ลาก่อน…นะเธอ
แฟน JAZZ อาลัย
แฟนใหม่ CITY Hatchback & E : HEV มาแล้ววว
เรื่อง : อินทรภูมิ์แสงดี
ภาพ : HONDA AUTOMOBILE Thailand
แฟนๆ ที่รอคอย JAZZ เข้ามาในเมืองไทยอย่างใจจดใจจ่อนั้น เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า “อกหัก” แน่ๆ จะด้วยเหตุผลกลใดก็ช่างเถิด แต่ “ฮอนด้าไทย” ตอกฝาโลงแล้วว่า “ไม่มาแน่” ก็ไม่ต้องร้องไห้ไป เขาก็รู้ดีอยู่แล้วว่ามีแฟนๆ รอรถสไตล์ “ตูดตัด” หรือ Hatch back มีเยอะแค่ไหน เพราะตอนนี้เทรนด์ “รถอเนกประสงค์” กำลังมา จึงไม่พลาดที่จะสนองความอยาก โดยการเปิดตัว CITY Hatch back แบบ 5 ประตู ออกมาแทน อาจจะไม่น่ารักเท่า JAZZ หรือ FIT “ฟิตโตะ” แต่ก็มีสไตล์โดดเด่นอยู่เหมือนกัน ที่หลายๆ คนบอกว่ามันหรูหราเหมือนค่าย “สี่ห่วง” จากเมืองเบียร์ แต่มาสะเวิ้บกับปลาดิบแบบเนียนๆ และอีกตัว คือ CITY E : HEV ที่ใช้ขุมพลังแบบ SPORT HYBRID ที่เน้นทั้งความประหยัดและสมรรถนะที่ร้อนแรง อดใจไม่ไหวแล้วใช่มั้ย…
อนึ่ง…เราจะขอรีวิวแบบสั้นๆ กระชับ ตามความเข้าใจในอารมณ์ของ “สายซิ่ง” เรื่องสเป็กนู่นนี่นั่นต่างๆ มากมาย เปิดเว็บไซต์ของ HONDA ดูก็แล้วกัน จะได้ไม่เปลืองกระดาษมากไป…
The Energetic Hatchback
ก่อนหน้านั้นก็มีข่าวออกมาล่วงหน้าถึงตัวนี้แหละ หลังจากที่ New CITY Gen.5 ออกมาจำหน่ายได้พักหนึ่ง ว่าจะมีตัว “ห้าตู” ออกมา ข่าวก็คือข่าว ตอนนั้นก็กำลัง “ปั้นตูด” กันอยู่ ตอนแรกก็คิดว่ามันจะออกมาท่าไหน เพราะเป็นการพัฒนาต่อมาจากตัวซีดาน แต่พอออกมาแล้วก็โฉบเฉี่ยวเยี่ยวราดดี แต่อาจจะดูคล้ายตัวซีดานไปหน่อย ถ้าดูเผินๆ ยังไม่ค่อยเด่น คงต้อง “ทรงเครื่อง” เช่น สปอยเลอร์หลังคา เติมสเกิร์ตล่างหน่อยก็คงน่าดูขึ้นอีกเยอะ อารมณ์เหมือน CIVIC FK ซึ่งดูแล้วก็น่าจะไปได้ อย่างน้อยสาย H ก็ไม่พลาดจะทรงเครื่องเต็มๆ อยู่แล้ว ถ้าใครอยากจะ “จบจากโรงงาน” ก็จะมีชุดแต่ง Modulo ที่ดูผ่านๆ อาจจะไม่สะใจนัก แต่ดูได้นานๆ พอดีๆ ไม่มีผลกระทบกับการใช้งาน พอจะรอดสายตา “พี่จ่า” ได้ มี 2 ตัวเลือก…
- Modulo Aero Package ราคา 16,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
- Modulo Aero Sport Package ราคา 21,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง
ขุมพลัง 1 ลิตร VTEC TURBO สุดจี๊ดเช่นเคย
แนวความคิดแบบ Downsizing Engine หรือ “การลดขนาดของเครื่องยนต์” ยังคงใช้ได้เสมอ เนื่องจากต้องการประหยัดอะไรหลายๆ อย่าง เช่น ต้นทุน น้ำหนัก เนื้อที่ ซึ่งมันก็จะเป็นผลดี เป็นการลดภาระให้กับรถยนต์และ “เจ้าของ” ให้กำลังสูงสุดถึง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที เรียกว่าสร้างอัตราเร่งจี๊ดจ๊าดได้ดีเชียว แต่มีเฉพาะ “เกียร์อัตโนมัติ CVT” นะครับ เสียดายแทนวัยรุ่นที่ไม่มี “เกียร์มือ คลัตช์ Teen” ให้โยกเล่น สำหรับเทคโนโลยีพอสังเขปมีประมาณนี้…
- ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (Direct Injection) : เป็นระบบฉีดตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ด้วยปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง ส่งผลให้ได้พลังงานที่เกิดจากการเผาไหม้ที่รุนแรง และมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียพลังงาน…
