Idemitsu Super Turbo Thailand
สนาม 3-4 บุก “สนามช้างฯ”
“วีรกาจ + มั่นคง + ภัทรพล + แพรวพรรณ + ธณพล” กอดคอกวาดแชมป์รวดสองเรซ
มาถึง “ครึ่งทาง” กันแล้ว สำหรับศึก Idemitsu Super Turbo Thailand 2019 สนาม 3-4 ย้ายวิกมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งสนามนี้เป็น “ครึ่งทาง” เพราะเหลือลุ้นสนาม 5-6 ซึ่งเป็นวิกสุดท้ายในเดือน ก.ค. นี้ ก่อนจะไปพบกัน “ปลายปี” กับงาน Idemitsu 600 Super Endurance 2019 ที่ Bookmark ไว้แล้ว ในวันที่ 12-14 ธ.ค. ศกนี้แน่ๆ สายทรหดเจอกันแน่นอน…
สำหรับสนาม 3-4 ดวลความเร็วเมื่อวันเสาร์–อาทิตย์ที่ 25-26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ใส่กันได้เต็มที่ สำหรับสนาม 3 วันเสาร์ ไม่รู้เป็นไงเพราะ “ร่วงกระจาย” รถไม่พังก็อุบัติเหตุ เรียกว่าตัวเต็งๆ หลายคนร่วงกันไป
Super Turbo Tha + Super Turbo D1
ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่รุ่น Super Turbo THA นับเป็นการแข่งขันคลาสสูงสุดของรายการ Idemitsu Super Turbo Thailand 2019 ที่มีแฟนๆ ติดตามเป็นจำนวนมาก จากรถแข่งสปอร์ตคาร์ + เทอร์โบ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุค 90 จนถึงปัจจุบัน โดยแข่งร่วมกันกับ Super Turbo D1 โดยในสนามนี้มีรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันถึง 22 คัน โดยตำแหน่งสตาร์ท “โพล” ในสนาม 3 เป็นไปตามคาด “วีรกาจ ดอกจันทร์” จาก WORLD PUMPS RACING TEAM ควบ MITSUBISHI EVO 9 ขนาบข้างด้วย “อาหงส์” หรือ เฉิน เจี้ยน หงส์ จาก H.DRIVE RACING TEAM ในรถแข่ง SEAT LEON CUPRA TCR คันเก่ง ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์” K-SPORT K1 RACING TEAM ด้วยรถแข่ง MITSUBISHI EVO VI ในเรซนี้ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดตั้งแต่ออกสตาร์ท แต่น่าเสียดายที่มีรถแข่งต้องออกจากการแข่งขันถึง 7 คัน ขณะที่แชมป์นอนมา เมื่อ วีรกาจ ควบรถแข่ง MITSUBISHI EVO 9 ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมตั้งแต่ออกตัว นำโด่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลารวม 20 นาที 13.998 วินาที ทิ้งห่าง อันดับ 2 อย่าง เฉิน เจี้ยน หงส์ ถึง 29.465 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ กรรณ สุนทรศร จาก ENI OIL JK RACING & K1 RACING TEAM อันดับ 4 เป็นของ “ต้น อีโว” ชยกร ศาสตศิลป์ ทีม PROSTREET RZ RACING – EVO SHOP THAILAND และอันดับ 5 ลุ้นกันตาเหลือก กับ SKYLINE R33 หนึ่งเดียวในงาน “ปิ๊ด วิดวิน” วิธวินท์ สนธิรักษ์ ทีม LEO – FRESH – MSM ที่มาอยู่ดีๆ เกิดปัญหา “ท่อเวสต์เกตขาด” บูสต์เกินล่อไปยันเกจ์ ก็เลยต้องประคองไปก่อนที่ RB25DET จะแยก Factor ออกมาเป็นชิ้นๆ แต่ยังดีที่ได้อันดับ 1 ในคลาส Turbo จ้า…
ส่วนสนาม 4 วีรกาจ ยังรักษาผลงานยอดเยี่ยม ออกสตาร์ทจากโพลนำม้วนเดียวจบ เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 38.317 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง เฉิน เจี้ยน หงส์ 4.758 วินาที ตามด้วย สุเมธ รุ่งรัตนพันธ์ จาก WAKO’S TEAM THAILAND ควบ NISSAN 200SX ขุมพลังเปลี่ยนจาก 2JZ-GTE เป็น 1JZ-GTE เล็กลง ให้ “แรงพอดีๆ” ตามหลังแชมป์อยู่ 6.448 วินาที ก็ไม่เลวนัก หลังจากที่วันเสาร์รถมีปัญหาต้อง DNF ไป ส่วน “ปิ๊ด วิดวิน” ก็ยังได้อันดับ 5 Over All ในรุ่น Super Turbo THA และ อันดับ 1 ในคลาส Turbo เหมือนเดิม…
