กระหน่ำสุดคันเร่ง Idemitsu Super Turbo 2018 ปิดฉากยิ่งใหญ่
“เสียไม่ได้” โหด มันส์ ฮา ครบรส
เรียบเรียง : อินทรภูมิ์ แสงดี
มาถึงสนามสุดท้ายแล้วครับ สำหรับศึกทางเรียบ Idemitsu Super Turbo 2018 ปิดฉากฤดูกาลด้วยความยิ่งใหญ่ หลังดวลความเร็ว 2 สนามสุดท้ายเมื่อวันเสาร์–อาทิตย์ ที่ 21-22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรียกว่าสนามนี้ตามคาดครับ “มันส์จริงอะไรจริง” คอนเฟิร์มเข้าร่วมชิงชัยกว่า 141 คัน ซึ่งสนามสุดท้ายทุกคนจัดหนักกันแบบ “เสียไม่ได้ ไม่ยอมแพ้” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ผลหลังดวล 6 สนามด้วยความเข้มข้น แชมป์รุ่นใหญ่สุด Road Master เป็นของ “เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์” จาก K-SPORT K1 RACING TEAM ขณะที่ “3 มงกุฎ เรซซิ่ง โปรเจ็ค” ฝ่ายจัดการแข่งขัน เตรียมประกาศสานต่อความยิ่งใหญ่ฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน…
JAPAN 20+
จุ๊บ จิรัฐิ จัดแชมป์ 2 สนาม
ด้านการแข่งขันในรุ่น Japan 20+ ซึ่งเป็นเวทีสำหรับรถยุค 90 ที่มีอายุรถเกิน 20 ปี เรียกว่าแก่แต่ไม่ยอมแพ้ คลาคล่ำไปด้วยเหล่า HONDA อย่าง EG และ EK และรุ่นอื่นๆ อีกมาก แชมป์รุ่น “Double cam” สนาม 5 ตกเป็นของ จิรัฐิ เศวตศิลา จาก ELF SINGHA RACING TEAM ที่ทะยานขึ้นมาจากกริดที่ 9 และค่อยๆ ไล่แซงคู่แข่ง 8 คันขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จในช่วงปลายเรซ และเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 26.511 วินาที คว้าแชมป์ เฉือนเอาชนะ อณิวัฎ ล้อมมหาดไทย จาก WAXONE RACING PROJECT ที่ตามเข้าป้ายในอันดับ 2 เพียง 1.223 วินาที เท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ชยพัทธ์ จันทเดช จาก XO AUTOSPORT STREET WEAPON RACING TEAM ตามหลังแชมป์ 33.3432 วินาที…
ขณะที่สนาม 6 ปรากฏว่าแชมป์ก็ยังตกเป็นของ “จิรัฐิ” ที่เหมาชัยส่งท้ายฤดูกาลไปครองด้วยเวลา 19 นาที 37.943 วินาที ส่วน “อณิวัฎ” ตามเข้าป้ายในอันดับ 2 ตามหลังแชมป์ 16.483 วินาที อันดับ 3 เปลี่ยนเป็น “สรรพร เชาวน์ชวานิล” จาก ELF SINGHA RACING TEAM ตามหลังแชมป์ 18.331 วินาที ซึ่งเป็นรุ่น Single cam ที่เร็วจนติด Twin Cam ได้ ตามด้วย “เอ เทคเกอร์” หรือ “วิสิฐพงศ์ ชาดา” จาก TAKER TEAM และ “ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์” จาก WAXONE RACING PROJECT ในอันดับ 4 และ 5 ตามหลังแชมป์ 20.761 วินาที และ 22.900 วินาที ตามลำดับ…
ภายหลังจบการแข่งขัน 6 สนามของฤดูกาล 2018 ปรากฏว่า “อนิวัฎ” ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดทั้ง 2 สามารถคว้าแชมป์ประจำปีในรุ่น JAPAN 20+ TWIN CAM AM+JUNIOR โดยมี “ชยพัทธ์ จันทเดช” จาก XO AUTOSPORT STREET WEAPON RACING TEAM เป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ชนะพันธุ์
ด้านแชมป์ประจำปีในรุ่น JAPAN 20+ TWIN CAM ยังคงเป็นของ อณิวัฎ ที่เหมาไปครองได้ถึง 2 โทรฟี่ ตามด้วย “หทัย ไชยวัณณ์” มือเก๋ารุ่นเดอะ และ ชยพัทธ์ ตามลำดับ…