- Dual VTC : ในข่าวบอกว่า “ลดหรือเพิ่มองศาแคมชาฟต์” จริงๆ แล้วระบบนี้ มันปรับ “จังหวะโอเวอร์แลป” มากกว่า เพราะการเปลี่ยนองศาแคมชาฟต์ต้องเป็นหน้าที่ของระบบ VTEC แต่ก็ยังดีที่ให้มา เพราะต้องการความหลากหลายในการกำหนดให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองที่ดีในทุกย่านการขับขี่ โคตรสำคัญเพราะเป็นเรื่อง “จุดบอด” ของเครื่องเล็กที่ปกติมันทำไม่ได้…
- VTEC เป็นการแปรผันระยะยกของวาล์วไอดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประจุไอดีจำนวนมากเข้าสู่ห้องเผาไหม้: ชัดเจนนะครับ ว่าเป็นเฉพาะฝั่งไอดี อันนี้เป็นเครื่องเทอร์โบจึงไม่ได้เน้นรอบจัดเหมือน N.A. ที่ต้องใช้รอบมาเรียกกำลังอย่างเดียว…
- อินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ (Water-Cooled Type Intercooler) : ก็ดีในลักษณะที่สามารถ “ควบคุมอุณหภูมิได้เสถียร” เพราะรถยุคใหม่มีการระบายความร้อนที่ “คงที่” ไม่ได้บอกว่าจะตะบี้ตะบันทำให้เย็นแล้วมันจะดี แต่อันนี้มันเหมาะกับรถใช้งานทั่วไป ถ้าโมดิฟายมากๆ ก็ต้อง “หาเรื่อง” ใส่อินเตอร์ “อากาศ” ที่ใหญ่ขึ้น แต่ก็จะเสียในช่วงรถจอดหรือช่วงวิ่งช้าที่ไม่มีลมระบาย แต่จะได้ดีที่ความเร็วสูง…
สีและรุ่น
ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบ็กใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS
สีใหม่ สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) พร้อมด้วยสีขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะรุ่น RS และ SV
สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น S+
ราคา
- รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
- รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
- รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/cityhatchback
สายประหยัดแรงมีเฮกับ E : HEV
ตัวซีดานก็ไม่หยุดอยู่นิ่ง เป็นการยกเทคโนโลยีมาจากรุ่นพี่ ACCORD สุดหรู มาลงใน “ซิตี้คาร์” เป็นครั้งแรก กับระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ที่ใช้พลังประสานกันระหว่าง มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบใหม่ และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาทีเรียกว่า “ออกกระเด้ง” ได้เลยนะกับรถเล็กๆ แบบนี้
เรื่องอัตราการประหยัดน้ำมัน ทาง HONDA ฝอยไว้ว่าดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร สามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้แน่ๆ…
จะซื้อต้องจ่ายเท่าไร
ไม่ต้องคิดมาก เพราะมีรุ่นเดียว คือ…
รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/cityehev
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง
เสริมความพรีเมียมด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วบันไดสเตนเลส LED ราคา 4,400 บาท รวมทั้งอุปกรณ์เพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอยในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เช่น กระบะใส่ของท้ายรถ ราคา 1,250 บาท
นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่
- Modulo Aero RS Package ราคา 17,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ
สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
หมายเหตุ:
- อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
- สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
- ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโลไม่รวม VAT 7%
- ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-city-hev