Super Turbo D2 และ Super Turbo D3
รุ่นนี้ก็ยังคง “มัดรวม” มีรถแข่งรวมกันแล้วทั้งสิ้น 31 คัน เริ่มกันจาก D2 ในสนาม 3 เจ้าของโพลอย่าง “เทอร์โบ” มั่นคง เสถียรถิระกุล ทายาทอดีตนักแข่งสุดเก๋า “มงคล เสถียรถิระกุล” จาก สิทธิผล กรุ๊ป – KI SUGAR กับ HONDA CIVIC FB ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม นำม้วนเดียวจบตั้งแต่รอบแรกด้วยเวลารวม 20 นาที 13.998 วินาที คว้าชัยชนะทั้ง โอเวอร์ออล์ และ D2 สนามที่ 3 ไปครองแบบหายห่วง ทิ้งห่างอันดับ 2 “มาวิน บุญอิต” นักขับดาวรุ่งจาก STAR PERFORMANCE กับ HONDA CIVIC FK ถึง 27.548 วินาที ซึ่ง มาวิน ก็เฉือนคู่แข่งคนสำคัญ อย่าง ขจรศักดิ์ ณ สงขลา จาก PTT PERFORMA – V.C.MEAT – RPM – COSMIS ควบ FORD FOCUS TURBO อย่างเฉียดฉิว…
ในสนาม 4 ก็ยังไม่มีอะไรผิดคาด “มั่นคง” ระเบิดฟอร์เก่งนำม้วนเดียวจบอีกครั้ง ด้วยเวลารวม 20 นาที 28.061 วินาที คว้าแชมป์ในคลาส Super Turbo D2 ไปครอง 2 เรซติดต่อกัน ตามด้วยทีมเมทชั้นครูอย่าง “เอกประวัติ เพชรรักษ์” ควบ HONDA CIVIC FB ตามหลัง 5.090 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นการขับเคี่ยวระหว่าง ขจรศักดิ์ และ มาวิน ที่ไล่บี้กันอย่างหนักตลอดทั้งเรซ ยอมรับว่าคู่นี้มันส์จริงๆ แทงกันตลอดทาง โดยท้ายที่สุดเป็น “ขจรศักดิ์” อาศัยความเก๋า เข้ามาในอันดับ 3 เฉือน มาวิน ในอันดับ 4 เพียง 0.095 วินาที เรียกว่าหายใจรดหูกันเลย…
ขณะที่แชมป์ในคลาส D3 ในสนามที่ 3 ตกเป็นของ “ภัทรพล กรเวช” จาก WAXONE RACING PROJECT ควบ HONDA JAZZ GK เข้าป้ายเป็นคันแรกเหนืออันดับ 2 อย่าง “ชินวิช รมยานนท์” จาก MUAYTHAI 101 & STREET NUMBER 9 ถึง 6.792 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “ธีระศักดิ์ ศักดิ์แพทย์” จาก MENG HEADER-TUNED BY EAK-AUTO ART & 115 POWER HAUS ตามหลังแชมป์ร่วม 18 วินาที จากนั้น “ภัทรพล” มาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในสนาม 4 ด้วยเวลา 21 นาที 38.676 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง “เศรษฐศิษฐ์ บุณยเกียรติ” จาก วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต ตามหลังแชมป์ 2.972 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “ภิษณุ ภูษิตานนธกูร” ตามหลังแชมป์ 3.389 วินาที…
Super Turbo D4
แม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่รถก็เยอะที่สุดตลอดกาล เพราะเป็นรถระดับ 1500 & ECO ที่เอื้อมถึงได้ง่ายที่สุด สนามที่ 3 ดวลความเร็วทั้งสิ้น 10 รอบสนาม มีรถแข่งทั้งสิ้น 21 คัน โดยตำแหน่งโพลเป็นของ “อวิโรธน์ ศิรินทร์วรชัย” จาก WAXONE RACING PROJECT ขนาบข้างด้วย “สรรพร เชาวน์ชวานิล” จาก STAR PERFORMANCE ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ” จาก BILLIONAIRE BOY RACING เกมในเรซนี้เป็น อนุสรณ์ ออกนำได้ตั้งแต่ช่วงแรกของเรซ ก่อนจะเริ่มทิ้งห่างคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง และเข้าป้ายเป็นคนแรก ด้วยเวลา 20 นาที 4.447 วินาที