NISSAN SYLPHY DIG Turbo Test Drive “C-Segment หมัดหนัก”

 

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี

ภาพ : อินทรภูมิ์ แสงดี, นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)

                หลังจากที่เราได้รู้จัก NISSAN SYLPHY (ซิลฟี่) กันแล้ว ในมาดของรถซีดานในระดับ C-Segment ที่เน้นไปในทางหรูหราอย่างชัดเจน อาจจะไม่ถูกอกถูกใจ “วัยรุ่นแรกเริ่มขาซิ่ง” แต่จะไปถูกใจกลุ่มคนที่เริ่มเป็น “วัยรุ่นทำงาน” จนไปถึง “ผู้หลักผู้ใหญ่” ถือว่ายอดขายไม่หวือหวามากนัก แต่เดินเรื่อยๆ สไตล์ NISSAN แต่เอาเถิด เมื่อต้องการจะ “เขย่าตลาด” เลยต้องจัดการของที่มีอยู่ให้เจ๋งขึ้น ด้วยการออก SYLPHY ในเวอร์ชัน DIG Turbo ออกมา ก็นับว่าดีที่ NISSAN ได้เชิญผม “พี สี่ภาค” ในนาม XO AUTOSPORT ไปร่วม “ขย่ม” ดูซิ ว่า DIG Turbo เครื่องแค่ “พันหก” แต่ดันสำแดงพลังได้ถึง “190 แรงม้า” มันจะแน่สักแค่ไหนบนตัวรถที่ออกแนวหรูหราอย่างนี้ เอาตามวิเคราะห์ผมเลยนะ…

เอางี้ เรื่อง Feature มีอะไรบ้างก็ดูที่บรรยายภาพแล้วกัน ข้อมูลพื้นฐานก็ “เปิดเว็บ” ดูแล้วกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เอา “ความรู้สึก” มาว่ากันเลยดีกว่า ภายนอกก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก จนผมหวั่นๆ ว่ามันจะเรียบเกินไปเหมือน PULSAR DIG Turbo ที่ออกมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า ที่ดูแล้วไม่แตกต่างจากเวอร์ชันปกติ แต่ดูแล้วชุดพาร์ทที่เสริมมาให้ก็เรียบๆ สไตล์ NISSAN ที่จะไม่เน้นหวือหวาท้ารบอะไรมากนัก อาจจะพึงใจสำหรับคนที่ชอบแนวเรียบๆ ที่มีสไตล์ ประเภทล้อสวยๆ ขนาดเหมาะสมสักชุด ใส่ช่วงล่างดีๆ โหลดลงมาหน่อยให้ Fitment สวยๆ น่าจะไปได้ดีในแนวนี้มากกว่า…

ส่วน “ภายใน” ที่ขอชมจริงๆ ก็คือ “เบาะคู่หน้าออกแบบได้ดีมาก” จากการขับทดลองด้วยทางไกล ระยะทาง กรุงเทพฯ-จันทบุรี แล้วขับไปกลับอย่างต่อเนื่องแบบ One-Day Trip (โหดไปนะ ขอบอก) ทั้งขับและนั่ง ไม่รู้สึกปวดเมื่อยล้า โดยเฉพาะส่วนที่รองรับโคนต้นขาออกแบบมาได้ดีมาก (ไม่เหมือนรถ C-Segment บางยี่ห้อที่แค่นั่งไม่ถึงชั่วโมงก็โคตรปวดเมื่อย) ส่วนการเก็บเสียงก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน เสียงลมปะทะเวลาวิ่งเร็วๆ มีน้อย รวมถึงเสียงยางหรือช่วงล่างก็ไม่ค่อยจะรู้สึกมากนัก เว้นแต่ช่วงรอยต่อที่เป็นสันก็จะมีเสียงบ้างนิดหน่อยตามปกติของรถที่ใช้ยางแก้มเตี้ย แต่ไม่ถือว่าเป็นความน่ารำคาญอันใด…

