Super Turbo Thailand เรซ 4 กับการแข่งขันในแบบ Night Race อันแปลกตาและสุดมันส์

 

มาถึงไฮไลท์ของการแข่งขัน Super Turbo Thailand ในครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการแข่งขันในเรซที่ 3 และ 4 ซึ่งในเรซที่ 4 เป็นการแข่งขันในแบบ Night Race โดยทุกรุ่นจะเริ่มการแข่งขันในช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นที่รุ่น

EFGK … Race 4

เสียงกระหึ่มของตัวแรงขุมพลัง VTEC จากเครื่องยนต์ Single Cam และ Twin Cam ที่เปิดประเดิมการแข่งขันแบบ Night Race เป็นรุ่นแรกด้วยการ Rolling Start ภายใต้การนำของ หมายเลข 79 กนล ไชยกุลงามดี จากรุ่น Twin Cam AM+Junior ที่ออกสตาร์ทจากตำแหน่งโพล โพสิชั่น

ซึ่งผ่านไปเพียงรอบแรกของการแข่งขัน หมายเลข 89 ฉัตรมงคล วิสุทธิเสน ในรุ่น Twin Cam AM+Junior ที่สวนจากกริดสุดท้าย ก็โชว์ฟอร์มเดือดไล่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 และสวนผู้นำอย่างหมายเลข 79 ไปอย่างสะใจ ส่วนอันดับที่ 3 ของรุ่นนี้ยังคงเป็นหมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ ในรุ่น Twin Cam AM+Junior ที่รั้งอันดับไว้อย่างเหนียวแน่น

ในขณะที่กลุ่มกลางขบวนอย่างอันดับ 4, 5, 6, 7 ก็เปิดเกมส์บู๊ดุเดือดไม่แพ้หัวแถวตามลำดับ ซึ่งนำโดย หมายเลข 7 อณิวัฎ ล้อมมหาดไทย ในรุ่น Single Cam, หมายเลข 63 คัดชล เทียนจุมพล ในรุ่น Twin Cam AM+Junior, หมายเลข 22 ธนเทพ พู่ประเสริฐศักดิ์ ในรุ่น Single Cam และหมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ ในรุ่น Twin Cam ที่ยังคงเกาะติดกันเป็นกลุ่มใหญ่ โดยในช่วงกลางการแข่งขัน หมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ ก็โชว์ความเก๋าเกมส์ หวดรวดเดียวขยับจากอันดับ 7 ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ก่อนที่รถจะมีปัญหาจนต้องเข้าพิทไป

ส่วนกลุ่มหัวแถวก็มากับไฮไลต์เด็ดเช่นกัน กับลีลาการซิ่งของอันดับที่ 3 หมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ ที่บดคันเร่งเกาะติดอันดับ 2 หมายเลข 79 กนล ไชยกุลงามดี จะดุเดือด จนได้โอกาสกระแทกคันเร่งส่งตัวเองขึ้นเป็นอันดับ 2 ได้อย่างสวยงาม ก่อนเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งชัน 8 รอบสนาม

และในที่สุดก็จบการแข่งขันลงด้วยชัยชนะของหมายเลข 89 ฉัตรมงคล วิสุทธิเสน ในรุ่น Twin Cam AM+Junior ไปอีกครั้ง หลังจากสอยแชมป์สนาม 3 ไปแล้วเมื่อวาน เช่นเดียวกับอันดับที่ 2 ซึ่งก็เป็นของ หมายเลข 79 กนล ไชยกุลงามดี จากรุ่น Twin Cam AM+Junior อีกเรซเช่นกัน ตามมาด้วยอันดับที่ 3 กับหมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ ในรุ่น Twin Cam AM+Junior

ROADMASTER … Race 4

พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า พร้อมกับการปรากฏร่างของตัวซิ่งรุ่นใหญ่ Road Master ลงทำการแข่งขันในสนามที่ 4 ซึ่งพร้อมปลดปล่อยพละกำลังจากเครื่องยนต์ 3.2 และ 2.2 ลิตร สู่ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ บนสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในค่ำคืนนี้

