Photo : พิศวัส พงศ์พุฒิโสภณ
My Name is…พล Garage Unique
ถ้าระดับงานออกแบบชุดพาร์ท ในคนไทยด้วยกันเอง พล Garage Unique ติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของบ้านเราแน่นอน จะเห็นได้จากผลงานรถจากค่ายนี้แต่ละคันที่ออกงานโชว์ มันบ่งบอกถึงสไตล์ของรถคันนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน ประดุจดั่งซิกเนเจอร์ที่ออกมาจากค่ายนี้ ซึ่งหลายๆ คนรู้จัก Garage Unique หลายๆ คนรู้จัก พล แต่มีใครรู้บ้างมั้ย ก่อนจะมีวันนี้ พล เริ่มต้นจากอะไรมาก่อน My Name is…เล่มนี้ จะพาคุณไปรู้จักกับ พล ในอดีตที่ผ่านมาครับ
“พล จาก Garage Unique นะครับผม ถ้าให้ผมเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการก้าวเข้ามาสู่วงการนี้ ก็คงสมัยเริ่มแต่งรถในสไตล์ VIP ครับ ตรงนั้นเป็นจุดเริ่มเล่นรถแบบจริงจัง ซึ่งสไตล์การแต่งรถ VIP ของผมก็จะเป็นแบบพาร์ทเรียบๆ ล้อออฟเซตลึกๆ โหลดเตี้ยๆ ซึ่งสมัยผมแต่งรถแรกๆ เป็นรถ VOLVO 940 ก็ทำกับ พี่กรานต์ KARN FIBER โดยบอกพี่เขาว่าอยากได้รูปแบบไหน พี่เขาก็จัดการทำให้ผม มันก็คืองานคัสตอม ที่ออกมาเป็นรถผมคันเดียว หลังจากเวอร์ชันแรกเสร็จ ก็ใช้ไปสักพัก ก็เริ่มปรับเป็นอีกเวอร์ชัน ซึ่งคราวนี้มาทำกับร้าน Master Work ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของผมเอง ตอนนั้นรถผมค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ยิ่งโดยเฉพาะคนที่เล่น 940 เหมือนกันในตอนนั้น หลังจากนั้นผมก็ขายรถคันนี้ แล้วไปซื้อ ฮอนด้า แจ๊ซ ก็สมัยนิยมในตอนนั้น ผมเองยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปี 2 อยู่เลยครับ
พอรุ่นพี่ร้าน Master Work เห็นผมมาใช้แจ๊ซ เขาก็เลยอยากได้รถผมมาเป็นแบบในการปั้นพาร์ท แล้วเขาก็ให้พาร์ทผมเป็นค่าตอบแทน ซึ่งผมเลยเกิดความคิดว่า ถ้าอย่างนั้นร่วมหุ้นทำกับเขาไปเลย เอารถผมเป็นแบบ แล้วทำพาร์ทออกมาขาย แบ่งผลตอบแทนกันคนละครึ่ง นี่คือจุดเริ่มต้นในการทำความชอบมาเป็นอาชีพไปในตัว มันก็เหมือนงานอดิเรก ที่สร้างรายได้เสริมขึ้นมา ผมทำแบบนี้จนเรียนจบมาได้ปีกว่าๆ ก็เริ่มอยากทำงานแบบจริงจัง ก็เลยเริ่มทำงานกับพี่เขา ซึ่ง ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชัน 8 คือรถรุ่นแรกที่ผมทำ โดยผมสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองในชื่อ Garage Unique โดยยังทำงานร่วมสถานที่กับพี่เขาอยู่ คือลักษณะการทำงานของผมกับพี่เขา แยกกันออกแบบ ต่างคนต่างมีสไตล์ของตัวเอง แต่ผลิตชิ้นงานที่เดียวกัน ซึ่งทำได้อยู่ 1-2 ปี ก็มีความคิดที่ว่าอยากจะแยกออกมาทำของตัวเอง เพราะกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มเดียวกัน แล้วสถานที่ไม่เพียงพอต่อการทำงานและรองรับลูกค้า เสมือนมี 2 ร้านอยู่ในที่เดียว ก็เลยตัดสินใจย้ายมาเปิดทำเอง ย่านรามอินทรา ซอย 5