การตอบสนองของ “เครื่องยนต์” 1.6 ลิตร DIG Turbo มาจาก Direct Injection Gasoline Engine และ Turbo ที่ NISSAN เอามาใช้กับเกียร์ XTRONIC CVT การขับขี่แบบใช้กำลัง ยอมรับว่าทำได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่รถที่ดึงกระโชกโฮกฮาก แต่มันดึงไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว การตอบสนองมาดีต่อเนื่อง ช่วงจังหวะที่เพิ่มความเร็วก็ “คลึง” คันเร่งได้ ไม่จำเป็นต้องเหยียบจมทุกครั้ง ความเร็วปลายระดับ 210 km/h ไปได้ไม่ยาก และเหลือพอจะไปได้อีก อัตราสิ้นเปลืองอย่าเพิ่งถาม เพราะไม่ได้ลองจับอย่างเป็นทางการ เลย “ไม่ต้องการประเมินมั่ว” ครับ แต่ถ้าขับเนียนๆ คลึงๆ มันก็ประหยัดได้ในรถลักษณะนี้แหละครับ ก็ต้องเข้าใจว่า ม้า 190 PS คนที่ซื้อมันไว้ครอบครองใต้คันเร่ง คงไม่ได้เน้นความประหยัดสุดยอดเป็นหลัก…

ระบบช่วงล่าง พื้นฐานก็ยังเหมือนเดิม บอกตรงๆ ในเวอร์ชันปกติ จะเป็นรถที่ “ขับง่ายเป็นหลัก” ความสนุกหาไม่เจอ พวงมาลัยไม่ค่อยมีฟิลลิ่งตอบสนอง จะเป็น “อารมณ์เดียว” ค่อนข้างผิดหวังจากแฟนๆ NISSAN ดั้งเดิม แต่พอมาเป็นตัว DIG Turbo ทาง NISSAN ได้ยืนยันกับสื่อมวลชนที่ไปร่วมทดสอบ ว่าได้ “ปรับค่าความหนืดของช่วงล่างใหม่” (อย่าถามว่าค่าเท่าไร สปริงกี่ k. ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องรู้ ถ้าซื้อมาแล้วไม่หนำใจก็หาทางเสียเงินของแต่งกันต่อแล้วกัน ผมก็ไม่นิยมถามคำถามเหล่านี้กับบริษัทรถยนต์เสียด้วยสิ) รวมถึงการ “ปรับน้ำหนักพวงมาลัยใหม่” ไม่สนหรอกว่าค่าเท่าไร สนที่ “การแสดงออก” เท่านั้น รู้สึกว่าน้ำหนักพวงมาลัยให้การหน่วงมือที่ดีขึ้น รวมถึงช่วงล่าง ที่มีความรู้สึก Firm กระชับ ให้การควบคุมที่มั่นใจในย่านความเร็วสูง แต่ถ้าเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงแล้ววิ่งทับรอยต่อตามทางด่วนต่างๆ ยังมีย้วยเล็กๆ เลยอยากจะได้ “หนึบขึ้นอีกนิด” น่าจะดี แต่ด้วยความที่ยังเป็นรถบ้านเลยต้องมีความนุ่มนวลเยอะหน่อย ส่วนระบบเบรกก็ไม่เลว เหมาะสมกับความแรงของรถ ก็อยู่ที่คนขับว่าจะ “ยังไง” มากกว่า…

บทสรุป

ทาง NISSAN งานนี้จัดราคายั่วใจ อยู่ที่ “เก้าเก้าเก้า” (999,000 บาท) จะได้ดูตัดสินใจง่ายหน่อย ก็ไม่แน่เหมือนกัน อาจจะโดนใจแฟนๆ XO AUTOSPORT ที่เข้าสู่วัยทำงาน ต้องการรถสมรรถนะสูงไว้ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเดินทางไกลที่มีกำลังสำรองในการเร่งแซง หรือทำความเร็วสูงในจังหวะเร่งด่วน (โดนใบสั่งก็ต้องยอมรับนะครับ) นำมาแต่งแบบสวยเรียบหรู ไม่ถึงกับโหดร้ายอะไรนัก รถรุ่นนี้น่าจะตอบสนองให้ได้ครับ…

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.nissan.co.th.