Official Page : Pasin Lathouras
พศิน ลาทูรัส ดาวขับไทยวัย 24 ปี ร่วมกรำศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับตำนานของโลกอย่าง สปา 24 ชั่วโมง ครั้งที่ 3 ในชีวิตเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเจองานหนักและเกิดอุบัติเหตุในช่วงท้ายชั่วโมงที่ 2 ในเซ็คเตอร์โอรูกอันเลื่องลือในความโหด และต้องออกจากเรซที่น่าเสียดาย ที่ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ประเทศเบลเยี่ยม
อย่างไรก็ดี นักขับไทยวัย 24 ปี ออกจากรถแข่งที่เกิดอุบัติเหตุโดยไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ และปราศจากแม้แต่รอยขีดข่วน โดยนับเป็นโชคร้ายอย่างแท้จริงในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งทำให้ พศิน พลาดการลุ้นโพเดี้ยมใน สปา 24 ชั่วโมง อีกครั้ง
การแข่งขัน สปา 24 ชั่วโมง ครั้งที่ 69 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สนาม สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ประเทศเบลเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมของ พศิน ตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ท ในการร่วมงานกับทีมเมทอย่าง มิเคเล รูโกโล และ อเลสซานโดร ปิแอร์ กูดี ภายใต้รถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 โดยตลอดทั้งช่วงสุดสัปดาห์นับตั้งแต่รอบการซ้อม และควอลิฟาย พวกเขาต้องเจอปัญหาด้านเทคนิคอย่างหนัก ส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถปลดล็อกเพื่อต่อสู้ในขีดความสามารถที่แท้จริงได้ อย่างไรก็ดีพวกเขายังสามารถวางแผนที่ดี และทำเวลาในรอบควอลิฟายในอันดับ 20 ทำให้ทะลุเข้าสู่รอบซูเปอร์โพลได้สำเร็จ ก่อนจะกดเวลาคว้ากริดสตาร์ทที่ 15 มาครอง
โดย ปิแอร์ กูดี รับหน้าที่เป็นนักขับคนแรกในช่วงออกสตาร์ท และสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับฝูงรถแข่งจีที3 ทั้งสิ้น 63 คัน ที่ร่วมดวลความเร็วสุดโหดในแทร็กเดียวกัน ส่งผลให้เขาสามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงบ่ายของการแข่งขันวันเสาร์ที่ สปา-ฟนังก์คอร์ฌองส์
ตลอดการแข่งขันครึ่งชั่วโมงแรก รถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 50 ถูกกดดันอย่างหนักจาคู่แข่ง และถูกรถคันอื่นกระแทกตลอดเวลา ส่งผลให้มีร่องรอยมากมายในด้านขวาของรถ ในขณะที่คู่แข่งก็ถูกลงโทษโดยผู้อำนวยการการแข่งขัน ก่อนที่นักขับอิตาเลียนจะตัดสินใจเข้าพิต ส่งผลให้ร่วงลงมาอยู่ในอันดับ 59
ในชั่วโมงแรกที่เต็มไปด้วยอุปสรรค์พวกเขาสามารถฝ่าฟันมันมาได้ หลังจากที่ทีมช่างพยายามแก้ไขรถแข่งได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถไล่เข้าใกล้ผู้นำได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดีพวกเขากลับต้องเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากอีกครั้ง จากการที่ชิ้นส่วนของรถแข่งหลุดออกระหว่างการแข่งขัน ส่งผลให้รถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 ต้องโดนโทษธง ดำ/ส้ม ให้นำรถเข้าพิจเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทำให้พวกเขาต้องเสียเวลาในพิตอีกครั้ง
พศิน ลงมารับหน้าที่เป็นนักขับคนที่ 2 แทนที่ อเลสซิโอ หลังเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง 26 นาที โดยหลังจากที่พวกเขาเข้าพิตครั้งที่ 2 ก็รั้งอยู่ในอันดับ 29 อย่างไรก็ดีนักขับไทยก็สามารถหาจังหวะการขับที่ดี และเริ่มต้นการขับได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะสามารถไต่อันดับขึ้นไปได้เรื่อยๆ หลังจากมีปัญหาอย่างหนักในชั่วโมงแรก ซึ่งพวกเขาสามารถกลับมามีลุ้นแชมป์ได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ดี การแข่งขันกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เมื่อเข้าชั่วสู่ชั่วโมงที่ 1 และ 43 นาที ซึ่ง พศิน ควบรถแข่งเข้าสู่รอบที่ 45 ก่อนจะพลาดเกิดอุบัติเหตุในเซ้กเตอร์ โอรูก และไม่สามารถนำรถแข่งมาลุยต่อได้ โดดยนักขับไทยเดินออกจากรถโดยปราศจากอาการบาดเจ็บใดๆ
ภายหลังเข้ารับการตรวจร่างกายเบื้อตนกับแพทย์สนามเป็นเวลากว่า 30 นาที เป็นอันแน่ชัดว่า พศิน ไม่ได้รับอาการบาดเจ็บใดๆ ทว่าพบากเขาก็ต้องออกจากการแข่งขันเพียงในช่วงปลายชั่วโมงที่ 2 เท่านั้น ขณะที่ทีมงานต้องกลับมาตรวจสอบหาสาเหตุในการชนดังกล่าวภายหลัง
สำหรับ พศิน เป็นนักขับไทยที่สร้างชื่อเสียงให้วงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ บลองค์แปง จีที เอ้นดูรานซ์ ซีรีส์ 2017 ภายใต้การสนับสนุนโดย นารายา, ลาลามา, นารา บาย นารายา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย
การแข่งขันสนามต่อไปของ พศิน จะเดินทางไปดวลความเร็วสนามที่ 5 ของ ศึก บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอ็นดูรานซ์ คัพ 2017 ในรายการ บาร์เซโลน่า 3 ชั่วโมง ในวันที่ 30 กันยายน – 1 ตุลาคมนี้ซึ่งเว้นช่วงพักเบรกฤดูร้อนเป็นเวลาเดือนเศษๆ
พศิน เปิดเผยว่า “แน่นอนผมต้องการที่ะจบการแข่งขัน สปา 24 ชั่วโมง ให้ได้ ถือเป็นความเสียหายอย่างมากของเรา หลังจากที่ฝ่าฝันปัญหาในช่วงซ้อมและควอลิฟายมาได้อย่างสวยงาม ภายใต้ปัญหาด้านเทคนิคต่างๆ ก่อนที่เราจะกลับสู่เรซที่ยอดเยี่ยมได้”
“เราโชคไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เพราะต้องเข้าพิตถึง 2 ครั้งในชั่วโมงแรก แต่ผมลงสู่แทร็กโดยต้องการที่จะขยับไปไล่ล่ากับกลุ่มนำให้เร็วที่สุด เพราะพวกเขาเคยอยู่ข้างหลังเรา และแน่นอนว่าเราแสดงให้เห็นถึงความเร็ว ก่อนที่เราจะเกิดอุบัติเหตุซึ่งเป็นครั้งใหญ่มากในอาชีพการเป็นนักขับของผม แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าผมไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ผมรู้สึกว่า ผมโชคดีมากๆ ผมอยากขอบคุณทุกๆ คนที่ส่งข้อความต่างๆ มาอวยพรและสนับสนุนผม ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ และผมก็กำลังมองไปข้างหน้าและก้าวผ่านทุกอย่างไปให้ได้ โดยจะทิ้งอุบัติเหตุครั้งนี้ไว้ข้างหลัง”