ส่วนแชมป์ประจำปีในรุ่น JAPAN 20+ SINGLE CAM ตกเป็นของ “ชีวินทร์ ศิรินรินทร” TEAM THE CONTINENT HOTEL-GARAGE 88 ตามด้วย “วิสิฐพงศ์ ชาดา” จาก TAKER TEAM และ “ธนเทพ ภูประเสริฐศักดิ์” จาก SINGHA TT MOTORSPORT ในอันดับ 2-3 ตามลำดับ…
Super Turbo Division 4
“โต๊ด พศวัต” คว้า Double Champ ไปนอนกอด
ขยับมาดูผลการแข่งขันในรุ่น Super Turbo D4 ที่จะเป็นรถ “1200 Turbo และ 1500 NA” เรียกว่าเป็นรุ่นยอดนิยม Gen ใหม่ อย่างเหล่า Eco Car เช่น Brio, Swift หรือ พันห้าพาเพลิน อย่าง VIOS, JAZZ, CITY ประมาณนี้ มีรถเข้าร่วมแข่งขันกว่า 30 คัน กริดสตาร์ทเรซนี้มี สรรพร เชาวน์ชวานิล จาก STAR PERFORMANCE เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วย ภัทรพล กรเวช จาก WAXONE RACING PROJECT ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ธนสิทธิ์ ปัญาทรานนท์ จาก TEIN TEAM THAILAND ครับ…
ในสนาม 5 “สรรพร” ที่ออกสตาร์ทโพล กลับ “ตำ” ซะงั้น ทำให้ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย ปรากฏว่าแชมป์สนาม 5 ตกเป็นของ “ภัทรพล กรเวช” จาก WAX ONE RACING PROJECT เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 29.638 วินาที เร็วกว่า อันดับ 2 อย่าง “อั๋น ATP” หรือ “ธนสิทธิ์ ปัญญาทรานนท์” จาก TEIN TEAM THAILAND อยู่ + 3.817 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “โต๊ด IMPURE” หรือ “พศวัต เนตรอำไพ” จาก พิมลชัย มอเตอร์สปอร์ต ตามหลังแชมป์ด้วยเวลา + 14.655 วินาที ขณะที่อันดับ 4 ตกเป็นของ “เดชนภา ศรีเทพ” จาก ก้องคลีนิคยนต์ เรซซิ่งทีม ตามด้วย “ธิรุตม์ สุวรรณมาศ” จาก GS RACING TEAM คว้าอันดับ 5 ไป…
ในสนาม 6 กริดสตาร์ทเรซนี้มี “ภัทรพล กรเวช” จาก WAXONE RACING PROJECT เป็นเจ้าของตำแหน่งโพลโพซิชั่น ขนาบข้างด้วย “พศวัต เนตรอำไพ” จาก พิมลชัย มอเตอร์สปอร์ต ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “ธนสิทธิ์ ปัญญาทรานนท์” จาก TEIN TEAM THAILAND โดยผลเมื่อจบการแข่งขัน 10 รอบสนาม ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ “ภัทรพล” ที่ออกนำม้วนเดียวจบ ก่อนคว้าแชมป์ไปครองด้วยเวลา 20 นาที 12.446 วินาที เหนือเพื่อนร่วมทีมอย่าง “อัช PTS” หรือ “อัชริฌา แก้วตาสาม” ที่สนาม 5 รถมีปัญหาเรื่องเซนเซอร์หลุด ตามเข้าป้ายใน อันดับ 2 ตามหลังแชมป์ 5.401 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ธนสิทธิ์ ตามหลังแชมป์ 7.300 วินาที ขณะที่ “พศวัต” ไม่รู้คนขับหรือรถที่หมดแรง แผ่วไปช่วงกลางเรซ ก่อนร่วงไปอยู่ อันดับ 4 ด้วยเวลาตามหลังแชมป์ 23.831 วินาที ตามด้วย “ธิรุตม์ สุวรรณมาศ” จาก GS Racing Team ตามหลังแชมป์ 36.122 วินาที…
จบการแข่งขัน 6 สนามในฤดูกาล 2018 แชมป์ประจำปีในรุ่น SUPER TURBO D4 ตกเป็นของ “พศวัต เนตรอำไพ” จาก พิมลชัย มอเตอร์สปอร์ต ก็ยังดีที่รักษาไว้ได้ แถมยังได้เบิ้ลแชมป์ SUPER TURBO D4 JUNIOR ไปอีก ตามด้วย “ธนสิทธิ์ ปัญาทรานนท์” จาก TEIN TEAM THAILAND และ “สรรพร เชาวน์ชวานิล” จาก STAR PERFORMANCE ในอันดับ 2 และ 3 ส่วนรองแชมป์ประจำปีในรุ่น SUPER TURBO JUNIOR อันดับ 2 คือ ธิรุตม์ สุวรรณมาศ จาก GS Racing Team และ สรรพร เชาวน์ชวานิล จาก STAR PERFORMANCE คว้าอันดับ 3 ไปครอง…
