เรียบเรียง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : Thailand Super Series Official, ดนัย จำปาวัลย์ (GPI Photo)
และแล้วก็มาถึงรอบสุดท้าย หรือ Round 2 ที่หลายคนรอคอย เนื่องจากว่ามัน “สุดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” โอกาสเหลือครั้งสุดท้าย ทุกคัน ทุกคน ทุกทีม ก็ยิ่งที่จะต้องใส่เต็ม เรื่องคำว่าปราณีคงไม่มีแน่ๆ วันนี้อากาศตอนเช้าพอมีลมเย็น แต่ฟ้าโปร่ง คิดว่าช่วงกลางวันและบ่ายๆ ก็คงจะเข้า “มาตรฐานบุรีรัมย์” หรือ “Buriram Standard” อีกแน่นอน แต่ดูฝนแล้วท่าจะไม่มีแน่ๆ ทีมแข่งแต่ละทีม ก็ต้องประเมินสถานการณ์ เซ็ตรถให้ถูกต้องกับสภาวะอากาศ เอาง่ายๆ แค่ “แรงดันลมยาง” ก็มีผลชี้แพ้ชี้ชนะได้…
Thailand Super Compact – Thailand Super Production
กลับมาสนาม 2 ของฤดูกาล กับหน้าที่เปิดประเดิม ซึ่งยังคงเป็นรุ่น Thailand Super Compact และรุ่น Thailand Super Production ซึ่งรุ่นนี้จะขับ 2 คน ก็ได้ หรือ 1 คน ก็ได้ โดยตำแหน่งโพล โพสิชั่น บนกริดสตาร์ท คือ รถหมายเลข 43 Innovation Motorsport (Compact) พร้อมด้วยกริดที่ 2 เป็นรถหมายเลข 5 จาก PT MAXNITRON MOTORSPORT (Compact) กริดที่ 3 หมายเลข 58 จาก Morseng Racing Team (Compact), กริดที่ 4 หมายเลข 95 จาก Idemitsu Racing Team Thailand (Compact) และกริดที่ 5 หมายเลข 65 แห่ง Flowlab Mactec Racing Team by BRC Clutch (Compact)…
Race Start 60 นาที เริ่มขึ้นในรูปแบบ Rolling เช่นเดิม พอสัญญาณ “แดงดับ” ก็เท่ากับ “เริ่มสตาร์ท” ทุกคันต้องเหยียบคันเร่งเต็ม โยกรถหาตำแหน่ง โดยมีผู้นำที่เปลี่ยนมาเป็น หมายเลข 5 จาก PT MAXNITRON MOTORSPORT (Compact) ที่สวนขึ้นมาอย่างสวยงาม พร้อมคู่หู Innovation Motorsport (Compact) คือ รถหมายเลข 43 และหมายเลข 55 ในอันดับ 2 และ 3 อันดับ 4 คือ หมายเลข 14 จาก YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco (Compact) และอันดับ 5 กับหมายเลข 93 จาก FORTRON RACING TEAM BY VATTANA MOTORSPORT (Compact) ที่พยายามไล่ขึ้นมาจากท้ายแถว แต่ต้องอกหักอีกครั้งเพราะรถมีปัญหา…
โดยก่อน Pit Window Open ช่วงเวลาแห่งการพลิกเกมส์จะเริ่มขึ้น อันดับของกลุ่มนำก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อ หมายเลข 95 จาก Idemitsu Racing Team Thailand (Compact) ในอันดับ 4 ก็ได้จังหวะเหมาะที่จะบดคันเร่ง ส่งตัวเองขึ้นไปในตำแหน่งอันดับที่ 3
ซึ่งหลังจาก Pit Window Close ผู้นำที่ยังคงเป็น หมายเลข 14 จาก YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco (Compact), อันดับ 2 หมายเลข 5 จาก PT MAXNITRON MOTORSPORT (Compact), อันดับ 3 หมายเลข 95 จาก Idemitsu Racing Team Thailand (Compact), อันดับ 4 หมายเลข 65 จาก Flowlab Mactec Racing Team by BRC Clutch (Compact) และอันดับ 5 กับแชมป์ในเรซที่แล้ว คือ หมายเลข 43 Innovation Motorsport (Compact)
โดยก่อนเข้า 20 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน การชิงอันดับ 2 จาก หมายเลข 5 ด้วยลีลาอันดุดันของ จนกระทั่งหมายเลข 95 คว้าตำแหน่งมาครองได้สำเร็จ แต่โชคไม่ดีที่รถมีปัญหา ทำให้ต้องส่งมอบอันดับ 2 กลับคืนหมายเลข 5 ไป พร้อมกับที่อันดับ 3 กลายมาเป็นหมายเลข 65, อันดับ 4 เป็นหมายเลข 43 และอันดับ 5 ที่กลับมาเป็นหมายเลข 55…
