“ทีมญี่ปุ่น” ผงาดคว้าแชมป์ “ซูเปอร์ เอ็นดูรานซ์”
“3 มงกุฎ เรซซิ่ง โปรเจ็ค” ยกระดับเกมดวลอึดครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองไทย ขยับชิงชัย 25 ชั่วโมง ปีหน้าฟ้าใหม่ 2020
เรียบเรียง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ทัพนักแข่งญี่ปุ่น สังกัด ROOKIE RACING TEAM แท็กทีมซิ่ง 288 รอบสนาม ครองบัลลังก์รุ่นใหญ่เกมดวลอึด 10 ชั่วโมง ขณะที่ นักขับสังกัด RFP RACING ซิวแชมป์ Super Turbo Division 3 ส่วน TEIN TEAM THAILAND พลิกเกมคว้าชัย Super Turbo Division 4 ด้าน 3 มงกุฎ ยิ้มรับความสำเร็จ พร้อมขยับชิงชัย 25 ชั่วโมง สุดอึด ในปีหน้า
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรูปแบบมาราธอน “ทรหดบันเทิง” ด้วยเวลาถึง 600 นาที หรือ 10 ชั่วโมง รายการ Idemitsu 600 Super Endurance 2019 ดวลความอึดระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ซึ่งดำเนินการแข่งขันมาจวบจนปีที่ 3 หลังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งจากการแข่งขันในรูปแบบ Endurance ใน 2 ปีที่ผ่านมา…
Qualify Race
สำหรับการแข่งขันในปีนี้ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม จากนักกีฬามอเตอร์สปอร์ต ทีมแข่งชั้นนำของเมืองไทยรวมถึงต่างชาติ ที่เข้าร่วมทำการชิงชัยกันอย่างคับคั่งแน่นแทร็กกว่า 80 คัน และผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,000 ชีวิต ทั้ง นักแข่ง และ ทีมเซอร์วิส โดยการแข่งขันแบ่งเป็น 3 คลาส เป็นรถแข่ง Super Turbo Division 2 จำนวน 14 คัน ส่วน Super Turbo Division 3 มีทั้งสิ้น 25 คัน ขณะที่ Super Turbo Division 4 มีรถแข่งมากถึง 38 คัน…
เกมรอบควอลิฟายมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันศุกร์ และเป็นทางด้านรถแข่งหมายเลข 248 สังกัด YK MOTORSPORTS – BILLIONAIRE BOY BY SUNOCO ที่คว้าโพลโพซิชั่นโอเวอร์ออล และ Super Turbo Division 2 ไปครอง ส่วนกริดที่ 2 ได้แก่รถแข่งหมายเลข 208 จาก ROOKIE RACING TEAM และ รถแข่งหมายเลข 228 สังกัด VATTANA MOTORSPORT ในกริดที่ 3
ส่วนหัวแถว Super Turbo Division 3 ตกเป็นของรถแข่งหมายเลข 316 จาก WAXONE RACING PROJECT ถัดไปเป็นรถแข่งหมายเลข 395 จาก VATTANA MOTORSPORT และ รถแข่งหมายเลข 319 สังกัด SINGHA TT MOTORSPORT ในอันดับที่ 2 และ 3 ในคลาสดังกล่าว ขณะที่รถแข่งหมายเลข 496 จาก YK MOTORSPORTS BILLIONAIRE BOY BY SUNOCO รั้งหัวขบวน Super Turbo Division 4 ตามด้วยรถแข่งหมายเลข 418 สังกัด STAR PERFORMANCE และ หมายเลข 459 จาก MARK.M ตามลำดับ
Final Race
เกมรอบไฟนัลออกสตาร์ทในเวลา 10.30 น.ก่อนจะผ่านพ้นชั่วโมงแรกด้วยตำแหน่งผู้นำของ รถแข่งหมายเลข 248 สังกัด YK MOTORSPORTS BILLIONAIRE BOY BY SUNOCO เจ้าของโพลที่ีขับโดย อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ, ชาริยะ นุยา, กันตธีร์ กุศิริ และ ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ ที่ขึ้นเป็นผู้นำด้วยจำนวน 34 รอบสนาม ขณะที่รถแข่งหมายเลข 220 จาก TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND ตามอยู่ในอันดับ 2 ด้วยจำนวนรอบเดียวกัน