ด้านแชมป์ประเภท “ทีม” ตกเป็นของ WAXONE RACING PROJECT จากผลงานของ อิสระ ลิ้มธเนศกุล และ อัชริฌา แก้วตาสาม ตามด้วยอันดับ 2 อย่าง TEIN TEAM THAILAND (A) จากผลงานของ ธนสิทธิ์ ปัญาทรานนท์ และ ฮิเดฮารุ คุโรกิ ส่วนอันดับ 3 เป็นของ TEIN TEAM THAILAND (B) จากผลงานของ ยศรัญ แสนสุข และ อัทธนีย์ ตั้งตรงเวชกิจ…
Super Turbo Division 1-2-3
“ณัฐสันต์” BMS คว้าแชมป์ประจำปี D1
รุ่นนี้วิ่ง “มัดรวม” ทั้ง 3 Division สนุกในการ “ปีนรุ่น” นี่แหละ สำหรับสนาม 5 โพลโพซิชั่นในเรซนี้เป็นของ “ปุ๊ก RP-II” หรือ “พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์” จาก WAXONE RACING PROJECTขนาบข้างด้วย “ณัฐวุฒิ นาคสุวรรณ” จาก วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “บอยขจร” หรือ “ขจรศักดิ์ ณ สงขลา” จอมเก๋าจาก PTT PERFORMA – V.C.MEAT – RPM – COSMIS โดยกลุ่มนำของโอเวอร์ออลเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง ชานน อัศวสังสิทธิ จาก MRA RACING TEAM ที่ทะยานจากกริดที่ 5 ขึ้นมาบดกับ ณัฐวุฒิ และ ขจรศักดิ์ ได้อย่างสุดมันส์ในช่วงแรกของการแข่งขัน…
ผลการแข่งขันโอเวอร์ออลภายหลังจบ 11 รอบสนาม ปรากฏว่า ชานน ควบรถแข่ง MITSUBISHI EVO 8 ฉีกหนีคู่แข่งได้อย่างเหนือชั้น เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 45.669 วินาที คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ไปครองได้สำเร็จ ทิ้งห่าง ณัฐวุฒิ อันดับ 2 ถึง 12.399 วินาที ด้าน ขจรศักดิ์ ควบ FORD FOCUS เข้าป้ายในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 53.345 วินาที พร้อมคว้าแชมป์ในรุ่น ดิวิชั่น 2 ไปครอง ส่วนอันดับ 4 ตกเป็นของ ภิษณุ ภูษิตานนธกูร WAXONE RACING PROJECT ตามหลังแชมป์ 53.787 วินาที ขณะที่อันดับ 5 ในสนามนี้ตกเป็นของ “เกี๊ยก” ระพี พวงสุพาง จาก STAR PERFORMANCE ควบ INTEGRA DC2 ตามหลังแชมป์ 59.769 วินาที…
สำหรับสนาม 6 โพลโพซิชั่นในเรซนี้เป็นของ ชานน อัศวสังสิทธิ จาก MRA RACING TEAM ขนาบข้างด้วย ระพี พวงสุพาง จาก STAR PERFORMANCE ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ณัฐวุฒิ นาคสุวรรณ จาก วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต โดยแชมป์ตกเป็นของนักขับเจ้าถิ่นอย่าง ณัฐวุฒิ นาคสุวรรณ จาก วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 21 นาที 7.809 วินาที ได้ฉลองชัยชนะส่งท้ายในบ้านเกิด ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง ชานน ถึง 4.790 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ระพี ตามหลังแชมป์ 9.560 วินาที ขณะที่อันดับ 4 ตกเป็นของ พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ จาก WAXONE RACING PROJECT ตามหลังแชมป์ 18.483 วินาที โดยเฉือนอันดับ 5 อย่าง ขจรศักดิ์ ณ สงขลา จาก PTT PERFORMA – V.C.MEAT – RPM – COSMIS เพี้ยงเสี้ยววินาทีเท่านั้น…
เมื่อจบการแข่งขัน 6 สนามในฤดูกาล 2018 แชมป์ประจำปีในรุ่น Super Turbo D1 ตกเป็นของ ณัฐสันต์ อัศวเสวี จาก BMS-KRITOIL-SANON อู่ข้าวอู่น้ำ RACING TEAM ตามด้วย ณัฐวุฒิ นาคสุวรรณ จาก วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต และ ชานน อัศวสังสิทธิ จาก MRA RACING TEAM ในอันดับ 2-3
