เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
หลังจากที่เราได้ “ออกัสซั่ม” กับ CIVIC TYPE R ในโฉม “U.K. Spec” สะใจกับพลกำลัง “สามร้อยม้า” กับ “ติดหอย” กันไปแล้ว ซึ่งตัวผมเองก็เลย “เฝ็น” อย่างละเอียดไปบนเว็บนี้แล้วเหมือนกัน ตานี้ มี “หอกข้างแคร่” ลำใหม่โผล่มา เป็น CIVIC Type R ในโฉม “U.S. Spec” ซึ่งเป็นตัว “Prototype” หรือ “ต้นแบบ” ที่ไม่ใช่ Concept Car เพราะมันเป็นตัวที่ออกขายจริงแน่นอนไม่น่าพ้น “ต้นปีหน้า” เอาเถอะ จะออกเมื่อไรก็รู้เองแหละ ผมก็โคตรขี้เกียจเถียงกับ “สายเซียน” ทั้งหลาย ใครอยากได้จริงๆ ไม่ต้องพูดมาก “เตรียมตังค์” ไว้ซื้อเหอะ เนอะ เพราะคนพูดมากไม่ซื้อ คนซื้อไม่พูดมาก ใช่ไหม ???
ก่อนหน้านี้ “ไอ้จุ๊น” แอดมินสายออนไลน์ของเราก็ได้ “เปิดหัว” แนะนำกันไปแล้ว ซึ่งสเป็กอะไรต่างๆ ก็คงพอรู้ประมาณหนึ่ง ผมว่าในเว็บมันก็มีเยอะแยะ ต่างคนต่างทรรศนะ คงไม่พูดถึงซ้ำอีก เพราะคราวนี้ ผมจะพูดถึง “ในทรรศนะของข้าพเจ้าและเพื่อนพ้อง” ซึ่งก็ได้คุยกับ “อ๊อฟ” แห่ง J’s Racing Thailand ถึง Type R U.S. Spec ตัวนี้ ว่า “ในมุมมองส่วนตัว” ทั้งผมที่เป็น “สายเล่า” กับ อ๊อฟ ที่เป็น “สายตรง” ค่าย H คุยเล่นๆ แต่เสือกเป็นเรื่อง (ราว) ให้มา “แสดงความคิดเห็น” กัน ณ ตรงนี้…
สำหรับ CIVIC Type R U.S. Spec ก็จะอาศัยพื้นฐานเดียวกับตัว FC บ้านเรา แต่เป็น Hatchback ที่หลายเสียงบอกว่า “เข้าตากรรมการ” อย่างแรง แต่ก็อย่าเอาไปบนกับ U.K. Spec เพราะมัน “คนละตัว คนละเรื่อง” กัน ที่พูดว่าทำไมถึงจะมาเป็นหอกข้างแคร่กับตัว U.K. Spec ???
