บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยาง Toyo Tires, Nitto Tire, Nankang Tire และ ศูนย์บริการยางรถยนต์ “กริพ” จัดงานแถลงข่าวกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจประจำปี 2562 “T.SIAM NEXT 2019” พร้อมเปิดตัวสินค้า และการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ NANKANG TIRE ประจำประเทศไทย
นายอภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด กล่าวถึงงานแถลงข่าวกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ NANKANG ประจำประเทศไทยว่า สำหรับในปี 2562 นี้ ทางบริษัทฯ ได้มีการวางแผนกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้อง กับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งมีความต้องการที่หลากหลาย และรวดเร็ว รวมถึงการค้นหาข้อมูลเชิงลึกของสินค้าต่างๆ ที่ผู้บริโภคมีความสนใจนั้นรับสิทธิจำหน่ายยาง “NANKANG” สำหรับประเทศไทย พร้อมเปิดตัว 10 รุ่นแรก!!
ซึ่งในปีนี้ทางบริษัท ได้รับสิทธิเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายยางรถยนต์นันกัง “NANKANG” สำหรับประเทศไทย พร้อมเปิดตัว 10 รุ่นแรกภายในงานโดยสำหรับยางนันกัง นั้นเป็นแบรนด์ยางจากประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงทั้งในด้านการออกแบบสินค้า และการผลิต รวมถึงมีทีมงาน R&D ที่สามารถพัฒนาสินค้าได้มากมายและหลากหลายขนาดตามความต้องการของท้องตลาดได้เป็นอย่างดี และได้จัดจำหน่ายยางทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดยุโรป อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น เป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยสำหรับในปีแรกนั้น ทางบริษัทได้นำยางนันกัง เข้ามาจัดจำหน่ายทั้งหมด 10 รุ่น แบ่งออกเป็นยางรถยนต์สำหรับรถยนต์นั่งทั่วไป 7 รุ่น ซึ่งมีทั้ง ECO tire, Comfort tire รวมถึง High Performance tire และสำหรับรถกระบะหรือ SUV อีก 3 รุ่นเพื่อตอบสนองครบทุกความต้องการของลูกค้าในท้องตลาด โดยในส่วนของยางนันกัง ทุกเส้นที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายก็ยังคงได้รับสิทธิการรับประกัน บาด บวม แตก ตำ เปลี่ยนฟรี 60 วัน เช่นเดียวกับ ทุกๆ แบรนด์ที่บริษัทฯ จัดจำหน่าย
TOYO TIRES โชว์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดครั้งแรกของโลก “TIRE WEAR INDICATOR” พร้อมโชว์ยางแห่งอนาคต “NO AIR” ที่แรกในไทยสำหรับยางโตโยไทร์นั้นในปีนี้ ได้เปิดตัวยางใหม่ด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันได้แก่ยางสปอร์ตคุณภาพสูง TOYO PROXES SPORT สำหรับรถยนต์หรูหราสมรรถนะสูง และ TOYO PROXES SPORT SUV สำหรับรถ PREMIUM SUV ที่ต้องการยางประสิทธิภาพสูง เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง พร้อมทั้งยาง TOYO PROXES TR1 ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ลายดอกยางที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดครั้งแรกของโลกกับ “TIRE WEAR INDICATOR” ที่ผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คได้ด้วยตนเองได้ว่า เมื่อไหร่ที่ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ครั้งต่อไป ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนั้นได้มีวางจำหน่ายในท้องตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ภายในงานยังได้นำยาง TOYO TIRES “NO AIR” ยางแห่งอนาคตที่ทาง Toyo Tires ได้ค้นคว้าและพัฒนาเพื่อเป็นยางรถยนต์สำหรับยานยนต์ในอนาคตมาจัดแสดงภายในงาน เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดย สำหรับยาง “NO AIR” นั้นเป็นยางรถยนต์ที่ไม่ต้องเติมลมในการใช้งาน ไม่ต้องบำรุงรักษา โดยได้ใช้เทคโนโลยียางสังเคราะห์พร้อมโครงสร้างยางรูปตัว “X” กระจายทั่วยางกว่า 100 จุด เป็นตัวโครงสร้างของยางทั้งหมด รวมถึงทั้งเนื้อยางที่มีส่วนผสมของ Nano Balance Technology ช่วยให้ยางยึดเกาะถนน และ ลดแรงเสียดทานจากยางขณะวิ่ง ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ขยาย WAREHOUSE 15,000 ตารางเมตร รองรับยางรถยนต์มากกว่า 200,000 เส้น
