Idemitsu 600 Super Endurance 2018

 

Idemitsu 600 Super Endurance 2018

เรียบเรียง : อินทรภูมิ์ แสงดี

ภาพ : Super Turbo Thailand

สำหรับรายการอึด ถึก ทนที่พิสูจน์ทุกอย่างจะคน รถ ทีมงาน การวางแผนต่างๆ มันมีเสน่ห์มากสำหรับการแข่งขันแบบ Endurance ในรายการ Idemitsu 600 Super Endurance 2018 ซึ่งจัดเป็นปีที่ 2 แล้ว หลังจากที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปี 2017 ซึ่งปีนี้ก็มีความเป็นอินเตอร์มากขึ้น เพราะมีรถและนักขับจากต่างประเทศ อาทิ ฮ่องกง, จีน, มาเลเซีย ฯลฯ เข้ามาร่วมการแข่งขันกันมากขึ้น เสน่ห์ของงานนี้ อยู่ที่การหวดใช้เวลาอันยาวนานถึง 10 ชม. !!! หรือ 600 นาที เชียวนะ ที่ทุกอย่างจะต้อง Run โดยไม่มีการหยุด กระพริบตาไม่ได้ เพราะมีเหตุการณ์พลิกผันแบบคาดไม่ถึงอยู่ตลอดเวลา งานนี้ อย่าเพิ่งตัดสินใคร จนกว่าจะจบการแข่งขัน !!!

สำหรับงาน Idemitsu 600 Super Endurance 2018 จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม นับว่าโชคดีเพราะมีลมหนาวเข้ามา อาจจะไม่ถึงหนาว แต่เรียกว่าค่อนข้างเย็นทำให้ผ่อนคลายความตึงเครียดกับสิ่งรอบด้านลงไปได้เยอะ สำหรับเกมการแข่งขัน รถแข่ง Rolling Start เริ่มไฟเขียวที่เวลา 10.30 . ตั้งนาฬิกา Countdown แล้วก็เหนี่ยวกันไปเลย โดยมีจำนวนรถแข่งใน Track มากถึง “81 คัน” !!! และนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไทย ที่มีการแข่งขันซึ่งมีรถแข่งอยู่บนแทร็กพร้อมกันมากขนาดนี้ วิ่งว่อนกันเต็ม Track เรียกว่าไม่มีว่างกันเลย ผลัดกันรุกผลัดกันรับ งานนี้เต็มพิกัดจริงๆ ใครว่าคนดูจะไม่มันส์ ลองมาเจอรถวิ่งต่อเนื่องกัน เกาะบี้กันมาเป็นกลุ่มๆ รับรองจะเปลี่ยนความคิดใหม่

Division 2 : “เดวิดแชมป์เก่าเสียแชมป์

ตำแหน่งโพลในรุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง Super Turbo Division 2 มีรถเข้าแข่งจำนวน 17 คัน อันดับสตาร์ทโพล เป็นของ รถแข่ง GAC TRUMPCHI GA4 ตัวแปลกจากแผ่นดินใหญ่ แต่ขุมพลังเป็น HONDA K20A เพราะกติกาไม่ได้ห้าม Swap Engine เอาที่สบายใจกันเลย เป็นรถหมายเลข 245 จาก Team Endless ซึ่งขับโดย Deng Bao Wei, Yiu Lung, Cheung Chi Sing และ Man Ting Yu ขนาบข้างด้วย Honda FD2 สีเหลือง หมายเลข 214 จากทีม 778 Auto Sport ที่ขับโดย Lo Ka Chun, Lo Pak Yu, Tsang Chi Kong และ Lo Hung Pui ส่วนกริดที่ 3 เป็นของรถแข่ง GAC TRUMPCHI GA4 หมายเลข 246 อีกคันจาก Team Endless ขับโดย Wang Wen Bin, Wang Jian Feng, Li Ying Xi และ Huang Tao

ออกสตาร์ทเรซไปเพียงไม่กี่รอบสนามงานมาเกี่ยวกันยับกลุ่มใหญ่ ทำให้กรรมการต้องสั่งตีธงเหลืองทันที ก่อนที่เซฟตี้คาร์จะออกมาวิ่งนำรถแข่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เคลียร์สนามจากอุบัติเหตุกินเวลาไปกว่า 10 นาที ก่อนจะกลับมาเริ่มการแข่งขันได้อีกครั้งหลังผ่านไป 30 นาที โดยผู้นำหลังผ่านชั่วโมงแรกของการแข่งขันในคลาส Super Turbo Division 2 เป็นของรถแข่ง Honda DC5 หมายเลข 277 จาก Sky&King Global Motorsport ที่ขับโดย Yu Chi Ngong, Li Lok Bun และ Chow Ching Lung Christopher ซึ่งพลิกขึ้นนำหลังจากที่เจ้าของโพลอย่าง รถแข่ง GAC TRUMPCHI GA4 หมายเลข 245 จาก Team Endless ต้องนำรถเข้าพิตหลังมีปัญหาในช่วงต้นเรซ

หลังผ่าน 3 ชั่วโมงแรก งานเข้ารอบสอง เมื่อ TOYOTA C-HR หมายเลข 220 ทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand กลับเครื่องระเบิดขณะที่แข่งขันไป 4 ชั่วโมง 25 นาที ทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างแรง ยังดีว่าดับได้ทันเลยไม่สร้างความเสียหายหรือบาดเจ็บให้กับนักแข่ง แต่ก็ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย อีก 20 นาที ต่อมา เกิดอุบัติเหตุที่โค้ง 4 มีรถหมุนเคว้งและจอดคา รัน ออฟ แอเรีย โดยใช้เวลาเคลียร์ Track ราว 10 นาที จึงแข่งขันต่อ

ผ่านไป 5 ชั่วโมง เรามากันครึ่งทางแล้วนะ ผู้นำกลับมาเป็นของ Honda DC5 หมายเลข 277 จาก Sky&King Global Motorsport ที่ขับโดย Yu Chi Ngong, Li Lok Bun และ Chow Ching Lung Christopher อีกครั้ง โดยควบไปทั้งสิ้น 141 รอบสนาม แต่หลังจากนั้น รถเกิดปัญหาขึ้น ทำให้ต้องแก้ไขหลายครั้ง ทำให้จากผู้นำ กลับร่วงลงไปอยู่อันดับ 8 ทำให้ไทยผงาดส่งผลให้ผู้นำเปลี่ยนมาเป็นของแชมป์เก่าอย่าง Toyota Altezza หมายเลข 200 จาก Wako’s Team Thailand ขับโดยบังซิดหรือ เดวิด อยู่เป็นสุข, ประพจน์ ชื่นวิจิตร, ชานน อัศวสังสิทธิ ที่จากเดิมตามหลังอยู่ถึง 2 รอบสนาม ก่อนจะพลิกสถานการณ์มีลุ้นแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน ก็ยังนำอยู่ถึง 7 ชั่วโมง ด้วยเวลา 197 รอบ ส่วนอันดับ 2 เป็นของ รถแข่ง Honda FD2 หมายเลข 214 จาก 778 Auto Sport ขับโดย Lo Ka Chun, Lo Pak Yu, Tsang Chi Kong และ Lo Hung Pui ตามหลังผู้นำ 4 รอบสนาม ตามด้วย Honda Fit RS หมายเลข 211 จาก WaxOne Racing Project ที่ขับโดย อานนท์ รอดประเสริฐ, ชาญชัย ฤกษ์อรุณ, สิริศักดิ์ มุณฑุกัมพล และ ภิษณุ ภูษิตานนธกูร ที่ขยับขึ้นมาถึงท็อปทรีเป็นครั้งแรกตามหลังหัวแถว 5 รอบสนาม

แต่อย่างที่บอก ยังไม่จบ อย่าเพิ่งตัดสิน เพราะในชั่วโมงที่ 8 Altezza เบอร์ 200 ที่นำอยู่นั้น เกิดแป้กไปซะงั้นหลังออกจากโค้ง 3 แล้วก็จอดพักผ่อนเลย ทำให้ Civic FD2 เบอร์ 214 กลายเป็นผู้นำแทน แล้วก็จะมีเจ้ารถที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเอามาแข่ง Endurance ได้ เกียร์ไฟฟ้า ท่อก็ไม่ดัง แต่มาเงียบๆ ฟาดเรียบนะ อย่าง Peugeot RCZ 1.6 Turbo หมายเลข 216 ที่ขับโดย Sham Gai Tong Gary, Lo Pak Yu, Lu Tin Yee Mark และ Shu Lui Yip ที่ขยี้กับ Civic FD2 เบอร์ 214 อยู่ตลอดในช่วงนี้

