REED IT MORE : Behind The Track Souped Up 2017

 

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี / ภาพ : ธัญญนนท์ แสงภู่ (TakeSnap)

BEHIND THE TRACK “Souped Up Thailand Records 2017”

กลิ่นควันจาง แต่ “เรื่องไม่จบ” !!!

เมื่องาน Souped Up 2017 ได้จบลง…

คนมากมายในสนาม…ผู้ชม…ทีมงาน…นักแข่ง…ช่าง

ต่างคน…ต่างกลับ…สนามเหลือแต่ความว่างเปล่า

แต่…มันยังไม่จบแค่นั้น…

เบื้องหลัง…เบื้องลึก…หลังแทร็ค…ที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เห็นได้รู้…แต่ใจอยากรู้ !!!
ครั้งนี้…จะได้รู้…ว่ามีเหตุการณ์มากมายจากทีมดังระดับหัวแถวว่า…

การทำรถแข่งเพื่อเป็นที่หนึ่ง…มันไม่ง่าย !!!

เบื้องลึกทีมดัง ตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน

                สำหรับเรื่องราวครั้งนี้ ถือว่าเป็น Reed It More + Souped Up Special แบบจัดหนัก จัดเต็ม เกี่ยวกับเบื้องหลังทีมดังระดับแนวหน้าของเมืองไทย ซึ่งสเป็กรถต่างๆ ก็ได้บอกกันไปแล้ว ไม่ต้องเล่นซ้ำ แต่จะมา “แฉ” ให้รู้กันเกี่ยวกับเรื่องเล่ามันส์ๆ ของเบื้องหลังการแข่งขัน ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร เจอปัญหาอะไรบีบคั้นหัวใจบ้าง ทั้งก่อนและระหว่างแข่งขัน รวมถึงเทคนิคน่าสนใจต่างๆ ซึ่งตรงนี้เราจะเอาข้อมูลที่คนทั่วไปไม่ทราบมาให้ได้อ่านกัน จะได้รู้ว่าเผชิญอะไรกันมาบ้าง ซึ่งในอดีต เราเคยทำคอลัมน์สไตล์นี้กับรถของ RAM 77 RACING SHOP & SPEED D ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี แต่ปีนี้เราจัดหนักกว่า กับ Super Dragster 6 คัน คือ SIAM PROTOTYPE, YA SERVICE, AOR 77 SHOP และ RAM 77 RACING ที่แม้ว่า “แชมป์เก่า” ปีนี้จะไม่ได้ไปถึงฝั่งฝัน แต่ก็มีแง่มุมดีๆ มาฝากกัน รับรองอ่านกันสนานครับ ไม่มีใครนำเสนอในมุมแบบนี้…แน่นอน !!!

 

SIAM PROTOTYPE

No.1 นาที…พลีชีพ… !!!

                เริ่มคันแรกกับ “แชมป์” ปีนี้ กับ Dragster คันเล็ก ที่ปีนี้ทำเวลา “เกือบหก” เข้าไปอีกหน่อย แต่มี Surprise คือ “ระเบิดก่อนเข้าเส้นเพียงนิดเดียว” ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่คาดคิดเพราะปกติรถคันนี้จะ “ชัวร์” ค่อนข้างมาก ไม่เคยพัง ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ แต่ปีนี้พลีชีพซะแล้ว ยังดีว่าได้เวลาเร็วสุดเลยได้แชมป์ไปครอง แต่สิ่งที่เหนือกว่าแชมป์ คือ “น้าหยาม” รอดมาได้ยังไง และวินาทีที่เครื่องระเบิด ไฟลุกท่วมอยู่ด้านหลัง เขากำลังทำอะไร และ “ทำไมพัง” และประเด็นเด็ดๆ เยอะแยะ เรามาดูกันดีกว่า…

 

