จากรถขับเล่น สู่รถแข่ง GT การันตีความแรงด้วยแชมป์
Super Car Class 3 โดย Vattana Motorsport
ปี 2008 เป็นปีถือกำเนิดรถหน้าตาประหลาดออกมารุ่นหนึ่ง ลักษณะของมันเกือบจะเป็นรถฟอร์มูล่า แต่มีโป่งคลุมล้อ ดูไปดูมาก็คล้ายๆ จะเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน ซึ่งรวมๆ แล้ว มันหน้าตาประหลาดอยู่ไม่ใช่น้อย แต่รถหน้าตาประหลาดแบบนี้ มันต้องมีอะไรดี ไม่งั้นมันขายไม่ได้แน่

เจ้า KTM X-BOW นี้ มีพื้นฐานมาจากรถฟอร์มมูล่าก็ว่าได้ ตัวโครงสร้างถูกต่อขึ้นด้วยแป๊บเหมือนกับรถเฟรมนั่นแหละ แล้วปิดโครงสร้างให้ดูดีด้วยไฟเบอร์กลาส ซึ่งคลุมล้อทั้ง 4 ไป มีไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว เพื่อให้สามารถวิ่งบนถนนหลวงได้ ช่วงล่างของมันก็คล้ายคลึงกับรถแข่งล้อเปิด ที่เป็นแบบปีกนก 2 ชั้น ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และด้วยความที่มันถูกสร้างขึ้นมาจากโครงเหล็กสานไปสานมา แล้วหุ้มด้วยไฟเบอร์ หลังคาก็ไม่มี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ไม่ค่อยมี จึงทำให้มันหนักเพียงแค่ 790 กิโลกรัม และด้วยขุมพลังขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จ จาก Audi ซึ่งเครื่องยนต์บล็อกนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายมากในหมู่ตัวแสบๆ ทั้งหลาย อย่างเช่น Audi TT
แรงม้าขนาด 237 แรงม้า กับน้ำหนัก 790 กก. ทำให้มันทะยานจากจุดหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.9 วินาที และด้วยช่วงล่างที่เหมือนกับรถแข่ง ทำให้มันหนึบ ขับมันส์ จนกลายเป็นรถยอดนิยมในหมู่คนรักความเร็ว เป็นรถขับเล่นวันเสาร์-อาทิตย์ หรือบางครั้งก็จะพามันไปออกกำลังกายกันในสนามแข่ง ขับเล่นกันกับเพื่อนๆ ในรูปแบบ Track Day
พอมีคนสนุกกับเจ้า X-BOW มากๆ ขึ้น ก็เริ่มมีการจัดการแข่งขันกันในหมู่คนใช้เจ้า X-BOW ออกมาในรูปแบบ Sunday Race และขยับขึ้นเป็น Club Race ที่จริงจังมากขึ้น จนกลายเป็นซีรีส์ X-BOW Battle ที่เป็นซีรีส์ใหญ่ ตระเวนแข่งขันกันไปทั่วยุโรป และมีผู้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
แล้วทำไม Reiter Engineering ถึงต้องเอา KTM X-BOW มาทำเป็นรถแข่ง GT4 ก็ขออธิบายก่อนว่า GT4 คืออะไร GT4 ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2007 โดย Stéphane Ratel Organisation (SRO) ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์ผู้จัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ที่เล็งเห็นว่า GT3 จะมีนักแข่งน้อยลงหากยังไม่มีบันไดให้นักแข่งได้ไต่เต้าขึ้นไป จึงริเริ่ม GT4 เพื่อเป็นบันไดให้นักแข่งได้เริ่มต้นจากตรงนี้ ซึ่งเป็นรถที่แรงน้อยกว่า ประหยัดกว่า เพื่อผลิตนักแข่งเข้าสู่รายการ GT3
- ภายในเป็นรถ 2 ที่นั่ง ขับซ้าย และลวดลายคาร์บอน ช่วยทำให้รถดูดุขึ้นมาก
- ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น และใช้บ่อย จะถูกจัดวางบนพวงมาลัย
