ไม่ต้องยืนในที่ที่ดีที่สุด เเค่ยืนในจุดที่มีความสุขก็พอ…
จากชีวิตงานสายราชการ จนมาสู่พนักงานบริษัทหลายปีเต็ม ช่วงนั้นก็คลุกคลีกับการแต่งรถแบบหนักมาก อะไรดีก็ซื้อเก็บ จะถูกจะแพงไม่ว่ากัน ขอให้สวยไว้ก่อน รวมถึงพวกงานคาร์บอนก็สั่งนำเข้ามาเพื่อใช้ประดับรถตัวเอง หมดกับตรงนี้ไปเยอะมาก เลยคิดว่าของทุกอย่าง ไม่มีคำว่าเเพง ถ้าเราไม่สามารถทำเองได้ ก็เลยเริ่มที่จะศึกษาอย่างจริงจัง ช่วงที่เป็นมนุษย์เงินเดือนก็ศึกษาไปด้วย แต่ก็ยังรู้สึกให้มันได้ยังไม่เต็มที่ เลยตัดสินใจออกมาเดินสายนี้แบบเต็มตัว ช่วงที่เริ่มผันตัวเองมาทำงานด้านนี้จริงๆ จังๆ ได้พี่ “กอล์ฟ JN” และอาจารย์ “ปอ UDS Fiber” ทั้ง 2 ท่าน คอยช่วยสอน เเละเป็นคนที่คอยผลักดันอยู่เบื้องหลังผม ทุกๆ อย่างในการทำงานวงการ Carbon & Fiber ถือว่าโชคดีมากที่ได้อาจารย์เก่งๆ ทำให้ไม่ต้องลองผิดลองถูกเหมือนกับเริ่มต้นด้วยตัวเอง เเต่อย่างว่าในช่วงแรกๆ ก็มีล้มลุกคลุกคลานบ้าง เเถมลูกค้าบางคนก็คิดว่าเรายังเด็ก ไม่มั่นใจ ไม่กล้าเอารถมาทำ ถึงแม้ตอนนั้นเราก็ทำจนชำนาญแล้วก็ตาม อีกทั้งเป็นมือปืนรับจ้างส่งงานให้หลายๆ ร้านอีกด้วย งานที่ทำไม่ได้เอาราคามาเป็นที่ตั้งเลย แต่กลับเน้นที่การทำงานกับตัวชิ้นงานมันต้องไปด้วยกันได้ ไม่ได้สวนทางกัน โดยเฉพาะรถ HONDA ตระกูล BRIO ผมเข้าใจและรู้จักรถรุ่นนี้ดีที่สุด เพราะเป็นรถที่ใช้งานมันจริงๆ ส่วนรุ่นอื่นๆ ก็มีลูกค้าไว้ใจนำรถมาให้ทำก็เยอะ โดยเฉพาะรถยอดนิยมหลายค่ายๆ ผมก็สัมผัสมาจะครบทุกรุ่นแล้ว ทำรถลูกค้าก็คิดเสมอว่าทำรถเราเอง มันทำให้สนุกกับงานที่ทำ ซึ่งเสียงตอบรับจากลูกค้ากลับมาเป็นในทิศทางที่ดี มันก็ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น ลูกค้าผมมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักเเสน ทุกวันนี้ลูกค้าทุกคนแทบจะเสมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน การที่ผมออกไปเซอร์วิสให้ถึงที่ ผมไม่ได้มองเรื่องของการสร้างมูลค่าเพิ่มหรืออะไรทั้งนั้น แต่คิดเพียงแค่ว่า “ถ้ามันจบที่มือเรา รถลูกค้าจะต้องออกมาสวยที่สุด” แค่นี้แหละ มันพอแล้วสำหรับงานที่ผมรัก ทุกวันนี้ ชื่อร้าน 69 Carbon Shop มันติดปากลูกค้าไปแล้ว ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ถ้าในอนาคตข้างหน้า กิจการก้าวหน้าใหญ่โต ผมก็ยังคงเป็น ตะวัน 69 Carbon Shop เหมือนเดิม… เพราะทำรถลูกค้าทุกคัน เสมือนทำรถตัวเองครับ
อภินันท์ มาดีตระกูล