SIAM PROTOTYPE

No.2 คันใหญ่ เทคโนโลยีใหม่ แต่ทำไมยังไม่ทะลุเป้า   

                สำหรับอันดับ 2 ก็เป็น Dragster คันใหญ่ ที่มีความสมบูรณ์แบบสูงกว่าคันเล็ก ดังที่เห็นไปแล้วว่า ตั้งแต่ “เฟรม” ก็เหนือกว่าด้วยวัสดุที่ “Flex” ตัวได้ มี “สลิง” แบบตั้งได้ คอยรั้งเฟรมไว้ ตั้งได้อีกว่าจะให้แข็งแค่ไหน แถมเครื่องยนต์ก็ยังสุดทันสมัย คุณสมบัติครบขนาดนี้ แต่…ทำไมเวลายังไม่ทะลุเป้าแบบที่สเต็ปรถระดับนี้ควรจะทำได้ ทุกคนมีคำถามมานาน ซึ่งเรามีคำตอบให้แล้ว ณ บัดนาว…

Behind The Garage

“ช่างไมค์” กีรติ ปิ่นประถม

ตัวผมเองจะดูแลในส่วนของระบบไฟฟ้าของรถแข่งทุกคันครับ แต่ก็มีช่วยทำอย่างอื่นด้วยในระหว่างการแข่งขัน สำหรับ Dragster ทั้งสองคันนี้ ส่วนหลักๆ ก็จะเป็น พี่ตี้ แล้วพวกเราก็เป็นทีม Support ยอมรับว่าสถานการณ์ค่อนข้างคับขันพอสมควรสำหรับ “คันเล็ก” เพราะข้อเหวี่ยงมาช้า ถ้ามาเร็วล่วงหน้ากว่านี้ก็จะพอมีเวลาหน่อย พอมาเร่งๆ ทำทั้งวันทั้งคืนเลยมีบางสิ่งไม่พร้อม ในวันควอลิฟายก็มีปัญหาเรื่องสตาร์ทไม่ติด เสียไป 1 Run จนมาเรียบร้อยเอา Run 3 ยังดีที่ว่าผ่าน Target Time ไปก่อน ส่วนคันใหญ่ไม่มีปัญหาครับ รถพร้อม เพียงแต่อัตราทดเฟืองท้ายไม่โดนใจเท่าที่ควร ก็เลยไม่ได้เวลาเลข 6 เสียดายเหมือนกันครับ ไว้ปีหน้าเจอกัน…

 

YA SERVICE

No.3 ยอมพลีชีพ เพื่อเป้าหมาย น่าเสียดายที่ “ปลั๊กหลุด”

สำหรับอันดับ 3 เป็นรถขวัญใจมหาชนคันใหม่ จาก YA SERVICE เป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากเว้นวรรค “รุ่นใหญ่” ไปหลายปี กลับมาอีกทีต้องมีเฮ ได้รับการสนับสนุนจาก “เสี่ยเอก NAGAOKA” ปั้นคันนี้ขึ้นมา รายละเอียดเราได้ชมกันไปแล้วเมื่อต้นปีอย่างเต็มๆ และได้เห็นตัวจริงในงาน Souped Up ที่ “ช่างญา” และทีมงานทุกคนตั้งใจจะพิชิตเวลาให้ได้ เพราะโดยกำลังเครื่องที่มีเหลือเฟือ บวกกับการเซ็ตรถที่ดี และ “ตัวขี่” ประสบการณ์เยอะอย่าง “จอย” ที่แม้จะขึ้นมาขับ Dragster ครั้งแรก แต่ก็สามารถประคองรถไปได้ อาศัย “มือไวๆ ใจถึงๆ” แต่ในเบื้องหลังบอกเลยว่าไม่ธรรมดา มีการวางแผนในเกมอยู่ตลอดเวลา และคันนี้เป็น Dragster คันเดียวใน Over All ที่ใช้ “เกียร์ลม มีคลัตช์” ไม่ใช่เกียร์ออโต้ งานนี้จะกดดันหรือเมามันส์ขนาดไหนต้องดูเท่านั้น…

 

 

