รีวิววี้ดวิ้ว ฉบับ “พี สี่ภาค”
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : BIMS Official, Google
หลังจากที่งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 40 ได้เกิดขึ้นแล้ว ในวันที่ 27 มี.ค. ถึง 4 เม.ย. นี้ ปีนี้เป็นการฉลองครบรอบ 40 ปี นับตั้งแต่จัดงานครั้งแรกขึ้นในปี 1979 ณ ลุมพินีสถาน ก็ “สวนลุมพินี” นี่แหละครับ ในครั้งนี้ เรามาดูสุดยอด 10 รถเด็ด ในงานครั้งนี้กันเถอะ รีวิวกันสบายๆ ไม่เน้นโชว์สเป็ก แต่เน้น “การวิเคราะห์แบบสาระเร็ว” สไตล์ “พี สี่ภาค” ที่ไม่ซ้ำใครแน่นอน…
TOYOTA SUPRA “A90”
มาแล้ววววว กับสิ่งที่ทุกท่านรอคอย กับ All New SUPRA A90 ที่สะเวิ้บพื้นฐานกับ BMW Z4 ซึ่งการออกแบบ A90 นั้น จะเป็นหน้าที่ของ TOYOTA GAZOO RACING แผนกมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้เจ้านี่เป็นรถ Production ที่แรงและเร็วที่สุดของ TOYOTA เลยทีเดียว ก็อย่างที่รู้กันว่า JZA80 มันหยุดสายการผลิตไปเมื่อปี 2002 หรือ 17 ปี ที่ผ่านมา ตอนนั้น TOYOTA ก็ดูหงอยๆ ไป เพราะไม่มีรถสปอร์ตระดับหัวขั้วออกมาอีก เหตุก็คือ ไปดัน LEXUS ที่เป็น Premium Brand ให้ออกรถสปอร์ตสมรรถนะสูง “แนวใหม่” อิงไปทาง “ฝรั่ง” เพื่อไปต่อกรกับเหล่า Sport Car โดยเฉพาะค่าย “เยอรมัน” ทั้งหลาย ตอนนี้ ถึงเวลาที่ SUPRA กลับมาแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็ “ชอบ” หลายคนก็ “ยังไม่ชิน” ก็ขอให้ลืมภาพตัวเก่าไปก่อน อย่าไปเปรียบเทียบกัน เพราะรถมัน “คนละยุค” แต่ว่าตอนนี้ มีชุดแต่งสำนักดังๆ อย่าง PANDEM by ROCKET BUNNY ทำออกมาได้อย่างฮือฮา ส่วนในสาย “ขวางลำ” ก็มี Saito จาก HKS กับ Kawabata จาก Toyo Tires นำมาวาง 2JZ-GTE ขยี้ควันท่วมกัน แต่ตอนนี้การ Setting อาจจะยังไม่ลงตัวนัก เพราะ “ยังใหม่” และเป็นเทคโนโลยีของ BMW ส่วนเครื่องเดิมติดรถก็ใช่ว่าจะห่วย ผมก็เชื่อว่ามันสามารถทำได้แรงระดับ 1,000 PS ++ แต่ต้องค่อยๆ ไปเพราะเครื่องมันแพง ไว้รอดูอีกหน่อยถ้าจับทางได้คงมันส์แน่นวล สำหรับคันนี้ TOYOTA ไทยแลนด์ นำมาแค่ “โชว์” เฉยๆ ยังไม่มีนโยบายนำเข้ามาขายครับ…
BMW Z4 ROADSTER M40i
ไหนๆ มาแล้วก็เทียบกันเลย กับ “ผู้ร่วมสายเลือดและวิญญาณกับ SUPRA” ผมไม่เรียกว่ามันเป็น “คู่แฝด” เพราะหน้าตาไม่เหมือนกันเลย (เออ ถ้า 86 กับ BR-Z ยังงั้นพอได้) สำหรับเจ้า Z4 ก็จะเป็นแบบ “ถลกกบาล” ตามสไตล์ ROADSTER ที่เป็น DNA ของรุ่นนี้ ส่วน SUPRA จะเป็น Hard Top “กบาลแข็ง” เพียงอย่างเดียว แยกแยะกันชัดเจนไปเลยพี่น้อง สำหรับตัวแข่งอย่าง Z4 GT3 อดใจรออีกไม่นาน มีมาให้ชมกันแน่ๆ และอย่าลืม เราจะไป “แฉเต็ม จัดเต็มข้อ” ในรายการ “สาระเร็ว” on Youtube Channel นะจ๊ะ…
HONDA ACCORD
