วิถี… Biker!!! วิถี…ร็อค!!! วิถี…(กร้าว) ร้าว!!!
Special Content by motorcycmagazine.com
“แต่งหล่อในโรงรถ” เอาชื่อไทยๆ แบบนี้เลยแล้วกัน กับภาคต่อ “เดรส-เด็ด” ที่เบิกฤกษ์มาบรรจบครบเดือนเกิด “นิตยสารมอเตอร์ไซค์” ในวัยโก๋ (ตอนปลาย) หนนี้จัดให้ เอาใจ “สายเก๋า” ที่เห็นทีไร…(เคย)อยากมีเรื่องทุกที!!!…“ร็อคเกอร์” กับรถหมอบแนว “คาเฟ่” วัฒนธรรมแพ็คคู่จากยุค’50 เรื่องเม้าท์ที่หนุ่ม “ชาวสยาม” ก็พิสมัยใคร่เสพ ทว่า การณ์นี้…เทรนด์…(กร้าว) ร้าว…มันเอ้าท์แล้ว!!! วิถีชาวร็อคสหัสวรรษใหม่ เสื้อ ผ้า หน้า ผม…เป๊ะ!!! มีไว้อวด “จิ๊กกี๋” เท่านั้น…!?!?!
Rokers/Leather Boy/Ton up Boys : ศัพท์แสงของยุคที่เรียกขานก๊วนมอเตอร์ไซค์ขาโจ๋ของอังกฤษที่ซ่าส์ยัน DNA นี้ อุบัติขึ้นระหว่างปี 1950 ด้วยภาพลักษณ์ที่เจนตากับเครื่องแต่งกายแจ็กเกตหนังสีดำ กางเกงยีนส์เซอๆ และรองเท้าบู๊ทยาว บนพาหนะ 2 ล้อ (Cafe Racer) เสียงแสบหูแบรนด์ชั้นนำของอังกฤษ ขนาบด้วยเสียงเสนาะจากดนตรี-แฟชั่นตะวันตกที่แผดเสียงแสบในลำคอ แนว Rock’n Roll ที่สั่นคลอนโสตประสาท นี่คือรูปแบบการแสวงหาความสำราญ หลังสภาวะเศรษฐกิจของอังกฤษที่กำลังฝืดเคือง “รถยนต์” ที่ต้นทุนในการผลิตที่สูง ราคาแพงจนยากจะจับจ่ายมาใช้สอย แนวทางซิ่งด้วย 2 ล้อเลยถูกเรียกเข้ามาแทนที่ และนี่ถือเป็นรูปแบบการเดินทางสัญจรที่สะดวกและเป็นไปได้มากกว่า สำหรับทุกกลุ่มชนในสังคมชนชั้นกลาง โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยทำงานที่สิทธิเสรีภาพแห่งบุปผาชนกำลังเบ่งบาน…สุดขีด!!!
TJ-GARAGE (โจ) / ธุรกิจส่วนตัว
Rokers Style : วัฒนธรรมที่เกิดในยุคปี’50 ที่ใช้เรียกเฉพาะเจาะจง “เด็กแว้น” ที่ก่อความรำคาญชาวบ้านร้านรวง เพราะสาวกเหล่านั้นจะขับขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วสูง (มากกว่า 100 ไมล์/ชม. หรือ 160 กม./ชม.) แถมรถที่ใช้ก็เป็นการปรับจูนเครื่องยนต์ ท่อไอเสีย ที่เน้นว่ามันต้องดัง และต้องแสบแก้วหูไปถึงกระดูกหอยโข่งของโพรงหูชั้นใน พฤติกรรมเหล่านี้ถูกมองในแง่ลบ และถือเป็นงานหนักที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้อง…ปวดเศียร!!! เพราะยิ่งจับ ก็ยิ่งเยอะ และเพิ่มเป็นเท่าทวีในทุกๆ วัน
เบญจ สุภผลวีรกุล (เบิร์ด) / ธุรกิจส่วนตัว
Café Racer : พาหนะวินเทจที่ได้รับความนิยมสูงสุดจนถูกบัญญัติเป็นรูปแบบของการปรับแต่งรถจักรยานยนต์ของยุคปี 1950…จาก…แบรนด์เฉพาะที่เรียกว่า “Triton” (ไทรตัน/Triumph+Norton) ที่โก๋อังกฤษปลงใจที่จะใช้เครื่องยนต์แบบ 2 สูบของ Triumph ยัดเข้ากับโครงสร้างเฟรมแบบแปลคู่ (Featherbes Frame) ของ Norton และเลือกใช้เบาะแบบตอนเดียว (ตูดมด) บาร์ทรงหมอบ (แฮนด์จับโช้ค) ถังน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถังทรงยาวอะลูมิเนียมปัดเงา ท่อไอเสียปลายยก และขยับพักเท้ามาไว้ทางด้านหลัง เรียกว่าหมอบขี่กันประมาณนั้น ซึ่งแน่นอนว่ามันเล็งผลเรื่องของสมรรถนะ “ความร็ว” มากกว่าการขับขี่ที่สบาย ทว่า ก็ไม่ใช่กรอบที่เคร่งครัดมากนัก ยังมีรถแบรนด์เด่นๆ ของอังกฤษอีกมากมายที่ถูกหยิบมาตกแต่งในรูปแบบรถแข่งนี้ อาทิ BSA, Royal Enfield, AJS และ Matchless
