การแข่งขันรถในบ้านเราคึกคักขึ้นอีกครั้ง เมื่อบรรดานักแข่งต่างพากันยกระดับรถแข่งให้เทียบเท่ากับรถแข่งในต่างประเทศ นั่นเป็นนิมิตหมายที่ดีว่า ต่อไปเราจะมีรถแข่งและนักแข่งออกไปสู้กับต่างชาติได้ในอนาคต เมื่อเรามีนักแข่งซึ่งเป็นนักกีฬาที่เก่งแล้ว เราก็ต้องมีอุปกรณ์กีฬาที่ดีด้วย ถึงจะสู้กับนานาชาติได้
VATTANA MOTORSPORT ชื่อนี้คงเป็นที่รู้จักกันมานานแล้ว ซึ่งเป็นทีมที่มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาวงการ ซึ่งทางทีมมีหลักการและเหตุผลที่ว่า “ปัจจุบันการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตประเภทรถยนต์ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก จากจำนวนผู้เข้าชมการแข่งขันในรายการต่างๆ นับวันยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ (เรชซิ่ง), Formula 1, GT, Super car, แดร็กควอเตอร์ไมล์, คาร์ท และแรลลี่ (ดาการ์แรลลี่, แรลลี่โลก, แรลลี่ครอส) หรือแม้กระทั่งการแข่งขันรถยนต์ออฟโรด ต่างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากสังคม อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุนในส่วนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ดังนั้น กีฬามอเตอร์สปอร์ตจึงยังคงอยู่ และได้รับการสืบทอดต่อๆ กันมา จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง TEAM VATTANA MOTORSPORT เริ่มก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2539 เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตในรายการต่างๆ ดังนั้นทางทีมแข่งมีความตั้งใจที่มุ่งมั่น และพร้อมที่จะเข้าร่วมในการแข่งขันรถยนต์ในรายการต่างๆ ด้วยความพร้อมของนักแข่ง, รถแข่ง, ประสบการณ์, เครื่องมือ และทีมงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอด และพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย“
ในส่วนของเจ้าของทีมและยังเป็นนักแข่งในทีมด้วย หลายคนคงคุ้นชื่อกันดีกับนักแข่งรุ่นใหญ่ระดับหัวแถวเมืองไทย นาม ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ไม่น่าแปลก ที่ชื่อนี้จะเป็นที่กล่าวขานกันมากมายในวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยลวดลายการขับที่ดุดัน และประสบการณ์การแข่งที่ยาวนาน ทำให้ทุกวันนี้ คุณชนม์สวัสดิ์ ยังคงเป็นนักขับที่หาใครมาแทนได้ยาก ด้วยความรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ทำให้เขาทุ่มเท มุ่งมั่น ที่จะผลักดันวงการนี้ให้พัฒนาเทียบเท่าต่างแดน
ไม่ใช่แค่ผลักดันตัวเขาเองเท่านั้น ที่จะพัฒนาฝีมือด้านการขับแข่ง เขายังเป็นพลังให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่รักในวงการนี้ ให้พัฒนาต่อๆไป คุณชนม์สวัสดิ์ มักเป็นบุคคลแรกในการหาไอเดียใหม่ๆ เพื่อผลักดันวงการให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำรถแข่งใหม่ๆ เข้ามาเพื่อพัฒนาภาพลักษณ์ของวงการ หรือการนำเอาผลิตภัณฑ์ด้านการแข่ง มาเพื่อพัฒนานักแข่งและระบบความปลอดภัยให้เท่าเทียมกับสากล
คุณชนม์สวัสดิ์ พยายามหาปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นเรี่ยวแรงในการแก้ไขอยู่เสมอ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เขาผ่านการแข่งขันและประสบความสำเร็จมามากมาย แต่พลังในตัวเขาไม่เคยจะหมดไป และยังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยผลงานการแข่งขันที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนมากมาย และคงต้องติดตามกันต่อไป กับเรื่องราวที่จะทำให้ใครหลายๆ คนต้องประทับใจ
และในส่วนของรถแข่งที่เปรียบเสมือนอุปกรณ์กีฬา หากเรามีอุปกรณ์กีฬาที่ด้อยกว่าคู่แข่ง ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะได้ ทางทีม VATTANA MOTORSPORT ได้เลือกรถแข่งที่ลงทำการแข่งขันในรายการ Thailand Super Series รุ่นใหญ่สุดอย่าง Super Car ด้วยรถ Lamborghini Gallardo GT3 ซึ่งเป็นรถแข่งเต็มตัวที่ผลิตจาก Reiter engineering
