เปิดศึก IDEMITSU SUPER TURBO THAILAND 2018 “Round 1-2”

รวมพลคนสายเลี้ยวประลองยุทธสนามพีระฯ กว่า 130 คัน !!!

เรียบเรียง : อินทรภูมิ์ แสงดี

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการอิเดมิตสึ ซูเปอร์ เทอร์โบ ไทยแลนด์ดวลความเร็วนัดเปิดฤดูกาล 2018 ที่ พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) เรียกว่าเปิดฤดูกาลได้อย่างสวยสดงดงาม ด้วยรถเข้าร่วมแข่งขันกว่า 130 คัน !!! เนื่องจากเป็นการแข่งขันในรูปแบบที่รถทั่วๆ ไป รวมถึงรถสปอร์ตหรือรถซิ่งยุค 90 ที่คนส่วนใหญ่เอื้อมถึงสามารถนำมาโมดิฟายเพื่อการแข่งขันได้ เรียกว่าวัดฝีมือทั้งช่าง ตัวรถ นักแข่ง ต่างคนก็ต่างงัดฝีมือมาปะทะกันแบบแมนๆในสนาม ตามกติกา การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้น 2 Race เรียกว่าสองวันห้ำหั่นกันสุดๆ เพราะแต่ละคนก็มีฝีมือและความแรงที่ใกล้เคียงกัน ลุ้นกันมันส์หยดทุกโค้ง

JAPAN 20+

รุ่นนี้เป็นรถที่ลุ้นมันส์ที่สุด เพราะเป็นรถที่ต้องผลิตก่อนปี 1997 เท่านั้นโดยต้องติดเรตอายุ 20 ปี ขึ้นไป เป็นรถที่พวกเราสัมผัสกันได้ง่ายที่สุด ในสนามก็จะมีเหล่า HONDA CIVIC EG-EK เป็นส่วนมากร่วมกันขยี้ เรียกว่าไล่บี้กันใกล้เคียงมาก ลุ้นกันตลอดเวลาการแข่งขันจริงๆ

Race 1

เปิดหัวด้วยรถเบอร์ #46 โดยนักขับสุดเก๋าหทัย ไชยวัณณ์ออกสตาร์ทจากโพลโพสิชั่น และสามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้หลังได้สัญญาณเริ่มเกม ลอยลำนำเดี่ยว ก่อนจะควบรถแข่ง HONDA CIVIC รับธงตราหมากรุกเป็นคันแรกหลังผ่าน 12 รอบสนามด้วยเวลารวม 14:40.238 นาที ตามเข้าเส้นชัยด้วย #44 “จุ๊บจิรัฐิ เศวตศิลา และ #98 ชินวิช รมยานนท์ ในอันดับ 2 และ 3 ส่วนอันดับ 4 ได้แก่ #79 กนล ไชยกุลงามดี และ #6 ชยพัทธ์ จันทเดช ในอันดับ 5 รุ่น YTWIN CAM ส่วนรุ่น SINGLE CAM แชมป์เป็นของ  #31 สรรพร เชาวน์ชวานิล สังกัด ELF SINGHA RACING TEAM ลอยลำตามความคาดหมาย

Race 2

วันนี้ทั้งในคลาส TWIN CAM และ SINGLE CAM พร้อมจำนวนรถแข่งทั้งสิ้น 16 คัน ก่อนจะลงเอยด้วยตำแหน่งแชมป์โอเวอร์ออลและ TWIN CAM ของ #46 หทัย ไชยวัณณ์ ที่ไล่หนีและแซง #20 ชีวินทร์ ศิรินรินทร ในรุ่น SINGLE CAM ในช่วงท้ายการแข่งขัน บอกตรงๆ ว่าคู่นี้บี้กันตลอดหทัยอาศัยลูกเก๋าชีวินทร์อาศัยลูกสดรถแรง แม้จะเป็นแคมเดี่ยวแต่ก็เสียบแซงแทงแคมคู่ตลอดการแข่งขัน เรียกว่าขึ้นนำได้บ่อยครั้ง แต่แพ้ความเก๋าของ หทัย เฉือนเอาช่วงท้ายๆ เข้ารับธงตราหมากรุกเป็นคันแรกด้วยเวลา 14:47.981 นาที เฉือน #20 ชีวินทร์ ศิรินรินทร ที่ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 เพียง 0.507 วินาที และจากผลการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้ #20 ชีวินทร์ ศิรินรินทร ซิวชัยคลาส SINGLE CAM ไปครอง ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ #77 วิสิฐพงศ์ ชาดา และตามมาด้วย #22 ธนเทพ พู่ประเสริฐศักดิ์ ในอันดับ 3…