อภิรัตน์ แก้วเพชรสมุทร (ตั้ม) / ออกแบบตกแต่งภายใน
Rockers หยิบจับเอารถสต็อกมาปรับแต่งสไตล์ Café Racer ดาษดื่นจนตื่นตา ถ้าขี่อย่างเดียวก็คงไม่มีอะไรน่าจดจำ ทว่า Rockers สร้างสรรค์มันเป็นกิจกรรมที่แสดงออกถึงความเป็นแมนทั้งแท่ง เกเร ข่มขู่ผู้พบเห็นแบบอันธพาล แถมมีเรื่องกันประจำ 3 เวลาหลังอาหาร กับกลุ่มชนคนโมเดิร์นนิส (Mod’s ซึ่งเราจะกล่าวถึงในโอกาสต่อไป) ที่สถาปนาตัวเองว่ามีภาพลักษณ์ที่นุ่มนวล เป็นสุภาพบุรุษมากกว่า และเพื่อประกาศกร้าวให้รู้ว่า “โก๋มาแล้ว…ใครไม่เกี่ยวก็ถอยไป” เครื่องหมายการันตีความซ่าส์ (Symbolic) เลยถูกประทับไว้ที่ด้านหลังของแจ็กเกตหนังสีดำขลับกับเข็มกลัดเล็กใหญ่อีกสักกระบุงที่ด้านหน้า ทว่า ร้อยทั้งร้อย ก็หนีไม่พ้นไอ้แนวหัวกะโหลก หรือกระดูกไขว้เทือกนั้น และยึดสถานที่รวมตัวเสวนาภาษาโจ๋ๆ ณ ACE Café, สะพาน Chelsea, 59 Club, Ace of spedes และ Busy Bee and Johnson
ธิเชษฐ์ พวงสุวรรณ (กอล์ฟ) / ช่างแอร์ (ในตำนาน)
จากอังกฤษ…สู่…อเมริกา “แฟชั่นร็อคเกอร์” ถือเป็นวัฒนธรรมที่จำเป็น “สำหรับสิงห์มอเตอร์ไซค์”แจ็กเกตหนังสีดำที่ประดับด้วยหมุดเหล็ก เข็มกลัด กระทั่งตราสินค้าแผ่นเล็กๆ หลากชนิดที่ใช้กับมอเตอร์ไซค์ คือภาพลักษณ์ถนัด ซึ่งปรกติจะไม่สวมหมวกกันน็อกให้ผมเสียทรง ทว่า บางรายที่ใส่ก็ยังเลือกหมวกกันน็อกทรงคลาสสิกแบบเปิดหน้า (หมวกไข่เค็ม) กับแว่นก็อกเกิล ห้อยผ้าพันคอไหมที่คอยปกปิดเศษฝุ่นละอองที่จะมาโดนหน้า กางเกงก็ต้องเป็นยีนส์ Levi’s หรือ Wrangler เสื้อหนังต้อง Lewis Leather หรือ Brothel creepers แน่นอนว่าทรงผมเนี้ยบๆ ต้องมีจอนยาว และเรียบแปร้ เงาสลวยสวยเก๋ด้วยครีมจัดแต่งยี่ห้อ Brylcream ที่เปิดหน้าผากแล้วม้วนกลับไปด้านหลัง (อืม..แบบเดียวกะElvis Presley) แท้ที่จริงชื่อทรงอย่างเป็นทางการคือ Pompadour hairstyle (ทรงปลาทองหัววุ้น)
พิรินทร์บูลย์ ธนศรีวรฉัตร (ภิ) / สร้างพระ
ภาพลักษณ์ที่ ดูดิบ เถื่อน สกปรก “ร็อคเกอร์” จึงเป็นวัฒนธรรมกลุ่มชนที่ถูกตัดออกจากสังคม คลับ บาร์ หรือ ลานเต้นรำ จึงเป็นที่สิงสถิตของพวกเขา มันนำพาซึ่งเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความรุนแรง อาชญากรรม และยาเสพติด (แอมเฟตามีน, กัญชา, เฮโรอีน) ซึ่งต่อมาได้รับการต่อว่าต่อขานจากก๊วนฝั่งอังกฤษอยู่ไม่น้อย ซึ่งข้อกำหนดของทางฝั่งอังกฤษคือ คุณจะ ซ่าส์ แก่น เซี้ยว บ้าบิ่น ไม่เคยว่า แต่ต้อง “ห้าม” ใช้ยา (เสพติด) โดย…เด็ดขาด!!! ทว่า ร็อคเกอร์อเมริกากลับไม่ยี่หระ วัฒนธรรมใหม่แพร่ขยายเหมือนโรคระบาด…และ…ยังคงทิ้งเชื้อไข้ถึงเจเนอเรชั่นที่ X แห่งโลกเสรีใบนี้ต่อไป…Rocker Never Die…!?!?!
สุธี เอี่ยมไพศาล (ต้า) / พนักงานออฟฟิศ