PROUD TO BE ME : เอ้ WORKSBELL

 

เริ่มต้นจากศูนย์ เลยก็ว่าได้  สำหรับชีวิตของยอดนักสู้ “เอ้ Worksbell”  เดินเข้ามาสู่วงการ ที่แรก  A Motorsport ทำอยู่กับ พี่โอ๊ต ได้อยู่ 3-4 ปี ก็เริ่มอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง  โดยทำการบ้านหนักมาก ว่าสิ่งที่ไม่มีจำหน่ายในตลาดบ้านเรามีอะไรบ้าง  เพื่อเป็นการไม่ไปทับไลน์กัน  และก็อีกอย่างนึงคือ ไม่มีคู่แข่งทางการตลาด ก็ไปจบที่แบรนด์ Worksbell   ก็เริ่มต้นสั่งของเป็นตัวแทนจำหน่าย  ทำเองอยู่ที่บ้าน  ซึ่งปรากฏว่าแป้ก!! ผ่านมาหลายเดือน  เสนอขายไปตามที่ต่างๆ  ไม่มีใครสนใจเลย ด้วยเหตุที่ว่า  ราคาสูง  ของไม่เป็นที่รู้จัก แล้วคนนำมาขายเป็นใครก็ไม่รู้  คือไม่มีใครเชื่อใจ  สั่งมาเท่าไหร่ ของก็อยู่เท่านั้น  จมทุน จนต้องกลับไปหางานประจำทำ

ทุกวันนี้ยังจำขึ้นใจ ลูกค้าคนแรกของ Worksbell คือเด็กวัยรุ่นอายุ 18 มาซื้อใส่ Honda หลังจากนั้นก็มี  คุณนคร กับ คุณป๊อป เข้ามา ก็เลยสนับสนุนรถ Drift ไป หลังจากนั้นก็มี ดาวิเด โดริโก้  จากนี้ก็มีคนเริ่มรู้จักผลิตภัณฑ์แล้ว  แต่ไม่แพร่หลาย ต้องมาทำการบ้านใหม่  หาจุดขายของผลิตภัณฑ์ให้เจอ เพราะที่อังกฤษ ญี่ปุ่น  อเมริกา ขายได้ทุกที่  เหลือแต่ที่ประเทศไทยนี่แหละ  ก็เลยต้องมองย้อนกลับมาดูที่ตัวเอง จึงคิดใหม่ทำใหม่  ดึงจุดน่าสนใจของผลิตภัณฑ์มาเป็นตัวชูโรง ซึ่งก็ได้ผล  เป็นการบอกแบบปากต่อปาก  ของผู้ใช้แนะนำกันเอง  ซึ่งตรงนี้ถ้าของไม่ดีจริง คงไม่ใครอยากไปแนะนำให้เพื่อนใช้อย่างแน่นอน

 

หลังจากนั้นก็เพิ่มความหลากหลายในตัวสินค้า โดยนำ Stack  เข้ามาจำหน่าย แล้วก็มีอีกหลากหลายแบรนด์เลย จนในปี 2555 ยอดจำหน่าย Worksbell ในประเทศ มีตัวเลขยอดการจำหน่ายแซงหน้าอเมริกา  ถือว่าประสบความสำเร็จมาก จนต้นสังกัดให้สิทธิพิเศษออกแบบ คอพวงมาลัย Worksbell สำหรับประเทศไทย จำนวน 55 ตัว เป็น Limited Edition  โดยที่เลือกเป็น 55 คือ ตรงกับปี 2555

กลับหวนคืนสู่ A Motorsport อีกครั้ง ด้วยโปรเจ็กต์ FT 86 & BRZ  หลังจากเดินทางไปญี่ปุ่นแล้วพบว่า  รถรุ่นนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในยุคนี้  ก็เลยระดมทุนซื้อรถ TOYOTA FT 86 มาทำ โดยมี คุณโจ้ ให้การสนับสนุนในการจูนรถ   ลองจูนกันอยู่เป็นเดือนๆ  เพราะติดปัญหาในเรื่องของซอฟต์แวร์ กว่าจะแก้ได้ก็ใช้เวลาพอสมควร  ซึ่งรถ TOYOTA FT 86  Turbo คันแรกที่ทำ ได้รับความไว้วางใจมาจาก Prodrive ส่งมาครับ และสิ่งนึงที่ไม่เคยลืมคือ คุณโอ๊ต  A Motorsport ที่ให้โอกาส ทำให้ได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้..

“ของชิ้นเดียวกัน   ถ้าคนอื่นขายได้  แต่ผมขายไม่ได้  งั้นคงไม่ใช่ที่ของแล้วล่ะ  คงเป็นที่ตัวผมเองมากกว่า พยายามถึงที่สุดแล้วรึยัง?”

จิรวุฒิ  บุนนาค