ซึ่งทาง Reiter engineering เป็นบริษัทที่พัฒนารถแข่ง Lamborghini ซึ่งได้รับการไว้วางจากทางโรงงาน Lamborghini ให้พัฒนาและผลิตรถแข่ง Lamborghini รุ่นต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นรถแข่งโรงงานก็ว่าได้ Reiter engineering ได้สร้างรถแข่ง Lamborghini GT มาตั้งแต่ปี 2000 ชนะมาแล้ว 199 ครั้ง ยืนโพเดียมมาแล้ว 350 ครั้ง
ซึ่งรถแข่งที่ทาง TEAM VATTANA MOTORSPORT เลือกใช้เป็น Lamborghini Gallardo ซึ่งรถเดิมก่อนมาทำเป็น Gallardo รุ่นปี 2013 มาพัฒนาให้กลายเป็นรถแข่ง GT3 แบบเต็มตัว โดยการพัฒนา ใส่ใจและเน้นไปที่เรื่องของความทนทาน มีการปรับปรุงเบรกให้สามารถใช้ได้นาน ระบบระบายความร้อน และประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
ตัวรถมีการปรับปรุงเรื่องแอโรไดนามิกส์ใหม่ มี Splitter (ลิ้นหน้า) แบบใหม่ ส่วนที่ด้านหลังก็ติดตั้ง Diffuser ที่ทำจากคาร์บอน ซึ่งตัวต้นแบบเป็นตัวที่อยู่ในรถแข่งรายการ Lamborghini Super Trofeo และยังมีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักดีขึ้นกว่าเดิม ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรถระหว่างแข่งขันอยู่ที่ 9-12 ยูโรต่อกิโลเมตร
นับเป็นรถแข่งที่มีความพร้อมอย่างมาก ทีมงานทำงานง่าย ดูแลรถง่าย มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงค่อนข้างต่ำในรถระดับเดียวกัน เมื่อรวมทั้งรถแข่งที่มีความพร้อมสมบูรณ์ และนักแข่งที่มีประสบการณ์ และฝีไม้ลายมือระดับหัวแถว จึงทำให้ TEAM VATTANA MOTORSPORT เป็นทีมที่น่าจับตามอง ซึ่งในปี 2014 นี้ ทางทีมก็จะส่ง Lamborghini Gallardo GT3 คันนี้ ลงแข่งขันเช่นเดิม
TECHNICAL SPECIFICATIONS
| Structure Lightweight, structural aluminium space frame, based on aluminiumextruded parts welded to aluminium caster joint elements, structuralreinforcements at suspension pick up points, FIA approved safetyRoll Cage, Makrolon safety Windows |
| Body lightweight carbon fi bre body panelsSuspension REITER Engineering double wishbone front and rear suspension,quick adjustable anti-roll bar, anti-dive and anti squat, Öhlins 3 wayadjustable racing shocks, machined aluminium uprights based on GT1 |
| Brakes Ventilated racing discs, BREMBO long distance brake systemFront tyre 300/650 – 18 Racing slickRear tyre 310/710 – 18 Racing slickFront rim size 11 x 18 inch magnesium wheel
Rear rim size 12.5 x 18 inch magnesium wheel Rear spoiler high downforce carbon fibre rear wing, fully adjustable Front spoiler Carbon Fibre Front splitter with integral double under floor diffusers Under body Carbon Fibre rear diffuser Cockpit ventilated by roof scoop,2 versions of Carbon Kevlar racing seat (special designed to fi t small and tall drivers) |
| EngineType V-10 90 degree, mid mounted (longitudinal)Distribution Four overhead camshaftsCapacity 5,211 C.C.
Valve Train variable valve timing for intake and exhaust camshafts Max. power 600+hp at 8,000 rpm Cooling system Three water radiators with new air exit ducts integrated into the new carbon fibre front bonnet, improved cooling efficiency, engine oil cooler Lubrication Racing dry sump system Engine management EFI Euro 12 Power management Fully programmable, electronic power management (OBR) Data System 2D Data Logger Digital dash with large and free configurable racing display |
