คอลั่มน์นี้คนที่นำมาให้ชมถือว่าไม่ธรรมดา MAZDA RX-7 (FD3S) สภาพสมบูรณ์อีกหนึ่งคัน เรียกได้ว่าของชิ้นไหนเสีย หาย แตกหัก พี่แกสั่งเบิกใหม่หมด และคันนี้เคยนำมาลงในนิตยสารเราไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่กลับมาคราวนี้ เก็บงานได้เนียนกว่าเดิม แถมอัพเกรดเครื่องยนต์ไปพอสมควรจากครั้งที่แล้ว…
ชุดพาร์ท เรียกได้ว่าสุด…อีกหนึ่งคัน กับชุดพาร์ทของ RE AMEMIYA รอบคัน กันหน้ารุ่น FACER N1 02MODEL พร้อม CARBON UNDER SWEEP ที่มาคู่กับ CARBON CANARD PRO ส่วนฝากระโปรงหน้ารุ่น AD HOOD 9 ไฟคู่หน้าจากเดิมแบบ POP UP มาเป็น NEW SLEEK LIGHT KIT TYPE-H11 ด้านข้าง เปลี่ยนกระจกมองข้าง ย้ายตำแหน่งจากเดิมมาติดไว้ที่บังโคลนคู่หน้า แบบ AD MIRROR PRO ข้างบังโคลนด้านล่างขยายช่องดักลมแบบ CARBON FENDER BIG OUTLET ติดเสริมเข้าไปอีกที เพื่อการระบายลมออกที่ดีกว่า จากนั้นสเกิร์ตข้าง ก็ออกแบบรีดลมใต้ท้องออกทางด้านข้างแบบ CARBON รุ่น AD SIDE DIFFUSER รวมทั้งที่จับเปิดประตูจข้าง ก็เปลี่ยนเป็นแบบลาย CARBON จาก RE AMEMIYA ด้วยเช่นกัน
มาต่อกันที่ด้านท้ายของตัวรถ ยังเน้นในเรื่องแอโรไดนามิกส์อีกหลายส่วน โดยหางหลังเป็นแบบ CARBON รุ่น GT III พร้อมแผ่นรีดลมใต้ท้องแบบ CARBON DIFFUSER PRO พร้อม CARBON BOWTECH GENERATOR ที่โผล่ออกมาทางด้านข้างของ DIFFUSER
ภายใน อย่างที่บอกว่าเป็น RX-7 ที่สภาพสมบูรณ์ เนียนแทบทุกจุด ตกแต่งแบบหนังดำ-แดง คอนโซลหน้าติดตั้งเพิ่มด้วยเกจ์วัด DEFI อีก 6 ตัว เรือนไมล์เปลี่ยนเป็นสีขาว-แดง จาก MAZDASPEED พวงมาลัยแบบสามก้านยี่ห้อดังจาก NARDI พร้อมชุดคอพวงมาลัยแบบพับได้จาก WORK BELL และเบาะฝั่งคนขับจาก BRIDE รุ่น STRADIA II เพิ่มความแข็งแรงด้วย ROLL BAR แบบ 4 จุด จาก SAFETY21 ส่วนกาบบันไดข้างประตู CARBON จาก RE AMEMIYA นอกจากนั้นยังมีเครื่องเสียงใหม่ HEAD UNIT จาก ALPINE รุ่น IVA-W502E เพาวเวอร์แอมป์ ZAPCO ซับวูฟเฟอร์จาก ROCKFORD FASGATE รุ่น PUNCH ขนาด 12 นิ้ว 1 ตัว
TD06H-25G + POWER FC
แน่นอน ใจรักกันขนาดนี้ คงไม่เปลี่ยนไปใช้เครื่องลูกสูบเป็นแน่ สำหรับเครื่องยนต์ยังเป็นแบบ ROTARY รหัส 13B-REW จากนั้นโมดิฟายและปรับแต่งไส้ในใหม่ โดยช่องพอร์ตไอดี-ไอเสีย ได้ถูกขยายเพิ่ม ซึ่งช่องพอร์ตต่าง ๆ ก็เปรียบเสมือนช่อง ทางเดินของไอดี-ไอเสีย ทำหน้าที่คล้ายวาล์วของเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไป คือ ถ้ามีขนาดใหญ่ขึ้นก็จะเพิ่มไอดีได้มากขึ้น และคายไอเสียได้เร็วขึ้น สำหรับการขยายพอร์ตและขัดลื่นในเครื่องโรตารี่ก็มีหลายสูตร