- ส่วนสวิตช์อันไหนไม่ค่อยได้ใช้ จะเอามาติดตั้งไว้ที่คอนโซลกลาง
- เสริมโรลเคจขึ้นมาคลุมห้องโดยสาร ป้องกันนักแข่งหากรถคว่ำ
โดยรถที่อยู่ในคลาส GT4 ก็ได้แก่ Audi TT, Mazda MX-5, Nissan 370Z, BMW Z4 และอีกหลายๆ รุ่น ซึ่ง KTM X-BOW เป็นรถที่อยู่ในกลุ่มนี้ แล้วยังมีฐานจากนักแข่งจากซีรีส์ X-BOW Battle จึงทำให้ KTM จับมือกับ Reiter Engineering นำรถรุ่นนี้มาทำเป็นรถแข่ง GT4
ในส่วนการแปลงร่างจากรถขับเล่นสู่รถแข่งก็ต้องเสริมความปลอดภัยเข้าไป เฟรมด้านล่างนั้นแข็งแรงอยู่แล้ว ก็เพียงแค่เสริมโรลเคจคลุมห้องโดยสารทั้งหมด และตามกฎของ GT4 รถต้องมีหลังคา จึงเป็นที่มาของหลังคาใสที่ทำมาจาก Polycarbonate ครอบห้องโดยสาร ทั้งนี้ยังได้เรื่องของแอโรไดนามิกส์อีกด้วย
บอร์ดี้และแอโรพาร์ทถูกดีไซน์ใหม่ ทำให้ดูหน้าตาเปลี่ยนไป และพาร์ทใหม่นี้ยังมีผลถึงแอโรไดนามิกส์เป็นอย่างมาก และวัสดุที่ใช้ทำบอดี้ก็เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ช่วยให้แข็งแรงแต่มีน้ำหนักที่เบา เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ถูกอัพเกรดให้มีแรงม้าสูงขึ้นเป็น 360 แรงม้า ใช้กล่องควบคุม Bosch Motoronic
- ปีกหลังทำจากอะลูมิเนียม ปรับองศาได้
- ล้อขอบ 18 นิ้ว กว้าง 11 นิ้ว และเปลี่ยนระบบยึดล้อเป็น Center Lock
- ช็อคอัพหน้าแบบปรับได้ 3 ทาง ติดตั้งด้วยระบบ Push Rod
ระบบส่งกำลัง จากเดิมที่เป็นเกียร์แบบ H Pattern เปลี่ยนเป็นเกียร์แบบ sequential และถ้ายังเป็นคันเกียร์แบบดึงๆ ดันๆ ก็คงเชยแย่สำหรับรถระดับ GT ต้องควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วย paddle shift ถึงจะสมฐานะ ระบบช่วงล่างมีการอับเกรดชุดช็อคอัพเป็นแบบ 3 Way เหล็กกันโคลงปรับได้ ดุมล้ออะลูมิเนียม
ซึ่งเจ้า KTM X-BOW ได้ถูกนำเข้ามาในไทยถึง 2 คัน ซึ่งเป็นของทีม Vattana Motorsport โดยหนึ่งคันได้นำลงแข่งขันในรายการ Thailand Super Series รุ่น Super Car Class 3 ขับโดย เอส นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์ โดยในสนามแรกสามารถคว้าแชมป์มาได้ ด้วยเจ้า KTM X-BOW GT4 เรามารอดูในสนามต่อๆ ไป ว่าผลงานของ เอส และ KTM X-BOW จะเป็นอย่างไร หรือถ้าใครสนใจจะลงไปร่วมสนุก ก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ในราคา 6.9 ล้าน ติดต่อที่ Vattana Motorsport ได้เลย
- เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 335 แรงม้า จาก Audi
- เกียร์ sequential 6 speed ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วย paddle shift
Engine
Type: Eight-cylinder, in-line engine
Capacity: 1,984 c.c.
Power: 335 bhp
Brakes
Front: six-piston brake callipers, 380 x 32 mm.
Rear: four-piston brake callipers, 355 x 32 mm.
Wheels
Front: 18″ x 11
Rear: 18″ x 11
Dimensions
Length: 4112 mm.
Wheelbase: 2599 mm.
Width: 1933 mm.
Weight: 1,000 kg