Compact Car ยัดโบ !! 3 รุ่น 3 ยี่ห้อ คันไหนเจ๋ง คันไหนเด็ด เดี๋ยวรู้เลย

 

กลับมาอีกครั้งแล้วครับกับการทดสอบแบบ Group Test หลังจากที่ครั้งที่แล้วเรานำเอารถ SUV มาเทียบกันให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละรุ่นกันไปแล้ว ครั้งนี้กลับมาอีกครั้งกับรถยนต์ที่เรียกได้ว่าอยู่ในกระแสความสนใจ เพราะรถยนต์ซีดานขนาด ซีเซ็กเม้นท์รุ่นใหม่ๆที่ออกมาแต่ละรุ่นใช้เครื่องยนต์เทอร์โบกันซะส่วนมาก แถมขนาดของเครื่องยนต์ก็เท่าๆกันอีกต่างหาก คราวนี้เราจะตัดสินใจอย่างไรดี เพราะแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป  งานนี้ผมว่ามีหลายท่านอยากรู้แน่นอนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเจ้ารถยนต์ประเภทนี้ ว่าคันไหนมันดีมันเจ๋งกว่ากัน

วันนี้ Grandprix online จัดให้เลยจร้ากับีรถยนต์ที่เรียกได้ว่าอยู่ในกระแส และได้รับความสนใจไม่น้อย ครั้งนี้เราจัดมาเทียบกัน 3 รุ่น 3 ยี่ห้อคันแรก ฮอนด้า ซีวิค RS Turbo คันที่สอง ฟอร์ด โฟกัส Ecoboost Turbo และสุดท้าย MG6 โดยการทดสอบของเราในครั้งนี้ เราทดสอบแบบใช้งานจริงทั้งวิ่งรถติดๆในเมือง และออกไปทดสอบการประหยัดน้ำมันกันนอกเมือง เรามาดูกันว่าการทดสอบในครั้งนี้ผลออกมาเป็นอย่างไรคันไหนเหมาะกับการใช้งานแบบไหน บุคคลิกของแต่ละคันเป็นอย่างไรเราจะได้รู้กัน

เริ่มจากภายนอกที่ทั้ง 3 คันก็มีบุคลิกแตกต่างกันออกไป ต่างคันก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง อย่างฮอนด้า ซีวิค RS Turbo ตัวนี้รูปทรงออกสปอร์ตโฉบเฉี่ยว แต่แอบแฝงความหรูหราไฮโซ หลังคาลาดลงดูคล้ายรถคูเป้เส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด สปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าโครเมียมรูปร่างคล้ายปีกที่วางตัวเป็นแนวยาวเต็มกรอบกระจังหน้า เชื่อมต่อกับไฟหน้าสไตล์สปอร์ตพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ทั้งยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED

 

มาถึงเจ้าฟอร์ด โฟกัส Ecoboost Turboที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่แตกต่างจากคันอื่นๆเพราะเป็นรถแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ที่ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ให้มีความทันสมัยและสวยงามอีกขั้น ด้วยกระจังหน้าและกันชนใหม่ พร้อมไฟหน้าแบบฮาโลเจนที่พ่วงไฟ LED Daylight, ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ ทั้งนี้ท้ายรถยังคงออกแบบไฟท้าย LED แบบหัวลูกศรอันโดดเด่นและสปอยเลอร์ท้ายที่ลาดในแนวเดียวกับหลังคา

สุดท้ายกับเจ้า MG6 ที่ภายนอกใหญ่โตหรูหราเชียว โดดเด่นด้วยเส้นสายโค้งมนตามแนวทาง Brit Dynamic ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ปรับระดับสูงต่ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติแถมมี Daylight ไฟท้ายโดดเด่นด้วยหลอดไฟ LED ส่วนไฟตัดหมอกก็มีมาให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีซันรูฟด้วยนะ