SUPER TURBO Division 4 (D4)

สำหรับรุ่น Division 4 หรือ D4 นั้น จะเปิดให้รถยนต์แบบไม่จำกัดอายุ จะเก่า จะใหม่ แข่งกันได้หมดถ้ามีใจ แต่ให้เครื่องยนต์ความจุ 1,550 ซีซี. ห้ามระบบอัดอากาศ และเครื่องยนต์ 1,250 ซีซี. บังคับมีเทอร์โบ รุ่นนี้รถเต็มแทร็คถึง 30 คัน เรียกว่าสตาร์ทคันสุดท้ายก็โค้งก่อนทางตรงพอดี ก็ขับเคี่ยวกันมันส์หยดทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่   

Race 1

ท่ามกลางรถแข่งถึง 30 คัน ที่เข้าประจำกริดสตาร์ทในเรซแรกของฤดูกาล ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวระหว่างสายเชี่ยวคือ  #422 โอ๋ อานนท์ รอดประเสริฐ และ #458 เบิร์ด อลงกรณ์ ยั่งยืน ที่ไล่ขยี้กันอย่างสุดมันส์ ก่อนที่ #422 อานนท์ จะจัดการคว้าแชมป์แรกของฤดูกาลไปครองในท้ายที่สุด ด้วยเวลารวม 18:27.563 นาที เฉือน #458 อลงกรณ์ เพียงเสี้ยววินาที ฝีมือเผลอกันไม่ได้จริงๆ

ขณะที่ตำแหน่งแชมป์คลาส JUNIOR ตกเป็นของ #466 อัชริฌา แก้วตาสาม แห่ง PTS พูนทองเซอร์วิส ที่นอกจากจะขับ Drag แล้วยังมาขับเซอร์กิตอีกด้วย ตามด้วย #468 พศวัต เนตรอำไพ และ #451 ปพน จรรยาศักดิ์ ในอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ด้าน #434 แพรวพรรณ ธรรมลาภา นักขับสาวตามขึ้นโพเดียมอันดับ 4 ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ #496 อัคคณิต อุปมัย

Race 2

วันนี้ย้ายมาแข่งต่อจากรุ่น ROAD MASTER แต่ความมันส์ในรุ่นเล็กก็ยังมีครบถ้วน รถแข่งก็ยังคงเต็มแทร็คเหมือนเดิม หวดกันสูสีๆ ตั้งแต่หัวแถวโอ๋ อานนท์กับเบิร์ด อลงกรณ์ยันกลางแถว วิ่งครบ 15 รอบ แชมป์โอเวอร์ออล D4 ตกเป็นของ #422 อานนท์ รอดประเสริฐ ที่เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 18:13.085 นาที เป็นไปตามคาดเพราะนำโด่งมาตลอด เรียกว่าเอาอันดับ 1 ไปครองทั้ง 2 Race ส่วนอันดับ 2 มีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่นักขับหน้าฝรั่ง แต่เป็นสัญชาติไทย อย่าง #443 วิคเตอร์ คอนราด สปลิด เจนเซน สังกัด TR MOTORSPORT แล้วก็ยังได้แชมป์ D4 JUNIOR ด้วยเช่นกัน