ส่วนตำแหน่งโพล โพสิชั่นบนกริดสตาร์ทของรุ่นนี้เป็น หมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกูร จากรุ่น 3200 AM+Junior ซึ่ง Rolling Start ออกตัวนำเป็นจ่าฝูงทันที พร้อมด้วยความเร้าใจทันที เมื่อรถหมายเลข 17 ธนภณ ทองเจือ ในรุ่น 2200 เกิดเสียหลักหมุนในโค้งแรก แต่นับว่ายังโชคดีที่ไม่เกิดความเสียหาย เพราะสามารถกลับมาแข่งขันต่อได้ในอันดับท้ายแถว

ในขณะที่หัวแถวนั้นก็ยังหวดคันเร่งฝ่าความมืดของสนามกันอย่างดุเดือด โดยนำทีมโดย EVO 2 ลำ คือ หมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกูร จากรุ่น 3200 AM+Junior เป็นจ่าฝูง ซึ่งตามมาติดๆ ด้วยหมายเลข 29 เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ จากรุ่น 3200 AM+Junior โดยมีอันดับ 3 เป็นหมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ ในรุ่น 2200 AM+Junior ซึ่งก็ยังเป็น EVO อีกเช่นกัน

โดยทางด้านอันดับ 4 ที่กำลังตีตื้นขึ้นมาในช่วงกลางการแข่งขัน คือ หมายเลข 9 ตัวซิ่งสูบหมุน RX-7 ของ คัมภีร์ ธรรมธาราณา ในรุ่น 2200 AM+Junior และกำลังพยายามเดินคันเร่งเต็มที่ในการขยับติดอันดับที่ 3 เช่นเดียวกับอันดับ 5 และ 6 ที่บี้ติดกันมาเหมือนกัน คือ หมายเลข 99 ภาณุพงศ์ ศรีมานพ กับ 350Z ในรุ่น 2200 AM+Junior และหมายเลข 6 วีระกาจ ดอกจันทร์ กับ EVO ในรุ่น 2200 AM+Junior

ปลายทางของการแข่งขันเกมส์พลิกครั้งใหญ่ เมื่อผู้นำหมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกูร รถมีปัญหาทำให้ต้องออกจากการแข่งขันไป เป็นผลให้อันดับ 2 อย่างหมายเลข 29 เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ จากรุ่น 3200 AM+Junior ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำ แต่ก็ต้องชวดตำแหน่งไป เมื่อ หมายเลข 9 RX-7 ของ คัมภีร์ ธรรมธาราณา ที่ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 มากับฟอร์มดุเดือด ไล่แซง หมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ก่อนจะทิ้งทวนด้วยการสวนจ่าฝูงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 อย่างสวยงาม

จบการแข่งขัน อันดับที่ 1 เป็น หมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา ในรุ่น 2200 AM+Junior, อันดับที่ 2 เป็นหมายเลข 29 เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ จากรุ่น 3200 AM+Junior และอันดับที่ 3 เป็น หมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ ในรุ่น 2200 AM+Junior

PICKUP TURBO … Race 4

ได้ฤกษ์ปล่อยของแรงลงสนาม กับความมันส์จากรุ่น Pickup Turbo ตัวแรงขุมพลังดีเซล Commonrail พิกัด 2,000 – 3,000 ซีซี ที่ควบคุมด้วยนักแข่งเท้าหนักเพื่อสร้างความสะใจให้การแข่งขัน Night Race สนามที่ 4

