ตำนานหมวกกันน็อค “BELL” เริ่มต้นจากที่ใด ?

 

Story by Jedsadapong Prabhong

BELL ก่อตั้งขึ้นในปี 1954 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย CA โดยรอย ริกเตอร์ (Roy Richter) เค้าหลงใหลในการแข่งรถ ซึ่ง รอยได้คำนึ่งถึงความปลอดภัยในสนามแข่งรถมาตลอด และเค้าได้ออกแบบหมวกกันน็อกในชื่อ BELL รอยเริ่มต้นสร้าง Shop ขนาดเล็กครั้งแรกที่แคลิฟอร์เนีย และในปีต่อไป BELL ย้ายไปยังสถานที่ที่ใหญ่กว่าเดิม พร้อมทั้งเปิดรับพนักงานมากขึ้น

BELL ผลิตหมวกกันน็อกสำหรับการแข่งรถ ได้ขึ้นเป็นสินค้าชั้นนำของตลาดหมวกกันน็อกในปี 1957 ในปีเดียวกันนั้น BELL ก็เริ่มที่จะผลิตหมวกกันน็อกให้กับหน่วยงานภาครัฐที่บังคับใช้หมวกกันน็อกตามกฎหมาย

และหมวกกันน็อกแบบเปิดหน้าใบแรกที่ทำออกจำหน่าย ก็คือรุ่น BELL 500

ในเวลาไม่นาน ผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงความจำเป็นเรื่องความปลอดภัย ทั้งในส่วนมอเตอร์สปอร์ต และการใช้งานตามกฏหมาย ในปี 1964 BELL เพิ่มกำลังการผลิตและย้ายไปสถานที่ใหม่ในลองบีชแคลิฟอร์เนีย หลังจากธุรกิจเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในปี 1968 BELL ได้ผลิตหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ (Full-Face) ขึ้นเป็นครั้งแรกในชื่อรุ่น “Bell Star” สวมใส่ในการแข่งขันโดย Dan Gurney (แดน เกอร์นีย์) ในการแข่งขัน 500 Miles of Indianapolis ซี่งหลายๆ นวัตกรรมของหมวกกันน็อกเต็มใบ Full-Face เช่น expanded polystyrene liners (EPS) ได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ก่อให้เกิดการปฏิวัติวงการหมวกกันน็อก ครั้งใหญ่

จากนั้น BELL ก็ปล่อยรุ่น 500 TX มาในปี 1971 ความหลากหลายในตลาดหมวกกันน็อกก็ได้กระจายไปในการแข่งขันประเภท Off-Road ในช่วงสิบปีต่อจากนั้น BELL ยังคงพัฒนาทั้งในด้านยานยนต์และรถจักรยานยนต์ ในปี 1975 BELL ได้ผลิตหมวกกันน็อค Hard Shell เป็นครั้งแรกของโลก และผลิตหมวกกันน็อกสำหรับกีฬากระโดดร่ม และอื่น ๆ อีกหลายๆ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงกับศีรษะ

ในช่วงปี 70 “Bell” จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้ง ในปี 1976 จึงย้ายฐานการผลิตไปอยู่ที่ Norwalk, California ด้วยพื้นที่ 180,000 ตารางฟุต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และที่นี่ก็กลายโรงงานหมวกกันน็อกที่ใหญ่ที่สุดของโลก ผลิตตามสั่งแบบวันต่อวัน พร้อมห้องแล็บปฏิบัติการที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น จากนั้นในปี 1985 BELL ก็ขยายธุรกิจในชื่อ BELL RACESTAR (ชุดแข่ง และอุปกรณ์ความปลอดสำหรับนักแข่ง) Vetter Product (fairings, หมวก, ชุดหนัง), Marsee Products (อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับรถจักรยานยนต์) และ Bagman (กระเป๋าสำหรับรถจักรยานยนต์) จากนั้นก็ขยายฐานการผลิตไปที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อทำตลาดในแถบยุโรป

 

ขณะนี้ BELL มีการผลิตหมวกกันน็อกอย่างต่อเนื่องหลายรุ่น และมีผู้แทนจำหน่ายทั่วโลก

สุดท้ายนี้ BELL HELMET ยังคงมีการวิจัยและมีการพัฒนาที่ดีที่สุดให้กับ นักแข่งรถมืออาชีพชั้นนำของโลก และ ผู้บริโภคอย่างพวกเรา และมนต์เสน่ห์รูปทรงที่ดึงดูด พวกเรา มาตั้งแต่ยุค 1957-60’จนถึงปัจจุบัน รึใครจะเถี่ยงว่า ไม่มีใครเก็บ สะสมดูจาก เพจ Vintage Helmet Thailand บ้านเราสิครับมีแต่ของสวยๆ งามหมวกเก่าๆ เกือบทุกรุ่น ทั้งหายากและที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงมั่นใจได้ว่า BELL ยังคงเป็นผู้นำระดับโลกอีกยี่ห้อของวงการ “Helmet”

(note Vintage Helmet Thailand)