ส่วนแชมป์ประจำปีในรุ่น Super Turbo D2 เป็นของ ชยุส ยังพิชิต จาก SINGHA TT MOTORSPORT ควบ SILVIA S13 ขุมพลัง SR16VE Turbo ตามด้วย พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ จาก WAXONE RACING PROJECT และ ขจรศักดิ์ ณ สงขลา จาก PTT PERFORMA – V.C.MEAT – RPM – COSMIS ในอันดับ 2 และ 3
ด้านแชมป์ประจำปีในรุ่น SUPER TURBO D2 AM+JUNIOR ตกเป็นของ พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ จาก WAXONE RACING PROJECT ตามด้วย นาวิน รัตตเสรี และ กวิน เลากัยกุล ควบ ALTEZZA เครื่องยนต์ข้ามพันธุ์ HONDA F20C จาก SIRIBOON POWER SPORT ในอันดับ 2-3
สำหรับแชมป์ประจำปีในรุ่น SUPER TURBO D3 เป็นของ อวิโรธน์ ศิรินทร์วรชัย จาก WAXONE RACING PROJECT ตามด้วย หทัย ไชยวัณณ์ จาก ELF SINGHA RACING TEAM และ ธีระศักดิ์ ศักดิ์แพทย์ จาก MENG HEADDER จ๊ะเอ๋ ยางจ๊าปโคราช TUNED BY EAK 115 POWER HAUS
รวมถึงในรุ่น SUPER TURBO D3 AM+JUNIOR แชมป์เป็นของ อวิโรธน์ ศิรินทร์วรชัย จาก WAXONE RACING PROJECT ตามด้วย มาวิน บุญอิต จาก STAR PERFORMANCE และ ธีระศักดิ์ ศักดิ์แพทย์ จาก MENG HEADDER จ๊ะเอ๋ ยางจ๊าปโคราช TUNED BY EAK 115 POWER HAUS ในอันดับ 2-3
Road Master
“เตชิษฐ์” คว้าแชมป์รุ่นใหญ่
รุ่นไฮไลต์สุดยอดความมันส์อย่าง Road Master ที่เป็นการรวมรถสปอร์ตหลากหลายรุ่น ทั้งยุค 90 อย่าง EVOLUTION, IMPREZA, FAIRLADY Z, SKYLINE, SUPRA etc. ไปจนถึงยุคใหม่อย่าง SEAT LEON ตัวแข่ง TCR ก็สามารถร่วมมันส์ได้เช่นเดียวกัน โดยกริดสตาร์ทเรซนี้มี “เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์” จาก K-SPORT K1 RACING TEAM ภายใต้รถแข่ง MITSUBISHI EVO VI เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วยตัวเก็งอย่าง “วีระกาจ ดอกจันทร์” ในรถแข่ง MITSUBISHI EVO 9 จาก WORLD PUMPS RACING TEAM ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “ซิดนีย์” เดวิช อยู่เป็นสุข จาก BRP & TROOP SERVICE
เกมในเรซนี้เป็น เดวิช ที่ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ค่อยๆ ไล่แซงคู่แข่งขึ้นไปขยี้กับกลุ่มหัวแถว ก่อนจะทำเวลาต่อรอบได้เร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหนีคู่แข่งออกไปตลอดในทุกๆ รอบของการแข่งขัน จนขึ้นนำได้สำเร็จ จบเกม 11 รอบสนาม นำโด่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 55.976 วินาที คว้าแชมป์ในเรซนี้ไปครองแบบหายห่วง ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง เตชิษฐ์ ถึง 9.361 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “อาหง TS” เฉิน เจี้ยน หง นักขับชาวไต้หวันจาก H.DRIVE RACING TEAM ตามหลังแชมป์ 21.560 วินาที แบบประคองเน้นจบรถสวย ขณะที่อันดับ 4 ตกเป็นของ วีระพาจ ที่เริ่มสะดุดแผ่วไปในช่วงกลางเรซ ก่อนเข้าเส้นชัยด้วยเวลาตามหลังแชมป์ 30.099 วินาที ตามด้วยชายหน้าหวานอย่าง “ใหม่ P&C” หรือ “ชัยวัฒก์ ปัณฑยางกูร จาก HONDA BANMAI CARRYBOY P & C GARAGE ควบ “ก๊อตซิลล่า” หรือ SKYLINE R32 GT-R ในอันดับ 5 ตามหลังแชมป์ 31.286 วินาที ส่วน “ปิ๊ด หมูสู้มีด” นักขับประจำทีม LEO FRESH MSM ควบ R33 (เอื้ออาทร) สนามนี้ก็พยายามสุดๆ หลุดโพเดียมไปหน่อยเดียว ได้อันดับ 6 รุ่น 3.2 AM+ JUNIOR ก็ยังดีที่จบการแข่งขันแบบสบายๆ…