มาถึง “เจน 10” กันแล้วนะครับ สำหรับ “แอคคอร์ด” ยอดรถซีดานขนาดกลางระดับ “พรีเมียม” ที่เน้นการออกแบบแนวสปอร์ต ผนวกกับความหรูหรา ทำให้รู้สึกว่าอยาก “ขับเอง” ซะมากกว่าจะไปนั่งจุ๊ยด้านหลัง มองๆ ดูไปก็สวยดี แต่เสียดายอย่างหนึ่งที่เอาสไตล์ของ CIVIC FC มาใช้มากไปหน่อย ทำให้ขาด Unique ไปบ้าง ถ้าเทียบกับตัวที่แล้วมันยังมีความเป็น ACCORD ชัดเจนกว่า อย่าด่ากันนะ แล้วแต่ชอบ ขุมพลังเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด คือ 1.5 Di Turbo หัวฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ ให้พลังถึง 190 PS กับเกียร์ CVT ที่ให้กำลังมากกว่าเครื่อง K24A 2.4 ลิตร ในรุ่นก่อน…
ส่วนรุ่นท๊อป คือ Hybrid จะใช้ระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ซึ่งเป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม–ไอออน ให้กำลังสูงสุดถึง 215 แรงม้า สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้หลากหลาย อีกไม่นานคงมีนำมาแต่งสวยงามทั้งแบบ “ซิ่งๆ” และ “หรูหรา” กันแน่นอน…
Mazda Kai Concept
ไล่เรียงกันตาม “อารมณ์” นะครับ เอาค่าย “ยุ่น” กันไปก่อน ไอ้นี่เป็นอนาคตอันรำไรของ MAZDA 3 ใหม่แน่ๆ เป็นการดีไซน์โดยยึดหลัก KODO Design 2 ที่เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก KODO Design เน้นเส้นแสงเงา ที่เมื่อมีแสงตกกระทบแล้ว จะสะท้อนให้เราสัมผัสได้ถึงความสวยงาม ความมีมิติ เรียบง่าย หรูหราและสง่างาม มีความมั่นคงและมีพลังซ่อนอยู่ ส่วนขุมพลังแห่งอนาคต SKYACTIV-X ใน KAI Concept เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ชูจุดเด่นด้วยระบบจุดระเบิดรูปแบบใหม่ Spark Controlled Compression Ignition (SCCI) ที่ “ให้หัวเทียนจุดระเบิดในบางจังหวะเท่านั้น” พร้อมระบบซูเปอร์ชาร์จเจอร์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 20%-30% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ SKYACTIV-G แต่ก็ต้องดูต่อไปว่าทาง MAZDA จะคิดถึงปัญหาในอนาคตเมื่อนำมาใช้งานกับ “นิสัยการขับขี่ของคนไทยในเมือง” หรือไม่ ดังที่เป็นประเด็นกันในระบบ DPF ใน SKYACTIV-D มาแล้ว เป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องจัดการให้เด็ดขาดก่อนขายจริงแล้วละครับ…
SUZUKI JIMNY
ยังคงเรียกกระแสอยู่ไม่ตก กับ “จิมนี่” ไม่ใช่ “จินนี่” หรือ “จิมมี่” แต่อย่างใด ในอดีต JIMNY ก็จะเป็นรุ่นที่มีช่วงล้อสั้นกว่า CARIBIAN ทำให้การลุยคล่องตัวกว่ามาก และ “น่ารัก” กว่า พอมารุ่นใหม่ ก็ยังคง DNA ของเดิมไว้ แต่ชูเทคโนโลยีการขับขี่ที่ทันสมัย อัดแน่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ตอบไลฟ์สไตล์ทั้งการใช้ชีวิต ‘อย่างมืออาชีพ’ ในนิยาม “Nobody But Jimny” หน้าตาจะดูดุดันแบบ Mini Off Road เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K15B ขนาด 4 สูบ 1.5 ลิตร สมรรถนะสูง 102 แรงม้า ช่วงล่างยังคงแบบ “คานหน้าและหลัง” สไตล์ตัวลุยพันธุ์แท้ แต่ยังดีหน่อยที่เอา “แหนบ” ออกไป และเปลี่ยนเป็น “คอยล์สปริง” พร้อม 3 Links ที่ให้การทรงตัวบนถนนดำและความนุ่มนวลที่ดีขึ้น จะได้ไม่เป็นภาระกับไส้คนนั่ง ราคาออกมาแน่ๆ แล้วที่ 1.55 ล้านบาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา กับ 1.65 ล้านบาท