ในชั่วโมงถัดมา ผู้นำเกิดนำรถเข้าพิทไป งานนี้เลยมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อทีมแข่งญี่ปุ่นภายใต้รถแข่งหมายเลข 208 จาก ROOKIE RACING TEAM ขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงที่ 62 รอบสนาม ทำจำนวนรอบได้เหนือกว่า รถแข่งหมายเลข 220 จาก TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND ที่รั้งอันดับ 2 อยู่ 1 รอบสนาม
ไม่มีอะไรแน่นอนในเกม Endurance ในชั่วโมงที่ 3 ตำแหน่งจ่าฝูงยังไม่ซ้ำหน้า ต่างสลับสับเปลี่ยนไปตามเกม เมื่อ สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, นาโอกิ คาวามูระ และ มานัต กุละปาลานนท์ จาก TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND พารถแข่งหมายเลข 219 ขยับขึ้นเป็นผู้นำ ด้วยผลงาน 86 รอบสนาม ก่อนจะครองตำแหน่งผู้นำไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยฟอร์มอันแข็งแกร่ง
แต่อย่างที่บอก “ไม่มีอะไรยั่งยืน” ในช่วงปลายชั่วโมงที่ 6 เมื่อรถแข่งของผู้นำมีปัญหาเรื่องเบรกส่งผลให้ต้องนำรถเข้าพิทด่วน ส่งผลให้ รถแข่งหมายเลข 208 สังกัด ROOKIE RACING TEAM เร่งเครื่องทำจำนวนรอบไต่ขึ้นกลับไปเป็นผู้นำในชั่วโมงที่ 7 และสามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้อย่างเหนียวแน่นจนครบ 10 ชั่วโมงของการแข่งขัน ก่อนจะคว้าแชมป์ Super Turbo Division 2 ไปครองด้วยจำนวนรอบรอบทั้งสิ้น 288 รอบสนาม
ส่วนแชมป์ Super Turbo Division 3 ตกเป็นของ ชนากานต์ เลิศวิชัย, จักรพันธ์ ด๊ะวี และ เผ่าพงศ์ จันทร์เฉลี่ย สังกัด RFP RACING ภายใต้รถแข่งหมายเลข 336 ด้วยจำนวนรอบ 272 รอบสนาม ตามด้วยหมายเลข 335 เพื่อนร่วมสังกัดในอันดับที่ 2 และ หมายเลข 344 สังกัด MAXIMA 3 ในอันดับ 3
ขณะที่ ธนสิทธิ์ ปัญญาทรานนท์, ฮิเดฮารุ คุโรกิ, ยศรัญ แสนสุข และ นิธิวัชร์ ทิพย์ทัศน์ จาก TEIN TEAM THAILAND ภายใต้รถแข่งหมายเลข 488 ที่เดินหน้าทำจำนวนรอบได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะไต่ขึ้นมาครองแชมป์ Super Turbo Division 4 หลังเก็บไปได้ 281 รอบสนาม เฉือนเอาชนะ หมายเลข 487 จาก FUJISUBO TEAM THAILAND ในช่วงท้ายการแข่งขัน ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของ หมายเลข 489 จาก TEIN TEAM THAILAND
มาดูสาวๆ นักซิ่ง (ในสนาม) กันบ้าง แชมป์ Division 4 Lady Cup ตกเป็นของ ศรินทิพย์ ธีร์สุพงศ์, ภูษิตา ศุภัทธาธนกุล และ ณัฐญกานต์ รุ่งเพ็ชรารัตน์ จาก CATACLEAN EXOL ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้รถแข่งหมายเลข 466 หลังทำได้ไปทั้งสิ้น 255 รอบสนาม ขณะที่หมายเลข 498 นักแข่งสาวญี่ปุ่น สังกัด ARTO OSAKA RACING TEAM คว้าอันดับ 2 ไปครอง ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของรถแข่งหมายเลข 432 จาก RACING GARAGE-SMURF RACING