สำหรับรูปลักษณ์รูปทรงภายนอกอันนี้ผมว่าขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล ถ้าท่านไหนชอบความหรูหราดูไฮโซ แต่แฝงความสปอร์ตโฉบเฉี่ยววัยรุ่นนิดๆก็ต้องเจ้า ฮอนด้า ซิวิค RS เลย แต่ถ้าท่านไหนต้องการแบบสปอร์ตจ๋าๆวัยรุ่นสุดๆรูปทรงแบบแฮทช์แบ็คคงต้องมอง ฟอร์ด โฟกัส Ecoboost Turbo คันนี้เลย หรือว่าถ้าต้องการแบบหรูหราคันใหญ่มองผ่านๆคิดว่ารถยุโรปมีซันรูฟให้ ราคาคุ้มค่า ก็ต้องมองมาที่เจ้า MG6 คันนี้

ภายนอกกันแล้วเรามาดูภายในของทั้ง 3 คันกันว่าจะเป็นแบบไหนกันบ้างเริ่มจาก ฮอนด้าซีวิค RS  การออกแบบภายในเน้นการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงดูหรูหรา แต่ก็ยังแอบสปอร์ตเล็กโดยใช้โทนสีดำเส้นสายการออกแบบที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและพรีเมียมมากพูดเลย พื้นที่ภายในห้องโดยสารก็กว้างขวางสะดวกสบาย เบาะคู่หน้านุ่มสบายเหมือนนั่งโซฟานุ่มๆเลยทีเดียว ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8ทิศทางนะจ๊ะ มาถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่ให้มาเรียกได้ว่าจัดหนักทีเดียวระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิง พร้อมเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth USB และHDMI ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ระบบความปลอดภัยต่างๆก็ครบครันทั้ง Electric Parking Brake หรือเบรกมือไฟฟ้านั้นเอง Auto Brake Hold ป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็น แถมไฮไลท์ของเจ้าซีวิคคันนี้คือ Honda Lane Watch ที่กระจกมองข้างด้านซ้าย แสดงภาพมุมอับภาพจอตรงกลางขณะเปลี่ยนเลน และEngine Remote Start สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมแอร์ได้ด้วยรีโมท เพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง โดยขณะนั้นประตูรถยังคงล็อกอยู่เช่นเดิม และรถจะไม่สามารถออกตัวได้จนกว่าผู้ขับจะเข้าไปสตาร์ทรถตามปกติเจ๋งมั้ยละ พื้นที่สัมภาระท้ายที่มีความกว้างกว่าเดิม พร้อมกับสามารถพับเบาะหลังแบบเต็มใบเพื่อขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น

ส่วนภายในของเจ้า ฟอร์ด โฟกัส Ecoboost เทอร์โบ ห้องโดยสารมีความเท่ห์ เร้าใจ สปอร์ตจ๋าๆเลยครับท่าน เบาะนั่งสีดำสไตล์สปอร์ตนั่งกระชับตัวแต่ถ้าหากคนตัวใหญ่ๆอาจจะรู้สึกว่านั่งไม่สบาย ด้านคนขับปรับไฟฟ้าเช่นกัน การออกแบบคอลโซลใช้วัสดุค่อนขางดี แต่ผมว่าการดีไซน์มันออกจะเชยๆไปซะหน่อย แต่เจ้าคันนี้ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ ที่สั่งการได้ง่ายและดียิ่งขึ้น พร้อมระบบสั่งการผ่านเสียง Sync 3 ใหม่ล่าสุด ที่ประเดิมใช้งานในรถรุ่นนี้จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่นจำกัดความเร็ว Speed Limit เป็นต้น ด้วยความที่เป็นรถแฮทช์แบ็ค จึงทำให้ความกว้างขวางภายในรถดูจะเสียเปรียบรุ่นอื่นๆ และพื้นที่สัมภาระท้ายก็เล็กกว่า แต่สามารถพับเบาะหลังแบบ 40:60 เพื่อขยายพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายได้ และทีเด็ดอีกรายการนั่นคือ ระบบต่างๆที่อัดมาให้แบบเต็มเหนี่ยวไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยจอดอิจฉริยะ ทั้งเข้าซอง ออกจากซอง หรือเทียบข้าง กดปุ่มเดียวเข้าจอดสบายหายห่วง ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำรถติดๆนั่งเพลินหมดปัญหารถไหลไปชนคันหน้า แถมยังมี Mykey ระบบที่ช่วยกำหนดค่าการใช้งานของรถ เช่นระดับความเร็วสูงสุด หรือกำหนดระดับเสียงสูงสุดจากวิทยุ เพื่อป้องกันการใช้งานเกินความจำเป็นของนักขับวัยรุ่นในครอบครัว พ่อแม่ชอบครับระบบนี้