ส่วนตำแหน่งโพล โพสิชั่น บนกริดสตาร์ทของรุ่นนี้ คือ หมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ มือขับจาก Class AM ที่ Rolling Start ออกนำ ซึ่งผ่านรอบแรกไปครึ่งสนาม หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 ก็ไล่บี้อย่างหนัก และสอยเอาตำแหน่งจ่าฝูงมาครองได้สำเร็จ แต่ยังอยู่ในระยะห่างที่น่ากลัวจะเสียตำแหน่งไม่น้อย เช่นเดียวกับอันดับที่ 3 ที่ถูกตรึงไว้โดยหมายเลข 2 เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก Class Junior

ซึ่งในกลุ่มหัวแถวของรุ่นนี้เรียกได้ว่าดุเดือดที่สุดก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ตำแหน่งจ่าฝูงไปไล่ลงไปนั้นเกาะติดกันไม่ยอมห่าง ชนิดที่ว่าแทบจะ “กอง” รวมกัน ในจังหวะเข้าโค้งลึก ส่วนตำแหน่งผู้นำในการแข่งขัน ก็ยังคงเป็น หมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ที่เหนียวแน่น ส่วนอันดับ 2 เป็นเปลี่ยนมือเป็น หมายเลข 2 เอกสิทธิ์ นามแสงผา ที่ตัดไลน์ในโค้งซ้ายแซงขึ้นมา ส่งหมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล ลงมาอยู่ในอันดับ 3

โดยในช่วงต่อมานั้นเกมส์เปลี่ยนเมื่อ หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล บดคันเร่ง โชว์ความเก๋า สวนขึ้นมาเป็นจ่าฝูง ตามมาด้วยหมายเลข 78 พิสิษฐ์ เนตรเดชาธนาสิทธิ์ จาก Class AM ที่ไล่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 และตามกดดันหัวแถวอย่างหนัก จนต้องเบรคลึกเสียจังหวะบานออก เปิดโอกาสให้หมายเลข 78 พิสิษฐ์ เนตรเดชาธนาสิทธิ์ ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงในช่วงเกือบท้ายการแข่งขัน ส่วนหมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล ลงมาอยู่ในอันดับ 2 และ หมายเลข 2 เอกสิทธิ์ นามแสงผา รั้งอันดับ 3

ในขณะที่หัวแถวนั้นก็ยังหวดคันเร่งฝ่าความมืดของสนามกันอย่างดุเดือด โดยนำทีมโดย EVO 2 ลำ คือ หมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกูร จากรุ่น 3200 AM+Junior เป็นจ่าฝูง ซึ่งตามมาติดๆ ด้วยหมายเลข 29 เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ จากรุ่น 3200 AM+Junior โดยมีอันดับ 3 เป็นหมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ ในรุ่น 2200 AM+Junior ซึ่งก็ยังเป็น EVO อีกเช่นกัน

ปลายทางของการแข่งขัน หลังจากที่ หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล เสียตำแหน่งไป ก็กลับมาไล่บี้อย่างหนัก และทวงตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ ในขณะที่หมายเลข 78 พิสิษฐ์ เนตรเดชาธนาสิทธิ์ นั้นแผ่วลงไปเพราะรถมีปัญหาจนต้องออกจากการแข่งขัน ทำให้หมายเลข 2 เอกสิทธิ์ นามแสงผา กลับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 และหมายเลข 10 ศุภชัย คงมั่น จาก Class Junior อยู่ในอันดับ 3 ซึ่งก่อนจะจบการแข่งขันหมายเลข 10 ก็สบโอกาสแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2

สรุปผลการแข่งขันอันดับที่ 1 คือ หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล, อันดับ 2 หมายเลข 10 ศุภชัย คงมั่น จาก Class Junior และอันดับ 3 หมายเลข 2 เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก Class Junior

SUPER TURBO … Race 4

ส่งท้ายค่ำคืนนี้ด้วยการดวลความเร็วของรุ่น Super Turbo สนามที่ 4 ทั้ง 4 Division กว่า 40 คัน ภายใต้การนำของ หมายเลข 3 จักษ์ทอง นาวาศุภพานิช จาก Class D2 ที่ประจำการอยู่ในตำแหน่งโพล โพสิชั่น ตามด้วยกริดที่ 2 กับหมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ มือเก๋า จาก Class D2

