พศิน ลาทูรัส นักขับไทยวัย 24 ปี มีลุ้นคว้าชัยชนะในศึก บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอ็นดูรานซ์ คัพ สนาม 3 รายการ พอล ริคาร์ด 1,000 กิโลเมตร ทว่ารถแข่งกลับเจอปัญหาด้านเทคนิคในชั่วโมงสุดท้าย พลาดการขึ้นโพเดี้ยมอย่างน่าเสียดายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประเทศฝรั่งเศส
การแข่งขันรถยนต์จีที3 ประเภทเอ็นดูรานซ์อันดับ 1 ของโลก บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอ็นดูรานซ์ คัพ สนาม 3 รายการ พอล ริคาร์ด 1,000 กิโลเมตร ดวลความเร็วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สนาม พอล ริคาร์ด เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส
พศิน นักขับไทยวัย 24 ปี ภายใต้รถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 50 สังกัด เอเอฟ คอร์เซ ออกสตาร์ทการแข่งขันพอล ริคาร์ด 1,000 กม. จากกริดสตาร์ทที่ 3 หลังจากร่วมงานกับทีมเมทชาวอิตาเลียนทั้ง 2 คน อย่าง มิเคเล รูโกโล และ อเลสซานโดร ปิแอร์ กูดี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและทำเวลาได้ดีในรอบควอลิฟาย
ทั้งนี้ พศิน ทำหน้าที่เป็นนักขับไม้แรกของทีม ด้วยการประจำกริดสตาร์ทที่ 3 เริ่มเกมในเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งนับเป้นการต่อสู้ที่เข้มข้นอย่างมาก ก่อนที่นักขับไทยจะโชคร้ายชนเข้ากับรถแข่งออดี้ ส่งผลให้ พศิน หมุนเคว้งในแทร็กร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 35 ทำให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมาเคลียร์แทร็ก ทว่าด้วยความยอดเยี่ยม พศิน ยังสามารถต่อสู้ไล่อันดับกลับคืนอย่างระห่ำ ขณะที่เรซก็เต็มไปด้วยเหตุการณ์พลิกผันซึ่งเซฟตี้คาร์ต้องออกมาวิ่งนำขบวนรถแข่งอยู่หลายครั้ง และถือเป็นงานสุดท้าทายของนักขับไทยและทีมงาน
เมื่อการแข่งขันกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง รถแข่งเฟอร์รารี่หมายเลข 50 สามารถกลับมาต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งหัวแถวได้อีกครั้ง ด้วยระยะห่างจากอันดับ 1 เพียงเล็กน้อยตลอดทั้งเรซ โดยรั้งอันดับบนโพเดี้ยมไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเป้าหมายคือการเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดแม้ว่าจะมองไปถึงการคว้าแชมป์ก็ตาม ขณะที่พวกเขาผ่านช่วงกลางการแข่งขันที่ต้องบวกเวลาเพิ่มเติม (ตามกฎอันดับบนตารางคะแนนสะสม) และโทษขับผ่านพิตเลนช่วงกลางเรซ ด้วยแผนอันยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ดี อุปสรรคเริ่มเข้าเล่นงานรถแข่งหมายเลขเฟอร์รารี่ 50 เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่จะเริ่มต้นชั่วโมงที่ 5 ของการแข่งขันซึ่งเริ่มเข้าสู่ความมือของประเทศฝรั่งเศสที่ยังอบอุ่นในแทร็กแห้ง โดยเหลือการแข่งขันเพียง 1 ชั่วโมงสุดท้ายของศึก พอล ริคาร์ด 1,000 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นช่วงวิกฤติของ พศิน และทีมเมท ที่ต้องเจอปัญหาด้านเทคนิคจนทำให้รถแข่งช้าลงเรื่อยๆ และเสียไปหลายอันดับ ทำให้ต้องนำรถเข้าพิตเพื่อแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ส่งผลให้เสียเวลาไปถึง 2 รอบการแข่งขัน
ภายหลังแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ได้อย่างเร่งด่วน รถแข่งเฟอร์รารี่หมายเลข 50 กลับลงสู้แทร็กเพื่อไล่ล่าอันดับอีกครั้งในชั่วโมงสุดท้าย โดยพวกเขาทำได้ดีที่สุดด้วยกันเข้าเส้นชัยในอันดับ 23 ตามหลังแชมป์อยู่ 3 รอบสนาม
สำหรับ พศิน เข้าร่วมการแข่งขัน บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอ็นดูรานซ์ คัพ 2017 เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ภายใต้การสนับสนุนของ นารายา, ลาลามา, นารา บาย นารายา รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย
พศิน เปิดเผยว่า “การแข่งขันเรซนี้ถือเป็นหายนะของผมจริงๆ หลังจากที่เราต้องเจอปัญหาด้านเทคนิคในช่วงท้ายเรซ เพราะเราแสดงให้เห็นว่าสามารถต่อสู้เพื่อชัยชนะได้ นั่นหมายความว่าเรามีโอกาสที่จะยืนบนโพเดี้ยมสูงสุดได้”
“ทีมช่างของเราทำงานได้อย่างมหัศจรรย์ รวมถึงการวางแผนที่ยอดเยี่ยมหลังจากความวุ่นวายในช่วงที่เซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งเคลียร์แทร็ก พวกเขาทำงานอย่างหนักและส่งผลให้นักขับทั้ง 3 คน รวมทั้งผมทำงานบนแทร็กได้ง่ายขึ้น รถแข่งองเราก็มีสมรรถนะที่ดี ขณะที่ มิเคเล (รุโกโล) และ อเลสซานโดร (ปิแอร์ กูดี) ก็ขับได้อย่างสุดยอด เอาละเราต้องลืมฝันร้ายที่ฝรั่งเศส และกลับมาโฟกัสที่การแข่งขันในสนามหน้า ซึ่งจะมีขึ้นที่ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ที่โหดกว่านี้ด้วยระยะเวลาทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง หวังว่าเราจะมีผลงานที่ดีในเบลเยี่ยม”
ศึก บอลงค์แปง จีที ซีรีส์ เอ็นดูรานซ์ คัพ 2017 สนามถัดไปจะดวลความเร็วในวันที่ 27-30 กรกฎาคมนี้ ที่ สปาฟรังก์คอร์ฌองส์ สนามระดับตำนานของโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยี่ยม ในรายการ สปา 24 ชั่วโมง