story / photo : อินทรภูมิ์ แสงดี
เห็นจอดยั่วอยู่ในงาน OSAKA AUTO MESSE 2016 ที่กระผม “พี สี่ภาค” ได้ไปเยี่ยมชมและ “ลั่น” ภาพมาฝากกัน ซึ่งผมได้เข้าไปใน HALL 5 เป็นจุดแรก (เพราะอยู่ใกล้ทางเข้าที่สุด) สายตาก็ไปสะดุดกับบูธ OTG Motor Sports (OTG ย่อมาจาก OSAKA TOYOPET GROUP) ที่มี Drift Machine แบบ “กล้าทำ” อย่าง LEXUS LFA ราคาโหด และ TOYOTA 86 ทั้งคู่ถูก Swap หัวใจใหม่ ด้วยเครื่อง “Big V” บล็อกใหญ่ ใจโหด ดุดัน แบบ “มหาทอร์ค” ที่คุมพวงมาลัยโดย “Youichi Imamura” ลองมาดูว่าสไตล์โหดๆ แบบนี้ จะมีใครสักกี่คนที่กล้าทำ !!!
- LEXUS LFA ที่ถูก OTG Motorsport จัดการใหม่ทั้งหมด เพื่อเป็น Drift Machine ที่โหดร้ายกว่าพรรคพวก
OTG LFA @ NASCAR MOTOR
คันที่ “เรียกแขก” มากที่สุด คือ LEXUS LFA นี่แหละ เครื่องยนต์เดิมเป็น 1LR-GUE แบบ V10 ความจุ 4.8 ลิตร ที่ถูกออกแบบมาโดยใช้รูปแบบเทคโนโลยีของ F1 เป็นพื้นฐาน (แต่จริงๆ สมรรถนะก็คนละเรื่องกัน) เครื่องยนต์ทำมุมกาง 72 องศา เพราะให้สัมพันธ์กับจังหวะจุดระเบิดทุกๆ 72 องศา ขององศาเพลาข้อเหวี่ยง ตัวเลขนี้มาจากการเอา 720 องศา (360 x 2 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ จุดระเบิด 1 ครั้ง ทุกๆ 2 รอบเพลาข้อเหวี่ยง) หารด้วยจำนวนสูบ คือ 10 ก็จะเท่ากับเครื่องตัวนี้จุดระเบิดทุกๆ 72 องศา แถมวัสดุชั้นเลิศสุดๆ อย่าง Titanium Alloy และ Magnesium Alloy ถูกนำมาผลิตชิ้นส่วนเครื่องตัวนี้ ทำให้แรงม้า 560 PS ที่ 8,700 rpm !!!
- มุมหลังสุดโหดกับ GT Wing ขนาดเขื่อง ไว้กดท้ายในย่านความเร็วสูง ท่อไอเสียของ LFA เป็นแบบ “สามเกลอ” ที่เป็นเอกลักษณ์
สิ่ง ที่ LEXUS ทำเครื่องยนต์ตัวนี้ มันเหมาะสำหรับรถ Production เป็นหลัก ประเภทซื้อมาก็ไม่ต้องทำอะไร แรงแต่กำเนิดแบบจบ แต่เมื่อต้องการโมดิฟายเพื่อการแข่งขันจริงๆ 1LR-GUE จึงไม่เหมาะสม เพราะ “แพง” และของโมดิฟายก็ไม่มี เอางี้ก็แล้วกัน ไหนๆ แล้ว “เล่นของใหญ่” เลยดีกว่า จึงหันไปคบกับเครื่อง TRD Phase 9 V8 ที่ผลิตมาเพื่อการแข่งขัน NASCAR ในอเมริกา สำหรับเครื่องตัวนี้ ขอเท้าความหน่อยก็แล้วกัน เป็นเครื่องที่สร้างโดย EPRE หรือ Ed Pink Racing Engine ใน California ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างเครื่องยนต์เพื่อการแข่งขันมากมาย