ปิดท้ายด้วย 2 ตัวแรงจากรุ่น Thailand Super Compact ที่ยังคงมีผู้นำในรุ่นเป็น หมายเลข 58 จาก Morseng Racing Team (Production) และอันดับ 2 กับหมายเลข 78 จาก 888 CarWash and DC Garage by Infinite Motorsport กับเวลาที่เหลืออีกราวๆ 10 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนอันดับช่วงท้ายเกมส์อีกครั้งจากหมายเลข 55 ที่แผ่วลงไปรั้งท้ายขบวน พร้อมกับการแข่งขันที่จบลง…
สรุป Overall รุ่น Thailand Super Compact และThailand Super Production อันดับที่ 1 ได้แก่ รถหมายเลข 14 จาก YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco (Compact) โดย ธีรเวทย์ พุกพิบูลย์ และ วีรวิชญ์ วงศ์แสงอนันต์ พร้อมอันดับ 2 เป็นหมายเลข 5 ปวีณ แดงสง่า จาก PT MAXNITRON MOTORSPORT อันดับ 3 หมายเลข 65 จาก Flowlab Mactec Racing Team by BRC Clutch โดย ชนัญชิชา ธนัฐิธาดากุล และ นามคเณศฆ์ พสุทธาดา ตามด้วยอันดับ 4 หมายเลข 43 จาก Innovation Motorsport โดย จารุตม์ จรวิเศษ และ อนรรฆวี ตั้งเนียรนาทชัย และอันดับ 5 หมายเลข 55 จาก Innovation Motorsport โดย ไมเคิล ฟรีแมน และ มานะ พรศิริเชิด…
โดยทางด้านรุ่น Thailand Super Compact ผู้ที่ครองอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 58 จาก Morseng Racing Team โดย ธนสิทธิ์ ปัญญาทรานนท์ และ ไชยยะ ม่วงงาม ตามด้วยอันดับ 2 กับหมายเลข 78 จาก 888 CarWash and DC Garage by Infinite Motorsport โดย นิธิวัชร์ ทิพยทัศน์ และฉันท์ชนก เวชภูติ นำอยู่ดีๆ ดันไปพลาดท่า “ม้วน” เอาโค้งแรก ทำให้อันดับร่วง ห่างจาก หมายเลข 58 ถึง 15 วินาที พยายามไล่บี้กันสุดชีวิต จนเหลือระยะห่าง 4 วินาที แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว…
Thailand Super Pickup
รุ่นสุดท้ายของครึ่งวันแรก กับ “ขวัญใจมหาชน” Thailand Super Pickup ที่มีข้อแม้ว่า “ควันห้ามดำ” เรื่องนี้อาจจะสงสัยว่าจะกำหนดอย่างไร จะมีการตรวจเช็คโดย Marshall รอบสนาม ในช่วงออกสตาร์ท หรือ ช่วงต้นการแข่งขัน อาจจะมีควันดำได้บ้าง เพราะรถกำลังใช้กำลังอัตราเร่งเยอะ แต่ถ้าลอยลำไปแล้วยังดำมากอยู่ กรรมการก็จะเรียกเข้าพิทเพื่อตรวจสอบแก้ไขทันที…
ตำแหน่งโพล โพสิชั่น จะเป็นหมายเลข 29 “เล้ง จรัส แจ้งกมลกุลชัย” จาก PTT Lubricant-Lenso -NEXZTER BRAKE RacingTeam กริดที่ 2 หมายเลข 81 เอกสิทธิ์ เกรียงโกมล จากสังกัด NEXZTER SCG LENSO TEAM กริดที่ 3 หมายเลข 23 ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ สังกัด โรงยางจอมขวัญ prospeed speedoil อู่เกียรจันทบุรี, กริดที่ 4 หมายเลข 78 พิสิษฐ์ เนตรเดชาธนาสิทธ์ จาก Morseng Racing Team, และกริดที่ 5 กับหมายเลข 3 แซนดี้ สตูวิค จากสังกัด Ford Thailand Racing ที่มากับ FORD RANGER คันใหม่ หนึ่งเดียวในสนาม ที่หลายคนจับตามองว่า “จะไหวไหม” เมื่อเจอตัวแรงแบรนด์ยอดนิยม รวมไปถึงถึงนักขับมือเก๋าทั้งหลาย งานนี้ “แซนดี้” และ ทีมช่าง การบ้านหนักเสียแล้ว แม้ว่าตัวเองจะเป็นนักแข่งระดับ Formula มาแล้ว แต่เมื่อมาเจอ “กระบะทางเลี้ยว” ที่มีอาการ “พยศ” ดิบๆ จะต้องคุมมันยังไงให้รอด…
