จากเทคโนโลยี Flow-Forming แบบ 2 ทิศทางของล้อ LENSO D-1 SF ที่ถูกค้นคว้าและใส่เทคโนโลยีพิเศษสุดทันสมัยเข้าไป ทำให้ล้อมีความ “เบา” และ “แข็งแกร่ง” ในด้านความแข็งแกร่ง เรายินดีกันอยู่แล้ว แต่ในด้าน “ความเบา” นี่แหละ มันจะให้อะไรเราได้เยอะขนาดไหนบ้าง ???
ก่อนอื่นขอให้ทำความเข้าใจก่อน มีอยู่หลักการหนึ่ง คือ “ของยิ่งมีน้ำหนักมาก ทำให้เคลื่อนที่ก็ยาก ทำให้หยุดก็ยาก” ส่วน “ของที่มีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนที่ก็ง่าย ทำให้หยุดก็ง่าย” เหตุนี้มันส่งผลกระทบได้หลายทาง โดยหลัก 3 ประการ เช่น…
– ทำให้รถมีสมรรถนะในการ “เร่ง” และ “เบรก” ดีขึ้น : ล้อที่เบาจะทำให้ “แรงต้านการหมุนต่ำ” (Low Rolling Resistant)
ส่งผลให้ “ลดภาระกับเครื่องยนต์” และสิ่งที่ได้มา คือ “อัตราเร่งที่ดีขึ้น” ในทางตรงกันข้าม “เบรกก็จะดีขึ้นด้วย” เมื่อน้ำหนัก
เบา “แรงเหวี่ยงก็จะน้อยลง” ทำให้สามารถหยุดล้อได้ง่ายขึ้นเบรกทำงานเบาขึ้น เท่ากับได้สมรรถนะสองทาง…
– ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น : เป็นประเด็นต่อเนื่องจากเรื่องของอัตราเร่ง เมื่อภาระของเครื่องยนต์น้อยลง แน่นอนว่า นอกจาก
จะได้สมรรถนะแล้ว ยังได้ “ความประหยัดเชื้อเพลิง” เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งมีผลตามมาแบบเกินคาดจริงๆ…
– ช่วงล่าง “ตอบสนองได้รวดเร็ว” และ “นุ่มนวล” มากขึ้น :เมื่อช่วงล่างทำงาน จะเกิดการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่เกิดตามมาคือ “น้ำหนักใต้สปริง” (Unsprung Weight) ถ้าล้อมีน้ำหนักเบา น้ำหนักใต้สปริงต่ำ การเคลื่อนที่ก็จะทำได้อย่าง “รวดเร็ว” และ “แม่นยำ” เมื่อล้อลอยขึ้น มันก็จะกลับมาสู่พื้นถนนได้เร็ว ทำให้เกิดการยึดเกาะ (Grip) ที่สูง ช่วงล่างจะตอบสนองได้เร็ว เลี้ยวได้คมขึ้น วิ่งทางไม่เรียบก็จะ “นุ่มนวลขึ้น” อีกด้วย ภาระที่เกิดกับช่วงล่างต่ำลง ยืดอายุได้อีก ตรงกันข้าม ถ้าล้อมีน้ำหนักมาก การเคลื่อนที่จะทำได้ช้า เมื่อล้อลอย ก็จะกลับตำแหน่งเดิมได้ช้า สูญเสียการยึดเกาะไป และทำให้ “สะเทือน” เพราะมีแรงเหวี่ยงมาก เป็นภาระกับช่วงล่างมากขึ้น…
นับว่าเป็นข้อดีไม่กี่ประการ แต่มันคือส่วนหลักในการเสริมสมรรถนะของรถยนต์อย่างแท้จริง กับล้อ LENSO D-1 SF ที่ฮอตฮิตติดลมบนอยู่ ณ ขณะนี้ มีหลายขนาดให้เลือก
Contact : www.lensowheel.co.th, Facebook/Lenso Wheels (เลนโซ่ วีล) ตามใจวัยรุ่น…