มาถึงเจ้า MG6 วัสดุภายในที่ใช้เรียกว่าถ้าเทียบกับ MG ในรุ่นก่อนหน้าถือว่าดูดีขึ้นเยอะจนผิดหูผิดตา แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่งดูจะสู้ไม่ได้ทั้งเรื่องดีไซน์ และวัสดุที่เลือกใช้ ภายในมาพร้อมเบาะหนังสีดำตะเข็บแดงเพิ่มความสปอร์ต สะดวกสบายด้วยการปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะหลังพับได้ 60:40 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อม Paddle shift และปุ่ม Push Start ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกโซน ช่องแอร์ผู้โดยสารหลัง กระจกมองหลังแบบตัดแสงได้ มีตู้เย็นด้วยนะ แถมมีม่านหลังให้ด้วยนะ ส่วนเครื่องเสียงให้ลำโพงมาถึง 6 ตำแหน่ง รองรับ USB และ AUX มีระบบ Electric Parking Brake ด้วย แถมมีซันรูฟให้อีก ออฟชั่นต่างๆของเจ้าคันนี้ให้มาค่อนข้างเยอะทีเดียวครับ แต่เรื่องวัสดุกับการดีไซน์ยังสู่ 2 รุ่นคู่แข่งไม่ได้

แหมมเรื่องภายในนี้ต้องบอกเลยว่า 3 รุ่น 3 สไตล์จริงๆครับ เจ้าซีวิคเค้าจะเน้นไปที่ความสะดวกสบาย ดีไซน์ นี่กินขาด วัสดุที่ใช้ค่อนข้างดี ระบบต่างที่ให้มาก็ถือว่าให้มาเยอะพอควร เหมาะมากกับท่านที่ชอบใช้ชีวิตแบบชิลล์ สบายๆ อยากจะหรูหรา แต่ก็อยากเท่ห์ออกแนวสปอร์ตด้วย ซีวิค ตอบโจทย์ที่เดียว แต่ถ้าใครชอบแบบซิ่ง วัยรุ่น สปอร์ตจัดๆ แถมระบบต่างๆที่ให้มาต้องร้องโอ้โหที่เดียวให้มาเพียบอย่างกับรถยุโรปราคาหลายล้าน ต้องมองมาที่ ฟอร์ดโฟกัส เลย หรือว่าถ้าอยากได้แค่รถที่มีขนาดใหญ่ ภายในพอใช้ได้ ออฟชั่นและอุปกรณ์ต่างๆก็ให้มาไปแพ้ใคร แถมราคาสมเหตุสมผล ผมว่า MG6 ก็คุ้มทีเดียวครับ