SUPER TURBO Division 1-2-3 (D 1-2-3)

วิ่งรวมกันเลยสำหรับ 3 ดิวิชั่นนี้ ในรุ่น D1 ก็จะเป็นเครื่องยนต์ 2,550 ซีซี. ห้ามระบบอัดอากาศ และเครื่องยนต์ 2,050 ซีซี. มีเทอร์โบ ส่วน D2 ก็จะเป็นเครื่องยนต์ 2,050 ซีซี. ห้ามระบบอัดอากาศ และเครื่องยนต์ 1,650 ซีซี. มีเทอร์โบ ส่วน D3 ก็จะเป็นเครื่องยนต์ 1,850 ซีซี. ห้ามระบบอัดอากาศ และเครื่องยนต์ 1,550 ซีซี. มีเทอร์โบ ก็แบ่งโดยหลักดังนี้ ซึ่งดีอย่างว่ารถในคลาสนี้จะมีความหลากหลายมาก ทำให้ทีมแข่งมีโอกาสได้ใช้รถที่ตัวเองถนัดมาโมดิฟายเพื่อแข่งขัน เป็นรุ่นที่อาจจะดูมึนๆ เกาเหลาๆ หน่อยเพราะวิ่งรวมกันโดยหลักก็ดูที่เครื่องยนต์แต่ถ้าเข้าใจแล้วก็จะสนุกกับเกมการแข่งขัน

Race 1 

เข้าสู่บรรยากาศของการแข่งขัน การชิงชัยก็เป็นไปอย่างเข้มข้น ต่างคนต่างแทงต่างบี้เพื่อที่จะชิงตำแหน่ง ก็ไม่แน่ว่ารถในดิวิชั่นสูงกว่าอาจจะโดนดิวิชั่นต่ำกว่าแทงเอาได้ เพราะอย่าลืมว่ามีรางวัล Over All อีก หลังผ่านช่วงกลางของการแข่งขัน ก็เริ่มจะเห็นแววแชมป์ คือ #139 ชานน อัศวสังสิทธิ เริ่มทิ้งห่างคู่แข่งไปเรื่อยๆ ก่อนจะคว้าแชมป์ในเรซนี้ไปครอง และเบิ้ลแชมป์คลาส D1 ไปครองอีก 1 ถ้วยรางวัลด้วยเช่นกัน ตามเข้ามาด้วย #177 ณัฐสันต์ อัศวเสวี และ #204 “บอยขจรศักดิ์ สงขลา ในอันดับ 2 และได้แชมป์ในคลาส D2 และ 3 รวมถึง #220 “ปุ๊ก RP II พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ มาในอันดับ 4 และอันดับ 5  #314 อวิโรธน์ ศิรินทร์วรชัย ได้แชมป์คลาส D3 ไปครอง

Race 2

ในเรซ 2 ก็ยังคงความดุเดือดเช่นเคย เพราะส่วนใหญ่ก็ทิ้งไพ่ในเรซนี้เพราะต่างคนต่างต้องการคว้าอันดับกันทั้งสิ้น เพื่อไล่อันดับจัดแถวทำดัมมี่กริด เพื่อรอจังหวะออกตัวในรูปแบบโรลลิ่งสตาร์ทเช่นกันในเกมเรซที่ 2 ของฤดูกาล เกมในเรซ 2 นี้ สิ้นสุดลงด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ #139 ชานน อัศวสังสิทธิ สังกัด MRA RACING TEAM ที่ควบ MITSUBISHI EVO 8 คว้าถ้วยโอเวอร์ออลและ D1 ไปครองด้วยเวลา 19:52.452 นาที เรียกว่าคว้าแชมป์ทั้ง 2 เรซ ไปนอนกอด ทิ้งห่าง #219 “เทิร์กชยุส ยังพิชิต และ #220 “ปุ๊กพิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ ที่ตามเข้าเส้นชัยอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ขณะที่แชมป์โอเวอร์ออลคลาส D2 ตกเป็นของ #219 ชยุส ยังพิชิต ด้าน #346 หทัย ไชยวัณณ์ ลงหวดรุ่น D3 อีกรุ่น ก็ยังไว้ลาย คว้าถ้วยแชมป์โอเวอร์ออลคลาส D3 ไปครอง