สตาร์ทความมันส์ แบบ Standing Start หรือ “เอาไงบอก จอดออกก็ได้” สไตล์ดิบๆ พร้อมการโดดขึ้นนำของหมายเลข 81 จากสังกัด NEXZTER SCG LENSO TEAM ขณะที่อันดับ 2, 3 และ 4 ยังคงบดคันเร่งเพื่อตัดสินตำแหน่ง อย่างไม่ลดละ ก่อนได้ผลสรุปเป็น หมายเลข 29 จาก PTT Lubricant-Lenso -NEXZTER BRAKE RacingTeam ที่ได้จังหวะสวยขึ้นไปคว้าอันดับ 2 ซึ่งในอีกอึดใจ หมายเลข 23 สังกัด โรงยางจอมขวัญ prospeed speedoil อู่เกียรจันทบุรี ก็พลิกเกมส์เสียบขึ้นมาเป็นอันดับ 2…
แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ จากการผิดพลาด เดินคันเร่งผิดจังหวะไปหน่อย ทำให้ “ส่ายตูด” เลยโดนหมายเลข 23 กระแทกคันเร่งสวนขึ้นมาเป็นจ่าฝูงทันที ในเกือบรอบสุดท้ายของการแข่งขัน แต่หลังจากที่หมายเลข 81 ตั้งหลักได้ “อาศัยความเก๋า” ยัดไม่ยั้ง จนในที่สุดก็กลับขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำได้อย่างหวุดหวิดในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน…
ส่วนอันดับที่ 23 พร้อมด้วยอันดับ 2 ที่ตกเป็นของ จากเหตุรถหมายเลข 23 เสียอาการในจังหวะออกโค้ง โดนหมายเลข 78 จาก Morseng Racing Team ขึ้น จนต้องจำใจรับอันดับ 3 ส่วนอันดับ 4 เป็นผลงานของหมายเลข 22 จาก Team Donut Exedy Racing และอันดับ 5 ที่เป็นของหมายเลข 29 จาก PTT Lubricant – Lenso – NEXZTER BRAKE RacingTeam…
ผลสรุป Overall อันดับ 1 หมายเลข 81 “เอกสิทธิ์ เกรียงโกมล” จากสังกัด NEXZTER SCG LENSO TEAM, อันดับ 2 หมายเลข 78 “น้าหลง พิสิษฐ์ เนตรเดชาธนาสิทธ์” จาก Morseng Racing Team, อันดับ 3 หมายเลข 23 “ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ” สังกัด โรงยางจอมขวัญ prospeed speedoil อู่เกียรจันทบุรี, อันดับ 4 หมายเลข 22 “เต้ย TD Slide ศุภกิจ แดงอินทวัฒน์” แห่ง Team Donut Exedy Racing และอันดับ 5 หมายเลข 29 “ป๋าเล้ง จรัส แจ้งกมลกุลชัย” จาก PTT Lubricant-Lenso -NEXZTER BRAKE RacingTeam…
Thailand Supercar GTC – TA V8 Racing – Thailand Touring Car 1&2
กินข้าวปลากันเสร็จ พักสักนิด เดินคันเร่งกันต่อด้วยการ Combo 3 รุ่นเดือด คือ Thailand Supercar GTC, TA V8 Racing และ Thailand Touring Car 1&2 โดยมีรายนามบนกริดสตาร์ท ในตำแหน่งโพล โพสิชั่น เป็นหมายเลข 66 “เคล เคิร์นส” จากสังกัด CRE Racing (TA V8) ควบ FORD MUSTANG Trans – Am (เป็นรถแข่งแบบ Space frame โครงสร้าง และ องค์ประกอบรวมทั้งหมดเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ Body และ Setting) ส่วนกริดที่ 2 ของหมายเลข 88 “เคร็ก คอร์ลิส” จากสังกัด CRE Racing (TA V8) ขับ CHEVROLET CAMARO Trans – Am ที่น่าเสียดายเพราะพังไปเสียก่อนหน้านี้ เลยปล่อยให้เพื่อนขับอยู่คันเดียว แต่ก็คงไม่เหงาเท่าไรเพราะต้องพยายามหนีฝูง PORSCHE CAYMAN GT4 หรือตัวแรงอื่นๆ ในคลาส GTC ที่ได้เปรียบกว่าอย่างมากในโค้ง…
ส่วนกริดที่ 3 จะเป็นกลุ่มของ Thailand Supercar GTC ที่มียังคงมากับผู้นำ คือ หมายเลข 55 ชยพล โยธา จาก Morseng Racing Team (GTC), กริดที่ 4 เป็นหมายเลข 17 ณัฐจักร หาญจิตต์เกษม จาก AAS Motorsport (GTC) และกริดที่ 5 กับหมายเลข 46 พสุ ลิปตพัลลภ จาก AAS Motorsport (GTC) ที่ก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว…
