“JING-TED” 200 (15) SX TWIN DRIFT

 

เรื่อง สราวุธ จีนไชยะ / ภาพ ทวีวัฒน์ วิลารูป / XO Magazine Issue 149 – April 2009

เห็นรถ 2 คันนี้ถึงกับไปต่อไม่เป็นรถบ้าอะไร เหมือนกันซะขนาดนี้สงสัยเจ้าของเจ้า 2 คันนี้จะมีดีกรีติสต์สูงระดับขั้นเทพ แต่เมื่อสืบไปสืบมา เจ้าของรถกลับเป็นคนคุ้นเคยจิงและเท็ดเคยผ่านการนำรถมาลงนิตยสารของเรามาแล้วทั้ง 2 คน และก็เป็นเรื่องที่บังเอิญรึเปล่าที่เจ้าของรถทั้ง 2 คนนี้ เมื่อมาเจอกันจึงได้รู้ว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันในสมัยเรียนที่ต่างประเทศโลกเรานี่มันกล้มกลม

มาว่าถึงความเป็นมาของแฝด 200 (15) คู่นี้กันบ้างดีกว่า สำหรับที่มาของแฝดคู่นี้ก็เกิดขึ้น สนาม BRC แหล่งรวมรถดริฟต์ที่ประจำของขาดริฟต์ในกรุงเทพฯ สนามนี้มีรถมาซ้อมฝึกฝีมือกันเป็นประจำ และการเจอกันของคู่นี้ก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง ในขณะที่นายจิงเอารถเข้าไปซ้อมในสนาม BRC แล้วเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ซึ่งช่วงนั้น นายเท็ดก็เอารถเข้าไปซ้อมแล้วเจอเข้าพอดี และได้เข้าไปช่วยเหลือตามนิสัยคนไทยใจดี พอเห็นหน้ากันก็ถึงบางอ้อ ว่าคนที่เข้ามาช่วยเป็นรุ่นน้องสมัยเรียน หลังจากนั้นก็เป็นคู่เกลอเอารถมาซ้อมด้วยกันประจำ จนในที่สุดอารมณ์ติสต์บังเกิด อยากทำรถเป็นแฝดขึ้นมาซะอย่างงั้น ทั้งสองจึงจูงมือกันส่งรถเข้าอู่  Impression ที่เป็นอู่ประจำของนายเท็ดปั้นรถออกมาในคอนเซ็ปต์ที่ต้องการ

Exterior : S15 x 2

มุมนี้มองเผินๆ S15 ฝาแฝด แต่มันยังมีจุดแตกต่างอีกนิดหน่อยตรงกันชน แต่อีกไม่นานมันจะเหมือนกันแบบแยกไม่ออก คงต้องรออีกสักพัก เพราะตอนนี้นายปืน  Akana” กำลังคลอดคานาร์ดให้อยู่ สำหรับชุดแต่งของรถคันนี้ ดูจากมุมหน้าตรงจะเห็นชัดถึงชุดโป่งที่ค่อนข้างอลังการ งานนี้ชุดโป่งทั้งหมดเป็นผลงานการออกแบบตามจินตนาการของจิงออกแบบโป่งด้วยตัวเอง จากนั้นก็ให้ทาง  Impression สร้างสรรค์ผลงานออกมาประกบกับชุดพาร์ทของ VERTEX ซึ่งประกอบไปด้วย กันชนหน้า, ลิ้นหน้า, สเกิร์ตข้างซ้ายขวา และกันชนหลัง ซึ่งดูแล้วสอดรับกันอย่างเหมาะเจาะ เข้าเป้า ตรงประเด็นของจิงเท็ด

สำหรับเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นด้วยสายตาแล้ว หลักๆ ทั้ง 2 คันนี้เหมือนกันทุกอย่าง แตกต่างกันแค่จุดที่มองด้วยแต่เปล่า หรือถ้าไม่สังเกตก็อาจจะไม่รู้ว่าต่างกัน เพราะจุดหลักๆ ที่คนจะสังเกตนั้น เค้าทำเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็น สีรถ, ชุดพาร์ท, ล้อที่ใช้ก็ยังเป็น Nismo ขนาดเดียวกัน หรือแม้กระทั่งสติกเกอร์ก็ยังคาดลายเหมือนกัน แต่เมื่อเข้าไปพินิจกันใกล้ๆ ก็จะได้สัมผัสถึงความแตกต่าง เริ่มกันที่กันชนหน้า ของจิงตอนนี้ยังไม่มีคานาร์ด ขยับมาก็เป็นหูลาก ที่จิงยังไม่มี แต่ในอนาคตทั้ง 2 จุดนี้มีแน่ๆ  ข้อแตกต่างจุดต่อมา ชุดเบรก (อันนี้ไม่สังเกตก็ไม่รู้) ของจิงเป็น Brembo รุ่น 4 pot รุ่นใหม่ ของเท็ดเป็น Brembo เหมือนกัน แต่ยังปั๊มโลโกเป็น NISSAN เมื่อมามองในมุมหันท้ายตรงๆ  ชุดไฟท้ายของจิงจะออกแนว  Millennium ยกชุด ส่วนของเท็ดตรงชุดกลางไฟท้ายยังใช้แผงของ  Silvia S13 ส่วนหางหลังนั้นก็เป็นทรง GT เหมือนกันเป๊ะ ทั้งแบบและความสูง