สวนส้มสุรชัย & AOR 77 SHOP

No.4 พัฒนาไปอีกขั้น สู่สงคราม 2UZ

                เป็นผลงาน Dragster ครั้งแรกของ AOR 77 SHOP ที่มาแรงไม่แพ้ใครในปีนี้ เรียกว่าอยากจะยืน Top Ten ก็ต้องสร้างขึ้นมา โดยใช้ความรู้จากรถเฟรมพัฒนาขึ้นมา อย่างคันนี้ก็เป็นของ “นุ & ยุ้ย สวนส้มสุรชัย” ที่ปลดระวาง “กระบะขนส้ม” ตัวเก่าที่สร้างผลงานไว้อย่างยอดเยี่ยมในปีที่แล้ว มาขับ Dragster ที่ดูจะเข้ามือเข้าขากัน เพราะคนที่ผ่านรถ Super Max (หรือ Door Slammer ในต่างประเทศที่ใช้เรียกรถลักษณะประมาณนี้) พอมาเจอก็ไม่ใช่เรื่องยาก ปีนี้นับว่าเป็นรถใหม่ที่พร้อมเหมือนกัน สามารถขึ้น Top Ten ได้…

 

S-CAR & AOR 77 SHOP

No.5 เข้าไฟไม่ได้…ตัด !!! แม่มเลย…

ยังคงเป็น Dragster ฝีมือ AOR 77 SHOP เหมือนเดิม แต่มาในทีมของ S-CAR ผู้แทนจำหน่ายรถเกรด Premium เจ้าดัง สำหรับคันนี้ทำเวลาได้ “7.397 วินาที” เรียกว่าขี่หัวกันเข้ามากับคันตะกี้ ใช้ตัวขี่มืออาชีพอย่าง “ปอนด์เทค” เบญจรงค์ ชมายกุล ที่อาศัยพื้นฐานดีมาอยู่แล้วเลยสบาย ไม่ต้องกังวลมาก คันนี้ถ้าใครได้ดูรอบชิง จะเห็นว่าเกิดปัญหา “เข้าไฟไม่ได้” ลั่นฟาล์วซะก่อน ซึ่งมีการแก้ปัญหาแบบด่วนๆ จนสามารถรอดมาได้…

Behind The Garage

“ช่างม่วง” มนตรี อุดมพันธ์

ขอพูดทีเดียว 2 คัน เลยนะครับ เพราะทำอยู่ด้วยกัน ถ้าถามผมจริงๆ ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรบีบคั้น เพราะเราเน้นการเตรียมตัวให้พร้อม ในวันควอลิฟาย ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามแผน พอวัน Final มีปัญหาอยู่คันเดียว คือ S-CAR เข้าไฟแล้วฟาล์ว ทำให้ต้องเฉือนสปอยเลอร์หน้าออกบางส่วน และวิ่งดึกๆ แทร็คชื้นครับ เลยทำให้เวลาไม่สวยเท่าที่ควร อื่นๆ ก็ไม่มีอะไรครับ เพราะรถสองคันนี้ไม่เกเร ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้ เวลาก็ได้ดีพอๆ กัน สำหรับทีมช่าง เราก็เน้นว่า “รู้หน้าที่ของตัวเอง” ใครจะต้องทำอะไร และก็ช่วยๆ กัน ทำให้งานออกมาดีครับ…

 

RAM 77 RACING

ลองของใหม่ ไม่ได้ถ้วยแต่ได้ประสบการณ์

                แม้ว่าปีนี้แชมป์เก่าอย่าง “บุญตา วรรณลักษณ์” แห่ง RAM 77 RACING จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน กับ Dragster คันใหม่ของ “หมู รังสิต” ที่ใช้เครื่องยนต์ 2JZ-GTE ขยายความจุเป็น 3.4 L ตัวเก่าของคันที่ได้แชมป์ปีที่แล้ว ยกมาวางกันเลย ส่วนรถคันแชมป์ปีที่แล้วก็ขายให้กับ “เวอร์ TECHNICAL GARAGE” ไปนั่นไง (ฟังดูงงๆ ดีนะ) ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะวงการนี้ก็สามารถ Trade ของกันได้ สิ่งสำคัญหลังจาก “พัง” ไปก็คือ “ต้องคิดต่อว่าจะทำอย่างไร” ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งใหม่ที่น่าสนใจ บอกเลยว่าเรื่องราวหลังไมค์ของคันนี้น่าสนใจและตื่นเต้นมากๆ ไม่แพ้รถได้ตำแหน่งเลยครับ…