ในสนาม 6 โดยกริดสตาร์ทเรซนี้มี เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ จาก K-SPORT K1 RACING TEAM ภายใต้รถแข่ง MITSUBISHI EVO VI เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วย ชัยวัฒก์ ปัณฑยางกูร จาก HONDA BANMAI CARRYBOY P & C GARAGE และ ณัฐภัทร บุญยัง จาก BMS-KRITOIL-SANON RACING TEAM ในกริดที่ 2-3
ผลการแข่งขันเรซนี้ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ วีรกาจ ดอนจันทร์ จาก WORLD PUMPS RACING TEAM ที่ทะยานขึ้นมาจากกริดที่ 6 ขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จ ก่อนเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 57.159 วินาที คว้าชัยชนะส่งท้ายปีได้สำเร็จ โดยมี เตชิษฐ์ ตามเข้าป้ายเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลาตามหลัง 5.211 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ชัยวัฒก์ ตามหลังแชมป์ 10.155 วินาที ตามด้วย ณัฐภัทร บุญยัง จาก BMS-KRITOIL-SANON RACING TEAM และ เดวิช อยู่เป็นสุข แชมป์สนาม 5 จาก BRP & TROOP SERVICE ในอันดับ 4 และ 5 ตามหลังแชมป์ 15.734 วินาที และ 33.204 วินาที ตามลำดับ…
สำหรับแชมป์ประจำปีในศึก Road Master Turbo รุ่น ROAD MASTER 3.2 AM+JUNIOR ตกเป็นของ เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ จาก K-SPORT K1 RACING TEAM ตามด้วย วีรกาจ ดอกจันทร์ จาก WORLD PUMPS RACING TEAM และ ณัฐภัทร บุญยัง จาก BMS-KRITOIL-SANON RACING TEAM ในอันดับ 2-3 ขณะที่แชมป์ประจำปีในรุ่น ROAD MASTER 2.2 AM+JUNIOR ตกเป็นของ เฉิน เจี้ยน หง จาก H.DRIVE RACING TEAM ตามด้วย คัมภีร์ ธรรมธาราณา ควบ RX-7 HURRICANE จาก 3M P&C GARAGE และ สมชาย วิจิตร์ จาก รถบ้านชลบุรี ในอันดับ 2-3 ตามลำดับ…
Pick Up Turbo
“เบสต์ เทอร์โบยำ” คว้าแชมป์ตามถนัด
สำหรับขวัญใจมหาชนสาย “กระบะ” ที่วิ่งปิดท้ายรายการ แต่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะยังคงความมันส์ไม่แพ้รุ่นอื่นๆ เลย ในสนาม 5 กริดสตาร์ทในเรซนี้มี “เดอะเบสต์ เทอร์โบยำ” หรือ “ธณพล ชูเจริญผล” จาก เบสต์ เทอร์โบ ยำ เป็นเจ้าของโพลโพซิชั่น ขนาบข้างด้วย ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ ที่ลงแข่งขันในนามทีมอิสระ ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ เอกลักษณ์ นาคเกิด จาก เบิร์ดหลักห้า ผู้ใหญ่ไก่ บุญยางชลบุรี
ในช่วงแรก ก็เป็นไปตามคาด เบสต์ ออกสตาร์ทด้วยการขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาแล้ว 4 แชมป์ แต่มีเสียวเพราะว่ารถมีปัญหา ทำให้ “ร่วง” ลงมา เลยโดน เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก TUNE BY AOT ที่ขึ้นนำ เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 58.606 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง ศุภชัย คงมั่น จาก ต้น คอมมอลเรล YBL OIL ถึง 21.713 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ ชัยณรงค์ ชัยวัฒนกุลวานิช จาก ECU ใหม่รอบโลก ตามหลังแชมป์ 23.048 วินาที ด้าน เบสต์ เทอร์โบยำ ร่วงลงมาจบการแข่งขันในอันดับ 4 ตามหลังแชมป์ 53.782 วินาที และ กัมปนาท แก้วถังเมือง จาก เดอะกั๊มคอนโดชลบุรี ในอันดับ 5 ตามหลังแชมป์ 59.781 วินาที