ในรุ่นเกียร์ออโต้ ราคานี้เป็นรถนำเข้าทั้งคัน โดนภาษีไปก็หลายดอกหน่อย หลายคนบอกไป Raptor ดีกว่าไหม ก็ต้องย้อนกลับมาว่า “มันเป็นสไตล์ใครสไตล์มัน” ถ้าอยากจะเน้นสมรรถนะรอบด้านแบบคุ้มค่า คุณพูดถูกแล้ว แต่หากต้องการสไตล์ “ของเล่นคนรวย” ที่ไม่ซ้ำใคร มันก็อีกเรื่องหนึ่ง ที่แน่ๆ 30 กว่าคันในงาน ถูกจองไว้หมดแล้วนะจ๊ะ ถ้ากระแสดีทาง SUZUKI ก็คงไม่อยู่เฉยที่จะหาไลน์ประกอบแถวๆ นี้ให้คนไทยได้ซื้อราคาที่ถูกลงกว่านี้ครึ่งนึงหรอกน่า เชื่อเด่ะ…
MITSUBISHI e-EVOLUTION Concept
ชื่อ EVOLUTION ยืนยงขนาดไหนใครก็รู้ แต่มาใจหายเอาตอนที่ LANCER EVOLUTION X มาลาโลกด้วย “Final Edition” ด้วยเหตุผลที่เคยนำเสนอไปแล้ว ตอนนี้ก็ “เปลี่ยนแนว” มาเป็น “รถไฟฟ้า” กันละเว้ย แบบ SUV ต้นแบบ ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าสมรรถนะสูงรูปแบบใหม่ อี–อีโวลูชัน คอนเซปต์ โดดเด่นด้วยการออกแบบภายใต้ปรัชญา Robust & Ingenious เน้นดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำอนาคต สะท้อนความแข็งแกร่งและสร้างสรรค์ โดดเด่นด้วย Dynamic Shield อันเป็นเอกลักษณ์ ขุมพลังจาก EV System ซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้แรงบิดและสมรรถนะที่เหนือชั้น ยังไว้ลายด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Super All-Wheel Control (S-AWC) พร้อม Active Yaw Control ควบคุมแรงบิดล้อหลังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ และเทคโนโลยี AI system ปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะช่วยเหลือผู้ขับขี่ ช่วยประเมินสภาพถนน สภาวะการจราจร และความพร้อมหรือทักษะของผู้ขับขี่ เพื่อยกระดับการขับขี่ให้ปลอดภัย สะดวกสบายยิ่งขึ้น…
Aston Martin VALKYRIE AMR Pro
บ้าไปแล้ว รถอะไรวะคันละ 300 ล้านบาทเอง !!! ‘วาลคีรี่ เอเอ็มอาร์ โปร’(VALKYRIE AMR Pro) ไฮบริดไฮเปอร์คาร์ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ผลงานจากความร่วมมือของ แอสตัน มาร์ติน และทีมแข่งเรดบูล เรซซิ่ง (Red Bull Racing) จากฟอร์มูล่าวัน โดยจะทำการผลิตจำกัดเพียง 25 คันทั่วโลก รถคันนี้ถูกออกแบบโดย มร.เอเดรียน นิวอี้ ดีไซเนอร์มือฉมังผู้ออกแบบรถแข่งฟอร์มูล่าวัน โครงสร้างตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ครีบหลังแบบรถแข่ง LMP1 เครื่องยนต์เบนซิน วี12 สูบ วางกลาง 6.5 ลิตร พร้อม ‘Rimac Energy Recovery System’ เทคโนโลยีไฮบริดที่พัฒนาจากรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ให้กำลังสูงกว่า 1,100 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. (0-60 ไมล์/ชม.) ภายใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 402 กม./ชม. !!! และที่สำคัญ มันเป็นต้นแบบเทคโนโลยีในการนำมาพัฒนาสมรรนะโดยรวมของตัวแรงในค่าย (แบบปกติมนุษย์) อย่าง VANQUISH, DBS เป็นต้น…
PORSCHE 911 GT3 RS “WEISSACH PACKAGE”
