เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : ภูดิท แซ่ซื้อ, ชานนท์ วิศิษฏ์สรอรรถ
ม้าลำพองผยองใน XO AUTOSPORT กับวลี Race Ready เป็นการบอกอย่างชัดเจนว่า “พร้อมสำหรับการแข่งขัน” เป็น Factory Complete Race Car ระดับโลก FERRARI F355 Challenge สร้างมาตอบสนองรายการแข่งขัน FERRARI Challenge ที่เป็นการแข่งแบบ One Make Race ซึ่งมีจุดเริ่มต้นในปี 1993 โดยกลุ่มลูกค้าของรุ่น 348 Berlinetta ได้ลงความคิดเห็นพ้องต้องกันว่าอยากจะ “แข่ง” ในกลุ่มเดียวกันเอง จึงกำเนิดขึ้น พัฒนาการต่อมาเป็น F355 Challenge ในปี 1995 สืบเนื่องถึงปี 2000 โดยมี 360 Challenge Stradale (สตราดาเล่ แปลว่า ถนน นั่นหมายถึงว่า มันเป็นรถที่สามารถขับใช้งานบนท้องถนนได้อย่างถูกกฎหมายด้วย) เข้ามาแทนที่ สำหรับ F355 Challenge คันนี้ เป็นเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา มีเพียง 17 คัน ทั่วโลก และเป็น 1 ใน 3 คัน ของเมืองไทย…
- ต้อง “ขับเป็น” เพราะ “เฟอร์” รุ่นเก่า มันไม่เป็นมิตรนักหรอก รู้จักไหม “พยศแบบเอาอยู่” สำหรับ “ผู้มีทักษะ” เท่านั้น คันนี้เป็นสีดำจากโรงงาน สำหรับ FERRARI ที่เป็นสีดำ ถ้าเป็นยุคก่อนหน้านี้ (เท่าที่รู้) ก็จะเป็น TESSAROSSA Black Star Edition
ตัวถังลูกผสม ครึ่งเฟรมท้าย
F355 Challenge จะใช้พื้นฐานของ F355 Berlinetta (แปลจากอิตาลีเป็นไทยได้ว่า “รถขนาดเล็ก มีพื้นที่น้อย” แต่รู้กันเป็นสากลว่า มันคือรถแบบ Coupe หรือ Sport 2 ที่นั่ง หรือ 2+2 ที่นั่งก็ได้) ซึ่งพอมาเป็น F355 Challenge ก็จะมีการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการแข่งขัน ตัวเครื่องยนต์ยังไม่ได้แตะต้องอะไร ตามสไตล์ One Make Race จะทำได้นิดหน่อยแค่ภายนอก โดยเน้นไปที่อุปกรณ์การแข่งขันที่มีสมรรถนะสูงโดยรวม สำหรับข้อพิเศษของ F355 ที่ดูแตกต่างจากรถสปอร์ตญี่ปุ่น คือ ใช้ตัวถังแบบ Monocoque แต่ด้านท้ายช่วงกลางรถไป ตัว Sub-Frame ที่ยึดเครื่องกับช่วงล่าง จะเป็นแบบ Tubular Steel Sub-Frame ที่สามารถ “ถอดเปลี่ยนได้” เวลาเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องปลดเครื่องลงมาเวลาซ่อมบำรุงต่างๆ ก็นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่บางท่านอาจจะไม่เคยเห็น…
ปีกนกบนล่างยาวไม่เท่ากัน เพื่ออะไร ???
