Good track in our dreaming
ขอเล่าโดยกระชับก็แล้วกันนะครับ หลังจากที่ทั้งรถและทีมงาน เบิร์ด หลักห้า ไปถึงสนาม TEXAS Motorplex ก็ได้รับการต้อนรับจาก “Mr.Bryant Blakemore” เป็นผู้ประสานงานกับทางทีมงานเรา กับ “Mr.Randy Cole” คนนี้จะคอยบอกว่าอะไรไม่ถูกต้อง ให้แก้ไข และนำทีมงานไปดูสนามจริง สิ่งที่ทำก่อนอื่น คือ “เช็กแทร็ก” ก็พบว่า ขนาดไม่ใช่วันแข่งจริง แทร็กที่ยังไม่ได้ Coating ยังมีความเหนียวมาก สะอาด เรียบสุดๆ คิดว่าน่าจะใส่ได้เต็มที่ ซึ่งเป็น “แทร็กในฝัน” แม้แต่ Test track อีกที่ (ต้องวิ่งไปอีกเมือง ไม่ได้อยู่ที่นี่) มีระยะแค่ 200 ม. ก็ยังมีพื้นแทร็กที่ดีเยี่ยมเหมือนที่ TEXAS Motorplex ตอนตรวจสภาพ ใจหนึ่งก็มั่นใจ แต่ใจหนึ่งก็หวั่นๆ เพราะว่ารถที่เราสร้างขึ้นมา บางจุดก็เชื่อมไม่ตรงกับที่ NHDRA กำหนด เพราะรูปทรงรถ และอุปกรณ์ที่วางแผนติดตั้งไว้มันบังคับหรืออะไรก็ตาม ทีมงานทำใจไว้ครึ่งหนึ่งแล้ว หาก “ตรวจสภาพไม่ผ่าน” แต่โชคดีที่ “ผ่าน” ก็เลยได้ลงวิ่งในรุ่น Pro Stock ของทาง NHDRA แต่ไม่มีอันดับในการแข่งขัน เพราะเป็นการวิ่งโชว์…
|
สอบใบขับขี่ ทดสอบ “คน” สุดเข้ม !!!
สิ่งหนึ่งที่ได้ยินแล้ว “เงิบ” ก็คือ ไม่ใช่คนขับจะแข่งได้เลยนะ แต่ต้องมี “การสอบใบขับขี่นักแข่ง Drag ของ NHRDA ด้วย” ซึ่ง “เบสท์” ก็ต้องทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง กรรมการจะทดสอบทั้งหมด 6 run คำสั่งในแต่ละ run นั้นแตกต่างกัน เช่น ออกตัวช้า ไปช้า, ออกตัวปานกลาง สั่งให้เร็วต้องเร็วทันที ซึ่งกรรมการจะดูว่าสามารถ “ควบคุมรถได้ตามคำสั่งหรือไม่” ไม่ใช่ซัดเต็มเลย อันนี้ยังเบๆ มีไอ้ที่เด็ดกว่านั้น คือ “การสอบเอาตัวรอด เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน” จะต้อง “ฝึกโดยการปิดตา” เป็นการจำลองเหตุการณ์ เมื่อรถไฟไหม้ และมีควันไฟมากจนมองไม่เห็น ผู้ขับจะต้องหยุดรถให้ได้ โดยใช้ความรู้สึกเท่านั้น ต้องดึงร่ม พร้อมกดสวิตช์ตัดไฟ สวิตช์ดับเพลิง โดยที่ตายังถูกปิดอยู่ เมื่อถูกสั่งจะต้อง “กดให้ได้ทันที และต้องหยุดรถให้ได้ปลอดภัยด้วย” ทุกอย่างจะต้องทำด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่อง ถูกต้อง ถึงจะผ่าน ไม่ใช่มัวแต่คลำโดยเด็ดขาด อันนี้แหละที่ยาก คนขับจะต้องฝึกฝนมาอย่างดีก่อนที่จะสอบ นับว่าเป็นเรื่องการฝึกทักษะที่น่าสนใจมาก ส่วนเรื่อง Safety ของทางสนาม เขาก็จะมาดูตำแหน่งอุปกรณ์ในรถเรา เพื่อให้รู้ว่าควรจะช่วยคนขับออกมาทางไหน มีการปลดอุปกรณ์อะไรมาก ไม่เสียเวลานั่งคลำนั่งหา สุดยอดจริงๆ…
|
ปัญหาเกิด วัดใจคนไทย