ซึ่งกลุ่มลูกค้าผมก็จะเป็นกลุ่มรถซีดาน ฮอนด้า แอคคอร์ด, โตโยต้า คัมรี่, นิสสัน เทียน่า อะไรประมาณนี้ พาร์ทผมก็จะออกแบบในสไตล์ Euro เป็นช่องแบบสปอร์ต ซึ่งไม่เหมือนสไตล์ VIP แล้ว คือต้องบอกก่อนนะครับ ว่านี่คือความชอบของผม ผมไม่ได้เรียนออกแบบ ผมทำงานไม่มี 3D คือผมถ่ายความคิดของผมให้กับทีมช่าง แล้วปั้นแบบขึ้นมาจากมือ แล้วค่อยๆ ปรับแก้ เก็บงานให้เข้าทรงอีกที เมื่ออยู่ในบอดี้รถคันนั้นๆ อย่าง พวกกันชนหน้า–หลัง มันไม่ยากเท่ากับเรื่องของโป่ง ซึ่งจะให้รับกันทั้งคัน มันเป็นเรื่องยาก ต้องค่อยปรับแต่งกันไปทีละนิด ซึ่งรถโป่งที่ผมออกแบบแล้ว ทุกคนรู้จักเป็น ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชัน 9 หลังจากนั้นก็มาเป็น ฮอนด้า แจ๊ซ ที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย มันเป็นการต่อยอดไปเรื่อยๆ คืองานประเภท Wide Body มันไม่ใช่งานที่สร้างรายได้มากเท่าไหร่ มันเหมือนงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์มากกว่า มันก็เป็นกลยุทธ์การตลาดในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งผมก็ต้องขายอย่างอื่นเป็นรายรับสำรองไว้ด้วย
สำหรับผลงานของทาง Garage Unique จะเห็นถึงความโดดเด่นชัดเจนมาก ผมพยายามทำชิ้นงานออกมาให้เป็นตัวเราเองมากที่สุด ซึ่งหลังๆ ผมก็มีน้องชาย เจ้ากอลฟ์ ที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือน คนดูแลทางด้านดีไซน์คอยช่วยเสริมผมอีกที โดยตัวผมจะเป็นผู้ถ่ายทอดความต้องการของลูกค้าให้กับ กอลฟ์ จะได้แชร์ความคิดกัน ไม่ใช่เป็นความคิดของผมคนเดียว มันก็จะเห็นภาพแค่มุมเดียว พอมีน้องมาช่วยเสริม มันก็เหมือนการต่อยอดในการออกแบบชุดพาร์ทให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นครับ
ซึ่งในตอนนี้ผมก็มีขึ้นแบบไว้สำหรับรถบางรุ่น แต่อย่างว่า คือแบรนด์ผมไม่ได้ดังเหมือนแบรนด์ต่างประเทศ ที่เขาขายเป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน ต่างแค่สี แค่ล้อ ลายสติกเกอร์ แต่ลูกค้าที่เข้ามาหาผม ไม่มีใครอยากได้เหมือนกัน ผมก็ยินดีทำ ออกแบบให้ใหม่อย่างที่เขาต้องการ ซึ่งลูกค้า Wide Body ที่ออกไปจากผม ก็ยังมีไม่เยอะ ประมาณยี่สิบกว่าคัน เพราะหนึ่งคันใช้เวลาสร้างค่อนข้างนาน สองเดือนถึงหกเดือนต้องมี ซึ่งผมเองไม่ได้ทำสีทั้งคัน เมื่อปั้นพาร์ทเสร็จ ก็ต้องส่งอู่สี บางทีก็ไปติดรอคิวที่อู่สี อะไรแบบนี้ครับ ก็เลยทำให้มีระยะเวลาที่นานในการสร้างรถแต่ละคัน อย่าง ช่วงล่าง ผมก็ส่งร้านมืออาชีพให้เขาจัดฟิตเมนต์ให้ลงตัวกับชุดพาร์ท คือผมจะบอกว่า การทำจบในที่เดียว หรือที่เรียก One Stop Service มันก็ดี แต่ส่วนตัวผมเองคิดว่า ทำเองทุกอย่าง มันเยอะไป ความถนัดของเราอยู่ทางไหนก็ทำงานที่ถนัดให้ออกมาให้ดีที่สุดดีกว่า ซึ่งแต่ละอาชีพ มันก็มีความถนัดที่เป็นเฉพาะทางแตกต่างกันออกไป ใครเขาเก่งช่วงล่าง ผมก็ส่งให้เขา ใครชำนาญการทำสี ผมก็ส่งให้เขา เพราะฉะนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมา มันก็จะออกมาดีในทุกเรื่อง
ก็อย่างที่บอกไป งานออกแบบไม่ได้สร้างรายได้หลักในแต่ละเดือน แต่ผมมีแค่อาชีพเดียว ก็เลยต้องผลิตชิ้นงานพาร์ทต่างๆ ควบคู่ไปด้วย อาทิ ลิ้นหน้า แอคคอร์ด ที่ขายดีๆ เลยนะครับ มันสามารถไปต่อเสริมกับพวกชุด Modulo โรงงานได้เลย ส่วนใหญ่จะขายส่งอเมริกา หรือไม่ก็พวกงานคาร์บอนไฟเบอร์ โดยผลงานของผม ทางต่างประเทศจะเห็นจาก Instagram @garage_unique แล้วเขาก็ติดต่อรับงานผมไปขายครับ ในส่วนอนาคตผมแพลนไว้ว่าจะเปิดอีกที่หนึ่ง โดยเลือกพื้นที่นอกเมือง ผมจะไปบุกเบิกดูแลเอง เพราะมีอะไรหลายๆ อย่าง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับรถ แต่ผมอยากทำครับ”
ตั้งแต่เห็นผลงานจากที่นี่มา เรียกว่าสุดทุกลำ เป็นผลงานฝีมือคนไทยที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง งานที่มาจากอินเนอร์ล้วนๆ มันเป็นอะไรที่สุดพลังจริงๆ ครับ
- แบรนด์ผมไม่ได้ดังเหมือนแบรนด์ต่างประเทศ ที่สามารถขายแพลตฟอร์มเดียวกัน ต่างแค่สี ล้อ และลายสติกเกอร์ ลูกค้าที่เข้ามาหาผม ไม่มีใครอยากได้เหมือนกัน ผมก็ยินดีทำ ออกแบบให้ใหม่อย่างที่เขาต้องการ
- ส่วนใหญ่จะขายส่งอเมริกา โดยผลงานของผม ต่างประเทศจะเห็นจาก Instagram @garage_unique
- นี่คือความชอบของผม ผมไม่ได้เรียนออกแบบ ผมทำงานไม่มี 3D คือผมถ่ายความคิดของผมให้กับทีมช่าง แล้วปั้นแบบขึ้นมาจากมือ แล้วค่อยๆ ปรับแก้ เก็บงานให้เข้าทรงอีกที เมื่ออยู่ในบอดี้รถคันนั้นๆ
- One Stop Service มันก็ดี แต่ส่วนตัวผมเองคิดว่า ทำเองทุกอย่างมันเยอะไป ความถนัดของเราอยู่ทางไหน ก็ทำงานที่ถนัดให้ออกมาให้ดีที่สุดดีกว่า
ศุภกร วงษ์กล้าหาญ (พล)
ภัทรดร กฤชณัทธัชนนท์ (กอล์ฟ)
FB : GarageUnique