Behind The Garage

“ช่างแขก” เฉลิมพจน์ แก้วบุญเรือง

ปีนี้ก็มีปัญหาหลายอย่างครับ เพราะเราต้องการทำเครื่องให้แรงที่สุด เพื่อหวังเวลาให้ดีที่สุด และเปลี่ยนมาผสม ไนโตรมีเทน ซึ่งมันแรงมากไปจนเครื่องพัง มีเครื่องสำรอง 2 ตัว ก็พังแทบทุก Run เลยทำให้เสียเวลาไปกับการเปลี่ยนเครื่อง ไม่ได้มีโอกาสได้มาปรับอย่างอื่นเลย ยังโชคดีว่าแบ่งควอลิฟายเป็น 3 วัน วันละ 1 Run ค่อยมีเวลาทำรถหน่อย ส่วนรอบชิงปีนี้ค่อนข้างรีบและแข่งกับเวลามากๆ เลยไม่ได้โชว์ผลงาน ต้องนั่งคิดใหม่ทำใหม่ว่ายังไงถึงจะแรงและไม่พัง ไว้ปีหน้าจะวางแผนและเตรียมตัวใหม่ให้พร้อมล่วงหน้าสุดๆ เลยครับ…

 

Comment : อินทรภูมิ์ แสงดี

สำหรับเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของทุกคนที่มาร่วมงาน ซึ่งแน่นอนว่า “ทุกคนมีสิทธิที่จะชนะ แต่จะชนะทุกคนไม่ได้” ก็ย่อมมีผู้แพ้ไป ผู้ชนะอาจจะไม่ได้เร็วที่สุดก็ได้ แต่ต้องเป็น “ผู้ที่พร้อมที่สุดเท่านั้น” สิ่งหนึ่งที่เห็นกันชัดเจน คือ “เครื่องพังกันเยอะมาก” เราไม่ได้ต่อว่าผู้ที่ทำเครื่องพัง เข้าใจว่าทุกคนก็ไม่อยากให้พัง ไม่ว่าจะเป็นอู่ คนขับ ทีมงานจัดงาน ถ้าพังแล้วมัน “งานมา” ล่าช้าไปอีก แต่เมื่อเรามาถึงจุดนี้แล้ว คือ “จุดที่ถึงจุด Peak ของรถ” ไม่ว่าจะเครื่องยนต์ที่โมดิฟายและเบ่งกำลังจนถึงขีดสุดของชีวิต ถึงจุดที่พังกับรอดมันกั้นกันแค่เส้นบางๆ ระบบส่งกำลังก็เริ่มจะรับไม่ไหว ช่วงล่างอีก ฯลฯ แน่นอนครับ มันต้องมาถึงจุดนี้ “จุดที่ทุกคนต้องอัพเกรดขึ้นไปอีกระดับ” ทำเหมือนเดิมก็ไม่มีที่ยืนแล้ว ผมเชื่อว่าในปลายปีนี้ Dragster จะมีอะไรแปลกๆ ให้เราเห็นมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างเฟรมที่ต้องอัพเกรดวัสดุให้สามารถ “ยืดหยุ่น” ได้ ออกตัวหน้าไม่ยก ขับแล้วไม่แข็งขืนเป็นสิบล้อไป จนถึงอาจจะต้องกลับมาใส่ “โช้คอัพหลัง” เพื่อซับแรงออกตัวก็เป็นได้ รอชมครับ ทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นครับ…

ขอขอบคุณ

SIAM PROTOTYPE, SPEED-D, GT GARAGE : Facebook/Siam Prototype, Tel. 087-593-7639 (ตี้)

YA SERVICE : Facebook/Ya Motorsport, Tel. 081-880-6673

AOR 77 SHOP : Facebook/Aor 77 Shop, Tel. 080-070-4781

RAM 77 RACING : Facebook/Boontha Wannalak, Tel. 081-611-7603