แต่ในคันนี้เป็นแบบ EXTEND PORT ที่ขยายช่องพอร์ตมากกว่าสแตนดาร์ด สไตล์ STREET RACING ตอบสนองได้ดีกว่าช่องพอร์ตแบบเดิม รอบต่ำไม่มีปัญหา ต่อจากนั้นเปลี่ยนตัว APEX SEAL ที่ทำหน้าที่เป็นแหวนลูกสูบ แต่เสียดสีมากกว่าเครื่องลูกสูบ รอบจัด ที่รับทั้งแรงเสียดสี และความร้อนที่มากขึ้น ในช่วงบูสต์สูงตลอดเวลา ดังนั้น จึงเปลี่ยนเป็นของซิ่งที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรงขึ้น ทำให้เครื่องแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม เพื่อทนความร้อนได้ดี ส่วนรอบนอก เป็นชุดคิตของค่าย GReddy ทั้งหมด โดยเปลี่ยนเทอร์โบมาใช้แบบลูกเดียวจาก TD06H-25G พร้อมเฮดเดอร์สเตนเลส และเวสต์เกตแยกของ TYPE R ท่อทางเดินไอเสียพร้อมหม้อพักใบสุดท้ายจาก GReddy TITANIUM
ส่วนด้านระบบไอดี ขยายท่อทางเดินใหม่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ โบล์ว ออฟ วาล์ว รุ่น RS ออยล์คูลเลอร์ และพูลเลย์หน้าเครื่องเป็นชุดคิตจาก GReddy ทั้งหมด นอกจากนั้นเพื่อการระบายความร้อนของระบบน้ำหล่อเย็นได้ดีและสะดวกขึ้น ได้เปลี่ยนหม้อน้ำเป็นแบบชุดคิตอีกเช่นกันจาก GReddy โดยมีกล่องควบคุมใหม่จาก A’PEXi POWER FC โดย TUNE BY LIM ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมชุดคลัตช์ TWIN PLATE จาก OS GIKEN พร้อม LSD ของ ATS CARBON แบบ 1.5 WAY
เบรก PROJECT MU
ล้อ ENKEI RACING
การปรับแต่งระบบรองรับน้ำหนักที่ช่วงล่างให้มีพื้นฐานการทำงานบนถนนเป็นหลัก ดังนั้น จึงปรับแต่งเท่าที่จำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือยมากนัก สำหรับโช้คอัพของคันนี้เป็นแบบสตรัทปรับเกลียวของ TEIN รุ่น SUPER STREET ใต้ท้องของรถเพิ่ม LOWER ARM BAR ยึดใต้ท้อง เพื่อความแข็งแรงและลดการให้ตัวมากเกินไป จากนั้นเพื่อความมั่นใจในการหยุดรถที่ทันใจด้วยระบบเบรกใหม่จาก PRO JECT MU คาลิเปอร์ 4 พอร์ต จานดิสก์ขนาด 345 มม. ส่วนเบรกหลัง เปลี่ยนเฉพาะตัวจานดิสก์เบรกมาใช้ของ PROJECT MU ขนาด 326 มม.
ขอขอบคุณ นายเอ๊ะ ราชบุรี เจ้าของรถ และขอขอบคุณสถานที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้วยนะครับ
X-TRA ORDINARY
RX-7 (FD3S) GENERATION III เครื่องยนต์จะเป็นแบบ ROTARY 2 โรเตอร์ จะมีด้วยกันหลายเวอร์ชั่น เริ่มจาก 255 แรงม้า (ปี 1991-1996) 265 แรงม้า และ 280 แรงม้า (ปี 1996-2002) ถ้าลองสังเกตจากเครื่องสแตนดาร์ด เครื่องรุ่นหลัง ๆ จะเปลี่ยนเป็นท่อร่วมไอดีสีดำ ที่สังเกตง่ายที่สุด และในอนาคตได้ข่าว แว่ว ๆ ว่าจะทางญี่ปุ่นอาจจะนำ RX-7 กลับมาทำใหม่อีกครั้ง…