คว้าแชมป์ไปครองได้แบบหายห่วง ทิ้งห่าง “รอมเมลล์ ซิงห์” นักแข่งและจูนเนอร์ชื่อดัง จาก สิงค์โปร์ สังกัดทีม Star Performance ถึง 7.692 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “อวิโรธน์” เจ้าของโพล ตามหลังแชมป์ 19.535 วินาที ซึ่ง อวิโรธน์ ที่อกหักจากสนาม 3 ก่อนจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้งในสนามที่ 4 ออกนำแบบม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ Super Turbo D4 ไปครองได้อย่างหายห่วง ด้วยเวลา 19 นาที 52.897 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง อนุสรณ์ ถึง 10.577 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รอมเมลล์ ซิงห์ ตามหลังแชมป์ 11.705 วินาที…
Pickup Turbo THA
มาแล้วครับ สำหรับ “สิงห์ดีเซล” ที่มหาชนคนชอบความสะใจรอคอย บอกตรงๆ ว่ารุ่นนี้ลุ้นกันมันส์ เพราะ “ขับยาก” คนขับต้องมีความคุ้นชินอย่างดีมาตลอดจึงจะคุม “กระบะ” สไลด์ท้ายบนเซอร์กิตได้อย่างรวดเร็ว และสวยงาม ในสนามที่ 3 จอมเก๋ารุ่นเดอะ “ป๋าเล้ง” จรัส แจ้งกมลกุลชัย จาก YSS Racing Shock-PTT-Lenso สตาร์ทตำแหน่งโพล ขนาบข้างด้วย ตัวเล็กฝีมือเทพ ดีกรีโคตรแชมป์ อย่าง “เบสท์ เทอร์โบยำ” ธณพล ชูเจริญผล จาก KEVLAR BRAKES & เบสท์ เทอร์โบยำ ในรอบแรกก็เกิดเหตุชลมุน เมื่อมีรถแข่งชนกันถึง 5 คัน ในโค้งที่ 3 ซึ่ง “เพิก เลิศวังพง” จากพรรคยางพาราไทย ที่เสียบในแล้วเกิดเบรกไม่อยู่ ชนเข้าเต็มๆ กับ “ป๋าเล้ง” แล้วก็หมุนไปฟาดกลางลำ “เบสท์” เรียกว่าสยองเพราะ “โรลบาร์ขาด” เลยเป็นคำถามจาก “ประธานเปาะ” กีระเกียรติ เย็นมะโนช ผู้จัดการแข่งขัน ว่า “แน่ใจหรือว่ารถแข่งไม่ต้องมีโรลบาร์ก็ได้” ลองไปคิดเอาเองครับ…
หลังจากผ่านช่วงชุลมุน แชมป์ตกเป็นของ “เบสเทอร์โบยำ” หรือ ธนพล ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกหลังครบ 10 รอบสนาม ด้วยเวลา 20 นาที 45.232 วินาที ทิ้งห่าง “เอกสิทธิ์ นามแสงผา” จาก TUNE BY AOT อันดับ 2 ถึง 8.899 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ “สัญญา พลเยี่ยม” จาก เบิร์ดหลักห้า ผู้ใหญ่ไก่ บุญยางชลบุรี ตามหลังแชมป์ 39 วินาที ขณะที่อันดับ 4 ตกเป็นของ “อภิสิทธิ์ วงศ์กาวี” จาก SUNLUBE THAILAND, TEI, เจโช้คอัพ, ช่างเอกระยอง ตามด้วยเข้าของโพลอย่าง “จรัส” ที่ได้รับความเสียหาย “กระบะเบี้ยว” จากการถูกชนในรอบแรก แต่ยังสามารถประคองนำรถเข้าป้ายในอันดับ 5 ได้สำเร็จ สนามนี้แข่งเสร็จก็ต้องมีการ “ขอโทษขอโพย” กันตาม “สปิริต” นักแข่งที่ดี…
สนาม 4 ของ Pickup Turbo ยังคงดวลกันอย่างสุดโหดเหมือนเดิม หลังจากที่เยียวยารถกันมาแล้ว โดยแชมป์ก็ยังตกเป็นของ “ธณพล” ที่ทำเวลาต่อรอบเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 35.484 วินาที คว้าแชมป์ไปครอง 2 เรซ ติดต่อกัน ขณะที่ อันดับ 2 เป็นของ “จรัส” ที่ซ่อมรถจนกลับมาเกือบ 100 % ไต่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในช่วงต้นเรซ ตามหลังแชมป์ 13.109 วินาที ตามด้วย “สมร มะปะเข” จาก GT RESEDENCE ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 31.972 วินาที ส่วนอันดับ 4 เป็นของ “สัญญา พลเยี่ยม” จาก เบิร์ดหลักห้า ผู้ใหญ่ไก่ บุญยางชลบุรี ตามหลังแชมป์ 38.903 วินาที ตามด้วย “เพิก เลิศวังพง” จาก พรรคยางพาราไทย ที่ซ่อมรถกลับมาทัน ตามหลังแชมป์ 58.493 วินาที…