ROAD MASTER TURBO

มาถึงรุ่นสุดยอดกันแล้วครับ สำหรับคอรถสปอร์ตในฝันยุค 90 ทั้งหลาย หรือจะก่อนนั้นก็ได้เพราะไม่จำกัดอายุของรถหรือจะเก๋ง จะสปอร์ต จะอะไรก็ได้ทั้ง 2WD และ 4WD (ต่างกันที่น้ำหนัก) โดยจะแบ่งเป็น Division 1 รุ่นใหญ่สุด  ความจุเครื่องให้ถึง 3,200 ซีซี. หรือเครื่องยนต์ 3 โรเตอร์ มีเทอร์โบ ส่วน Division 2 ความจุเครื่องให้อยู่ที่ 2,200 ซีซี. หรือเครื่องยนต์ 2 โรเตอร์ มีเทอร์โบ ทำให้รุ่นนี้มีการห้ำหั่นกันสุดๆ ในรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันในอดีต แต่ความมันส์ยังอยู่ในปัจจุบันอย่างครบถ้วน

Race 1

หลังจากที่มีการ Rolling Start เรียงคิวกันเข้ามาตามลำดับการควอลิฟาย เมื่อสัญญาณไฟแดงดับลง เสียงเครื่องเทอร์โบสุดแรงคำราม พร้อมเสียงเวสต์เกตแยกแผดดังในจังหวะออกสตาร์ท ซึ่งนักแข่งต่างชิงจังหวะมุดเพื่อขยับอันดับขึ้นไปอยู่ในกุล่มหัวแถว และเป็นทางด้าน #29 เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ ที่ทะยาน EVOLUTION ขึ้นไปเป็นผู้นำ ตามด้วย #58 เฉิน เจี้ยน หงส์ ควบ SEAT LEON ขยี้ตามมา และ #7 วีระกาจ ดอกจันทร์ ในอันดับ 3 หลังผ่านครึ่งทาง บรรดานักแข่งเริ่มทยอยเข้าพิทตามกติกา ทว่าในกลุ่มหัวแถวยังคงไล่บี้กันอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะตัดสินใจนำรถเข้าพิทขณะเหลือการแข่งขัน 3 รอบสนาม ท้ายที่สุดเป็นทางด้าน #29 เตชิษฐ์ ที่เร่งเครื่องไล่เก็บรอบที่หายไป ก่อนจะจัดการคว้าแชมป์โอเวอร์ออล และคลาส 3.2 ไปครอง ขณะที่ #58 เฉิน เจี้ยน หงส์ คว้าแชมป์คลาส 2.2 ไปครอง

Race 2

หลังจากที่ได้เสริฟความสนุกให้กับผู้ชมในเรซก่อนหน้านี้ ภายใต้กติกาการแข่งขันใหม่ ที่ช่วยเติมสีสันทั้งยังส่งผลต่อการแข่งขันด้วยเช่นกัน ออกสตาร์ทเรซ 2 ทุกคันทุกรุ่น แย่งชิงตำแหน่งหัวขบวนหลังผ่านโค้งสุดทางตรงเช่นเดิม ทว่าแผนการเข้าพิทนั้นแตกต่างไปจากเรซแรก โดยหลายทีมชิงจังหวะเข้าพิทที่บังคับใช้เวลา 2 นาที ตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะออกมาไล่ตามเก็บรอบที่หายไปกับเวลาในช่วง 2 นาทีภายในพิท รวมถึงการเข้าพิทในช่วงกลางและท้ายเกมก็มีให้เห็นอยู่บ้าง แล้วแต่การวางแผนของแต่ละทีม… 