Interior Design : Race only

ถึงเวลาชำแหละภายในทั้ง 2 คันนี้ เมื่อจิงเท็ดตกลงปลงใจว่าจะทำรถดริฟต์เหมือนกัน จึงตัดสินใจส่งรถเข้าปิ้งเหมือนไก่ ปรับปรุงโครงสร้างตัวถังใหม่ให้มีความแข็งแรงเกิน 100% ทาง  Impression จัดการรีดน้ำหนัก ขูดสีโป๊ทั้งคันออก เปลี่ยนประตูเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ จากนั้นก็ทำการ Spot ตัวถังใหม่ทั้งคัน พร้อมกับขึ้นรูปโรลบาร์เป็นแบบเต็มคัน พร้อมกับเส้นกากบาทคาดข้าง ซึ่งการติดตั้งทุกจุดใช้แบบการเชื่อมติด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในขณะใช้งานจริง

อุปกรณ์อื่นๆ เพื่อใช้รถทั้ง 2 คันนี้กับการแข่งขัน อุปกรณ์ภายในชิ้นไหนที่ไม่จำเป็นต้องใช้จึงไม่มี ทำให้ง่ายต่อการเซอร์วิส และช่วยทำให้น้ำหนักรวมของตัวรถเบาลง อุปกรณ์ที่มีก็เป็นเบาะแบบ  Full Bucket Seat คู่หน้า เบาะหลังถอดทิ้ง พื้นรถในส่วนของค็อกพิตคนขับก็จัดการใส่แผ่นกันลื่น พวงมาลัยเป็น  MOMO แบบถอดได้ เพื่อคววามสะดวกในการขึ้นและลงของคนขับ นอกจากนั้นก็มีเกจ์วัดอีกแผงใหญ่ที่แสดงสภาวะการทำงานของเครื่องยนต์ โดยการติดตั้งเกจ์วัดทั้งหมดนั้น ติดอยู่บริเวณคอนโซลด้านซ้าย ด้านท้ายของตัวรถก็บรรจุไปด้วยถังน้ำมันเซฟตี้, ชุดปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบนอกถัง และแบตเตอรี่ที่ย้ายมาไว้ในตัวรถทั้งหมด สำหรับเข็มขัดนิรภัยนั้นก็เป็นไปตามมาตรฐานการแข่งขัน เป็นแบบ 4 จุด ทั้ง 2 คัน เพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวนักแข่งในขณะที่มีเหตุฉุกเฉิน

Engine : SR20DET

Engine : รถทั้ง 2 คันนี้ คอนเซ็ปต์ต้องการเอาไปดริฟต์ เครื่องยนต์จึงต้องเน้นที่หัวไม่หนัก น้ำหนักไม่เยอะ แรงม้าก็ไม่ต้องมากมายนัก เพราะสนามที่แข่งๆ กันอยู่ในบ้านเราก็มีความเร็วที่ไม่สูงมาก จึงไม่ต้องคลั่งแรงม้า บ้าพลังอะไรมากมาย เครื่อง SR 4 สูบ ทำเพิ่มนิดหน่อยก็เหลือเฟือ สำหรับเครื่องยนต์ของทั้ง 2 คันนี้ ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกัน ของจิงเป็นหลังหัก ของเท็ดเป็นฝาเรียบ แต่สูตรการโมดิฟายนั้นก็ทำเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว เปลี่ยนลูกสูบเป็นของ JZ ที่ต้องแก้รูสลักนิดหน่อย แต่ให้ความแข็งแรงที่คุ้มค่า นอกจากนั้นก็ทำการปรับค่ากำลังอัดให้เหมาะสมและป้องกันกำลังอัดรั่วซึม ด้วยปะเก็นฝาสูบ OTOP จาก .ปะเก็น หนา 1.2 มิล. ในระบบอากาศก็ทำการเปลี่ยนแคมชาฟท์เป็นแบบสร้างแรงม้าแรงบิดได้ดีตั้งแต่รอบต้นๆ ขนาด In. 256 Ex. 264 องศา ของ HKS ส่วนเทอร์โบของทั้ง 2 คันนั้นก็เป็นเทอร์โบ 2835 ของ HKS เช่นเดียวกัน ระบบเชื้อเพลิงก็ใช้ปั๊มแบบนอกถังอัดน้ำมันให้หัวฉีดขนาด 1,000 ซี.ซี. จ่ายเข้าสู่ห้องเผาไหม้ การควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ก็เป็นหน้าที่ของกล่อง HKS F-CON เวอร์ชั่น 3.2 ที่ทำการปรับจูนให้สร้างแรงม้าแรงบิดสูงสุดออกมา โดยพี่วิชัย จาก Dyno King (วิชัยการช่าง) ทั้ง 2 คัน

Transmission : OEM Plus IKEYA FORMULA Sequential shift

ต่อมาระบบส่งกำลังในระบบส่งกำลังของทั้ง 2 คันนี้พื้นฐานเหมือนกัน ใช้คลัตช์แบบ Twin plate ของ OS GIKEN เกียร์เป็นเกียร์ 5 สปีดเดิมๆ ของ SR20DET แต่คันของจิงได้มีการดัดแปลงชุดกลไกการเข้าเกียร์เป็นแบบ Sequential  โดยใช้ชุดกลไกดัดแปลงการเข้าเกียร์ของ  IKEYA FORMULA มาเป็นตัวดัดแปลง ทำให้ง่ายต่อการเข้าเกียร์ เพียงโยกขึ้นลงเท่านั้น สำหรับประโยชน์ที่จะได้จากกลไกการเข้าเกียร์แบบนี้  ไม่ใช่แค่จะทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น มันยังมีผลต่อเนื่องที่ได้จากการใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์น้อย จะทำให้มีความต่อเนื่องในช่วงต่อเกียร์สูง สามารถส่งท้ายกำลังงานได้ดี รอบเครื่องยนต์ก็จะไม่หล่นไปพ้นช่วงเพาเวอร์แบนด์ในการเปลี่ยนเกียร์แต่ละครั้ง ส่วนของเท็ดนั้น ก็กำลังจะทำให้มันเหมือนกันซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงรอเวลา ส่วนของเฟืองท้ายก็ทำการปรับอัตราทดให้มีการตอบสนองที่ดีในรอบที่ต้องการใช้งานโดยการใช้เฟืองท้าย 4.3 : 1 และทำให้ชุดเฟืองท้ายกระจายกำลังงานออกไปสู่ล้อทั้ง 2 ข้างให้ได้มากที่สุดทาง Impression ก็จัดการทำชุดลิมิเต็ดสลิปให้สามารถยึดเกาะได้เพิ่มมากขึ้นโดยเปลี่ยนชุดลิมิเต็ดสลิปเป้นแบบ 2 Way ส่งกำลังงานเต็ม 100% ทั้งกดและยกคันเร่ง

Suspension : G-Sport for drift

สุดท้ายระบบรองรับน้ำหนักในระบบนี้ทั้ง 2 คันได้ทำการปรับเซ็ตใหม่หมด แต่ใช้สูตรในการปรับเซ็ตแบบเดียวกัน 100%  คือ เปลี่ยนชุดลิงค์ช่วงล่างทั้งหมดเป็นของ ORT ที่สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ นอกจากนั้นก็ทำการเปลี่ยนบู๊ชช่วงล่างทั้งหมดเป็นยูรีเทน ที่ให้การตอบสนองดีกว่าบู๊ชยาง OEM นอกจากนั้นก็มีการเพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะด้วยการเปลี่ยนโช้คและสปริงทั้งหมดเป็นของ G-Sport และทำการปรับเซ็ตค่าความแข็งของทั้ง 2 คันให้เหมาะสมกับการดริฟต์ โดยทีมช่างจาก Impression ที่มีความชำนาญในด้านรถดริฟต์เป็นพิเศษ และทั้งหมดนั้นก็เป็นเรื่องราวของ 200 (15) TWIN DRIFT ของจิงเท็ดคู่หูคู่ใหม่ในสังกัด  Impression Drift Team และถ้าใครอยากมีรถสวยๆ งานดีๆ แบบทั้ง 2 คันนี้ ก็ติดต่อเข้าไปได้ที่  Impression หลังศูนย์โตโยต้า อ่อนนุช ได้ตลอดเวลา หรือถ้าเจอตามสนามก็เข้าไปคุยได้ทันที