ส่วนในสนามที่ 6 ปิดวิกการแข่งขัน Super Turbo งานนี้ “ไม่ยอม” แน่ๆ กริดสตาร์ทในเรซนี้มี เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก TUNE BY AOT เป็นเจ้าของโพลโพซิชั่น ขนาบข้างด้วย สมร มะปะเข จาก GT RESEDENCE ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ศุภชัย คงมั่น จาก ต้น คอมมอลเรล YBL OIL
สนามนี้ แชมเปี้ยนชิพอย่าง ธณพล ชูเจริญผล จาก เบสต์ เทอร์โบ ยำ ต้องทำงานหนักหน่อย เพราะต้องออกสตาร์ทจากกริดที่ 6 แล้วไล่ขยี้ขึ้นมา แต่ยังไว้ลายแชมป์ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว และเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 44.502 วินาที คว้าแชมป์สนามสุดท้ายไปครอง ส่วนอันดับ 2 เป็นของ เอกสิทธิ์ ตามหลังแชมป์ 14.488 วินาที ตามด้วย ศุภชัย ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์กว่า 80 วินาที ขณะที่จอมเก๋าอย่าง “เล้ง มังกรไฟ” จรัส แจ้งกมลกุลชัย จาก YSS RACING SHOCK-PTT-LENSO รถแข่งมีปัญหาในรอบสุดท้าย มีควันท่วมออกจากท้าย (สงสัยเทอร์โบลากลับบ้าน) แต่ยังสามารถนำเข้าป้ายในอันดับ 4 ได้สำเร็จ ตามหลังแชมป์ ร่วม 2 นาที ส่วนอันดับ 5 เป็นของ สมร มะปะเข จาก GT RESEDENCE
จบการแข่งขัน 6 สนามของปี 2018 แชมป์ประจำปีในรุ่น PICKUP TURBO ตกเป็นของ ธณพล ชูเจริญผล จาก เบสต์ เทอร์โบ ยำ ตามด้วย ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ และ เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก TUNE BY AOT ในอันดับ 2-3 โดยนอกจากนี้ ธณพล ยังสามารถครองแชมป์ประจำปีในรุ่น PICKUP TURBO AM มาครองได้อีกรุ่น โดยมี ชัยณรงค์ ชัยวัฒนกุลวานิช จาก ECU ใหม่รอบโลก เป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ “เสือเพิก” เพิก เลิศวังพง จาก พรรคยางพาราไทย
ด้านแชมป์ประจำปีในรุ่น PICKUP TURBO JUNIOR ตกเป็นของ ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ โดยมี เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก TUNE BY AOT และ ศุภชัย คงมั่น จาก ต้น คอมมอลเรล YBL OIL ในอันดับ 2-3
ถือว่าเป็นการปิดฤดูกาลอย่างสมบูรณ์แบบ กับรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Idemitsu Super Turbo Thailand แน่นอนว่า หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2018 ในปีหน้า บริษัท 3 มงกุฎ เรซซิ่ง โปรเจ็ค จำกัด ฝ่ายจัดการแข่งขันประกาศสานต่อความยิ่งใหญ่ฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน เรียกว่า “มีแข่งแน่นอน” โดยจะเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการในภายหลัง แฟนๆ สายเซอร์กิต สามารถติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของการแข่งขันรายการได้ที่ https://www.superturbothailand.com และ https://www.facebook.com/Superturbothailand