ผลการแข่งขันหลังผ่าน 17 รอบสนาม แชมป์โอเวอร์ออล และคลาส 3.2 ตกเป็นของ #29 เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ สังกัด K-SPORT K1 RACING TEAM ที่บดเอาชนะคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง #58 เฉิน เจี้ยน หงส์ ที่ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 แล้วยังได้ส่วนถ้วยรางวัลแชมป์ 2.2 ไปครองอีกหนึ่งรางวัล

PICKUP TURBO

สุดยอดขวัญใจมหาชน กับสายกระบะดีเซลคอมมอนเรลทางเลี้ยว ซึ่งเป็นรุ่นปิดท้ายความมันส์ เพราะกระบะพื้นฐานจะเข้าโค้งเร็วสู้รถเก๋งไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ดี  ซึ่งก็ต้องใช้เทคนิคทั้งการเซ็ตรถและคนขับที่ต้องคุ้นเคยกับรถเพราะมันจะตูดออกต้องเลี้ยงรถเป็น ก็เรียกว่าแต่ละคันไม่มีใครด้อยกว่าใคร แต่ว่าใครพร้อมที่สุด แม่นที่สุด ก็จะได้ยืนหัวแถวเท่านั้นเอง

Race 1

ปิดท้ายสนามด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของ #15 “เดอะเบสท์ เทอร์โบยำธนพล ชูเจริญผล เสือเตี้ยที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันในวงการ Drag Diesel แต่จริงๆ แล้ว เบสท์ ขับรถเซอร์กิตมาตั้งแต่เด็ก งานนี้ยังคงทำฟอร์มเจ๋ง ที่ขึ้นเป็นผู้นำในรอบแรกของการแข่งขัน หลังจากนั้นสามารถทำเวลาต่อรอบได้เหนือคู่แข่ง และเริ่มทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ เรียกว่าลอยลำแน่นอน ขณะที่กลุ่มหลัง กลับมีความเข้มข้นมาก เพราะผู้นำเป็นการแย่งอันดับระหว่าง #99 เอกลักษณ์ นาคเกิด, #23 ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ และ #77 ชัยณรงค์ ชัยวัฒนกุลวานิช ท้ายที่สุดแชมป์โอเวอร์ออล และ AM ตกเป็นของ #15 ธนพล ที่คว้าชัยแบบไม่ยากเย็น ตามด้วย #23 ชินวุฒิ และ #77 ชัยณรงค์ ในอันดับ 2 และ 3 ขณะที่  #99 เอกลักษณ์ มีแชมป์คลาส PRO ติดมือ ด้าน #23 ชินวุฒิ ผงาดคว้าชัยคลาส JUNIOR…

Race 2

เป็นการปิดวิกส่งท้าย Round 1 สนามนี้ แม้ว่าจะเป็นเรซที่สอง ก็ยิ่งคุกรุ่นด้วยความร้อนแรงของการแข่งขัน ที่ไล่บดกันอย่างสุดมันส์มาตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ในช่วงบ่าย ที่ พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แทร็กระดับตำนานของเมืองไทย และแชมป์ในเรซนี้ ยังคงเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ #15 ธณพล ชูเจริญผล เจ้าเก่า ที่ฉีกหนีคู่แข่ง ก่อนจะจัดการเบิ้ลแชมป์โอเวอร์ออล และ คลาส AM ไปครอง ส่วนแชมป์คลาส PRO ตกเป็นของ #99 เอกลักษณ์ นาคเกิด ด้าน #23 ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ คว้าชัยคลาส JUNIOR เป็นอันเสร็จสิ้นการแข่งขัน

จบกันไปอย่างเมามันส์ สำหรับการแข่งขัน SUPER TURBO THAILAND 2018 Round 1-2 สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ท่ามกลางความดุเดือดของการแข่งขันครบทุกรุ่น สนามต่อไป Round 3-4 วันที่ 26-27 .. 2561 ย้ายวิกกันไป สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ แล้วเจอกันครับ