Japan 20+
รุ่นนี้แหละมันส์ เพราะเป็นเหล่า CIVIC EG & EK ทั้ง 3 และ 4 ประตู “ยอดฮิตตลอดกาล” กับเครื่องยนต์ VTEC สุดลั่นซอย เรียกว่าขับเคี่ยวกันมันส์จริงๆ โดยแชมป์สนาม 3 เป็นของ “จิรานุวัฒน์ จุลวัจนะ” จาก CAR – aะ – HOLIC ที่เข้าป้ายเป้นคันแรกด้วยเวลา 23 นาที 30.00 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง “สุวิทย์ คำจีน” จาก SK ZIC RACING TEAM THAILAND ถึง 6.602 วินาที ตามด้วย “อริยพล จิรโอฬารนนท์” จาก WAXONE RACING PROJECT ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 8.885 วินาที หลังจากนั้น “โอ๊ต รามอินทรา” ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล มือเก๋าศิษย์ “อ๊อฟ หทัย” จากยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง รามอินทราเทอร์โบ ก็กลับผงาดคว้าแชมป์ Japan 20+ สนาม 4 ไปครองด้วยเวลา 18 นาที 43.142 วินาที เฉือน “อริยพล” อันดับ 2 เพียง 0.978 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของจอมเก๋าอย่าง “หทัย ไชยวัณณ์” จาก SINGHA ELF น้ำตาลบุรีรัมย์ ตามหลังแชมป์ 39.028 วินาที…
Lady Cup
เรียกว่าเป็น “ดอกไม้ประจำสนาม” ที่รวมเอานักขับสาวๆ มาดวลกันในแทร็ก แต่ขอโทษ “เดือดไม่แพ้ผู้ชาย” โดยแชมป์โอเวอร์ออลล์ และ Lady Cup Open สนามที่ 3 เป็นของสาวฝีมือเด็ดขาด อย่าง “แพรวพรรณ ธรรมลาภา” จาก Elf Singha Racing Team ที่ออกนำม้วนเดียวจบด้วยเวลา 17 นาที 7.682 วินาที เหนือ “ภาวิณี โยธา” จาก MORSENG RACING TEAM อันดับ 2 เพียง อันดับ 2 เพียง 1.966 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “มิโมโต มิชิเอ” นักขับสาวชาวญี่ปุ่นจาก ARTO WEST RACING TEAM ตามหลังแชมป์ 10.656 วินาที…
ขณะที่ผลในคลาส Lady Cup A/T ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ “ธัญญมัย วัชรเสถียร” จาก BUALOY RACING TEAM ด้วยเวลา 18 นาที 18.843 วินาทื เหนือ “กุลนิภา อินทรศิริ” จาก FAUSTINO TEAM ที่ตามเข้าป้ายอันดับ 2 เพียง 1.514 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของสาวชื่อแปลก “เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์” (ใช้เวลาและความพยายามอ่านชื่ออยู่พอสมควร) จาก ADVICS AISIN RACING TEAM ตามหลังแชมป์ 2.442 วินาที…
สนามที่ 4 ของคลาส Lady Cup เป็นหนังม้วนเดียวกับสนาม 3 โดยตำแหน่งหัวแถวเป็นการขับเคี่ยวระหว่าง “แพรวพรรณ” และ “ภาวิณี” ที่ไล่กันอย่างสนุกในช่วงครึ่งทางแรกของการแข่งขันก่อนที่ แพรวพรรณ อาศัยความเก๋า จะเริ่มหนีออกไปได้อย่างต่อเนื่อง และควบรถแข่งเข้าธงเป็นคันแรกด้วยเวลา 16 นาที 57.118 วินาที คว้าแชมป์โอเวอร์ออลล์ และ Lady Open เหนืออันดับ 2 อย่าง ภาวิณี 3.589 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มิโมโต มิชิเอ ตามหลังแชมป์ 6.236 วินาที ด้านผลการแข่งขันในคลาส Lady A/T แชมป์ตกเป็นของ เมฆรัชคีฏาก์ ด้วยเวลา 18 นาที 0.897 วินาที ตามด้วย ธัญญมัย ในอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของ กุลนิภา อินทรศิริ จาก FAUSTINO TEAM…
TCSA