ท้ายขบวนเป็นแก็งค์รุ่น Thailand Touring Car 1&2 ที่มีหมายเลข 7 อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ จาก YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco (TTC1) เป็นผู้นำ และหมายเลข 4 ขจรศักดิ์ ณ สงขลา แห่ง PTT PERFORMA-V.C. MEAT-RPM-NEXZTER RACING TEAM (TTC1) อยู่ในอันดับ 2, หมายเลข 68 พฤฒิพงษ์ ลีฬหนันทน์ จาก TMC-DRIVE68 BY WOOTBANGBON3 (TTC2 ) ในอันดับ 3 และหมายเลข 83 เดชพล ทองพูน จาก TMC-DRIVE68 BY WOOTBANGBON3 (TTC2 ) ในอันดับ 4…
การ Rolling Start หรือ การสตาร์ทแบบวิ่งไหลมา พอสัญญาณ “แดงดับ” ก็ต้องไปให้สุดเริ่มขึ้น โดยยังคงมี หมายเลข 66 CRE Racing (TA V8) ครองตำแหน่งผู้นำ ตามด้วยอันดับ 2 คือ หมายเลข 55 ชยพล โยธา จาก Morseng Racing Team (GTC) และหมายเลข 46 จาก AAS Motorsport (GTC) ในอันดับ 3 ส่วนอันดับ 4 นั้นเป็นผลงานการแก้มือของ หมายเลข 37 มานัต กุละปาลานนท์ จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand (GTC) ที่เริ่มโชว์ฟอร์มด้วยการเกาะติดไม่ห่าง เพื่อหาจังหวะเปลี่ยนตำแหน่ง ขณะที่อันดับ 5 นั้นเป็นหมายเลข 17 จาก AAS Motorsport (GTC)
ทางด้านตัวแข่งรุ่น Thailand Touring Car 1&2 ที่อยู่ท้ายขบวนนั้นก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยฝีมือของหมายเลข 4 แห่ง PTT PERFORMA-V.C. MEAT-RPM-NEXZTER RACING TEAM (TTC1) ที่ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำ ขณะที่ฝั่งหัวขบวนนั้น หมายเลข 37 จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand (GTC) ก็ขยับตำแหน่งบ้างเช่นกัน ด้วยการแซง หมายเลข 46 จาก AAS Motorsport (GTC) ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 เรียบร้อย หลังจากผ่านไปเพียง 3 รอบสนาม พร้อมกับตามกดดันอันดับ 2 คือ หมายเลข 55 จาก Morseng Racing Team (GTC) อย่างหนัก ขณะที่อันดับ 4 และ 5 คือ หมายเลข 46 และหมายเลข 17 นั้นเรียกได้ว่าพลาดท่าอย่างแรง หลังจากที่เกิดอาการเสียหลัก จนเกิดอุบัติเหตุชนกันในที่สุด เรียกว่าเกี่ยวก้อยกันกลับไปนอน Pit ก่อนเวลาอันควร…
ส่วนคู่ที่ขยี้กันมันส์สุด มันไม่จำเป็นต้องเป็นอันดับ 1 และ 2 หมายเลข 37 จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand (GTC) ในอันดับ 3 ที่ไล่บี้อันดับ 2 หมายเลข 55 จาก Morseng Racing Team (GTC) อย่างดุเดือด ห่างกันชนิดที่เรียกว่า “หายใจรดต้นคอ” เพื่อรอหาจังหวะเสียบเปลี่ยนอันดับ จนมาถึงรอบสุดท้ายที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนัก “งานมา” เบียดกันไปมาจนหมายเลข 55 เสียหลักม้วนไปเสียฉิบ หล่นลงมาเป็นอันดับ 3 และหมายเลข 37 คว้าอันดับ 2 ไปครอง จบการแข่งขัน มีการเรียกนักแข่งทั้งสองคันเข้ามาสอบสวน แต่พอทุกอย่างเคลียร์จบ ผล Official จึงยืนยันออกมาตามนี้…
สรุปผล Overall อันดับ 1 รุ่น Thailand Supercar GTC ได้แก่ หมายเลข 37 มานัต กุละปาลานนท์ จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand, อันดับ 2 หมายเลข 55 ชยพล โยธา จาก Morseng Racing Team, อันดับ 3 หมายเลข 14 ทศพล เปี่ยมใจ จาก Morseng Racing Team, อันดับ 4 หมายเลข 19 สุทธิพงศ์ สมิตชาติ จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand และอันดับ 5 ที่เป็นของ หมายเลข 77 ประทีป ตันประเสริฐ จาก BENDIX SRT RACING TEAM…
