เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : TOYOTA USA
หลังจากที่เราติดภาพลักษณ์ของ PRIUS Hybrid กับหน้าตาตุ๋มติ๋มมานาน คือ ตอนนั้นมันก็สวยแหละ แต่มันเรียบๆ เรียกว่าไม่สามารถสลัดภาพ “พ่อบ้านจ่ายกับข้าว” ออกไปได้ แต่หลังจากที่ TOYOTA ได้ปฏิวัติการออกแบบใหม่ให้เฟี้ยวฟ้าว สำหรับเรียกลูกค้ายุคใหม่ ที่ไม่ยึดติดกับภาพเดิมๆ New PRIUS 2023 จึงได้ภาพออกมาอย่างที่เห็น มันไม่ใช่ภาพรถจ่ายกับข้าวจืดๆ แบบเดิมอีกต่อไป…
นอกจากรูปจะสวยแล้ว ก็จะต้อง “สมรรถนะโฉบเฉี่ยว” มีกำลังเหลือพอไว้เร่งแซง งานนี้ New PRIUS ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร DOHC VVT-i มีแรงม้า 150 hp แต่บวกมอเตอร์ไฮบริด แรงม้าสูงสุดเป็น 196 hp ซึ่งในข้อมูลแจ้งว่ามอเตอร์จะมีกำลังสูงสุด 111 hp แต่เราไม่สามารถนำมาบวกกันเป็น 261 hp ได้ เนื่องจาก “แรงม้าและแรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์และมอเตอร์มันอยู่คนละที่กัน” จึงต้องคิดแรงม้าแรงบิดจาก “จุดตัดกราฟของทั้งสองระบบ” ว่าอยู่ตรงไหน แต่ช่างเถอะ ขนาดเกือบ 200 แรงม้า ก็แรงกว่ารุ่นเก่าคนละเรื่องแล้ว… สำหรับรุ่นที่มีจำหน่าย ก็จะมี 4 รุ่นหลัก ดังนี้…
- LE/LE AWD : รุ่นมาตรฐานสุด (เราจะไม่เรียกรุ่น Low นะจ๊ะ) ล้อ 17 นิ้ว เป็นอัลลอย แต่มีฝาครอบ (เหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา) ไม่มีคิ้วโครเมียมประดับที่ช่องลมด้านหน้า และไม่มีหลังคาแก้ว โดยมีรุ่น AWD หรือ “ขับสี่” มาให้ด้วย สำหรับใช้งานในเมืองหนาวที่มีหิมะตก โดยจะใช้มอเตอร์ระบบ E-Four ขนาดกำลัง 40 hp ที่ช่วยในการขับเคลื่อนล้อหลัง…
- XLE : หรูขึ้นมาอีกระดับ ได้ล้อ 19 นิ้ว พร้อมยาง 195/50R19 พิมพ์ไม่ผิดหรอก เน้นมองด้านข้างแบบเต็มๆ แต่มองด้านหน้าและท้ายตรงๆ ยางจะ “เดฟ” หน่อย เพื่อลดแรงเสียดทาน เพราะดีไซน์มาเป็นรถประหยัด หน้าตาเริ่มสวยงาม มีคิ้วโครเมียมประดับ เบาะเป็นแบบ SofTex เบาะหน้ามี “อุ่นตูด” พร้อมปรับให้ให้เข้ากับสรีระได้ถึง 8 จุด ส่วนเบาะคนนั่ง ปรับเข้าสรีระได้ 6 จุด ส่วนหลังคาแก้ว และระบบ Qi-compatible wireless smartphone charging จะเอาต้องสั่ง Option Package…
- LIMITED : หรูสุดๆ ในรุ่น ภาพรวมเหมือนกับ XLE แต่จะเน้นอุปกรณ์บันเทิงเริงรมย์ เช่น จอ Toyota Multi Media พร้อม Wireless Apple CarPlay & Android Auto ขนาด 3 นิ้ว (รุ่นอื่น 8.0 นิ้ว ส่วนรุ่น XLE ต้องสั่ง Option Package) เบาะหน้าฝั่งคนขับ เพิ่มระบบ “ระบายอากาศ” ลดอาการตูดเปียก อันนี้เหมาะกับบ้านเรามว๊ากกกก (ถ้า “โตต้าไทย” ยอมสั่งมานะ) ส่วนเบาะหลังแบบอุ่นตูดก็มีให้สั่งเป็น Option (แต่บ้านเราไม่ต้องหรอก) ลำโพง JBL 8 ตัว และมีระบบ Advance Park ช่วยถอยจอดแบบ Hand free เรียกว่านั่งจุ๊ย กดปุ่ม ให้รถมันถอยแบบ Automated แต่ต้องสั่งเป็น Option Package เฉพาะรุ่นนี้นะจ๊ะ…
ส่วนในด้านสมรรถนะก็ “เดือด” ไม่เลว ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ในเวลา 7 วินาที !!! พอไหมครับท่านพ่อบ้าน เรียกว่านอกจากจะประหยัดแล้ว ก็ยังมีความเป็นสปอร์ตแฝงไว้ให้มีความสนุกในการขับขีอีกด้วย ส่วนเรื่อง “ราคา” ในอเมริกาก็เริ่มตั้งแต่ 28,545 USD ในรุ่น LE และไปสุดที่ 35,560 USD ในรุ่น LIMITED (ยังไม่รวม Option ต่างๆ นะ) ถ้าคิดเป็นเงินบาท ก็ “เก้าแสนห้าห้า – ล้านสอง” แต่คนไทยก็หยอดกระปุกรอได้เลย “โตต้าไทย” ไม่พลาดที่จะเอามาขายแน่ๆ อยากได้ก็ซื้อเถอะไม่ผิดหวังหรอก…