เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : ทวีวัฒน์ วิลารูป, วิวัฒน์ ภัยวิมุติ
รถเฟรมตัวใหม่ล่าสุด กับประสบการณ์จาก SOUPED UP THAILAND RECORDS
เฟรมในตำนานจากสำนัก RAM 77 RACING ของ “เสี่ยตา” บุญตา วรรณลักษณ์ ที่สร้างชื่อไว้ในงาน SOUPED UP THAILAND RECORDS 2007 ด้วยสถิติเวลา “7.654 วินาที” กับรถ SUPRA Space Frame จากประสบการณ์ที่สั่งสม ก็เลยสร้างรถเฟรมขึ้นมาอีกคัน โดยใช้บอดี้ของ 350Z ที่กำลังนิยมในขณะนี้ อาจจะด้วยความแปลกใหม่ และทรวดทรงที่ลู่ลม รถคันนี้เป็นของ คุณเปรม “เปรมมนัส ตะโนรี” ที่อยากจะได้รถที่ทำเวลาในพิกัด “7 วินาที” บ้าง จากงาน HOT RODS ALL THAILAND CHAMPIONSHIP ที่ผ่านมา คันนี้ทำเวลาในวันควอลิฟายได้ “8.0 วินาที” เจ้าของสั่งเก็บรถเลย เพราะเป็นการลงพื้นครั้งแรก ได้ขนาดนี้เจ้าของพอใจมาก รถคันนี้มีทีเด็ดที่ “พวงมาลัยซ้าย” ด้วย เราลองมาดู Detail กัน ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง…
- ตัวถังจาก KARN FIBER ติดสติกเกอร์ลายคาร์บอนครึ่งหัว การสร้างรถคันนี้ จะใช้มิติของ 350Z ตัวจริง (อาจจะมียืดหัวนิดหน่อยตามสูตร) โดยสร้างเฟรมให้เข้ากับตัวถังแบบพอดี ๆ ก็เลยไม่สามารถเอาบอดี้อื่นมาครอบได้
ย้ายพวงมาลัย เพิ่มน้ำหนักซ้าย ต้านแรงการหมุนของเครื่อง
ก่อนอื่นขอกล่าวกันก่อนว่า รถควอเตอร์ไมล์ที่อาจจะมีน้อยลง เราไม่ได้ทอดทิ้ง แต่ก็ขอนำเสนอรถแรงในหลาย ๆ แบบ เช่น เซอร์กิต ที่มีรายละเอียดที่น่าสนใจมาก รวมถึง Drift ถ้ามีตัวเด็ด ๆ เราก็ไม่พลาด หรือรถอะไรต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อาจจะไม่ได้แรง ไม่ได้แพง แต่มี “ไอเดีย” เรายิ่งชอบ เราอยากให้มีความหลากหลายมอบให้กับผู้อ่าน ก็เป็นการพัฒนาความรู้ในแต่ละแขนง ไม่ควรยึดติดแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง เอาล่ะครับ ในเรื่องการย้ายพวงมาลัยมาอยู่ในตำแหน่ง “ซ้าย” สำหรับรถควอเตอร์ไมล์ ถ้าเคยอ่านกันมาประจำ คงจะจำได้ ในรถ VOLVO ก้านกล้วย (ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007) ก็เคยพูดถึงเรื่องนี้ไปแล้วโดยละเอียด พร้อมตัวอย่างประกอบ แต่ถ้าใครชักจะลืม ๆ ไปแล้ว หรือยังไม่ได้อ่าน ก็ขอทบทวนคร่าว ๆ แล้วกัน…