ส่วนรุ่น TA V8 Racing ยังคงเป็นชัยชนะของ รถหมายเลข 66 “เคล เคิร์นส” จากสังกัด CRE Racing ที่ “ใส่เดี่ยว” แม้จะมีแค่คันเดียว แต่ก็ต้องขับให้เต็มที่เพื่อศักดิ์ศรี ทางด้านของรุ่น Thailand Touring Car 1 อันดับ 1 เป็นรถหมายเลข 4 “ขจรศักดิ์ ณ สงขลา” แห่ง PTT PERFORMA – V.C. MEAT – RPM – NEXZTER RACING TEAM และอันดับ 2 เป็นรถหมายเลข 7 “อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ” จาก YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco…
ปิดท้ายด้วยรุ่น Thailand Touring Car 2 ซึ่งมีอันดับ 1 เป็นรถหมายเลข 68 “พฤฒิพงษ์ ลีฬหนันทน์” จาก TMC-DRIVE 68 BY WOOT BANGBON 3 และ อันดับ 2 กับหมายเลข 83 “เดชพล ทองพูน” จาก TMC-DRIVE 68 BY WOOT BANGBON 3 เกี่ยวก้อยกันเอารางวัลกลับบ้านแบบชิวๆ…
Thailand Super Eco
ยึดแทร็ค BRIC ก็รุ่นนี้เลย “ขวัญใจมหาชนรถเล็ก” กว่า 24 คัน บน Grid และทุกคันก็สูสีมากๆ แม้จะไม่ใช่รถแรงมาก แต่ลุ้นสนุกจริงๆ ตำแหน่งผู้นำบนโพล โพสิชั่นเป็น หมายเลข 68 “โต๊ด พศวัต เนตรอำไพ” จาก Pimonchai motorsport by 55wash ส่วนอันดับ 2 เป็นหมายเลข 21 “วัฏฏะ อินทร์ณรงค์” จากทีม เป๊ะโรงโป๊ะ ขณะที่อันดับ 3 เป็นหมายเลข 16 “เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ” จาก Guo Jeng Motorsport (อ่านว่า ก๊วยเจ๋ง นะครับ), อันดับ 4 เป็นหมายเลข 35 “อธิพงษ์ ขำทอง” จาก V-ARE PRO GARAGE RACING TEAM และอันดับ 5 แชมป์จากเรซแรก คือ หมายเลข 99 “น้องต้าร์ อนันต์ธร ตั้งเนียรนาทชัย” จาก DNA Racing team by voltronic อายุเพียง 16 ปี แต่มีดีกรีแชมป์โกคาร์ท เพิ่งมาขับรถยนต์ในปีนี้ แล้วก็สร้างผลงานอันยอดเยี่ยม เร็วสุดทุก Race…
สัญญาณไฟสตาร์ทดับ พร้อมเสียงเครื่องยนต์พิกัดเล็กรอบจัดลั่นๆ ซึ่งหลังมี หมายเลข 16 จาก Guo Jeng Motorsport ที่ขัยบขึ้นมาเป็นผู้นำ ตามด้วยหมายเลข 99 จาก DNA Racing team by voltronic บดคันเร่งตามมาเป็นอันดับ 2 ก่อนจะได้โอกาสสวนขึ้นไปครองตำแหน่งผู้นำอย่างสวยงาม โดยส่งหมายเลข 16 ลงมารับอันดับ 2 ที่มีอันดับ 3 หมายเลข 35 จาก V-ARE PRO GARAGE RACING TEAM ไล่มาติดๆ…
พร้อมด้วยความดุเดือดของกลุ่มใหญ่ในส่วนกลางและหลัง นี่แหละ ต่างคนต่างจะขึ้นหัวให้ได้ จนทำให้หลายคันทิ่มกันจนเสียตำแหน่งไปเยอะ ส่วนผู้นำหมายเลข 99 เรียกได้ว่า “ลอยตัว” ด้วยการเริ่มทิ้งระยะห่าง เปิดทางให้อันดับ 2 และ 3 คือ หมายเลข 16 และหมายเลข 35 แสดงบทบู๊ในการแย่งชิงอันดับจนได้ผลสรุปที่กลายเป็นอันดับ 2 ของหมายเลข 35 และอันดับ 3 ของหมายเลข 16 โดยมีอันดับ 4 คือ หมายเลข 95 จาก TUMRUBTHAI Racing Team Thailand และอันดับ 5 เป็นหมายเลข 21 จากทีม เป๊ะโรงโป๊ะ
ช่วงท้ายของการแข่งขัน อย่างที่บอกว่า อย่าดูเพียงแค่อันดับ 1 และ 2 อันดับ 4 – 5 – 6 ประเภท “กูตกโพเดียมไม่ได้” นี่แหละซัดกันสุดๆ เพราะ “เสียไม่ได้” แล้ว อย่างหมายเลข 21 ในอันดับ 5 ที่ต้องโชว์ลีลาการป้องกันอย่างสุดความสามารถ จนถึงวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งท้ายที่สุดเสียอันดับไปให้กับหมายเลข 94 ก่อนธงตาหมากรุกโบก เป็นอันรู้เรื่อง…