จากใจ “พี สี่ภาค”
ตอนแรกผมก็เคยถามตัวเอง รวมถึงถูกถามจากแฟนๆ รถแข่ง ถามว่าเสน่ห์ของ Endurance อยู่ตรงไหน ??? คนดูก็บ่น แข่งก็นาน รถก็วิ่งปนๆ กันไปมา ดูไม่ออกว่าใครนำใครตาม หลับแล้วหลับอีกก็ยังแข่งไม่จบ แต่ถ้าลองได้มาดูในสนามจริงแล้ว มันมีเหตุ “พลิกผัน” กันได้ตลอดเวลาการแข่งขัน ไม่จำเป็นว่าคนที่เก่งสุด รถแรงสุด จะต้องชนะหรือจบการแข่งขันเสมอไป ดวงก็มีส่วน แต่ “ความพร้อม” และ “การวางแผนที่ดี” เป็นส่วนสำคัญที่สุด ถ้าคุณได้ชมการแข่งขันที่สนาม ลองสังเกตหน่อยจะรู้เลยว่าเกมจะมีลุ้นกันตลอด มันไม่เหมือนกับการแข่ง Sprint Race ปกติที่เน้นความเร็วในระยะเวลาไม่นานนัก รู้เรื่องกันไป จบไวกลับบ้านนอน
แต่นี่ 10 ชั่วโมง มันมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะใน “พิท” ที่จะเกิดความวุ่นวายและเร่งด่วนมากในการเซอร์วิสรถ เปลี่ยนยาง เติมน้ำมัน เพื่อให้เสียเวลาน้อยที่สุด ผู้จัดการทีม ใส่หูฟังสื่อสาร ต้องคร่ำเคร่งตลอดเวลาในการวางแผนสั่งการทุกอย่าง ภาพที่ทุกคนในทีมสุมหัวกันดู Monitor แล้วประชุมกันสดๆ ว่าจะเอายังไงดีวะ เป็นเหตุการณ์ปกติ ที่นำมาตลอด แต่รถพัง ซ่อมไม่เสร็จ เกิดอุบัติเหตุ ตำเองมั่ง ซวยโดนพวกตำมั่ง จนทำให้เสียตำแหน่ง หรือ ต้องออกจากการแข่งขันไป (ที่ช้ำใจที่สุด คือ นำมาใกล้จะจบ แต่ดันร่วงไปซะก่อน) แต่บางคันตามมาเนิบๆ เรียกว่า “กินบ๊วย” มาตลอด ไม่ชนะ ไม่ขึ้นโพเดียม แต่ “วิ่งจบ” ขอแค่ “รับธง” ก็ดีใจสุดๆ แล้ว อันนี้บอกตรงๆ ว่าผมชอบสายบ๊วยแต่วิ่งจบนะ เอาใจช่วยเชียร์ เพราะเห็นความพยายามจริงๆ
ผู้ชนะ คือ “รถที่วิ่งได้ไกลที่สุด” ในระยะเวลา 600 นาที หรือ 10 ชั่วโมง คำนวณง่ายๆ แชมป์วิ่งได้ 288 รอบ คูณด้วยระยะทาง 1 รอบสนาม 4.554 กม. เท่ากับ ระยะทางรวมถึง“1,311.552 กม.” !!! เท่ากับว่า รถแข่งต้อง “ขยี้” กันสุดๆ เทียบเท่ากับระยะทางจาก กรุงเทพ ไปถึง “มาเลเซีย” กันเลยทีเดียว ก็คิดเอาเองแล้วกันว่าไกลแค่ไหน อันนี้แหละที่เป็นเสน่ห์ของ Endurance Race ที่ทุกคนต้องผ่านความเหน็ดเหนื่อย แล้วยิ้มได้กับความสำเร็จ
ปล. รูปรถ ทุกคนเห็นได้จากในสนามแล้ว ดังนั้น ผมขอเน้นรูป “บรรยากาศ” ของ “คน” ที่ยากจะได้เห็นทั่วไปนะครับ จะได้ทราบว่าเกิดฟิลลิ่งอะไรขึ้นระหว่างการแข่งขันบ้าง
สำหรับการแข่งขันในปีหน้า 3 มงกุฎ เรซซิ่ง โปรเจ็ค ในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขันเตรียมสานต่อความสำเร็จด้วยการยกระดับการชิงชัยขึ้นไปเป็นเกมดวลอึด 25 ชั่วโมง ภายใต้ชื่อ Idemitsu 1500 Super Endurance 2020 โดยหวังที่จะสร้างความแปลกใหม่ และยกระดับการแข่งขันขึ้นไปสู่ระดับสากล สามารถติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวได้ทาง www.superturbothailand.com และ Facebook.com / Super Turbo Thailand