photo by Edd Ellison
ดังที่ทราบกันแล้วสำหรับผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ FIA GT World Cup Macau Grandprix 2016 ด้วยชัยชนะของ Laurens Vanthoor นักแข่งชาวเบลเยี่ยมสังกัดทีม Audi Sport Team WRT ที่ควบรถ Audi R8 LMS ตัวแข่งกำลังสูงสุดของทีมโรงงาน Audi หงายท้องพลิกคว่ำ ในรอบที่ 5
แต่คณะกรรมการผู้ตัดสินลงความเห็นให้ยึดอันดับจากรอบก่อนหน้า หลังจากมีอุบัติเหตุในรอบที่ 4 ของการแข่งขัน ด้วยกติกาวิ่งให้ครบ 18 รอบ หรือ ใช้เวลาในการแข่งขันไม่เกิน 75 นาที หากการแข่งขันดำเนินไปถึงข้อแม้ใดก่อน ก็ให้ยุติการแข่งขัน และยึดอันดับตามนั้นหลังจากจบรอบสุดท้าย…
ซึ่งถ้านับตามกติกานี้ Laurens Vanthoor จึงได้ตำแหน่งผู้ชนะ หลังจบรอบที่ 4 นั่นเอง…
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มีค่าเทียบเท่ากับชัยชนะ ก็คือความพยายามของนักแข่งแต่ละคน กว่าจะพัฒนาฝีมือให้มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันที่เรียกได้ว่า “สูงที่สุดของโลก” สำหรับรถ GT ดังเช่นรายการนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ พศิน ลาทูรัส นักแข่งดาวรุ่งชาวไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขัน FIA GT World Cup Macau Grandprix 2016 ตามสิทธิ์การจัดอันดับ FIA World Ranking และตั้งเป้าเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ที่ตำแหน่งบนโพเดี้ยม
นักแข่งระดับสูงสุดของโลก จากทีมโรงงานค่ายรถระดับโลก 23 คัน กับผลงานลำดับที่ 14 ความสำเร็จนี้ ถือว่าไม่ธรรมดา สำหรับวัยรุ่นชาวไทยที่ไขว่คว้าโอกาสนี้มาหลายต่อหลายปี
ในรอบควอลิฟาย พศิน และ Ferrari 488 GT3 คู่ใจ ทำเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อน ทำให้ได้เวลาที่ดีที่สุดในอันดับที่ 15 หลังจากวิ่งไปแค่ 4 รอบ
ด้วยฝีมือของทีมแข่งมืออาชีพอย่าง Spirit of Race SA รถ Ferrari 488 GT3 ก็ซ่อมเสร็จพร้อมลุยต่อในรอบ “Qualify Race” การแข่งขันเก็บคะแนนในรอบแรกได้ทันเวลา…
จากสภาพสนาม และฝีมือของนักแข่งระดับโลก การขับเคี่ยวในรอบ Qualify Race กับ 12 รอบสนาม โซนกลางขบวนต่างป้องกันพื้นที่ของตนได้เป็นอย่างดี พศินสู้ได้อย่างเต็มที่จบที่อันดับ 15 ตำแหน่งเดิมจากที่เริ่มสตาร์ต
หลังจากจบการแข่งขัน Qualify Race ตัวของพศินเองก็ยังรู้สึกพอใจกับผลการแข่งขัน เพราะนักแข่งที่อยู่ในสนาม ก็ล้วนแล้วแต่ฝีมือระดับต้นๆ ของโลกแทบทั้งสิ้น ด้วยเกรดนักแข่งระดับ Platinum , Gold และ Silver การรักษาตำแหน่งเดิมอยู่ได้ ถือว่ายากแต่ยังทำได้ เป้าหมายต่อไปคือการทำผลงานได้ดีกว่าเดิมในการแข่งขันรอบสุดท้าย “Final Race”
จนถึงรอบ Final Race การแข่งขันกำลังขับเคี่ยวไปอย่างสุดมัน หลังจากผ่านรอบที่ 4 รถ BMW Z4 ของ Ricky Capo ก็เสียอาการเนื่องจากไม่สามารถควบคุมความเร็วในการเข้าโค้งได้ ทำให้รถพุ่งตรงเข้าชมกำแพงดักความเร็วแทนที่จะเลี้ยวขวา สถานการณ์ตอนนี้ทำได้แค่เพียงรอ Safety Car ออกมานำรถต้นขบวน พารถแข่งทุกคันเข้าพิทเลน เพื่อรอการออกสตาร์ตอีกครั้ง แต่หลังจากออกสตาร์ตในรอบที่ 5 ก็เกิดการพลิกคว่ำที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น เมื่อถึงเวลาตามที่กำหนด กรรมการควบคุมการแข่งขันจึงประกาศยุติการแข่งขัน และชัยชนะก็ตกเป็นของ Laurens Vanthoor
ซึ่งหลังจากจบการแข่งขันรอบสุดท้าย พศินแจ้งกับทีมงานว่า เสียดายที่น่าจะมีเวลาให้ทำตำแหน่งได้ดีกว่านี้ เพียง 5 รอบสนามที่ไม่ได้ใช้พื้นที่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถขยับตำแหน่งจากเดิมได้มาก แต่นี่ก็คือการแข่งขัน กติกาที่ตั้งขึ้นสร้างให้ทุกคนเท่าเทียมกัน จบอันดับที่ 14 ถือว่าเต็มที่ที่สุดแล้วในปีนี้
สำหรับแฟนๆ ที่ยังตามเชียร์ พศิน ลาทูรัส และทีม AF Corse ยังสามารถติดตามการแข่งขันสนามสุดท้ายของปีที่มาเลเซีย ส่วนจะเป็นรายการใด และวันที่เท่าไร ทางทีมงานขออุบไว้ก่อน ใกล้วันแข่งขันจะอัพเดตให้ทราบทันที
สุดท้าย ผมนาย McXO ต้องขอขอบคุณทีมงาน NaRaYa น้องพศิน คุณแม่วาสนา และ คุณพ่อวาสิลิโอส ที่ดูแลทีมงานเป็นอย่างดี ทำให้สามารถเก็บภาพและบรรยากาศมาให้ได้ชมดังที่รายงานมานี้ครับ
แล้วพบกันใหม่ Macau Grandprix 2017