สำหรับผลสรุป Overall เกิด “พลิกโผ” อย่างแรง เนื่องจากหมายเลข 99 จาก DNA Racing team by voltronic ที่คว้าธงตาหมากรุกไปเป็นคันแรกนั้น เกิดมีปัญหาไม่ผ่านการตรวจสภาพเครื่องยนต์ เลยถูก Disqualify ทุกตำแหน่งทั้ง Round 1 และ 2 น่าเสียดายแทนมากๆ ทำให้อันดับ 1 กลายเป็น หมายเลข 35 อธิพงษ์ ขำทอง จาก V-ARE PRO GARAGE RACING TEAM, อันดับ 2 หมายเลข 16 เกียรติพรรณ ไผ่เจริญ จาก Guo Jeng Motorsport, อันดับ 3 หมายเลข 95 ดนุวัศ วรกิติไชย จาก TUMRUBTHAI Racing Team Thailand, อันดับ 4 หมายเลข 94 อณิวัฏ ล้อมมหาดไทย จาก V-ARE PRO GARAGE RACING TEAM และอันดับ 5 หมายเลข 21 วัฏฏะ อินทร์ณรงค์ จากทีม เป๊ะโรงโป๊ะ…
Thailand Supercar GT3 – Thailand Supercar GTM
ปิดวิก Round 2 Event แรกของฤดูกาล 2020 กัน ในสองรุ่นนี้ ขอขยายความสักหน่อย สำหรับ “รถ” รุ่น GT3 นั้น จะเป็น Supercar ที่เป็น Complete car ตามกฏของ FIA GT3 เท่านั้น จุดสังเกต รถจะ “โป่งบาน หางใหญ่ ล้อกว้าง ยางโต” ส่วน “นักแข่ง” ก็จะกำหนดขับ 2 คน โดยได้รับการแบ่งเกรดตามกฏ FIA สองคน ที่จะต้องมี “มือรอง” และ “มือหนึ่ง” อย่างเช่น…
- Gold : นักแข่งในเกรดสูงสุดนี้ สามารถจับคู่ได้กับนักแข่งเกรด Bronze เท่านั้น ซึ่งนักแข่งเกรด Gold ในการแข่งครั้งนี้มีคนเดียว คือ CVD หรือ Carlo Van Dam…
- Silver : สามารถจับคู่กับ Silver ร่วมกันได้ และ Bronze…
- Bronze : สามารถจับคู่กับนักแข่งเกรดใดก็ได้…
ส่วนในรุ่น GTM จะเป็นรถ Supercar รุ่นรองลงมา อย่างบางทีรถแบรนด์และรุ่นเดียวกัน เช่น FERRARI 488 Challenge ถ้าเทียบกับ 488 GT3 ดูเผินๆ อาจจะไม่ทราบ แต่ถ้าสังเกตกันจริงๆ ตัว Challenge จะเป็นบอดี้ความกว้างแบบรถสแตนดาร์ด จะไม่บานใหญ่เหมือน GT3 ล้อและยางก็จะเล็กกว่า…
แต่อย่าง PORSCHE 911 Carrera อันนี้จะสับสนสำหรับคนไม่เคย ถ้าเป็นรุ่น GTM ก็จะใช้ชื่อว่า GT3 Cup คำว่า GT3 ในที่นี้หมายถึง “รุ่นรถ” ของ PORSCHE 911 แต่ไม่ใช่หมายถึงรุ่นแข่ง GT3 นะครับ แต่ถ้าเป็น 911 ตัวแข่งรุ่น GT3 จริงๆ จำได้ว่าเรียก RSR นะ แต่ให้สังเกตที่ “บอดี้” และ “พาร์ท” นั่นแหละ มันไม่ยากครับ ถ้ามาสนามแล้วเคยเห็นรถทั้งสองรุ่นเทียบกัน จะแตกต่างอย่างชัดเจน…
อีกอย่างหนึ่ง ในรุ่น GTM นี้ จะเป็นรถ Supercar แบบ “สร้างเอง” ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น Complete Car ตามกฏ FIA เหมือน GT3 แต่ Safety ต้องผ่านนะ (รวมถึงรุ่นอื่นๆ ด้วย) ยกตัวอย่าง เช่น LEXUS RC-F ที่ “พี่วัว ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ” ขับ คันนี้ก็สร้างขึ้นในเมืองไทยนี่แหละ…
การ Rolling Start จะแบ่งกลุ่มรถ GT3 วิ่งอยู่ด้านหน้า และห่างออกไปประมาณ 5 วินาที (อันนี้เป็นกำหนดระยะจากเวลา) จะเป็นกลุ่ม GTM วิ่งตามมา เมื่อสัญญาณไฟแดงดับ GT3 จะไปก่อน ส่วน GTM ต้องรอสัญญาณไฟแดงดับอีกครั้ง จึงจะไปได้ อันนี้ลองสังเกตดูครับ จะได้ชมได้สนุกขึ้น ดีกว่านั่งดูรถวิ่งไปวิ่งมาเฉยๆ เพราะมันคือ “เกม” การแข่งขันครับ…
การออกสตาร์ท โดยมีกลุ่มแรกเป็นรุ่น Thailand Supercar GT3 ภายใต้การนำของรุ่น ของรถหมายเลข 18 Bentley Continental GT3 จาก AAS Motorsport ประกบด้วยกริดที่ 2 รถหมายเลข 34 Ferrari 488 GT3 จาก Singha Motorsport Team Thailand กริดที่ 3 เป็น Audi R8 EVO หมายเลข 1 จากสังกัด B-Quik / Absolute กริดที่ 4 เป็น Ferrrari 488 GT3 หมายเลข 89 จาก Singha Motorsport Team Thailand และกริดที่ 5 คือ Mercedes-AMG GT3 หมายเลข 7 จาก YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco
สำหรับกลุ่มแถวหลังรุ่น Thailand Supercar GTM ตำแหน่งผู้นำในรุ่น คือ Lexus RC-F GTM หมายเลข 39 จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand ตามด้วยอันดับ 2 กับ Lexus RCF GTM หมายเลข 38 จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand เช่นกัน กริดที่ 3 มากับ Porsche 991.2 GT3 Cup หมายเลข 15 โดย Mongkol Motorsports, กริดที่ 4 กับหมายเลข 45 Ferrari 488 Challenge จาก Singha Motorsport Team Thailand ปิดท้ายด้วยกริดที่ 5 กับ Porsche 991.2 GT3 Cup หมายเลข 33 จาก Alpha Factory Racing Team by Pulzar
60 นาทีของเกมส์เดือดรุ่น Thailand Supercar GT3 และรุ่น Thailand Supercar GTM เริ่มนับถอยหลังทันทีหลังจาก Rolling Start ด้วยการนำขบวนของ หมายเลข 18 จาก AAS Motorsport ขณะที่อันดับ 2 ซึ่งตามกดดันมาติดๆ คือ หมายเลข 89 จาก Singha Motorsport Team Thailand รวมถึงอันดับ 3 กับหมายเลข 34 จาก Singha Motorsport Team Thailand เช่นกัน 10 นาทีแรกของการแข่งขัน เริ่มเสิร์ฟความดุเดือด ตั้งแต่รุ่น GT3 กับการแย่งชิงอันดับ ที่ประกอบด้วย หมายเลข 1 จาก B-Quik / Absolute ในอันดับ 4, หมายเลข 28 จาก Vattana PSC Motorsport ครม. ในอันดับ 5 และหมายเลข 7 จาก YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco ในอันดับ 6 ที่ผลัดกันขยับอันดับเมื่อมีโอกาส ก่อนที่ หมายเลข 1 จากสังกัด B-Quik จะได้โอกาสทำระยะทิ้งห่างออกมาครองอันดับ 4 อย่างชัดเจน ขณะที่หมายเลข 28 และหมายเลข 7 ยังคงเปิดศึกกันอยู่
ส่วนด้านหลังกลุ่มของรุ่น Thailand Supercar GTM ที่ปล่อยตัวตามมาติดๆ ก็ยังคงมีหัวแถวเป็นพื้นที่ของ Toyota Gazoo Racing – Team Thailand นำโดยหมายเลข 39 อันดับ 1 ตามด้วยหมายเลข 38 อันดับ 2 พร้อมด้วยหมายเลข 15 จาก Mongkol Motorsports ที่เดินคันเร่งมาติดๆ ในอันดับ 3 เพื่อหาจังหวะ ซึ่งหลายครั้งเกือบสำเร็จ เช่นเดียวกับความพยายามของหมายเลข 7 จาก YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco ในรุ่น GT3 ขณะที่กลุ่มหัวก็ยังคงรักษาอันดับกันอย่างเหนียวแน่น…
จนกว่าจะถึงจุดเปลี่ยนเกมส์กับช่วงเวลา Pit Window Open ที่จะต้อง “เปลี่ยนตัวนักแข่ง” โดยทุกทีมจะมีเวลาประมาณ 10 นาที เปลี่ยนยาง เซอร์วิสรถ ให้จบในเวลาที่กำหนด ตรงนี้ก็จะมีเรื่อง Handicap หรือ “แต้มต่อ” รถเร็ว นักแข่งเกรดสูง ก็จะมีการ “ทดเวลาเพิ่ม” หรือ “ถ่วงน้ำหนัก” แล้วแต่สถานการณ์ อันนี้มันละเอียดมากๆ ตามกฏ B.O.P. หรือ Balance of Performance อันนี้ให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Facebook ของ Thailand Super Series ที่แนบลิงค์ไว้ท้ายเรื่องครับ อาจจะเข้าใจยากสักหน่อยในช่วงแรก แต่พอเข้าใจแล้วจะยิ่งทำให้ดูการแข่งขันสนุกมากขึ้นจริงๆ เหมือนเราสามารถวิเคราะห์เกมเล่นๆ ในใจได้…