- พวงมาลัย STRANGE วัดรอบ AUTO METER รุ่น Play Back มี Memory เรียกดูรอบที่ใช้ขณะวิ่งได้
เครื่องยนต์ที่หมุนทางด้าน “ขวา” นับจากพูลเลย์ข้อเหวี่ยงหน้าเป็นหลัก หรือเรียกกันว่า “ตามเข็มนาฬิกา” (Clock Wise) แต่เครื่องยนต์จะโยกไปทางด้าน “ซ้าย” (หันหน้าเข้ารถ) เป็นทิศทางตรงกันข้าม ตรงนี้ผมไม่พูดถึงเรื่องเชิงลึกละกัน แต่ถ้าสงสัย ให้ลองหารถขับหลังที่เป็นเกียร์ออโตเมติกมาลอง ถ้าเป็นรถกระบะเกียร์ออโตเมติกก็ยิ่งดี เพราะแท่นเครื่องมันให้ตัวได้เยอะ จะได้เห็นกันชัดเจน ติดเครื่อง เข้าเกียร์ D เหยียบเบรกด้วยเท้าซ้าย (ดึงเบรกมือด้วย) เท้าขวากดคันเร่ง (ไม่ต้องลึกมาก) คุณจะสังเกตได้เอง ว่าเครื่องยนต์จะบิดตัวไปด้านซ้ายอย่างที่ว่าไป แต่พอมาดูที่ตัวรถ เมื่อเครื่องบิดไปทางนั้น มันก็จะพาให้ “ด้านซ้ายของตัวรถ” (ซ้ายของตัวรถนะครับ อย่าสับสนกับฝั่งของเครื่องล่ะ) ก็จะ “ยก” ขึ้นด้วย…
- ทาง RAM 77 จะเซ็ตให้ฐานล้อ (Track) กว้างกว่าชาวบ้านเค้าหน่อย เพราะต้องการให้คอนโทรลง่ายขึ้น
จริง ๆ มันไม่ใช่แรงบิดจากเครื่องอย่างเดียวที่จะยกได้ ตัวแปรคือ “เพลาท้าย” ที่มีแรงบิดลงไปกะทันหัน ช่วงล่างแบบ “คานแข็ง” จะไม่ให้ตัว แรงบิดก็ลงที่คานโด่ ๆ เต็ม ๆ เลยว่างั้น มันก็เลยต้องไปบิดที่อย่างอื่นแทน ก็เลยเป็นเรื่องที่จะทำให้ตัวถังยกแทน ไม่เหมือนพวกอิสระ ที่ปีกนกสามารถให้ตัวได้มาก ท้ายจะกดแทน เอาแค่นี้ก่อน มากไปชักมึน ดังนั้น เมื่อรถยกด้านซ้าย เราก็ต้องหา “น้ำหนักถ่วง” ให้มันยกยากขึ้น ถ้าจะเอาก้อนน้ำหนักมาถ่วง มันก็เป็นการเพิ่มภาระให้กับรถโดยใช่เรื่อง เหตุผลเดียวที่มีอยู่คือ “ย้ายคนขับมาซ้ายซะ” เป็นอันจบ เพราะยังไงก็ต้องมีน้ำหนักคนขับอยู่แล้ว ไม่ต้องเพิ่ม แต่ย้ายฝั่งเท่านั้นเอง ก็จะช่วยให้รถมีอาการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงออกตัว…
- TURBONETICS ต้นกำเนิดบูสต์ 2.5 บาร์ เฮดเดอร์ บางมดเรซซิ่ง เวสต์เกต HKS GT II
เจาะช่องลมเข้าเทอร์โบที่กันชน เพราะบนฝากระโปรงลมเข้าไม่เต็มที่ ???
