ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่เข้ามา และภาพประสบการณ์ในการผจญภัยของผมที่ญี่ปุ่นก็มีให้ทุกคนได้ติดตามกันต่อ ในครั้งนี้ผมได้มีนัดไปถ่ายรูปไกลถึงจังหวัดนากาโนะ เป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งของสำนัก GARAGE MAK สำนักแต่งรถค่าย Nissan และผลิตชุดแอโรพาร์ทแนว Time Attack ที่กำลังดังอยู่ในญี่ปุ่นขณะนี้ และครั้งนี้ผมต้องเดินทางไปเองโดยการนั่งรถไฟ ทำให้ต้องรีบออกเดินทางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ไปลงสถานี Shinjuku และต่อรถด่วนพิเศษ Super Azusa ไปลงสถานนี Matsuyama ระหว่างการเดินทางผมก็ได้สัมผัสกับภาพบรรยากาศที่สวยงามของธรรมชาติข้างทาง พอมาถึงจุดหมาย คุณ Tsubaki ได้ขับเจ้าฉลามสีน้ำเงิน (Silvia S15) ของเขามารถรับผมที่หน้าสถานี ภาพในตอนนั้นที่เห็นเหมือนปลาฉลาม ที่ได้หลุดเข้ามาอยู่ในฝูงปลาเล็ก ยังไงยังงั้น ระหว่างการเดินทางไปยัง GARAGE MAK ก็ได้จอดแวะนัดเจอกับ คุณ Amemiya เจ้าของฉลามเงิน ก่อนจะเดินทางต่อ ขณะที่เดินทางผมก็ได้มีโอกาสพูดคุยและเรียนรู้วิถีชีวิตของคนเล่นรถซิ่งญี่ปุ่นมากมาย อย่างรถของคุณ Tsubaki เอง ที่สภาพนั้นเหมือนหลุดออกมาจากสนามแข่ง จริงๆ แล้วเวลาต่อทะเบียนในแต่ละครั้ง เขาต้องทำรถให้กลับมาเป็นสภาพใกล้เคียงเดิมให้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถตรวจสภาพได้ ที่แน่ๆ โรลบาร์ต้องเอาออก ภายในต้องใส่ให้ครบ รถต้องยกสูงขึ้น นำล้อเดิมมาใส่ และในรถของเขานั้น ยังต้องมีตัวปรับเสียงท่อไอเสียเอาไว้ด้วย เพื่อที่เวลาเจอตำรวจก็ปรับเสียงท่อให้เงียบลง เวลาจะซ่าก็ค่อยปรับให้มันดังขึ้น
พอมาถึงที่หมาย ผมได้เข้าไปทักทายกับทางเจ้าของสำนัก และผู้จัดการร้าน ซึ่งทั้งสองคนนั้นเป็นพี่น้องกัน คนพี่เป็นผู้จัดการร้าน คอยดูแลร้านทำการตลาด ส่วนคนน้องเป็นเจ้าของสำนัก คอยทำรถและดูแลในส่วนของร้านทั้งหมด ซึ่งทางร้านจะเน้นไปในงานโมดิฟายรถยนต์ของค่าย Nissan เป็นส่วนใหญ่ รถที่มาทำกับที่นี่ มีตั้งแต่รถสเต็ปถนน จนไปถึงรถแข่งทางเรียบ และดริฟต์ ซึ่งที่นี่ไม่ได้ทำแค่เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว เขายังผลิตชุดแอโร่พาร์ทออกจำหน่ายอีกด้วย โดยใช่ชื่อว่า Revolution aero part ชุดแต่งของเขานั้นมีหลายรุ่นหลายสเต็ปให้เลือก แต่ต้องบอกตรงๆ ว่า ถ้ามาใส่ในบ้านเรา พาร์ทแตกกระจายแน่นอน
หลังจากที่ได้ถ่ายรูปบรรยกาศในร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลานำเหล่าตัวแรงในอู่ออกไปซิ่งข้างนอกกัน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีแต่ตัวโชว์ของทางสำนักทั้งนั้น ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ถ่ายรถ Fairlady Z33 รถแข่ง Time Attack ของคุณ Miyagawa คนพี่ และแล้วการจัดภาพในครั้งนี้ก็เป็นไปด้วยดี ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมความสนุกกลับไปมากมาย
หลังจากที่ทุกคนได้เหน็ดเหนื่อยกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาของการมานั่งจิบน้ำชาพูดคุยกัน ก่อนที่จะแยกย้าย ซึ่งไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าสำนักชื่อดังอย่างนี้จะให้การต้อนรับผมดีมากๆ ถึงแม้ว่าผมจะต่างภาษา ต่างเชื้อชาติกัน แต่ถ้ามีความหลงใหลในสิ่งเดียวกัน คงไม่มีกำแพงไหนมากั้นมิตรภาพดีๆ แบบนี้ได้