เกมส์เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจาก Pit Window Close (ช่วงปิดนี้ถ้ารถแข่งคันไหนเข้า Pit ไม่ทัน จะถูก Disqualify ทันที) พร้อมกับตำแหน่งผู้นำที่กลายมาเป็น หมายเลข 89 จาก Singha Motorsport Team Thailand ตามด้วยอันดับ 2 กับหมายเลข 28 จาก Vattana PSC Motorsport ครม. โดยมีหมายเลข 18 จาก AAS Motorsport หล่นลงมาเป็นอันดับ 3 ซึ่งบดคันเร่งตามไล่แซงหมายเลข 28 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้ในที่สุด แต่โชคไม่เข้าข้าง เพราะทั้งหมายเลข 89 และหมายเลข 18 โดนโทษ Stop & Go เข้าไป เลยทำให้อันดับเปลี่ยนอีกครั้ง กลายเป็น หมายเลข 34 ขึ้นนำ โดยมีหมายเลข 1 จาก B-Quik / Absolute ตามอยู่ในอันดับ 2 ส่วนหมายเลข 18 และหมายเลข 89 ที่อยู่ในอันดับ 3 และ 4 ออกจาก Pit ก็ขยี้ต่อ จนกระทั่งไล่ขึ้นมาติด หมายเลข 1 จาก B-Quik / Absolute ในอันดับ 2 กับช่วงเวลานาทีสุดท้ายของการแข่งขัน…
ขณะที่ฝั่ง GTM ก็มีเรื่องให้ลุ้นต่อกันถึงโค้งสุดท้ายเช่นกัน ผู้นำยังคงเป็น หมายเลข 39 จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand โดยมีอันดับ 2 เป็นหมายเลข 45 จาก Singha Motorsport Team Thailand และหมายเลข 38 จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand ที่กำลังไล่อยู่ในอันดับ 3 ที่หวดจนมาถึงโค้งสุดท้าย และเฉือนแซงหมายเลข 45 ขึ้นมาปิดเกมส์ที่อันดับ 2 ไปได้อย่างสะใจ…
สรุปผล Overall รุ่น Thailand Supercar GTM อันดับ 1 รถหมายเลข 39 จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand โดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, อันดับ 2 รถหมายเลข 38 จาก Toyota Gazoo Racing – Team Thailand โดย อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ และ ณัฐพงศ์ ห่อทองคำ อีกครั้ง อันดับ 3 เป็นหมายเลข 45 จาก Singha Motorsport Team Thailand โดย กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา และติณห์ ศรีตรัย, อันดับ 4 เป็นหมายเลข 11 จาก AFRacing โดย แจ็ค เลมวาร์ด และ เกรกเกอรี่ เบนเน็ท ส่วนอันดับ 5 เป็นหมายเลข 15 โดย Mongkol Motorsports โดย มั่นคง และ ธนาตย์ เสถียรถิระกุล
ส่วนรุ่นใหญ่สุด Thailand Supercar GT3 ดุเดือดตลอดจนการแข่งขัน พร้อมกับจบลงด้วยชัยชนะของ รถหมายเลข 34 จาก Singha Motorsport Team Thailand โดย ปิติ ภิรมย์ภักดี และกันตศักดิ์ กุศิริ กับอันดับ 2 จากหมายเลข 1 จาก B-Quik / Absolute โดย แดเนียล บิลส์กี้ และแซนดี้ สตูวิค ส่วนอันดับ 3 เป็นหมายเลข 18 Bentley จาก AAS Motorsport โดย วุฒิกร อินทรภูศักดิ์ และ กันตธีร์ กุศิริ ขณะที่อันดับ 4 คือ หมายเลข 89 จาก Singha Motorsport Team Thailand โดย วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี และ คาร์โล แวน แดม ปิดท้ายด้วยอันดับ 5 กับหมายเลข 7 แห่ง YK Motorsports Billionaire Boy By Sunoco ของ อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ และภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ ที่ใจมาเพราะได้ยืนโพเดียมกับ AMG GT3 ตัวแข่งสุดยอดคันใหม่ของเขา…
บทสรุป สถานการณ์การแข่งขันอันดุเดือดทุกรุ่น หลายคนก็คิดว่า “มันน่าจะเดือดกว่านี้ได้อีก” ก็จริงครับ แต่ว่าใน Event นี้ เลื่อนมาเพราะ COVID ระบาด จนมาใกล้กับ Event ต่อไป ห่างกันเพียง 1 สัปดาห์ เท่านั้น ทำให้ทุกคนต้อง Play safe กันหน่อย เพราะเวลาในการ Service น้อยมากๆ ต้องติดตามชมกันต่อ อย่าพลาดเชียว…
ข้อมูลภาพเพิ่มเติม