เรารู้ข้อมูลทั้งภายในภายนอกของแต่ละคันกันไปแล้ว ตอนนี้เรามาขับทดสอบสมรรถนะของเจ้า 3 คันนี้กันดีกว่าว่าแต่ละคันมันขับสนุก ขับดี ขับประหยัดขนาดไหน คันแรกที่ผมจับคือเจ้า ฮอนด้าซีวิค RS Turbo ที่มีเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร  DOHC VTEC TURBO ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยี เอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700–5,500 รอบต่อนาที สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 การวิ่งในเมืองไม่มีปัญหาเลยครับท่านอัตราเร่งตอบสนองได้ทันใจดีครับเพียงพอต่อการใช้งาน นี่ขนาดผมเปิด Econ โหมดเพื่อความประหยัดในการใช้งานในเมืองนะ ซอกแซกไปตามช่องว่งาของถนนได้อย่างล่องตัว ออกนอกเมืองปิด Econ ซะลองกดคันเร่งกันหน่อย อัตราเร่งมาดีกว่าขับสนุกกว่าตอนเปิด Econ โหมด ช่วงต้นมาดีใช้ได้ที่เดียวครับ กลางและปลายก็ไหลหลื่น ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์ทำงานผสานกับเกียร์ CVT ได้อย่างลื่นไหล ขับสนุกพอใช้ได้ครับ และจากการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองแบบใช้งานจริงเฉลี่ย 17.675  กม./ลิตร ขับสนุกเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร

กระโดดลงมาลองอีกอีกกับเจ้า Ford Focus Ecoboost Turbo คันนี้แค่รูปทรงภายนอกก็เร้าใจแล้ว ลองมาดูเครื่องยนต์กันบ้าง เครื่องยนต์อีโค่บูสท์ เทอร์โบ แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ที่สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เครื่องยนต์อีโค่บูสท์ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-5,000 รอบ/นาที มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติทอร์ค คอนเวอร์เตอร์แบบ 6 สปีด ใหม่ อัตราเร่งต้องบอกเลยว่าขับสนุกสุดๆครับ คล่องตัวสุดเมื่อขับในเมือง อัตราเร่งนอกเมืองก็จื๊ดจ๊าดโดนใจจริงๆครับ กดเป็นมา ขับสนุกกว่าคู่แข่งทั้ง 2 คันอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเกียร์ของเจ้า ฟอร์ดคันนี้ที่ไม่ได้ใช้ CVT เหมือนคู่แข่ง การเร่งแซงไม่มีปัญหาแรงเหลือเฟือครับท่าน มีPaddle Shift ช่วยให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น อ่อลืมบอกคันนี้ไม่ใช้เบรกมือไฟฟ้านะจ๊ะวัยรุ่นชอบแน่นอน อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็ไม่ขี้เหร่นะจ๊ะ 14.737  กม./ลิตร

มาถึงคันสุดท้ายกับเจ้า MG6 ซึ่งเครื่องยนต์พิกัดใหญ่กว่าเพื่อนคือ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร TCI-TECH 161 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ทำงานผสานกับเกียร์ DCT 6 สปีด กดคันเร่งลงไปดูเหมือนจะมีหน่วงๆอยู่นิดๆ คงเป็นเพราะตัวรถที่มีน้ำหนักเยอะแต่ก็ไม่อืดจนหน้าเกียด การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายมาก แต่การขับในเมืองรถดูกระโชกโฮกฮากซะหน่อย กระตุกตลอดเวลาคาดว่าคงเป็นเพราะผมยังไม่ชินกับเกียร์ ออกตัวกดคันเร่งรถไม่ค่อยวิ่งแต่พอกดลงไปอีกนิดรถดันพุ่งพรวดออกมา งงกับเกียร์อยู่ซักพัก ค่อยๆจับจังหวะดูเริ่มชินกับการเปลี่ยนของเกียร์ เออขับสนุกดีเหมือนกันนะ การเร่งแซงแน่นอนสบายหายห่วง วิ่งออกนอกเมืองลองอัตราเร่งช่วงต้นอาจจะหน่วงๆนิดๆแต่ช่วงรอบกลางถึงปลายวิ่งดีที่เดียวครับไม่มีปัญหา แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งผมว่าเครื่องของคู่แข่งยังขับสนุกกว่าพอสมควร อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 14.9 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าทำได้ดีทีเดียวกับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร

เครื่องยนต์ของทั้ง 3 รุ่นมับุคลิกเฉพาะตัวถ้าท่านไหนชอบขับแบบสบายๆสมูทลื่นไหลไปเรื่อยแต่ถ้าเกิดอยากสนุกก็สามารถตอบสนองได้ตามต้องการ ต้องเจ้า ฮอนด้า ซีวิค RS เทอร์โบ คันนี้เลย แต่ถ้าวัยรุ่นจ๋าๆต้องการอัตราเร่งที่เร้าใจ ขับสนุกขับมันส์ ผมว่า ฟอร์ด โฟกัส Ecoboost เทอร์โบ ดูเข้าตามาก แต่ถ้าอยากได้เครื่องใหญ่หน่อยขับแบบไหลๆขับทางไกลๆแบบเนียนๆ ต้องเจ้า MG6 แอบกระซิบบอกหน่อยว่าราคาของ MG6 เค้าคุ้มค่ามากเลยนะ

เรามาดูระบบช่วงล่างกันหน่อยดีกว่า เริ่มจากเจ้า ซีวิค RS เทอร์โบ หน้าเป็นแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นมัลติลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างของเจ้าซีวิค นุ่มนวลที่เดียวครับสามารถดูดซับแรงสะเทือนของพื้นผิวของถนนได้อย่างนุ่มนวล เค้าโค้งก็หนึบดีมั่นใจได้ ส่วนถ้าเป็น ฟอร์ด โฟกัส หน้าเป็นอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นอิสระคอนโทรลเบรด มัลติลิงค์ คอยล์สปริง ช่วงล่างของฟอร์ดเค้าเซทมาให้ออกแนวสปอร์ต ความนุ่มนวลอาจจะสู้ ฮอนด้า ซีวิค ไม่ได้ แต่ความหนึบ แน่น ยึดเกาะถนน มั่นใจได้แบบสุดๆเค้าโค้งด้วยความเร็วได้อย่างสบาย แต่ถ้าผู้ใหญ่ๆหน่อยต้องการความนุ่มนวลต้องเจ้า MG6 เลยจร้าด้านหน้าเป็นอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง หลังอิสระ Z-Type มัลติลิ้งค์พร้อมเหล็กกันโคลง ให้ความนุ่มนวลชวนฝันมาก แถมยังดูดซับแรงสั่นส้เทือนจากพื้นผิวของถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อได้ดี การเค้าโค้งก็ทำได้ดีเช่นกัน

รถยนต์ในเซ็กเม้นท์มีมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปอยู่ที่ใครต้องการใช้งานแบบไหนเรื่องรูปทรงถ้าต้องการความหรูหราแต่แอบสปอร์ตนิดๆรถตลาดซื้อง่ายขายคล่องศูนย์บริการเยอะ เครื่องยนต์ขับสนุกภายในนั่งสบาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ระบบต่างๆเพียบต้องเจ้า ฮอนด้า ซีวิค RS เทอร์โบเลย กับราคา 1,199,000 บาท

แต่ถ้าวัยรุ่นชอบรถที่แรงออกมาจากโรงงาน รูปทรงแฮทช์แบ็ค 5 ประตูดูสปอร์ตจ๋าๆพร้อมซิ่ง ระบบไฮเทคต่างๆใส่มาให้แบบเต็มๆไม่มีกั๊ก แล้วก็ไม่สนใจเรื่องศูนย์บริการ และราคาขายต่อ ต้องฟอร์ดเลยจร้า ราคา 1,099,000 บาท

แต่ถ้าต้องการรถยนต์ที่คุ้มค่าเงินไม่ต้องจ่ายในราคาแพงถูกกว่าคู่แข่งหลักแสน อุปกรณ์ต่างๆใส่มาให้เพียบไม่น้อยกว่าคู่แข่ง ภายนอกหรูหรา ภายในใหญ่โตกว้างขวางต้องมองที่ MG6 เลยจร้า ราคาเพียง 1,028,000 บาท เลือกเอาว่าใครต้องการแบบไหน คันไหนที่เหมาะกับคุณต้องตัดสินใจเลือกเอาเองนะครับ แนะนำไปทดลองขับก่อนที่จะควักเงินซื้อนะครับ

 

 

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th