พศิน ลาทูรัส นักขับไทยวัย 24 ปีโชว์ความแข็งแกร่งในศึกบลองค์แปงจีทีซีรีส์เอ็นดูรานซ์คัพ 2017 สนาม 2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการจบเรซในอันดับ 6 พร้อมคว้าเพิ่ม 8 แต้มรั้งอันดับ 3 บนตารางแชมเปี้ยนชิพรักษามาตรฐานที่ดีในการลุ้นแชมป์ประจำปีของฤดูกาลนี้
พศินลงแข่งขันในศึกบลองค์แปงจีทีซีรีส์เอ็นดูรานซ์คัพ 2017 ภายใต้สังกัดเอเอฟคอร์เซด้วยรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 50 ร่วมกับทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่างมิเคเล รูโกโลและอเลสซานโดรปิแอร์ กูดีในรุ่นโปรคลาสทำผลงานนัดเปิดฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าอันดับ 2 ในศึกมอนซ่า 3 ชั่วโมงเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เป้าหมายหลักของพศิน และทีมในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในราชอาณาจักรคือการเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด เพื่อรักษาอันดับบนตารางแชมเปี้ยนชิพในการลุ้นแชมป์อย่างไรก็ดีรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 ก็ปกติแล้วจะมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอแต่เมื่อโดนกฎการถ่วงดุลย์สมรรถนะ (Balance of Performance : BoP) กลับทำให้เป็นรองคู่แข่งจากค่ายอื่นๆทันทีโดยเฉพาะลัมบอร์กินี ฮูราคาน จีที3 และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที3 ในเรื่องของการทำความเร็วซึ่งยากมากที่จะต่อกรเมื่ออยู่ในการแข่งขัน
ตลอดการแข่งขันรอบควอลิฟายเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในแทร็กที่มีระยะทาง 5.891 กิโลเมตรมี 18 โค้งของซิลเวอร์สโตนเซอร์กิต ซึ่งพศินออกตัวจับเวลาในรอบ Q1, รูโกโลใน Q2 ส่วนอเลสซานโดรเป็นมือสุดท้ายในรอบ Q3 โดยพวกเขาช่วยกันทำเวลาคว้ากริดที่ 6 ในการออกตัวของการแข่งขัน 3 ชั่วโมงที่เริ่มไฟเขียวออกสตาร์ทในช่วงบ่ายของวันเดียวกันซึ่งมีเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งถึง 2 ครั้งในชั่วโมงแรกทำให้สถานการณ์ของพศินและทีมเมทแย่ลงทันที แม้ว่าอเลสซานโดร ปิแอร์ กูดีจะออกสตาร์ทเรซได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม
พศินรับหน้าที่เป็นนักขับคนที่2 ในการแข่งขันที่ซิลเวอร์สโตนก่อนจะส่งต่อให้กับรูโกโลในชั่วโมงสุดท้ายซึ่งทั้งคู่ทำหน้าที่ได้อย่างสม่ำเสมอและสามารถรักษาอันดับในกลุ่มท็อปเท็นได้อย่างต่อเนื่อง พศินนักขับฐานะนักขับซิลเวอร์ของเอฟไอเอสามารถต่อสู้กับนักขับระดับแพลตินัมหลายคนในกลุ่มหน้า ภายใต้การขับเคี่ยวของรถแข่งจีที 3 มากกว่า 50 คัน
รถแข่งหมายเลข 50 ของพศินและทีมเมทลงแข่งขันในรุ่นโปรคลาสซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ที่สุดของบลองค์แปงจีทีซีรีส์เอ็นดูรานซ์คัพ โดยพวกเขาสามารถทำผลงานได้อย่างเฉียบขาดเพื่อไปสู่ผลการแข่งขันที่ดีในสนามระดับตำนานของโลกอย่างซิลเวอร์สโตนเซอร์กิต ซึ่งถูกใช้เป็นสังเวียนรถสูตรหนึ่งรายการบริติชกรังด์ปรีซ์มาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะเป็นเรซที่โหดมากแต่พศิน, รูโกโล และปิแอร์ กูดีก็ทำผลงานได้ดีด้วยการเข้าเส้นชัยในอันดับ 6 ซึ่งถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ด้วยการเก็บแต้มได้ไม่น้อยหากเทียบกับรถแข่งที่เสียเปรียบจากกฎ BoP โดยสามารถคว้าเพิ่มได้ 8 แต้มจากซิลเวอร์สโตนและเพียงพอที่จะทำให้รั้งอันดับ 3 บนตารางแชมเปี้ยนชิพโอเวอร์ออลล์
สนามถัดไปของการแข่งขันบลองค์แปงจีทีซีรีส์เอ็นดูรานซ์คัพ 2017 ถือเป็นหนึ่งในเรซที่มีระยะทางยาวเป็นอันดับ 2 ของรายการนี้ โดยจะมีการบวกคะแนนสะสมเพิ่มเข้าไปตามระยะทางด้วยในรายการพอลริคาร์ด 1,000 กิโลเมตรจะดวลความเร็วในวันที่ 23-24 มิถุนายนนี้ ก่อนจะโยกไปดวลความโหดกันในศึกสปา 24 ชั่วโมงในวันที่ 27-30 กรกฎาคมนี้
โดยในปีที่ผ่านมาพศินสร้างผลงานระดับมาสเตอร์ได้ทั้ง 2 เรซด้วยการขึ้นโพเดี้ยมโอเวอร์ออลล์ที่พอลริคาร์ดและคว้าชัยชนะในคลาสโปร-แอมในศึกสปา 24 ชั่วโมง ซึ่งเป้าหมายของนักขับไทยในปีนี้คือการคว้าแต้มจากทั้ง 2 เรซที่รออยู่ให้มากที่สุดก่อนจะก้าวเข้าสู่โค้งสุดท้ายของบลองค์แปงจีทีซีรีส์เอ็นดูรานซ์คัพ 2017
พศินเปิดเผยว่า “ผมต้องทำงานหนักมากตลอดเวลาที่อยู่ในแทร็ก ซึ่งจริงๆ แล้วทุกคนในทีมก็ทำงานหนักเหมือนกันหมดเพื่อให้จบการแข่งขันในอันดับที่ดีตามเป้าหมายที่เราวางไว้และผมก็ค่อนข้างพอใจกับผลการแข่งขันสนามนี้ในสนามที่รถแข่งของเราอยู่ในข้อจำกัดด้านความเร็วแต่ก็ยังทำผลงานได้ดีแถมยังมีเซฟตี้คาร์ที่ออกมาวิ่งถึง 2 ครั้ง เล่นงานจนเสียเวลาในการไต่อันดับไปเป็นเวลามากพอสมควร”
“ผมแฮปปี้มากๆ ครับกับตำแหน่งบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ตอนนี้เราก็อยู่บนเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่พอลริคาร์ดซึ่งเรามีผลงานยอดเยี่ยมในปีที่ผ่านมา และหวังว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ที่ดีอีกครั้งในปีนี้ทีมงานของเราทำงานกันได้ดีที่ซิลเวอร์สโตนรวมถึงมิเคเล (รูโกโล) และอเลสซานโดร (ปิแอร์ กูดี) ด้วยและแน่นอนต้องขอขอบคุณทุกคนกับการทุ่มเทตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา