My Name is.. Singha

31XO 268
PHOTO : ธัญญนนท์ แสงภู่

ความน่าสะพรึงอยู่ที่ว่า หนุ่มน้อยคนนี้ จู่ๆก็หวดหน้ายาว เข้าเส้นรับที่ 2 ไปครอง ในรุ่น Dragster ด้วยเวลา 6.887 วินาที หลายคนเกิดคำถามว่าเค้าเป็นใคร รวมถึงตัวผมเองด้วย ทีมงานจึงมีความคิดเห็นตรงกันว่า พ่อหนุ่มคนนี้มีของแน่นอน ก็เลยถือโอกาสพาไปรู้จักกับเค้าในคอลัมน์นี้เลยครับ ผู้ชายที่ชื่อ ประธาน แจ่มจันทร์ หรือ สิงห์ จาก AOR 77 SHOP ครับ
สำหรับ My name is… คุณสิงห์ หรือ ประธาน แจ่มจันทร์ เนี่ย เค้าค่อนข้างเขินในการออกสื่อ ทีมงานก็เลยชวนกันไปร้าน
น่ารักๆ ชื่อ 234 CAFÉ & GALLERY ถนนเลียบคลองประปา ใกล้ๆ เมืองทองธานี นี่เองครับ เป็นการนัดสัมภาษณ์กันชิลๆ ซึ่งขอบอกต่อนะครับ ว่าบรรยากาศที่ร้านนี้น่ารัก ใครจะแวะมากินขนม ดื่มกาแฟ เชิญเลย อากาศดี แถมเจ้าของร้านเป็นคนมีของด้วยครับ ถ้าเปิดเข้าไปดูในร้านจะเห็นครับว่า นี่คือสวรรค์ของคนเล่น BEAR BRICK อย่างแน่นอนครับ ผมเลือกที่นั่งคุยกันแบบ Outdoor ครับ ใต้ร่มไม้ต้นใหญ่ ถึงแม้จะเป็นเวลาใกล้ๆ เที่ยง แต่ลมก็ยังพัดเย็นสบายมากครับ ซึ่ง คุณสิงห์ เอง ผมเชื่อมั่นว่าในวงการรถแดร็กก็ยังคงเป็นที่รู้จักกันในวงแคบๆ เฉพาะเพื่อนกลุ่มที่สนิทกันเท่านั้น แต่หลังจากนี้ไป คุณจะรู้จักเค้าอย่างเต็มตัว ถ้าพูดแบบภาษาชาวบ้านๆ ก็ต้องบอกว่า ตัวขี่ของ AOR 77 SHOP ครับ ซึ่งขอจบเรื่องของผมเพียงเท่านี้ หลังจากนี้ สิงห์ จะเป็นคนเล่าให้ฟังครับ “สวัสดีครับ สิงห์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ประธาน แจ่มจันทร์ นะครับ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้มาสัมภาษณ์อะไรแบบนี้ ชีวิตผมเริ่มต้นเข้าสู่วงการความเร็วก็ตั้งแต่เด็กๆ เลยครับ น่าจะอายุประมาณ 10 ขวบ ก็เริ่มจากรถมอเตอร์ไซค์ เรียกว่าแว้น เลยก็ได้ครับ ก็ขี่หลังถนนมาสักระยะ เริ่มมีการเข้าสู่สนามแข่งขัน ซึ่งผมทำรถเองด้วย แล้วก็เป็นตัวขี่เทสต์ตลอดครับ โดยกระบวนการเริ่มต้นทั้งหมดเริ่มจากพี่ชายครับ พี่ผม คือ “บังซุป” ผมเห็นพี่ทำรถ แล้วผมก็ชอบ เรียกว่าเปิดโลกความเร็วให้ผมรู้จักเลยครับ หลังจากนั้นผมก็อยู่กับความเร็วมาตลอด

“ผมไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เทอร์โบ
บางครั้งก็เลยไม่รู้ว่าต้องเพิ่มบูสต์ หรือต้องปรับอะไร
ซึ่งมันเป็นเรื่องใหม่สำหรับผมมากครับ”

จนวันหนึ่งกระแส ECO CAR มาครับ พี่ชายผมเค้าก็มาเล่นรถในกลุ่มนี้ด้วย ควบคู่กับมอเตอร์ไซค์ ก็ทำรถบล็อกเล็กในกลุ่ม ECO ไปวิ่งแข่งทุกครั้ง เมื่อสนามคลอง 5 มีงานครับ ผมก็มีหน้าที่ขับรถแข่ง เหมือนเป็นตัวขี่ประจำอู่ อะไรประมาณนั้นครับ โดยหลักๆ ผมคือคนขับ ไม่ว่ากระแสอะไรจะมา สองล้อเล็ก สี่ล้อ หรือบิ๊กไบค์ ตัวผมก็มีหน้าที่ขับหรือขี่อย่างเดียว ทำอย่างไรก็ได้ ให้รถเข้าเส้นชัย ด้วยเวลาเร็วที่สุดครับ
ซึ่งเมื่อกระแสรถบล็อกเล็กคลี่คลายลง ผมก็มีโอกาสได้รู้จักกับ พี่โอ Power Speed Shop ด้วยการเอารถ Big Bike เข้าไปเซอร์วิสที่ร้านของพี่โอ ผมก็เห็นรถแข่ง Drag Bike ของพี่โอ จอดอยู่ที่ร้าน คือมันเป็นรถที่ผมชอบ เพราะเวลาพี่โอเค้าไปแข่งที่สนาม ผมก็ไปดู แล้วก็เห็นรถแข่งคันนี้แหละ ยิ่งพอมีโอกาสได้เห็นรถคันนี้ที่ร้าน ก็มีความสนใจเป็นอย่างมาก เรียกว่านั่งมองรถคันนี้อยู่พักใหญ่เลยครับ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ผมกับพี่โอรู้จักกัน ว่าพี่เค้าเป็นใคร แต่ก็ไม่ได้มีความสนิทกับพี่เค้า แล้วจู่ๆ ตอนที่ผมนั่งมองรถพี่เค้าอยู่ พี่เค้าถามผมว่า อยากขี่มั้ย? คือผมตอบไม่ต้องคิดเลยนะครับว่า “ขี่ครับ” อารมณ์ประมาณว่าปุ๊บปั๊บรับโชค โอกาสมาถึงแล้ว ก็ต้องรีบคว้าไว้ ผมก็เลยได้มีโอกาสมาเป็นตัวขี่ Drag Bike ให้กับพี่โอ Power Speed Shop ซึ่งมันก็ต่างจากรถที่เคยขี่มาเนอะ มันเร็ว ก็ค่อยๆ ปรับตัว จากพื้นฐานที่มีครับ จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็สี่ปีแล้วครับ ที่อยู่ในวงการ Drag Bike ซึ่งถ้ามีทีมอื่นมาจ้างผมขี่ แล้วรุ่นไม่ตรงกับที่พี่โอลงแข่ง ผมก็รับงานขี่ด้วย จนกลายเป็นอาชีพเลี้ยงตัวได้ครับ
ในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนตั้งคำถามว่า จู่ๆ ผมมาขับหน้ายาวได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่า พี่ชายผม กับพี่ปอนด์ เทค เค้าสนิทกันอยู่แล้วครับ ตอนยุคที่แข่ง ECO ก็เคยแข่งอยู่ด้วยกันครับ ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งผมมีโอกาสไปขับ RX-7 ของพี่อ๋อ โดยพี่ปอนด์ให้ผมลองขับดู ซึ่งในตอนนั้นรถยังไม่พร้อมเท่าที่ควร ผมลองขับครั้งแรก ก็ได้เวลาอยู่ที่ 9 วินาทีต้นๆ ที่บุรีรัมย์ ความรู้สึกในตอนนั้นรู้สึกว่าเหมือนมิติใหม่ในโลกความเร็วอัปเกรดขึ้นอีกขั้น ถามว่ามันเร็วมั้ย? ซึ่งพวก Drag Bike ที่ขี่อยู่ก็ใช้เวลาประมาณนี้ครับ แต่มันได้ฟีลลิ่งต่างกันมากกว่าครับ ซึ่งนั่นเป็นแค่ครั้งเดียวที่ผมได้ขับ แล้วหลังจากนั้นก็พักด้านรถยนต์ไปเลย มีแต่งานมอเตอร์ไซค์ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง พี่ปอนด์ เค้าส่งหน้ายาวมาทางแชท พร้อมกับข้อความสั้นๆ ว่า พร้อมรึยัง? ผมก็งงนะ นี่พี่เค้าจะให้ขับจริงๆ ใช่มั้ย อารมณ์ตอนนั้นมันตื่นเต้นมาก ใจก็รู้ว่ารถมันเร็วมาก แต่เมื่อโอกาสมาแล้ว ก็คว้าไว้ ซึ่งมันเหมือนความฝันของผมนะ ตอนเด็กๆ ผมไปสนามคลอง 5 ตั้งแต่จุดสตาร์ตยังเป็นอุโมงค์ใต้อัฒจันทร์อยู่เลยครับ ดูพี่ป๊อปปิ ดูช่างญา แล้วก็คิดว่าวันหนึ่งเราจะได้มาขับรถแข่งแบบนี้มั้ย? แล้ววันที่ผมฝันก็มาถึงจนได้

“สำหรับผู้มีพระคุณที่หยิบยื่นโอกาสให้กับผม
ถ้าเรื่อง Drag Bike ก็ต้องให้พี่โอ Power Speed Shop ถ้า Drag Car
ก็ต้อง พี่อ๋อ 77 กับ พี่ปอนด์ เทค ครับ”

ทุกคนรู้ว่า รถที่สร้างใหม่ทั้งคัน ย่อมมีปัญหา นู่น นี่ นั่น ให้ปรับแก้ จูนกันอย่างต่อเนื่อง ผมก็ได้แค่ลองออกตัว แต่ยังไม่เคยได้ขับเต็มรัน ขนาดว่าผมขี่มอเตอร์ไซค์ว่าเร็วๆ แล้ว แต่สิ่งที่ผมสัมผัสในหน้ายาวได้ในตอนนั้น คือมันเร็วกว่ามาก แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยได้ลองรถ จนมาถึงงานซุปอัพ ที่ผ่านมานี่แหละครับ ซึ่งผมไม่รู้ว่ารถคันนี้มีแรงม้าเท่าไหร่ ทำอะไรมาบ้าง ผมรู้แค่ว่า หน้าที่ของผมคือ ขับมันเข้าเส้นให้เร็วที่สุด ด้วยความปลอดภัย ในครั้งแรกที่วิ่งเต็มรันทำได้ 6.987 วินาที แล้วเวลาที่ดีที่สุดของรถคันนี้คือ 6.887 วินาที ซึ่งนั่นหมายถึงชื่อของผมขึ้นมาเป็นที่ 2 ของงานซุปอัพ ในปี 2018 ครับ
ซึ่งในการเดินมาถึงจุดนี้ได้ ผมต้องยกเครดิตให้ พี่ปอนด์ เทค ครับ เพราะพี่เค้าสอนเทคนิค ตั้งแต่ออกตัว จนถึงการกางร่มเข้าเส้นให้ผมทั้งหมดครับ”
ในวันนี้ วงการ Drag ก็มีนักแข่งฝีมือดีเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งคน ซึ่งในปีนี้ สิงห์ จะมีผลงานสถิติเวลาเป็นอย่างไร ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปครับ

สถานที่ : 234 CAFÉ & GALLERY
www.facebook.com/234.cafegallery