได้มากกว่าเครื่องท้าย
- รถแข่งมีหลากหลายประเภท แต่ละคันก็มีตำนานที่แตกต่างกันไป
- ตัวแข่งพวก Pro Mod และ Pro Stock ซึ่งก็จะแบ่งแยกระดับความแรง โดยมีการควบคุมความจุเครื่องยนต์ หรือ ควบคุมขนาดของปากระบบอัดอากาศต่างๆ ไว้
- คันชมพูนี่ชอบมากๆ เลย
- คันนี้เป็นรถแข่งในแบบ Roadster ที่เอารถโบราณมาถอดอุปกรณ์ออก เหลือแต่ตัวบอดี้เปลือยๆ เน้นลดน้ำหนัก
- ผ่า Funny Car ให้เห็นจะแจ้งกันไป
- นาฬิกาจับเวลา ที่ใช้ในรายการ Pomona Drag Racing ในปี 1950 คลาสสิกสุดๆ
- พวก Hot Rod Roadster งามๆ ก็เป็นวัฒนธรรมที่ยาวนานและนิยมกันมากจนบัดนี้
พวกนี้จะเป็นรถที่วิ่ง Top Speed ในทะเลเกลือ Bonneville ล้อจะมี “กระทะ” ปิดไว้เพื่อลดการต้านลม ทรวดทรงแปลกประหลาด เหลาจนลู่ลมสุดๆ ก็แบ่งแยกไปตามรุ่นแข่ง ตามบอดี้รถ ตามเครื่อง ปลีกย่อยไปอีก
- รวมเครื่องตัวแรง แสดงโชว์ให้ดู
- เป็นวิวัฒนาการของ “อุปกรณ์เซฟตี้สำหรับคนขับ” ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม ซึ่งความปลอดภัยก็จะต้องสูงตามความเร็วแรงของรถด้วย
- อันนี้ก็เป็นหมวกกันน็อค ของเหล่านักแข่ง Indy Car (หน้าตาเหมือน F1 แต่วิ่งในสนามวงรี) หรือ Out Law (ที่วิ่งในสนามดิน) แต่ละอันผ่าน “ร่องรอยประสบการณ์” มาทั้งสิ้น
- เหล่า Drag Bike ต่างๆ คัน SUNOCO คือ SUZUKI HAYABUSA จัดเต็มยศ
- นี่ก็ Drag Bike สุดคลาสสิก สไตล์กึ่ง Cafe เท่สุดๆ
- ตัวจริง ตัวโชว์ ของเล่นต่างๆ มีหมด