ทาง TRD ก็ได้กำหนดลักษณะเครื่องยนต์มาให้ EPRE เป็นผู้สร้างและทดสอบจนออกมาสมบูรณ์แบบ มีความจุ 358 C.I. (คิวบิก-นิ้ว) หรือ 5,866 c.c. จริงๆ เครื่องมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อน แคมชาฟท์และระบบวาล์วยังเป็นระบบ OHV (Over Head Valve) หรือ Push Rod อยู่เลย เอาว่า Classic สุดๆ สไตล์อเมริกัน แต่พละกำลังไม่ธรรมดา เน้นแรงม้า โดยเฉพาะ “แรงบิด” มหาศาลที่มาในรอบไม่สูงนัก รวมถึงความ “ถึก” ที่เป็นเลิศ เสียงเครื่องไม่หวาน แต่ทุ้มๆ รัวๆ หนักแน่น ซึ่งหาได้กับเครื่อง “อเมริกันสไตล์” เท่านั้น…
- ภายใน เรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแนวของรถแข่งสมัยก่อนที่จะต้องติดเกจ์เยอะๆ สวิตช์แยะๆ ตอนนี้ Simply The Best เอาที่จำเป็น ไม่งั้นจะสร้างความสับสนให้กับนักแข่งที่ไม่มีเวลามาไล่ดูเวลาคับขัน ปัจจุบันระบบไฟฟ้าฉลาดๆ ก็เอามาคุมระบบต่างๆ ได้เยอะมาก เป็นแบบ Auto ที่คนขับแทบไม่ต้องยุ่งอะไรเลย มีหน้าที่ขับเป็นหลัก
ใน งานโชว์ปีนี้ OTG เอาคันนี้มาอีกครั้ง แต่ไม่ได้มาธรรมดา เพราะเปลี่ยนแปลงทั้ง “Outlook” ภายนอกใหม่ นั่นยังไม่เท่ากับ “สองหอย” ที่บรรจงใส่เข้าไปในเครื่อง TRD Phase 9 NASCAR แล้วโมดิฟายใหม่ เรียกแรงม้าออกมาได้ถึง “1,100 PS” ตัวเลขอาจจะดูไม่ค่อยหวือหวาเท่าไรนักสำหรับเครื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่สิ่งที่คำนึงกว่านั้น คือ “ไม่ต้องโหมรีดแรงม้าเหมือนเครื่องเล็กกว่า” ประมาณว่าไปอย่างสบายๆ ก็จะได้เรื่องความ “ทนทานสูง” แม้ตัวเครื่องจะแพงในตอนซื้อครั้งแรก แต่ในระยะยาวนั้น “ถูกกว่า” เพราะถ้าเครื่องทน วิ่งได้เสถียรโดยไม่พังง่าย ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อม ถ้าเครื่องพังง่าย ก็จะยิ่งบานปลายไปกันใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะค่าอะไหล่ครับ มันมีเรื่องของอื่นๆ เช่น ค่าแรง, ค่าอะไหล่, ค่าขนส่งอะไหล่ ฯลฯ ถ้าเครื่องพังยาก หรือไม่พัง ก็จะสามารถตัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการซ่อมบำรุงลงไปได้มากเลย…
- เปิดกระโปรงเธอดู เจอ TRD Phase 9 NASCAR ที่โหดไม่พอ ขอ “สองหอย” เพิ่มแรงอีกมหากาฬ และเน้นความอึด ไม่พังง่าย ยอมรับว่าเครื่องตัวจริงโหดกว่าในรูปเยอะครับ
TECH SPEC
ภายนอก
ชุดพาร์ท : OTG Motor Sports