ในช่วง 2 ชั่วโมงสุดท้าย นี่แหละไฮไลต์เด็ดเพราะสิ่งที่เหลืออยู่ต้องใช้ให้หมดทุกคันจะเริ่มบี้กันอย่างดุเดือด ต่างจากช่วงแรกๆ ที่ประคองดูเชิงกันไป และแล้ว ในรุ่น Division 2 อันดับ 1 เป็นไปตามคาด คือ Civic FD2 เบอร์ 214 เข้าวิน ด้วยเวลารวม 10 ชั่วโมง 1 นาที 9.305 วินาที ซิ่งไปทั้งสิ้น 277 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางถึง 1261.458 กิโลเมตร !!! อันดับ 2 เป็นไปตามคาด Peugeot RCZ 1.6 Turbo หมายเลข 216 จ่อตูดแชมป์มาด้วยเวลา ที่ตามหลังแชมป์ 1 นาที 36.539 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ Toyota 86 หมายเลข 221 จาก Toyota Gazoo Racing Team Thailand ที่ขับโดย Naoki Kawamura, อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์, สุพงศ์ ขำต้นวงษ์ และ Ogura Yatyzuhiro ตามหลังแชมป์ 12 รอบสนาม

Division 3 : Swift Singha TT Motorsport ค่อยๆ เก็บ

ส่วนในคลาส Super Turbo Division 3 มีจำนวน 22 คัน ตำแหน่งสตาร์ทโพลเป็นของรถแข่ง Honda Jazz หมายเลข 311 จากทีม Wax One Racing Project ที่ขับโดย ชนะพันธุ์ กิตติเกษม, พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์, ภัทรพล กรเวช และ อริยพล จิรโอฬารนนท์ ขนาบข้างด้วย Suzuki Swift หมายเลข 319 จาก Singha TT Motorsport ที่ขับโดย ชยุส ยังพิชิต, จักรพันธ์ ตันกำเนิด และ ฟรานชิสโก คาตาเนีย ตามด้วยรถแข่ง Toyota Yaris หมายเลข 321 จากญี่ปุ่น ทีม ArtoOsaka CEF Advics Pertamina Racing ที่ขับโดย 4 นักขับญี่ปุ่นอย่าง ยามาโมโต้ ริวจิ, คาวาคามิ เคนจิ, ซาคาโมโต้ อิสเซ และ ยามาซากิ ทาเคฮิโกะ

บรรยากาศดุเดือดไม่แพ้รุ่นใหญ่กว่า แต่ละคันก็พยายามวางแผนการขับและการเซอร์วิสให้ดีที่สุด โดยแชมป์ในรุ่นนี้ตกเป็นของ รถแข่ง Suzuki Swift หมายเลข 319 จาก Singha TT Motorsport ที่ขับโดยเทิร์กชยุส ยังพิชิต, “มาร์คกี้ คาร์ลอสจักรพันธ์ ตันกำเนิด และ ฟรานชิสโก คาตาเนีย ผู้นำในช่วงแรกที่แม้จะโดยแซงจากการเข้าพิตไป แต่สามารถไล่เก็บอันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนสามารถทวงจ่าฝูงได้อีกครั้ง และเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวล่ารวม 10 ชั่วโมง 2 นาที 26.506 วินาที ด้วยระยะทาง 274 รอบสนาม เหนืออันดับ 2 อย่าง รถแข่ง Honda Jazz หมายเลข 311 จากทีม WaxOne Racing Project ที่ขับโดย ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์, พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์, ภัทรพล กรเวช และ อริยพล จิรโอฬารนนท์ ตามหลัง 3 รอบสนาม ส่วนอันดับ 3 เป็นของรถแข่ง Toyota Altis หมายเลข 370 ทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand ที่ขับโดย 2 ขับไทย และ 2 ขับญี่ปุ่นอย่าง ธีรเวทย์ พุกย์พิบูลย์, สุพงศ์ ขำต้นวงษ์, ชิบะ เคนทาโร และ ทาคายูกิ คิโนชิตะ ตามหลังแชมป์ 5 รอบสนาม