Rolling Start ความมันส์ยามค่ำด้วยฝูงรถแข่ง Super Turbo จำนวน 10 รอบสนาม โดยมี หมายเลข 3 จักษ์ทอง นาวาศุภพานิช จาก Class D2 ขึ้นนำ ตามด้วยอันดับ 2 หมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ จาก Class D2 ส่วนอันดับ 3 ที่กดคันเร่งไล่มาติดๆ คือ หมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข มือขับจาก Class D1 AM+Junior โดยมี หมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกูร จาก Class D2 AM+Junior เป็นอันดับ 4 ซึ่งเกาะกันติดเป็นแถว ชนิดที่ว่าคงต้องลุ้นกันจนกว่าการแข่งขันจะจบเลยทีเดียว

และไม่ใช่แค่กลุ่มหัวแถวเท่านั้นที่น่าลุ้น เพราะยังมีที่หวดไล่ตามกันมา หลังอันดับที่ 5 หมายเลข 6 วีระกาจ ดอกจันทร์ จาก Class D1 AM+Junior, อันดับที่ 6 หมายเลข 2 พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ จาก Class D2 AM+Junior และอันดับที่ 7 หมายเลข 17 ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ นักแข่งสาวจาก Class D2 AM+Junior อีกหนึ่งกลุ่มใหญ่ และยังคงตั้งหน้าตั้งตา เดินคันเร่งขับเคี่ยวกันต่อไปอย่างดุเดือดเช่นกัน

ครึ่งทางของการแข่งขั้นผ่านไป โดยกลุ่มนำทั้ง 4 อันดับ ต่างก็ยังรั้งตำแหน่งเอาไว้อย่างเหนียวแน่น โดยจ่าฝูงหมายเลข 3 จักษ์ทอง นาวาศุภพานิช เริ่มยืดระยะห่างออกไป ในขณะที่อันดับ 2, 3 และ 4 ก็เริ่มขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดมากขึ้น พร้อมกับการเปลี่ยนมือของอันดับที่ 5 ด้วยลีลาการซิ่งของ หมายเลข 2 พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ ในอันดับ 6 ที่สวนหมายเลข 6 วีระกาจ ดอกจันทร์ ขึ้นมา

ใกล้ปลายทางของการแข่งขัน หมายเลข 3 จักษ์ทอง นาวาศุภพานิช ยังโชว์ความเก๋าด้วยการรั้งตำแหน่งจ่าฝูง ในขณะที่อันดับ 2 หมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ นั้นพลาดท่าเสียตำแหน่งให้กับ หมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แต่ดูเหมือนโชคไม่เข้าข้างเท่าไหร่ เพราะรถมีปัญหาจนต้องออกจากากรแข่งขันไป ทำให้หมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ กลับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 อีกครั้ง ในขณะที่ หมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกู ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3, หมายเลข 2 พิพัฒน์ เพ็ชรรัตน์ ขึ้นมาอันดับ 4 และหมายเลข 6 วีระกาจ ดอกจันทร์ ขึ้นมาอันดับ 5 โดยเป็นลำดับสุดท้ายของการแข่งขันที่จบลงอย่างสะใจในแบบบรรยากาศ Night Race

เตรียมตัวให้พร้อม เพราะความมันส์แบบติดเทอร์โบจากรายการ Super Turbo Thailand จะกลับมามอบความเร้าใจสไตล์นี้อีกครั้งกับนัดต่อไป สนาม 5 และ 6 ในวันที่ 22-23 กรกฏาคม ตามด้วยนัดปิดฤดูกาล กับความดุเดือดในเกมส์ประลองความอึด Endurance 600 Mins ในวันที่ 14- 15 -16 ธันวาคมนี้ ติดตามข่าวสารได้ทาง www.superturbothailand.com  และ facebook.com/Superturbothailand