ภายใน
จอมาตรวัด : MoTeC
เบาะ : BRIDE
เข็มขัดนิรภัย : TAKATA
พวงมาลัย : VERTEX
คันเกียร์ : QUAIFE
เครื่องยนต์
รุ่น : TRD Phase 9 NASCAR
เทอร์โบ : Borg Warner
กล่อง ECU : MoTeC M800
ระบบส่งกำลัง
เกียร์ : QUAIFE
คลัตช์ : ORC
ช่วงล่าง
โช้คอัพหน้า-หลัง : OHLINS
ล้อหน้า-หลัง : TWS REIZEND WX07 ขนาด 19 นิ้ว
ยางหน้า-หลัง : DUNLOP DIREZZ ZII STAR ขนาด 245/40R19 และ 275/35R19
เบรกหน้า-หลัง : Project Mu
- 86 ที่ถูกปรุงแต่งไว้สำหรับภารกิจแถข้าง สังเกตล้อหน้า จะตั้ง “แคมเบอร์ลบ” ไว้เยอะ เพื่อเน้น Traction เวลาคุมรถ ส่วนด้านหลัง (เท่าที่ดูจากสายตา) แคมเบอร์ออกจะเป็น “ศูนย์” หรือ “บวกนิดๆ” เพื่อให้ท้ายไหลออกได้ง่ายขึ้น
OTG 86 @ No Need Boxer
อีกคันก็จะเป็น TOYOTA 86 ที่ OTG Motor Sports ที่สร้างมาเพื่อภารกิจเดียวกัน ขุมพลังเดิม 4UR-GSE/FA20 ถ้าจะขุนพลังให้แรงหลุดโลกก็อาจจะไม่เหมาะสมนัก โดยมากก็จะเล่น “ของใหญ่” อย่าง 2JZ-GTE หรือไม่ก็ข้ามไปเป็นพวก V8 จาก CAMARO อะไรก็ว่าไป แต่ OTG อยากจะเล่นของประหลาด ด้วยการหันไปคบกับ 1GR-FE แบบ V6 ขนาด 4.0 ลิตร จริงๆ เครื่องตัวนี้ออกแบบมาใส่รถกระบะ หรือรถอเนกประสงค์ แต่ก็ใช่ว่าจะเลวร้าย เพราะเราต้องการ “แรงบิด” และ “ความทนทาน” ส่วนความแรงมันสามารถทำกันได้ถึง 1,000 PS ทำได้ถ้าอยากจะทำ มีแรงม้าแจ้งไว้ถึง “1,000 PS” ก็ไม่ยากที่จะได้แรงม้าขนาดนี้ในเครื่อง 4 ลิตร เรามองเห็นว่า “มันแปลกดี” ที่ OTG กล้าทำเครื่องที่คนทั่วไปมองข้าม…
- สปอยเลอร์หลังทรงโหด ขายึดแข็งแรง ซึ่งยึดกับโครงสร้างหลังของรถ ทำให้เกิดความมั่นคงกว่ายึดบนฝากระโปรงหลัง และแรงกดจะกดที่ด้านล่างจริงๆ
- ขุมพลัง 1GR-FE ที่ถูกเอามา “ทำซิ่ง” ด้วย Twin Turbo และโมดิฟายไส้ในอีกเพียบ (ซึ่งในข้อมูลไม่เปิดเผยว่าทำอะไรไปบ้าง)
TECH SPEC
ภายนอก
ชุดพาร์ท : GReddy/TRD/SEIBON
ภายใน
จอมาตรวัด : MoTeC
เบาะ : BRIDE
เข็มขัดนิรภัย : TAKATA
พวงมาลัย : MOMO
คันเกียร์ : QUAIFE
เครื่องยนต์
รุ่น : 1GR-FE
เทอร์โบ : GARRETT
กรองอากาศ : HPI
ระบบส่งกำลัง
เกียร์ : QUAIFE
คลัตช์ : ORC
ช่วงล่าง
โช้คอัพหน้า-หลัง : OHLINS
ล้อหน้า-หลัง : TWS REIZEND WS10 ขนาด 18 นิ้ว
ยางหน้า-หลัง : DUNLOP DIREZZ ZII STAR ขนาด 265/35R18
เบรกหน้า-หลัง : Project Mu