สิ่งที่เป็นปัญหาก็เกิดขึ้น เนื่องจาก “น้ำมันดีเซลที่อเมริกา มีค่า C-tane ที่ไม่เหมือนกับบ้านเรา” จึงทำให้เครื่องพัง !!! เปลี่ยนเครื่องใหม่ตั้งแต่ 5 ทุ่ม (เวลาที่ Texas) ไปเสร็จเอาเกือบตี 4 แต่สิ่งหนึ่งที่เรามองฝรั่งผิดไป ตอนแรกก็คิดว่าฝรั่งจะมาสนใจคนไทยเหรอ ผิดคาด “เขากลับมีน้ำใจมาดูและคอยช่วยเหลือทีมไทย” บางคนก็ช่วยทำ ช่วยหาเครื่องมือ ช่วยลุ้นจนรถเสร็จ และรอดูเราวิ่ง ก็นับเป็นสิ่งที่ทีมงานประทับใจเจ้าบ้านมากในการมาครั้งนี้ เมื่อเหลือเครื่องเพียงตัวเดียว เราจะ “บู๊สุดตัว” ไม่ได้อีกแล้ว ทุกสิ่งจะต้อง Play Safe หรือ “เดินทางสายกลาง” จึงเป็นเพียงการ “วิ่งโชว์” เท่านั้น “เสียดายถ้าเครื่องไม่พังจะลงแข่งด้วยจริงๆ” สำหรับเวลาดีที่สุดในวันเสาร์ อยู่ที่ “8.227 วินาที” ที่ 164.39 mph หรือ 264.56 km/h ก็ถือว่าไม่เลวแล้วสำหรับรถเครื่องยนต์ 4 สูบ 3.0 ลิตร เพราะรถเฟรมอเมริกา เครื่องดีเซลใหญ่กว่าเราสองเท่า ก็ยังวิ่งประมาณ “7.4 วินาที” (ดีที่สุดในครั้งนั้น) เราไปได้ขนาดนี้ฝรั่งก็ยกนิ้ว (โป้ง) ให้ ส่วนในวันอาทิตย์ ก็มีปัญหากวนประสาทเรื่อง “โซลินอยด์ไนตรัส” ฉีดมาหน่อยเดียวแล้วก็แข็งตัว (Freeze) เท่ากับไม่มีผลอะไร ได้เวลา “8.5 วินาที” ไม่ลงอีกแล้ว…
|
|
แต่ไม่ยอมแพ้ พยายามแก้ปัญหาที่รถให้ได้ วันรุ่งขึ้นทีมงานได้ตัดสินใจเช่าสนามเป็นการส่วนตัว (เช่าสนาม 4 ชั่วโมง 50,000 กว่าบาทเอ๊งงงง !!!) เพื่อที่จะหวดเต็ม อยากได้ “เลขเจ็ด” มาฝากคนไทย แก้ปัญหาไนตรัสเรียบร้อย แต่ “คลัตช์ดันมีปัญหา” อีก ในช่วง 200 เมตรแรก คลัตช์ไม่ค่อยจับ ไปดีเอาช่วง 200 เมตรหลัง ได้เวลา “8.348 วินาที” ที่ความเร็ว 170.62 mph หรือ 274.58 km/hเรียกว่า “ไนตรัสดันปลาย” จริงๆ ความเร็วเข้าเส้นมากกว่าเดิม แต่ “เวลาไม่เร็วกว่าเดิม” จึงเอาแค่นี้ แต่ก็มีสิ่งประทับใจมาก “ฝรั่งให้ความสนใจและชื่นชมผลงานคนไทย” (ว่ายูแจ๋วว่ะ) สามารถสร้างรถที่ได้มาตรฐาน ส่วนการแข่ง ในปีหน้าถ้ามีโอกาส การเตรียมรถพร้อมแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะไปเยือนสนามแห่งนี้อีกครั้ง…
Comment : ช่างเบิร์ด หลักห้า + ชบา เรซซิ่ง
ก็นับว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ของพวกเรา ที่งานนี้ทุกอย่างต้องพร้อม ตั้งแต่การสร้างรถ และวางแผนให้ดี เพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุดเวลาวิ่งจริง ปัญหาที่เกิดขึ้นเราก็พยายามแก้ไขจนถึงที่สุด จนฝรั่งที่เฝ้าชมพวกเรานั้นชื่นชมคนไทย เป็นสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้เจอบรรยากาศแบบนี้ สิ่งที่ได้มาจากการไปครั้งนี้ คือ ได้เห็นว่าเมืองนอกเขามีการ “เคารพกฎระเบียบ” มาก โดยเฉพาะเรื่องของ “เวลา” และ “ความปลอดภัย” ที่ต้องได้มาตรฐานสากล ครั้งนี้ก็แม้จะไม่ได้เวลาตามเป้า เพราะรถเราแบกน้ำหนักมาก แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการปรับปรุงเพื่อให้ได้เวลาที่ตั้งเป้า ไว้ Souped up Thailand Records ปลายปีนี้ จะทำให้ได้ครับ…
Comment : เบสท์ เทอร์โบยำ
ตอนแรกที่ไป ผมก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก เพราะรถก็รู้อาการกันอยู่แล้ว ความรู้สึกตอนที่ลงสนาม เราตัวเล็ก รถก็เล็กกว่ารถของอเมริกาเยอะ เครื่องก็เล็กกว่าอีก แต่ตื่นเต้นที่สุด คือ “การสอบใบขับขี่” และ “การสอบเอาตัวรอดขณะเกิดเหตุ” ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต โดยเฉพาะตอนสอบเอาตัวรอดนี่ยากจริง พอฝึกจนสอบผ่านก็เท่ากับเราได้ฝึกฝนตัวเราด้วย สุดยอดมากๆ ครับ ส่วนในตอนขับ พื้นสนามเรียบจริง รถจึงตรงเป๊ะมากๆ ก็น่าเสียดายที่มีปัญหาเกิดขึ้นในจุดที่บอกไป ไม่งั้นคงได้เวลาตามเป้า ถ้าพูดถึงครั้งนี้ไป “รู้สึกมีเกียรติ” ที่ฝรั่งยอมรับคนไทย และได้ประสบการณ์อันมีค่าทั้งนั้นเลย อยากไปล้างตาอีกครั้ง…
Comment : อาแดง Drag Master
ในฐานะที่เป็นผู้วางแผนสร้างรถคันนี้ขึ้นมา พูดสั้นๆ ว่า “ดีใจมากครับ ที่รถไปวิ่งรายการระดับอินเตอร์ได้” จากเวลาทำที่จำกัด ทุกอย่างต้องทำให้ได้ตามเป้า แต่เราก็พยายามทำให้ดีและถูกต้องตามกติกามากที่สุด โดยรวมผมไม่ห่วงอะไรกับคันนี้ ที่ผมชอบมากๆ ก็คือ พื้นแทร็กที่นั่นเยี่ยมมากๆ ทำให้เซ็ตรถไม่มีปัญหาเลย กลับมาก็คงปรับปรุงเรื่องน้ำหนักให้ลดลง ส่วนครั้งหน้าถ้าจะไปอีก ก็ว่าจะทำเฟรม “โครโมลี” เพื่อลดน้ำหนัก ถ้ามีเวลาเตรียมตัวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหนักใจครับ…
Comment : อ้า ECU SHOP
ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน Main Sponsor และเป็นหนึ่งในทีมงานที่ทำรถ ก็น่าเสียดายเล็กๆ ที่เวลาไม่ได้ตามเป้า แต่เรามาคิดดู รถเราเครื่องเล็ก น้ำหนักเฟรมเยอะ จนทางฝั่งอเมริกายังบอกว่าหนักเกินไป ต้องปรับปรุงให้เบากว่านี้อีกเยอะ ที่ชุดคลัตช์มีปัญหา เพราะเราใช้งานหนักมากๆ ทั้งวิ่ง ทั้งสอบใบขับขี่ แทร็กก็เหนียวมากตลอด 402 เมตร (ตอนเดินดูไม่เหนียวอย่างที่คิด แต่พอหยุดเดิน มันดูดรองเท้าติดเลย ก็น่าจะเป็นเทคโนโลยีพิเศษของทางสนาม) ออกเต็มไม่ได้ กลัวเพลาขาด ก็ได้แต่ยื้อออก คลัตช์เลยทนไม่ไหว ทั้งๆ ที่เป็นของดีมาก ทำโดยคนไทย ส่วนเรื่องอื่นๆ เราก็พยายามศึกษาของฝั่งอเมริกา เขายังเปิด Software กล่องของเขาให้เราดู เราก็เปิดให้เขาดู รวมถึงการพัฒนาเครื่องยนต์ และระบบต่างๆ อีกมากมาย ได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ดีครับ ปีหน้าตั้งใจว่าจะไปอีก จะทำให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นครับ…