Division 4 : รุ่นเล็กแต่เต็มร้อยทีมโช้คเขียวๆซิวแชมป์

ในรุ่น Super Turbo Division 4 กระหน่ำแทร็คด้วยรถแข่งมากที่สุดถึง “42 คันโพลโพซิชั่นเป็นของ Honda City หมายเลข 417 จาก Star Performance ที่ขับโดย สรรพร เชาว์ชวานิล, ระพี พวงสุพาง, จิรัฐิ เศวตศิลา และ พีรวัตร ตะวันธรงค์ โดยกริดที่ 2 เป็นของรถแข่ง Ford Fiesta หมายเลข 464 จาก PTT Performa-V.C.Meat-RPM-Cosmis ที่ขับโดย อัครเดช เตชะสัตยา, สัณชัย เองตระกูล, ปรีดา ตันเต็มทรัพย์ และ ขจรศักดิ์ สงขลา ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ รถแข่ง Honda Jazz GK หมายเลข 483 จาก Tein Team Thailand ที่ขับโดย 4 นักขับญี่ปุ่นอย่าง ชูจิ มาเอจิมะ, มาซาฮิโร่ ซาซากิ, ฮิเดะโนริ โคอิชิ และ ฮิโรฮิสะ ฟูจิตะ เริ่มการแข่งขันกันแบบไม่มีใครยอมใคร แต่ที่ฉายแววมากที่สุด วิ่งอยู่หัวแถวตลอด แถมยังแซงรุ่นใหญ่กว่าได้อีก ก็คงหนีไม่พ้น Honda City หมายเลข 488 จาก Tein Team Thailand ซึ่งขับโดย ธนสิทธิ์ ปัญญาทรานนท์, ฮิเดะฮารุ คุโรกิ และ ยศรัญ แสนสุข ที่ไล่กวดแซงทั้งคู่แข่งในคลาส Super Turbo Division 2 และ Super Turbo Division 3 จนสามารถซิวอันดับ 3 โอเวอร์ออล และครองบัลลังก์ในคลาส Super Turbo Division 4 หลังแข่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลารวม 10 ชั่วโมง 3 นาที 5.667 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง รถแข่ง Honda Jazz หมายเลข 484 จาก Tein Team Thailand ตามหลัง 2 รอบสนาม ขับโดยนักขับชาวญี่ปุ่น อากิระ วาตานาเบะ, ทาคาชิ คุโบะ, โทชิกิ โอยุ ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รถแข่ง Honda City หมายเลข 417 จาก Star Performance ที่ขับโดย สรรพร เชาว์ชวานิล, ระพี พวงสุพาง, จิรัฐิ เศวตศิลา และ พีรวัตร ตะวันธรงค์ ตามหลังแชมป์ 9 รอบสนาม

จบกันไปส่งท้ายปีเก่า กับรายการ Idemitsu 600 Super Endurance 2018 ที่ปีนี้ประสบความสำเร็จมากๆ เพราะถูกบันทึกอย่างไม่เป็นทางการไว้ว่า เป็นรายการ Endurance ที่มีรถแข่งมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก !!! ที่สำคัญเก่าใหม่ไม่เกี่ยงถ้าทำรถถูกกติกา คือแข่งได้เป็นการเริ่มต้นความฝันของคนที่อยากแข่งรถ แต่ทุนทรัพย์จำกัด (เหมือนผม) ก็สามารถสานฝันต่อไปได้ในอนาคต ในปีหน้า ความสนุกยังมีเหมือนเดิม และ จะมีความเป็นสากลมากขึ้นกว่าปีนี้ ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ได้อันดับ รวมไปถึงผู้ที่วิ่งจนครบเวลาบางคันอาจจะรั้งท้าย แต่อย่างน้อยคุณก็มีใจที่จะวิ่งจนจบ รวมไปถึงผู้ที่ผิดหวังคุณสู้เต็มที่แล้วปีหน้าเจอกันครับ ว่าแต่ก่อนจบ เรามี Tips ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการแข่งขันมาฝาก แบบ Exclusive ที่เราตั้งใจนำมาฝากแฟนๆ กันครับ บอกเลยห้ามพลาดจะเสียใจ มีแค่ที่นี่ XO AUTOSPORT ที่เดียวครับ

Tips of Idemitsu 600 Super Endurance 2018

สำหรับเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นข้อมูลอันน่าสนใจจากการแข่งขัน หลายคนอาจจะดูแค่รถวิ่งไปวิ่งมา แต่ ผมเชื่อว่ามีอีกหลายคนอยากรู้ ว่าเขาทำอะไรกันและมีข้อกำหนดตรงไหนรวมไปถึงไฟสีต่างๆ นั่นมันคืออะไรตรงนี้เป็นเรื่องของการแข่งขันจริงๆ แต่เราก็บุกไปขอรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการแข่งขัน จากทีมงานผู้จัด ซึ่งได้ข้อมูลดีๆ มาฝากกัน ดังนี้

ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม : www.facebook.com/Superturbothailand/