สำหรับระบบช่วงล่างของ F355 โดยพื้นฐานจะเป็นแบบปีกนกคู่ หรือ Double Wishbones แบบ Unequal Length หรือ “ปีกนกบนล่างยาวไม่เท่ากัน” ซึ่งเป็นการออกแบบให้เวลารถยุบหรือยืดตัว ปีกนกมีการเปลี่ยนมุม แคมเบอร์ล้อจะเปลี่ยนเป็น “ลบ” ทั้งคู่ เพราะปีกนกบนจะสั้นกว่าปีกนกล่างอยู่แล้วตามการออกแบบ แต่ “ความกว้างฐานล้อไม่เปลี่ยน” ในสมัยก่อน ช่วงล่างแบบปีกนกคู่บนล่าง “ยาวเท่ากัน” หรือ Equal Length เวลาปีกนกเปลี่ยนมุม มุมล้อจะไม่เปลี่ยน ฟังดูดีนะ แต่จริงๆ ไม่ดี และที่เป็นปัญหา คือ “ความกว้างฐานล้อจะเปลี่ยนไป” เวลายืดหรือยุบ ฐานล้อ “จะแคบลง” (ลองวาดรูปดูแล้วจะรู้) จึงเลิกใช้ระบบนี้ไป…
X-TRA Ordinary
FERRARI F355 หลายคนกล่าวว่า มันเป็น FERRARI ที่ยังเป็น FERRARI จริงๆ รุ่นสุดท้าย ที่ให้อารมณ์ดิบอยู่ แม้จะไม่มากเท่ารุ่นเก่าๆ ซึ่งพอมาเป็น 360 ก็เปลี่ยนไปเป็นแนวขับง่าย ไฮเทค ไฮโซ เสียแล้ว อีกอย่างหนึ่ง F355 เป็น FERRARI รุ่นแรกที่มีการพัฒนาไปใช้ระบบเกียร์ F1 พร้อม Paddle Shift ที่เป็นกลไกไฟฟ้า โดยมี Magneti Marelli เป็นผู้ผลิต ซึ่งในปัจจุบันก็ใช้เกียร์ F1 กันหมดแล้ว…
- การระบายความร้อนของเครื่องยนต์วางกลางลำ จะมีปล่องดักลมที่ประตู ส่งลมเข้าไปยังหม้อน้ำสองฝั่งซ้ายขวา ซึ่งมันไม่เหมือนรถเครื่องหน้าที่ลมปะทะหน้ารถโดยตรง
- ไม่ได้หวือหวาเหมือนรถแต่งทั่วไป แต่แฝงของเกรดสูงไว้เยอะกว่าที่เราเห็น คนขับถึงจะได้รับรู้รสสัมผัสของ Challenge Version
- ภายในจะเน้นน้ำหนักเบา แต่ก็ยังสามารถขับขี่บนท้องถนนได้แบบไม่ทรมานชีวิต อุปกรณ์ภายในบางอย่างถูกเปลี่ยนให้เหมาะสมกับยุคสมัย
- เอกลักษณ์ของ FERRARI ไม่พ้นคันเกียร์ทรงนี้ ถ้าผมมีเงินซื้อ FERRARI แม้จะเป็นรุ่นใหม่สุดไฮเทค ก็ยังปรารถนาเกียร์ธรรมดาที่จะได้ “โยก สับ คลึง” แต่มันก็หยุดไปกับกาลเวลาเสียแล้ว
- จัดจ้าน สนั่นโสต เป็น FERRARI รุ่นสุดท้ายที่ความดิบยังคงอยู่ Sub Tank ของโช้คอัพ JRZ และ Air Duct/Filter จาก GRUPPE M “ดูขึ้น” เร้าใจ
ขอขอบคุณ : SNC Showroom ศูนย์บริการรถยนต์ระดับ Hi-End มาตรฐาน www.sncshowroom.com
TECH SPEC
ภายนอก
กันชน : Carbon Fiber F355 Challenge Spec
สปอยเลอร์หลัง : F355 Challenge 1997 Spec
ภายใน
พวงมาลัย : OMP
คอพวงมาลัย : WORKS BELL
เบาะ : RECARO Carbon Bucket Seat
เข็มขัดนิรภัย : OMP
แผงประตู : Carbon Fiber F355 Challenge Spec
โรลบาร์ : F355 Challenge Spec
เครื่องยนต์
แบบ : V8 90 องศา 3.5 ลิตร 380 hp
กล่อง ECU : Up Grade to 410 hp
กรองอากาศ : Gruppe M
เฮดเดอร์ : TUBI
ระบบส่งกำลัง
เกียร์ : ธรรมดา 6 สปีด
คลัตช์ : F355 Challenge Spec
ช่วงล่าง
โช้คอัพหน้า-หลัง : JRZ 1231 Version
ล้อหน้า-หลัง : SPEEDLINE
ยางหน้า-หลัง : MICEHLIN PILOT SPORT F. 225/40R18 R. 265/40R18
เบรก : BREMBO