พศิน ลาทูรัส ยอดนักขับไทยวัย 24 ปี ปิดฉากการแข่งขันสนามสุดท้ายของศึก บลองค์แปง จีที เอ็นดูรานซ์ คัพ ด้วยเกมอันสุดโหดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าตัวเผยเสียดายที่ไม่สามารถคว้าโพเดี้ยมที่ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จ หลังเจออุปสรรคถาโถมตลอดทั้งปี
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบเอ็นดูรานซ์สุดโหดของโลกรายการ บลองค์แปง จีที เอ็นดูรานซ์ คัพ 2017 สนามสุดท้าย ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า แคว้นคาตาลัน
โดย พศิน นักขับไทยหนึ่งเดียวในรายการนี้ต้องเจอสถานการณ์พลิกผันตลอดการแข่งขันทั้งฤดูกาล ก่อนจะเดินทางมาถึงสนามสุดท้ายที่ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า ที่ต้องดวลความเร็วท่ามกลางสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนตลอดสุดสัปดาห์ของโซนตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน
สภาพแทร็กโดยรวมของการแข่งขันในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอยู่ในสภาพชื้น หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักในการแข่งขันรอบควอลิฟาย และพรี-ควอลิฟายในช่วงเช้าของวันก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี รถแข่งเฟอร์รารี่ ก็ยังคงตกเป็นรองคู่แข่งในสุดสัปดาห์ดังกล่าวที่ บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นผลจากกฎการถ่วงดุลย์สมรรถนะรถแข่ง ที่ฝ่ายจัดการแข่งขันวิเคราะห์จากสภาพอากาศทำให้ พศิน และทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง มิเคเล รูโกโล และ อเลสซานโดร ปิแอร์ กูดี ต้องเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากตั้งแต่การซ้อมครั้งแรก การควอลิฟาย ไปจนถึงช่วงเวลาของการแข่งขันตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม โดยพวกเขาต้องออกตัวจากกริดสตาร์ทที่ 24
เข้าสู่ช่วงการแข่งขัน โดย พศิน รับหน้าที่เป็นนักขับคนแรกของทีมภายใต้รถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 50 จาก เอเอฟ คอร์เซ ก่อนจะส่งต่อให้ มิเคเล รูโกโล และ อเลสซานโดร ปิแอร์กูดี รับช่วงต่อในชั่วโมงที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งการออกตัวจากแถวที่ 12 ทำให้พวกเขาต้องพยายามอย่างมากในการแซงคู่แข่งขึ้นไปให้ได้เร็วที่สุด
รถแข่งหมายเลข 50 ต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเล็กน้อยเมื่อหลุดออกจากแทร็กในช่วงต้นการแข่งขัน ทว่า พศิน ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยก็กลับเข้าสู่การแข่งขันได้อีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ไล่แซงคู่แข่งเข้ามาเรื่อยๆ และทีมเมททั้งคู่ก็ช่วยกันขับด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม จบการแข่งขัน 3 ชั่วโมง สามารถทะยานขึ้นมาจบเรซในอันดับ 15 ได้สำเร็จ
โดยผลการแข่งขันดังกล่าวของรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 50 นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเหล่ารถแข่งเฟอร์รารี่ในเรซนี้ จากทัพรถแข่งม้าลำพองทั้งสิ้น 9 คันในแทร็ก ที่ต้องดวลความเร็วท่ามกลางรถแข่งทั้งหมดกว่า 50 คัน
การแข่งขัน บาร์เซโลน่า 3 ชั่วโมง ของ พศิน ในปี 2017 โดยนับเป็นฤดูกาลที่ 2 ของนักขับไทยวัย 24 ในศึก บลองค์แแปง จีที เอ็นดูรานซ์ คัพ แบบเต็มฤดูกาล และเป็นฤดูกาลที่ 4 ในการแข่งขันในทวีปยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ พศิน แสดงศักยภาพและพัฒนาที่ยอดเยี่ยมในอาชีพนักขับ แม้จะไม่สามารถคว้ารางวัลมาครองได้มากเท่าใดนักหากเทียบกับที่ผ่านๆ มา
พศิน ออกสตาร์ทฤดูกาลที่ มอนซ่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยการออกสตาร์ทจากโพลโพซิชั่นและจบเรซบนโพเดี้ยมด้วยตำแหน่งรองแชมป์ จากนั้นคว้าแต้มเพิ่มในสนาม 2 ที่ ซิลเวอร์สโตน ด้วยการเข้าป้ายในอันดับ 6 ถือเป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุดของ เฟอร์รารี่ เพราะเสียเปรียบคู่แข่งจากเรตติ้งของกฎการถ่วงดุลย์สมรรถนะ (Balance of Performance : BoP)
อย่างไรก็ตาม 2 เรซล่าสุดกลับเป็นการแข่งขันที่นักขับไทยต้องเจอความยากลำบาก โดยเขาโดนชนในศึก พอล ริคาร์ด 1000 กม. และต้องออกจากเรซ 24 ชั่วโมง ของ สปา ทั้งที่มีโอกาสลุ้นคว้าโพเดี้ยมอย่างน่าเสียดาย ก่อนจะกลับมาจบเรซในอันดับ 15 ในสนามสุดท้ายที่ บาร์เซโลน่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับ พศิน เป็นนักขับไทยที่สร้างชื่อเสียงให้วงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ บลองค์แปง จีที เอ็นดูรานซ์ ซีรีส์ 2017 ภายใต้การสนับสนุนโดย นารายา, ลาลามา, นารา บาย นารายา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย
พศิน เปิดเผยว่า “ถือเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่พวกเราทำงานกันอย่างหนักเพื่อต่อสู้ในสนามปิดฤดูกาล ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราไม่สามารถจบการแข่งขันบนโพเดี้ยมได้ แต่มันก็เป็นผลมาจากที่เราเสียเปรียบด้านขีดความสามารถของรถแข่งที่ถูกทอนลงจากกฎ BoP ซึ่งทำให้เราต้องทำงานหนักกว่าทีมอื่นๆ ใช้ความได้เปรียบของสภาพอากาศ และทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้”
“ผมอยากขอขอบคุณทีมเมทของผมทั้ง มิเคเล และ อเลสซานโดร สำหรับการขับที่ยอดเยี่ยมตลอดทั้งปี และขอบคุณทุกๆ คนในทีม เอเอฟ คอร์เซ สำหรับการทำงานอย่างหนักตลอดทั้งฤดูกาล”