สำหรับในปีนี้ เพื่อรองรับการขยายและเติบโตของทางบริษัทฯ ทั้งในด้านสินค้าที่มี SKU มากยิ่งขึ้นนั้น ทาง บริษัทก็ได้ทำการเพิ่มขยายต่อเติมในส่วนของ WAREHOUSE ในเฟสที่ 2 เพิ่มเติมอีก 5,000 ตารางเมตร รวมทั้งหมด 15,000 ตารางเมตร โดยสามารถรองรับการเก็บยางรถยนต์ได้มากกว่า 200,000 เส้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในท้องตลาดที่มีต่อสินค้าที่บริษัท จัดจำหน่ายมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน
เปิดตัว App “GRIP” ที่เดียว จบเรื่องยาง รองรับ Digital Transformation พร้อมขยายครบ 80 สาขา ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทกับผู้บริโภคยุคใหม่อย่างเห็นได้ชัด จาก Digital Disruption ที่ผ่านมากับหลายๆ ธุรกิจทั้งในด้านการค้นหาข้อมูล หรือการเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า และ บริการต่างๆ ในปัจจุบัน ซึ่งแบรนด์ต่างๆ ก็ได้พยายามทำการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อที่จะสามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้เป็นอันดับต้นๆ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้บริษัท ได้ทำการพัฒนา Application “GRIP” เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับลูกค้าที่มีความต้องการซื้อยางรถยนต์ให้สามารถทำการค้นหาข้อมูลยางรถยนต์ที่ต้องการ, สั่งซื้อสินค้า, ชำระเงิน, ผ่อน 0%, ลงทะเบียนใบรับประกัน online ได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้ว และสะดวกรวดเร็ว โดยมีศูนย์บริการยางรถยนต์
GRIP ขยายตัวรองรับความต้องการยางรถยนต์คุณภาพสูง ครบ 80 สาขาทั่วประเทศภายในปีนี้
สร้าง Experience Marketing ดึงออนไลน์ สู่ออฟไลน์ จับมือนักร้องแร็พเปอร์ชื่อดัง ลุย Digital Platform พร้อมกวาดสนับสนุน Motor Sport 5 รายการดัง สัมผัสประสิทธิภาพยาง ผ่านการแข่งขันรายการชั้นนำ
จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมาของการทำ Music Marketing & Movie Marketing ของทางบริษัทฯ ผ่านช่องทาง Online ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เพลง GRIP 4 ภาค, น้องโดนตำ รวมถึงหนังสั้น เด็กนิตโตะ มีสิทธิไหมครับ ที่มียอด View มากถึง 11 ล้านวิวภายใน 1 เดือนนั้นทำให้ในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้ต่อยอดความสำเร็จดังกล่าวในการจัดทำภาพยนตร์ชุดใหม่ออกมาอีก 2 เรื่องสำหรับ ยางโตโยไทร์ และ นันกังไทร์ ซึ่งยังคงดึงจุดขายถึง Experience Insight ของผู้บริโภคในสถานการณ์ต่างๆ ที่จะได้พบเจอขณะขับขี่รถยนต์มาสร้างเป็นภาพยนตร์ต่างๆ เพื่อสื่อถึงแบรนด์สินค้าที่บริษัทฯ ได้จัดจำหน่าย และสำหรับในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้จับมือนักร้องแร็พเปอร์ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น IRON BOY, U-RIUS, P-HOT ร่วมกันสร้างเพลงแร็พสำหรับยางทั้ง 3 แบรนด์ที่บริษัทฯ จัดหน่ายทั้ง โตโยไทร์, นิตโตะไทร์ และ นันกังไทร์ สำหรับใช้ในการประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ ทั้ง online และ off line รวมถึงทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่บริษัท ได้จัดขึ้น โดยนอกเหนือจาก Music & Movie Marketing ที่ทางบริษัท ได้วางแผนประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านช่องทางต่างๆ แล้วนั้น
ในส่วนของ Motor Sport Marketing ในปีนี้ ทางบริษัทก็ยังคงให้ความสัมพันธ์ในการสร้าง Experience Marketing ผ่านการแข่งขันรายการชั้นนำต่างๆ เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้สัมผัส และเห็นถึงประสิทธิภาพและคุณภาพยาง และ สินค้าต่างๆ ที่ทางบริษัทได้จัดจำหน่ายผ่านช่องทางการแข่งขันต่างๆ และรวมถึงยังเป็นการสร้าง KOL ในหลายๆ ช่องทางผ่านนักแข่งต่างๆ ที่ได้ใช้ยางแต่ละรุ่นผ่านการแข่งขัน Motor Sport 5 รายการใหญ่ในปีนี้ที่บริษัทสนับสนุนได้แก่ Toyota Motorsport, Toyo Racing Car Thailand, Toyo R1R Drag Battle, Toyo King of Drag และ Souped up Thailand 2019 รายการแข่งขันรถ DRAG ที่ใหญ่ที่สุดซึ่งทุกรายการจะใช้ยาง Toyo Tires ในการแข่งขันทุกรายการซึ่งสำหรับไตรมาสที่ 2 จะได้เริ่มเห็นกลยุทธ์การทำการตลาดที่ทางบริษัทฯ ได้วางแผนเอาไว้ทั้งหมดทยอยออกสู่สายตาของผู้บริโภค โดยสินค้าทุกแบรนด์ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำการตลาดแต่ละกลุ่มอยู่แล้ว โดยคาดว่าในปีนี้ทั้งในส่วนของยอดขาย และ กิจกรรมทางการตลาดที่บริษัทได้วางแผนไว้จะไปถึงเป้าหมายที่ทางบริษัทฯ ได้กำหนดไว้ทั้งหมด