นอกจากการแข่งขันรายการ Idemitsu Super Turbo Thailand ยังมี Support Race ที่น่าสนใจ อย่างรายการ TCSA หรือ ทัวร์ริ่งคาร์ ซีรีส์ อิน เอเชีย เป็นการแข่งขัน “ทัวร์ริ่งคาร์” เบอร์หนึ่งของเอเชีย โดยแชมป์สนามที่ 3 เป็นของ Yiu Lung จาก Team Sporsky ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 2 ขยับขึ้นนำและเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 26 นาที 2.289 วินาที คว้าแชมป์โอเวอร์ออลล์ และคลาส Independent (เหมือน Open สามารถโมดิฟายได้มาก) ไปครอง ทิ้งห่าง Ching Pak Ho Parkol อันดับ 2 จาก Sky & King Global Motorsport ถึง 5.004 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ NG Ho Man จาก Team Endless ตามหลังแชมป์ 9.984 วินาที สุดสัปดาห์นี้ของ TCSA กลายเป็นสนามที่ YIU Lung สร้างผลงานได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยเขาสามารถควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกอีกครั้ง ด้วยเวลา 23 นาที 9.228 วินาที เข้าวินโอเวอร์ออล์ และ คลาส Independent ไปครอง เฉือนอันดับ 2 อย่าง Ching Pak Ho Parkol เพียง 1.386 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ NG Ho Man ตามหลังแชมป์ 6.667 วินาที…
HK Mini Challenge
อีกหนึ่งรายการที่ทรงมนต์เสน่ห์ของความคลาสสิค ของ AUSTIN MINI รุ่นเก่า ซึ่งชิงชัยกันทั้งสิ้น 8 รอบสนาม รุ่นนี้แม้รถจะเล็ก แต่ความดุเดือดไม่แพ้รุ่นใหญ่นะ ออกสตาร์ทสนาม 3 โดยการสตาร์ทแบบ Standing start (ออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง) เจ้าของโพลอย่าง NG CHOR HUNG ชิงจังหวะออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม แต่งานนี้ไม่ง่ายนักเมื่อเขาต้องเจอ WONG WING SUM ไล่บี้อย่างดุเดือด ทว่าฝ่ายหลังกลับพลาดหลุดโค้งต้องรีไทร์ตั้งแต่รอบแรก โดย NG CHOR HUNG รักษาตำแหน่งหัวแถวได้แบบม้วนเดียวจบ เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 17 นาที 52.703 วินาที โดยมี Chak Wing Fai ตามเข้าป้ายในอันดับ 2 ตามหลังแชมป์ 2.193 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ Roy Sun ตามหลังแชมป์ 47.097 วินาที…
ส่วนสนามที่ 4 ของ HK Mini Challenge ยังคงต่อสู้กันอย่างสนุกเหมือนเดิม โดยแชมป์เป็นของ Roy Sun ที่ควบรถแข่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 17 นาที 48.140 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง Chak Wing Fai อยู่ 4.954 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของนักขับไทยอย่าง “พนัย ควรสถาพร” นามสกุลคุ้นๆ ไหมครับ ว่าเหมือนกับ “น้าหมูบิน” หรือ พนัส ควรสถาพร นักแข่งระดับลายคราม สนามนี้ “พนัย” สร้างผลงานยอดเยี่ยม ควบ MINI CLUBMAN คันเดียวในงาน ทำเวลาตามหลังแชมป์ 8.908 วินาที ตามด้วย Choy She Wing และ NG Shor Hung เจ้าของแชมป์สนาม 3 ในอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ…
สำหรับการแข่งขัน Idemitsu Super Turbo Thailand 2019 สนามถัดไปจะดวลความเร็วระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย โดยแฟนความเร็วสามารถติดตามข่าวสาร ไฮไลท์การแข่งขัน และถ่ายทอดสดการแข่งขันได้ทาง www.superturbothailand.com และ facebook.com/Super Turbo Thailand