STORY : Api_Chart
PHOTO : TakeSnap (Thanyanon Sangpoo)
“987.2 PANDEM REVOLUTION”
By AZC
การแต่งรถถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่สามารถบ่งบอกสไตล์ของแต่ละคนได้ว่าเป็นอย่างไร เพราะสิ่งที่เขาถ่ายทอดลงไปในรถนั้น ก็เปรียบเสมือนบุคลิกของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป แล้วทำไมต้องทำตามคนอื่น!
“น้าแจ่ม AZC” บุคคลที่คอยสร้างศิลปะความมันส์ให้กับรถ เพียงแค่เห็นแวบแรก ก็ตอบได้เลยว่า รถคันนี้ทำมาจาก AZC แน่นอน นั่นเป็นเพราะไอเดียความคิดสร้างสรรค์ที่สัมพันธ์กับความบ้าและกล้าที่จะแตกต่าง จนต้องมีนิกเนมใหม่ให้เจ้า CAYMAN คันนี้ว่า “987.2 PANDEM REVOLUTION”
จุดเริ่มต้นของเจ้า CAYMAN คันนี้คือ ทำยังไงให้ออกมาสุด ซึ่งคนที่ใช้ PORSCHE คงไม่มีใครกล้าที่จะทำให้ออกมาดูเยอะขนาดนี้ ส่วนใหญ่คงเป็นการใส่แอโรพาร์ท และล้อสักชุด ดังนั้น CAYMAN ที่แต่งกันในบ้านเราคงออกมาแบบเหงาๆ และไม่ต่างกันเลยทีเดียว แล้วจะทำยังไงถึงจะได้พบคำว่าที่สุด!
เมื่อตั้งโจทย์ไว้ คำตอบที่ใช่ต้องมีตามมาแน่นอน PANDEM คือทางออกที่ไม่เหมือนใคร แถมยังบอกสไตล์ที่ใช่ได้อย่างชัดเจน และคิดว่าน่าจะทำออกมาเป็นคันแรกและคันเดียวในไทย ณ ตอนนี้ ที่เป็นของแท้ทั้งคัน
การทำรถคันนี้ขึ้นมา นอกจากคำว่า “ต้องสุดในประเทศ” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสวยของบอดี้แล้ว ยังต้องมีเรื่องของประสิทธิภาพตามมาด้วยเช่นกัน อย่าง CAYMAN S คันนี้ ถ้าคนที่ไม่รู้จักอาจคิดว่าคงใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกันหมด แต่ถ้าแยกประเภทแล้ว คันนี้จะเป็นเครื่อง BOXER 6 สูบ 3.2 ลิตร กำลังสูงสุดที่ออกมาจากโรงงานอยู่ที่ประมาณ 320 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์ PDK แต่ถ้าจะให้ตรง CONCEPT ของ AZC ที่รถเกือบทุกคันจะต้องมีการเสริมเทอร์โบเข้าไป จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ALL NEW VIOS, CIVIC FB, CIVIC FC 1.8 ซึ่งในหลายๆ รุ่นคิดว่าคงเป็นเจ้าแรกๆ ในโลก ที่นำมาติดตั้งเทอร์โบ ดังนั้น เมื่อ PORSCHE เข้ามาอยู่ในครอบครองแล้ว คงไม่รอดที่จะถูกนำมาทำเช่นกัน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า “เราทำได้จริง” ตาม CONCEPT ที่คิดไว้ก่อนแล้ว ว่าต้องเป็นเครื่องยนต์ N/A ที่นำมาเสริมเทอร์โบเข้าไปเอง และต้องใช้งานได้จริงในทุกวัน ที่สำคัญ คือ แรงม้าต้องเพิ่มเหมือนชุดคิตในต่างประเทศ
สำหรับคันนี้ได้เคยทำการวัดแรงม้าที่ล้อจากสเป็กเดิม ทำได้อยู่ที่ 275แรงม้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าแรงม้าสูญเสียไปกับระบบขับเคลื่อนพอสมควร แต่พอจับใส่เทอร์โบเข้าไป แรงม้าที่ได้เพิ่มขึ้นมีให้เห็นอีกประมาณ 100 ตัว โดยใช้บูสต์เพียงแค่ 0.4 บาร์ ซึ่งตอนนี้น่าจะเป็น PORSCHE CAYMAN คันเดียวในไทยที่จับมาเซตเทอร์โบ
เมื่อการเซตเทอร์โบเข้าไปสำเร็จ กลเม็ดเด็ดที่จะนำมาต่อยอดให้แรงแบบต้องการ งานนี้เลยต้องจับมือกันสร้างผลงาน โดยให้พี่แถม TKF RACING จัดการแก้โปรแกรม ECU ใหม่ ให้เหมาะสม ซึ่งเขาก็เข้าใจถึงความต้องการ จนออกมาตาม CONCEPT ที่ตั้งเป้าไว้อย่างที่เห็น ส่วนช่วงล่าง เพื่อความลงตัวมากที่สุด จึงต้องหยุดที่ระบบถุงลมจาก AirREX SUSPENSION โดยทำการสั่งผ่านทางสำนัก INFINITE ในราคาพิเศษ พร้อมชุดบอดี้พาร์ท