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก พอดีเห็นฝากระโปรงคันนี้มีรอยปิดช่องลมเป่าเทอร์โบอยู่ แล้วย้ายมาอยู่ที่กันชนแทน ไอ้เราก็แปลงกายเป็น “เจ้าหนูจำไม” เหมือนเดิม ซึ่งก็มานั่งลองคิด ๆ ดูว่า ในเรื่องของอากาศพลศาสตร์ โดยปกติแล้ว ลมจะวิ่งมาปะทะกันชน แล้วไหลขึ้นไปตามแนวฝากระโปรง มันจะไหล “ขึ้นบน” เสมอ ไล่ไปตั้งแต่กันชน ขึ้นฝากระโปรง แล้วขึ้นไปหลังคา ถ้าสังเกตดี ๆ มันก็ไม่ได้ปะทะเข้าตรง ๆ ที่บนฝากระโปรงนะครับ ก็เป็นเหตุได้ว่า ลมที่เข้าเทอร์โบก็คงจะไม่ได้เต็มที่เช่นกัน แต่ในทางตรงกันข้าม ที่กันชนหน้า ตรงนั้นลมจะปะทะด้วยความเร็วสูงมาก ก็เป็นเรื่องดีครับ เพราะมันจะช่วยระบายความร้อนออกจากหม้อน้ำและอินเตอร์คูลเลอร์ (รวมถึงความร้อนในห้องเครื่องด้วย) ดังนั้น คันนี้ก็เลยย้ายช่องดักลมเข้าเทอร์โบมาอยู่ที่กันชนซะ ตรงนั้นก็จะได้ลมเย็นเข้ามาตรง ๆ (เพราะลมไม่ต้องผ่านแหล่งเกิดความร้อนอะไรเลย) ก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่น่าสนใจประจำฉบับนี้ครับ…
ขอขอบคุณ : “เสี่ยตา” RAM 77 RACING และเจ้าของรถ, BANGKOK DRAG AVENUE สถานที่ถ่ายทำ
- โช้คอัพ STRANGE สปริง HYPERCOIL
- 2JZ-GTE ตามสูตรถนัด ด้านหน้าเป็นถังน้ำแข็งสำหรับระบบหล่อเย็น ท่อนล่างใช้ลูกสูบ JE 87.0 มม. ก้าน PAUTER X-Beam แบริ่งชาฟท์ ACL ท่อร่วมไอดีและลิ้นเร่ง บางมดเรซซิ่ง
- อินเตอร์น้ำ พูลเลย์ถ่วงสมดุลข้อเหวี่ยงที่จะต้องมี เฟืองแคม GReddy แคม BC 290 องศา ระบบวาล์ว BC ทั้งหมด
- ร่ม SIMPSON วีลลี่บาร์ RAM 77
- ล้อ AMERICAN RACING PRO SERIES ยาง HOOSIER
- ล้อหลังยี่ห้อเดียวกัน แต่กว้างถึง 16 นิ้ว ซึ่งมากกว่าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางล้อขนาด 15 นิ้ว ซะอีก ยางเบอร์ 32-17-15
- เพลาท้าย เฟืองท้ายอัตราทด 4.5 : 1 โช้คอัพ STRANGE ครบชุด
- คันเกียร์ B&M Pro Bandit เกียร์ออโต้ POWER GLIDE 2 สปีด
- กล่องเมนสวิตช์ MOROSO ด้านซ้ายเป็นมือลิงดึงร่ม
- ที่นั่ง (ไม่อยากเรียกเบาะ) คาร์บอนเคฟลาร์ ทำเอง เข็มขัด SABELT สร้าง Roll Cage ป้องกันส่วนบนของคนขับ
- มุมบนซ้าย HKS F-CON NAVIGATOR กล่องทอง HKS F-CON V PRO โดย SPEED D (หรือ “เฮียดี” ของเสี่ยตา) มุมล่างซ้าย กล่องควบคุมโซลินอยด์เปลี่ยนเกียร์ของ DEDENBEAR สามารถตั้งรอบที่ต้องการได้ ส่วนกล่องแดง คือ CDI MSD DIS-4
- ห้องโดยสารทำอย่างเรียบร้อย การจัดวางอุปกรณ์ทำได้สวยงาม เรียบง่าย โดยเน้นงานคาร์บอนไฟเบอร์เป็นหลัก