จริงๆ แล้วมี 911 Carrera S เปิดตัวใหม่ แต่ขอขัดใจหน่อย เพราะไอ้เจ้านี่มันช่างโดดเด่นกว่าเหลือเกิน จึงต้องนำเสนอกันหน่อย จริงๆ GT3 RS มันก็มาสไตล์ Track Ready พร้อมเหนี่ยวใน “เซอร์กิต” อย่างครบชุด แต่ WEISSACH PACKAGE นั้น พิเศษเหนือขั้นขึ้นไปอีก จนเข้าใกล้ความเป็น Motorsport เข้าไปอีกระดับ ชุดพาร์ท แผ่นหลังคา สปอยเลอร์ต่างๆ และอีกมากมาย เป็น คาร์บอนไฟเบอร์เกรดพิเศษ เพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มความโหดร้าย โรลบาร์เป็น ไทเทเนียม ที่น้ำหนักเบากว่าของรุ่น Clubsport Package ปกติถึง 12 กก. ล้อเป็น Forged Magnesium เกรดพิเศษเช่นกัน แบบ Center Lock ขุมพลังแบบ 6 สูบนอน 4.0 ลิตร แบบ “ไร้หอย” มีพลังสูงสุดถึง 520 PS พร้อมเกียร์ PDK ยืนยันว่า เจ้ากบมหาประลัยนี้ สามารถขับขี่บนถนนปกติได้ และอื่นๆ อีกมากมายที่สำแดงต่อเมื่อได้ “ขับ” แต่เราขอ “หลับ” และ “ฝันถึง” ก็สุขใจแล้ว…
LAMBORGHINI AVENTADOR SVJ
คงจะไม่ปกติแน่ถ้าเราจะมองข้ามกระทิงสุดเกรี้ยวกราดนี้ไป ถ้าคุณมองไม่เห็นมันแสดงว่าคุณเดินไปผิดบูทแล้วล่ะ แสบสันต์ซี๊ดซ๊าดดีจริงๆ สิ่งที่ SVJ เน้นก็คือ เทคโนโลยีแบบ Ultra-Lightweight Material โดยใช้วัสดุที่เบาอย่างยอดเยี่ยม แต่ให้ความแข็งแรงอย่างเยี่ยมยอด ชุดพาร์ทดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพในระบบ Aero Dynamic ท่อไอเสียถูกยกระดับให้สูงขึ้น ภายในมากับ Alcantara (จริงๆ แล้วมันคือ “แบรนด์” ของหนังกลับ ไม่ใช่ชื่อของหนัง) เพิ่มความดุดันในแบบรถสนาม ขุมพลัง 6.5 ลิตร V12 ให้กำลังถึง 770 PS !!! ซึ่ง SVJ จะมีทั้งแบบ Coupe และ Roadster โดยทั้งสองแบบนี้ จะมีขายแบบละ 63 คัน ทั่วโลก ซึ่งตัวเลขนี้มาจากปี 1963 ที่ LAMBORGHINI กำเนิด ในไทยน่ะรึ มีเข้ามา 3 และ 4 คัน ในรุ่น Coupe และ Roadster ตามลำดับ และมีเจ้าของไปแล้ว 6 คัน !!! ไม่ธรรมดานะครับเศรษฐีไทย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก รถพิเศษระดับโลกพวกนี้บอกได้เลยครับ “มีเจ้าของตั้งแต่ยังไม่ผลิต” ด้วยซ้ำ…
Maserati New GranTurismo
มาเซราติ ประเทศไทย เอาใจสาวกตรีศูล ด้วยการจัดแสดงรถใหม่ถึง 3 รุ่น ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ Maserati New GranTurismo ที่ถูกปรับโฉมมาเพื่อสืบทอดสายพันธุ์สปอร์ตจีที 2+2 ที่นั่ง เพิ่มความสดใหม่ เปลี่ยนกระจังหน้าและกันชนหน้า–หลังให้ดูสปอร์ตขึ้น ติดตั้งแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่ นาฬิกา แป้นควบคุมแบบ Rotary Control พร้อมเปลี่ยนทัชสกรีนอเนกประสงค์ที่มีความละเอียดมากขึ้น เพิ่มความสุนทรีย์ตลอดการเดินทาง ด้วยเครื่องเสียง Harman Kardon Premium Sound System เครื่องยนต์ วี 8 สูบ 4.7 ลิตร (Naturally-aspirated) 460 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตันเมตร แผดเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของมาเซราติ วางหน้าแบบ Mid-Front กระจายน้ำหนักหน้า–หลัง 49:51% ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที แค่นี้จิ๊บๆ สำหรับเศรษฐีไทยแลนด์…