หลังจากที่รถเสร็จออกมา ทางญี่ปุ่นงงมาก เพราะตาม CONCEPT รถคันนี้ตั้งใจทำออกมาเพื่อเข้าโชว์ในงาน AUTO SALON แต่เนื่องจากการขนส่งมีปัญหา ทำให้ชุดบอดี้พาร์ทมาถึงก่อนงานเพียงวันเดียวเท่านั้น ซึ่งเรามีเวลาน้อยมากในการติดตั้ง งานนี้ญี่ปุ่นมีงง! เพราะชุดแต่งมาถึงร้านในเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง รวมถึงชุดแต่งดังกล่าวผลิตมาเพื่อติดตั้งกับCAYMAN 987.1 แต่ตัวนี้เป็นบอดี้ 987.2 ที่ไฟหน้า–หลัง ไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องมีการแก้ไขอีกด้วย รวมถึงงานเก็บสีที่ทำไม่ทัน งานนี้ในเวลาเพียงข้ามคืนเราต้องแก้ปัญหาทุกอย่างให้จบ เพื่อจะได้นำรถมาโชว์ได้ทัน โดยมีเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
เนื่องจากเวลาการทำรถมีน้อย เราจึงเลือกใช้วิธี WRAP สติกเกอร์ไปก่อน แต่พอใช้ไป รู้สึกว่ายังไม่โดนใจ เพราะทางสำนัก AZC ก็เป็นอู่ทำสีอยู่แล้ว รวมถึงรู้สึกว่าชุดแต่งที่ได้มาแม้จะเป็นของแท้ แต่ต้องมีการทำออกมาให้เป็นสไตล์เราเอง เรียกว่า “ทำยังไงถึงจะเฟี้ยวได้ สไตล์ AZC” งานนี้เลยมีการจับของแท้มาผ่า พร้อมตั้งชื่อใหม่ว่า “PANDEM REVOLUTION”
น้าแจ่ม AZC ’S COMMENT
ครั้งหนึ่งในชีวิตถ้ามีโอกาส อยากให้ลองได้สัมผัสกับ PORSCHE CAYMAN บอกเลยว่าเป็นรถที่ HANDLING ดีมาก ขับสนุก เลี้ยวได้คม สามารถวิ่งเล่นกับรถรุ่นใหญ่กว่าได้สบายในแบบจิ๋วแต่แจ๋ว สไตล์ผมเลย งานนี้คงต้องเน้นเรื่องการเสริมเทอร์โบ รวมถึงชุดแต่งที่กล้าทำ เพื่อให้ภาพที่ออกมาได้พบคำว่า “สุดในรุ่น” อย่ามองในเรื่องของมูลค่า แต่ให้มองว่าทำออกมาแล้วถูกใจมั้ย บอกได้เลยว่า AZC ไม่ได้จบโปรเจกต์ความสุดเพียงแค่นี้แน่นอน รอบหน้าคงได้มีโอกาสเห็น SUPERCAR คันใหม่ในสไตล์นี้อีกแน่นอน เพราะรถเปรียบเสมือน “BOY TOY” อีกหนึ่งชิ้น ที่ให้ความสุขทุกครั้งสำหรับเรา
X-TRA ORDINARY
ROCKET BUNNY & PANDEM ชุดบอดี้พาร์ทอินดี้แนวเรโทรย้อนยุค ถึงแม้ว่าจะมาอยู่ในรถรุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ PANDEM ก็ยังคงเสน่ห์ของการเล่นโป่งเย็บไว้ได้อย่างลงตัว โดยรถคันแรกที่ “มิอูระซัง” ได้สร้างผลงานเป็นที่รู้จักคือ SKYLINE C110 แต่สำหรับคนไทยคงเป็นช่วงที่เปิดตัว ROCKET BUNNY สำหรับ 180SX
แล้ว “PANDEM” เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าจะบอกให้เข้าใจง่ายก็คือ การรีแบรนด์สำหรับรถยุคใหม่นั่นเอง โดยตั้งใจทำออกมาให้ดูซิ่งตรงยุคมากขึ้น แต่ยังคงแฝงกลิ่นอายเรโทรแบบโป่งเย็บไว้ด้วย โดยบอดี้พาร์ท PANDEM ชุดแรก ผลิตมาให้กับ NISSAN GT-R ก่อนที่จะตามมาด้วยรถค่ายฝรั่งหลากหลายแบรนด์ แต่สำหรับผมแล้ว ทีเด็ดคงต้องยกให้ PANDEM BOSS ชุดสำเร็จแบบ FACE OFF ซึ่งเราเคยนำรถ SILVIA S14 FACE OFF CAMARO ของ ส้ม อับบราฮัม มาให้ชมกัน
TECH SPEC
บอดี้พาร์ท : PANDEM
กระจกมองข้าง : CRAFT SQUARE
เทอร์โบ : IHI
อินเตอร์คูลเลอร์ : GReddy 5” (ตัดแต่งให้เข้ากับกันชน)
เฮดเดอร์ : CUSTOM
ถุงลม : AirREX SUSPENSION
ล้อ : W WORK S1 19×10, 19×12 5H-130
ยาง : Pirelli P Zero 235/35ZR19, 265/35ZR19
เบาะ : RECARO SPX
งานสติกเกอร์ : ICON WRAP
- ความเท่ที่ไม่เหมือนใคร ตามสไตล์ AZC
- มีการเสริม REAR DIFFUSER และ CANARD เพิ่มเข้าไป สร้างความมั่นใจเติมเต็ม
- สเต็ปเบาๆ บูสต์ 0.4 บาร์ มีม้ามาให้ใช้ 372 ตัว
- สุดในรุ่น RECARO ต้อง SPX