|
|
Comment : อากู๋ GOOH Genuine Part
ตอนนี้ผมเองก็มาเป็น Main Sponsor ร่วมกับ ECU SHOP ตัวผมเองเคยไปดูรถ Drag ในอเมริกามาหลายครั้ง ก็เลยฝันไว้ว่า “อยากจะให้คนไทยไปลองวิ่งในอเมริกาดู” ซึ่งที่นี่ Drag เขาเฟื่องฟูมาก เราก็คิดว่าจะต้องไปให้ได้ แต่จะไปก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน การเดินทางที่แสนไกล แถมกฎกติกา NHRDA มีรายละเอียดเยอะมาก กลัวไปแล้วไม่ผ่านก็จะได้แต่จอดโชว์อย่างเดียว แต่เราก็ทำได้ตามที่เขากำหนดไว้ การไปครั้งนี้รู้สึกว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ความรู้สึกในสนามเมื่อเราวิ่ง 8.227 วินาที มีแต่คนชื่นชม ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าฝั่งอเมริกาจะต้อนรับเราขนาดนี้ แม้จะไม่ได้ตามเป้า แต่ผมก็มองว่าดี เพราะจะได้มีโอกาสพัฒนาให้เร็วกว่านี้ได้ในอนาคต ในปีหน้า ทีมของเราได้รับเชิญไปแข่งในรายการ NHRA ที่จะมีรถเครื่องเบนซินด้วย ก็ต้องทำการบ้านหนักขึ้น เพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุด…
Comment : โน๊ต NOTE & NUT USED CAR
ก็รู้สึกดีใจมากครับ ที่รถของเราได้ไปวิ่งในรายการระดับโลกอย่างนี้ ซึ่งไม่ได้มีโอกาสง่ายๆ เลย ทุกคนต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อทำผลงานให้ได้ดีที่สุด ไม่เสียใจที่ไม่ได้ตามเป้า แต่อย่างน้อย เราก็ได้พิสูจน์ว่า “คนไทยก็ทำได้” ครับ…
|
|
Comment : อินทรภูมิ์ แสงดี
พูดสั้นๆ ว่า “ดีใจด้วยกับทุกฝ่าย” ไม่ว่าจะเป็นทีมงานทุกคน และคนไทยที่ติดตามชม ครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ผมมองว่าไม่ใช่แค่ได้ไป แต่ “ไปแล้วได้อะไรดีๆ กลับมา” จะได้เอาความรู้มาพัฒนารถ เครื่อง คนขับ ช่าง เพื่อให้สมบูรณ์แบบต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะไปวิ่งที่ไหน รายการไหนก็ตาม แต่สิ่งที่สำคัญ และรู้สึกทึ่ง ก็คือ “กฎความปลอดภัย” ที่ระดับสากลมันไม่ง่าย ไม่ใช่ปล่อยอะไรก็ได้ตามใจ อันนี้ที่อยากฝากถึงคนไทย ให้ใส่ใจความปลอดภัยกันมากๆ เพื่อตัวท่านเองครับ…
|
ขอขอบคุณ : ช่างเบิร์ด หลักห้า และทีมงานทุกท่าน โทร. 08-1192-8022, อ้า ECU SHOP โทร. 08-7914-1412 และ อากู๋ GOOH Genuine Part โทร. 08-6328-2775