เรื่อง/ภาพ : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.gpinews.com
หลังจากมาสด้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ใหม่ อย่างมาสด้า MX-5 โรดสเตอร์ยอดนิยมที่มียอดผลิตกว่า 900,000 คันทั่วโลกเป็นรถสปอร์ตที่ขายดีที่สุดในโลกตลอดระยะเวลาในการทำตลาดมากว่า 25 ปีกับ 3 เจนเนอเรชั่นกวาดรางวัลทั่วโลกกว่า 200 รางวัลใหม่ ซึ่งเจ้า MX-5 ใหม่คันนี้นับว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 หลังจากห่างหายไปนานมาก การกลับมาครั้งนี้ดูเหมือนรูปทรงรูปร่างหน้าตาดุจะสวยงามดุดันมากขึ้น ต่างจากเจนเนอเรชั่นที่ 3 เยอะมากเจ้า MX-5เจนเนอเรชั่นที่ 4 นี้เข้ามาขายในไทยด้วยรุ่น 2.0S เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2,000 ซีซี 160 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง ราคา 2.7 ล้านบาท
มาสด้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เชิญสื่อมวลชน ร่วมทั้ง GPINEWS เข้าร่วมการทดสอบโดยใช้เส้นที่จะวิ่งไปอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงแบบสั้นๆ ไป-กลับ ประมาณ 100 กิโลเมตร เมื่อเดินทางมาถึงจุดสตาร์ทก็ได้พบกับเจ้า MX-5 ที่แค่มองจากภายนอกก็แทบจะอดใจไม่ไหวอยากจะเข้าไปสัมผัสเร็วๆซะแล้ว เพราะรูปทรงรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยว ไฟหน้าเป็น LED ที่ออกแบบได้อย่างโฉบเฉี่ยวดุดันดูเหมือนกับดวงตาช่วยให้รถดูราวกับมีชีวิต รับกับฝากระโปรงหน้าแบบ Active Hood ได้อย่างลงตัว เส้นสายด้านข้างเสริมให้ตัวรถดูโดดเด่น เหมือนจะพุ่งกระโจนไปข้างหน้าด้านท้ายด้วยกันชนท้ายที่แผ่ออกทำให้ตัวรถดูสปอร์ตรับกับไฟท้ายรูปทรงกลมที่ทำให้นึกถึง MX-5 รุ่นก่อน ตัวรถยาว 3,915 มิลลิเมตร กว้าง 1,735 มิลลิเมตร และสูง 1,235 มิลลิเมตร แถมยังมีน้ำหนักเบาสุด ๆ เพียง 1,080 กิโลกรัม เพราะโครงสร้างของตัวรถที่ได้รับการปรับใหม่ทั้งหมด
เพื่อให้ตอบสนองการขับแบบสปอร์ตได้ดีขึ้นโครงสร้างใช้อะลูมิเนียมในหลายชิ้นส่วน เช่น ฝากระโปรงหน้า-หลัง, แก้มหน้าซ้าย-ขวา, โครงสร้างหลังคา, โครงสร้างบริเวณเบาะนั่งและด้านหลังของเบาะนั่ง, โครงกันชนหน้า-หลัง, ชิ้นส่วนช่วงล่าง เช่น ปีกนกด้านหน้า คาลิเปอร์เบรกหน้า-หลัง และโครงสร้างเสริมความแข็งแรงใต้ท้องรถ ส่งผลให้ MX-5 ใหม่มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50 มีความสมดุลที่ดี เครื่องยนต์ได้รับการออกแบบให้ร่นไปด้านหลังอีก 15 มิลลิเมตร และต่ำลงอีก 13 มิลลิเมตร โดยเครื่องยนต์จะวางอยู่ด้านหลังแนวล้อหน้า จึงช่วยลดแรงเหวี่ยงด้านข้าง และลดแรงเฉื่อยที่เกิดจากน้ำหนักนับเป็นสปอร์ตไซส์เล็กที่เน้นการขับขี่ที่คล่องแคล่วไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้มากนักโดยรวมแล้วดูสวยงามลงตัวน่าจับจองเป็นเจ้าของจริงๆนะครับนี่
ห้องโดยสารเน้นความสปอร์ต เรียบง่าย ออกแบบให้ผู้ขับเป็นศูนย์กลาง แผงควบคุมด้านหน้าที่โอบ มาตรวัดทรงกลมจัดวางเป็นระเบียบ คอนโซลกลางมีสวิตช์ควบคุมระบบต่างๆ เพียงเล็กน้อย ส่วนภายในตกแต่งเต็มอารมณ์สปอร์ตด้วยสีดำ ทั้งยังติดตั้งอุปกรณ์อันทันสมัยทั้งหน้าจอแสดงผลอินโฟเทนเม้นท์ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบนำทาง และลำโพงชั้นดีจาก Bose ที่มีให้ถึง 9 ตำแหน่ง เบาะนั่งโอบกระชับตัวดีนั่งสบายกว่าที่คิด เจ้าคันนี้มีหลังคาผ้าใบเปิด-ปิดด้วยระบบกลไกที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย โดยมาสด้าพัฒนาประทุนแบบใหม่ที่กระทัดรัด และมีโครงสร้างการพับแบบตัว Z เหมือนรุ่นก่อนแต่สามารถพับเก็บในพื้นที่ๆเล็กลงได้มากกว่ารุ่นก่อนๆ และสามารถพับเก็บได้ด้วยมือเดียว และเปิด-ปิดได้แม้ขณะนั่งอยู่ในรถง่ายดายมากครับ และมีที่เก็บของสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดเล็กได้ 2 ใบ
ระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งกุญแจ Immobilizer แอร์แบ็กคู่หน้าและด้านข้าง ไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ ปรับเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถด้านหน้า พร้อมระบบเลี้ยวตามการหมุนของพวงมาลัย ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ แม้จะน่ารำคาญไปหน่อยแต่ก็ปลอดภัยดี ระบบเบรก ABS และ EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพ DSC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีครีบระบายความร้อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางจานเบรกหน้า-หลังเท่ากัน 280 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์ SKYACTIV-G เบนซิน ไดเร็คอินเจ็คชั่น 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว บล็อกเดียวกับ มาสด้า3 ความจุ 2,000 ซีซี กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 20.38 กก.-ม. ที่ 4,600 รอบต่อนาที รองรับแก๊สโซฮอล์ได้ถึง E20 มาพร้อม ระบบ i-stop และ i-Eloop ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ Activematic มีโหมด Sport และ PaddleShift ใช้ล้อแม็ก 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/45R17
อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน เช่น ไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง ครูสคอนโทรล แอร์อัตโนมัติ พร้อมระบบอุ่นเบาะ ระบบ MZD Connect มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว และปุ่ม Center Commander พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียงและระบบโทรศัพท์ พร้อมระบบ Bluetooth และระบบสั่งงานด้วยเสียงกระหึ่มด้วยชุดเครื่องเสียงจาก BOSE รอบทิศทาง 9 ลำโพง พร้อมลำโพงแบบฝังในหมอนรองศีรษะ
เริ่มการทดลองขับกันดีกว่าเราโชคดีเหลือเกินเพราะในช่วงวันที่ไปทดสอบกันนั้นเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายพอดี เลยได้มีโอกาศเปิดประทุนขับกัน ไม่งั้นนะถ้าอากาศร้อนแบบทุกวันนี้คงไม่ได้เปิดทดลองกัน เปิดประทุน แถมเปิดกระจกข้างทั้ง 2 ฝั่งเพื่อความเท่ห์ กดคันเร่งออกไปความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องลื่นไหลดี เมื่อใช้ความเร็วสูง ลมเริ่มเข้ามาโดนหน้าผมกระจาย แถมเสียงลมดังสนั่นคุยไม่ได้ยิน ไม่ได้การละเดี๋ยวผมเสียทรงเลยปิดกระจกข้างทั้ง 2 ฝั่ง หลังคายังเปิดอยู่นะเพราะเดี๋ยวไม่เท่ห์ ดีขึ้นเยอะครับลมแทบไม่หมุนวนเข้ามาในห้องโดยสารเลย เสียงก็เบาลง ลมไม่ตีหน้า ผมก็ไม่ยุ่งทัศนวิสัยรอบคันอยู่ในเกณฑ์ดี โปร่งโล่ง และกะระยะรอบคันได้ง่าย เพราะคนขับแทบจะนั่งอยู่กึ่งกลางรถ ลองกดคันเร่งเพื่อลองอัตราเร่งกันหน่อย เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี 160 แรงม้า รถพุ่งทะยานได้อย่างทันใจทุกครั้งที่กดคันเร่ง รอบเครื่องยนต์กวาดขึ้นได้อย่างลื่นไหลจนถึงที่ 6,500 รอบต่อนาที ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดไม่อย่างลงตัวและลื่นไหล มีการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว ทั้งการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูง และคิ๊กดาวน์เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ มีส่วนช่วยให้รถมีอัตราเร่งที่ดีโดยเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำ-ปานกลาง การเร่งแซงก็ทำได้แบบรวดเร็วทันใจ เห็นโหมด Sport ขอลองความมันส์ซะหน่อย กดลงไปรอบเครื่องยนต์จะขยับสูงขึ้นอีกเล็กน้อยทำให้เร่งได้อย่างต่อเนื่อง ดึงคันเกียร์เข้าโหมด M+/- แล้วควบคุมการที่ PaddleShift โอ้โห !! ขับสนุกและมั่นใจมาก
มาสด้า MX-5 ใช้ระบบกันสะเทือนอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าปีกนก 2 ชั้น ด้านหลังมัลติลิงก์ ให้ความรู้สึกนุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวของถนนได้ดี นุ่มกว่า ไม่กระเด้ง แข็งเหมือนรุ่นที่แล้ว ขับใช้ชีวิตประจำวันหรือเดินทางต่างจังหวัดได้แบบชิลล์ไม่เหนื่อยล้ามากนัก การยึดเกาะถนนดีครับสามารถเค้าโค้งด้วยความเร็วได้อย่างมั่นใจ ตอบสนองได้เฉียบคมตามสั่ง เพราะรถมีการกระจายน้ำหนักที่ดี และจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แม้เข้าโค้งด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ควบคุมรถได้ง่ายและเบาแรง พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า น้ำหนักดี เฉียบคมควบคุมง่าย
มาสด้า MX-5 รถโรดสเตอร์ ที่รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสะดุดตา อัตราเร่งดี ขับสนุก ควบคุมง่าย ช่วงล่างหนึบ แถมมีความนุ่มนวลกับความแรงของเครื่องยนต์ที่พอเหมาะ ถ้าใครชอบรถแนวนี้ผมบอกเลยว่าคันนี้โดนใจทีเดียวครับ