- ประการแรก คือ “เคลมว่าแรงม้าเยอะกว่า” ตัว S. เคลมไว้ว่าน่าจะไปถึง “340 Hp” เชียวนะ ซึ่งก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะเครื่องมัน “ถึง” สบายอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ต้องรอข่าวจริงกันอีกทีว่าจะเท่าไรกันแน่ แต่ยังไงก็จะออกมา “ทีหลัง” ก็ต้องทำให้เหนือกว่า ตามหลักการตลาดเล่มที่ 1…
- ประการที่สอง “ระบบช่วงล่างหลังเป็นแบบอิสระเต็มรูปแบบ” ซึ่งตรงนี้ ถ้าทั้งสองสเป็กขับในรูปแบบสแตนดาร์ดเหมือนกัน ในทางเรียบแบบ Hi-Way หรือ “สายเลี้ยว” On Track ในด้าน Handling ก็ไม่น่าจะต่างกันมาก และไม่ได้บอกว่าช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam กึ่งอิสระนั้นไม่ดี มันขึ้นอยู่กับ “หลายองค์ประกอบ” ที่เคยบอกไปบ่อยๆ ว่า “รูปแบบช่วงล่างไม่ใช่ข้อบ่งชี้เสมอไป” แต่ช่วงล่างอิสระเต็มรูปแบบ ของ S. Spec ข้อได้เปรียบของมัน คือ ถ้านำไป “Tuning” จะได้เปรียบตรงที่ “สามารถปรับมุมล้อหลังได้อย่างหลากหลาย” แล้วแต่จะเอาฟิลลิ่งแบบไหน ส่วน Torsion Beam มันจะเป็นมุมตายตัว ซึ่งทางโรงงานก็ทำแคมเบอร์ล้อหลังลบมาอยู่นิดๆ แต่ถ้าจะปรับเพิ่มก็คงทำได้ยากกว่า และทำได้ไม่มากเหมือนแบบอิสระ…
- ประการที่สาม S. Spec จะมีการผลิตสำหรับสเป็ก “ญี่ปุ่น” หรือ JDM แบบส่งขายเป็นจริงเป็นจัง เป็น Mass Product ซึ่งตัว U.K. Spec ตัวถัง FK2 นี้ จะเน้นตลาดในยุโรป ผลิตเป็น JDM แต่เป็นในรูปแบบ “Limited Edition” จึงมีรถไม่มากนัก ทำให้ความแพร่หลายน้อย เพราะบ้านเราก็จะอิงกับ JDM อยู่แล้วตามสูตร แต่ถ้าเป็น Mass Product ก็จะมีคนเล่นกันมากขึ้น อันนี้ทางการตลาดเขาจะบุกตีโซนเอเชียแน่นอนอยู่แล้ว…
- ราคายังไม่รู้ว่ะ…
- แต่พอออกมาก็ต้องคำนึงถึงการโมดิฟายกันหน่อย เพราะยิ่งรถที่มีระบบ “โคตรพ่องโคตรแม่มฉลาด” การโมดิฟายก็จะยิ่งทำได้ยาก ทำน่ะทำได้ ถ้าเป็นรถแข่งเต็มระบบ แต่ถ้า “รถบ้านใจกล้า” ก็ต้องทำใจว่า “ทำยากกว่ารุ่นก่อนแน่นอน” ก็ต้องรอสำนักแต่งชั้นนำทำโปรแกรม Reflash ออกมานั่นแหละ แต่จะได้แค่ไหนนั้นรอรถออกมาก่อนเถอะ เมื่อไรที่รถเข้า “ไทย” คงได้ลุ้นกันว่า “ใครจะทำสำเร็จ” นะฮะ…
บทสรุป
HONDA CIVIC Type R ในเวอร์ชันของ U.S. Spec ที่ออกแบบมาได้สวยสะใจ แม้ว่าจะเป็นรุ่น RS ธรรมดาๆ ก็นับว่าเรียกกระแส “อารมณ์ปรารถนา” ของสาย “ตูดสั้น” ที่ฝังรากลึกมาจาก “EG 3 Doors” กันมาแต่เนิ่นนาน ซึ่งมีความใกล้เคียงกับ FC ที่ดูแล้วโฉบเฉี่ยวแบบ “รุ่นใหญ่” ส่วน FK2 ก็จะออกแนวโฉบเฉี่ยวสไตล์ “Hot Hatch ยุโรป” (เหมือนไม่เหมือนก็ดูให้เป็นยุโรปหน่อยแล้วกัน) ตานี้ ก็อยู่ที่ “ความชอบ” ของแต่ละประเทศกันแล้ว แต่ยังไงคนไทยก็ยังเห็น “พระอาทิตย์” อยู่ตรงหน้าเสมอ บทสรุปก็ไม่มีอะไรมาก “รอ” ตัวจริง ถ้ามาจริงสาย H ได้มีอะไรมันส์ๆ ดูกันแน่ และติดตามข่าวคราวกันได้ จาก XO AUTOSPORT จ้า…
รูปภาพบางส่วน : HONDA USA, www.google.com