สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ แถลงข่าวร่วมกับ จีทีเอ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที โยงยาวตามสัญญาถึงปี 2018 พร้อมยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เผยความร่วมมือเดินหน้าพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ประกาศเดินหน้าจัด “ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์” เริ่มต้นปีหน้า
ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ร่วมกับ มร.มาซากิ บันโดะ ประธานบริษัท จีทีเอ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันรายการ ซูเปอร์ จีที แถลงข่าวรายละเอียดการแข่งขัน “บุรีรัมย์ ซูเปอร์ จีที เรซ” โดยมีใจความหลักอยู่ที่เรื่องสัญญาความร่วมมือในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และการจับมือกันเพื่อพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตในเมืองไทย
นายเนวิน เปิดเผยว่า “ต้องขอขอบคุณฝ่ายจัดการแข่งขันซูเปอร์จีที ที่ให้การไว้ใจสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ให้จัดการแข่งขันเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน พวกเราดีใจ เพราะรายการนี้เรายกให้เป็นรายการรถยนต์รายการที่ยิ่งใหญ่ และเป็นรายการที่สำคัญของสนามเรา ปีนี้ถือเป็นปีที่สนุกมากอีกปี เพราะทุกอย่างมีการพัฒนายกระดับให้น่าตื่นเต้น และยิ่งใหญ่ขึ้น เราจะเห็นว่ารถที่ใช้ในการแข่งขันทั้ง จีที 500 และจีที 300 มีสมรรถนะดีขึ้นเยอะ ซึ่งดูได้จากเวลาในรอบการฝึกซ้อม และการควอลิฟาย ซึ่งก็ทำรายเวลาของ 2 ปีที่ผ่านมา”
“ส่วน 2 ทีมของไทยที่ได้สิทธิ์ไวการ์ด ในรุ่นจีที 300 ก็ถือว่าเราทำได้ดี หากรวมรถทั้งหมด แล้วเอามาเรียงกันจะเห็นว่าทีมแข่งของไทย มีเวลาที่ดีขึ้น สามารถสู้กับรถของทางญี่ปุ่นได้อย่างใกล้เคียง แต่เราก็ต้องมีเรื่องที่จะต้องปรับอีกเยอะ เพราะรถญี่ปุ่นก็ดีขึ้นเยอะเรื่อยๆ”
“เป้าหมายในปีต่อๆ ไปนโยบายของเรายังยึดถือแบบเดิม คือยกให้รายการแข่งขันซูเปอร์ จีที เป็นรายการรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของสนามช้าง อินเตอร์ เนชั่นแนลเซอร์กิต ปี 2017 และ2018 รายการนี้จะต้องยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก และสนุกตื่นเต้นขึ้นไปอีก ชั่วโมงนี้หากไม่นับรวมรถฟอร์มูล่า วัน ผมว่าไม่มีเรซไหนน่าสนใจไปกว่า ซูเปอร์จีที อีกแล้ว โดยในปีต่อๆ ไปนอกจากการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตแล้ว เรายังพัฒนาเมืองควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ทั้งชาวต่างชาติ และสื่อมวลชนมีความสะดวกสบายมากที่สุดระหว่างการแข่งขัน และเพื่อปูทางในการดึงโมโตจีพี มาแข่งขัน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในอนาคต” นายเนวิน กล่าว
ด้าน มร.มาซากิ บันโดะ กล่าวว่า “สนามช้างฯ เป็นตัวเลือกสำคัญของ ซูเปอร์ จีที มาตลอด ย้อนหลังไปเมื่อปี 2014 ตั้งแต่มีสนามเกิดขึ้นที่นี่ ทำให้เราทีความมั่นใจกับการเดินทางมาแข่งขันในเมืองไทย เพื่อจัดการแข่งขัน ซูเปอร์จีที ส่วนตัวอยากบอกคนไทยว่า คุณเนวิน มีความตั้งใจจริงในการตั้งเป้าหมายให้มอเตอร์สปอร์ตพัฒนาต่อไปในระยะยาว ต้องขอขอบคุณที่สร้างสนามแห่งนี้ ซึ่งช่วยยกระดับมอเตอร์สปอร์ตไทย และการจัดซูเปอร์ จีที ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรามีฐานแฟนชาวไทย เพิ่มมากขึ้น ภาพรวมทั้งหมดของสนาม ตัวเมืองบุรีรัมย์ และสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้การจัดการแข่งขันลุล่วงไปด้วยดี ส่วนรถทีมไทยเสียเปรียบทีมจากญี่ปุ่น เพราะเพิ่งมาถึง ทำให้ต้องปรับตัวมากกว่า ขณะที่เวลาในการซ้อมค่อนข้างจำกัด”
ทั้งนี้ อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือ ความร่วมมือของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และ จีทีเอ ซึ่งล่าสุดทีการหารือเกี่ยวกับการก่อต้องการแข่งขันรายการใหม่อย่าง ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์ ขึ้นในปีหน้า
โดย มร.บันโดะ กล่าวว่า “เรามีความสนใจที่จะร่วมมือกับ สนามช้างฯ ในการยกระดับการแข่งขันในเมืองไทย ซึ่งได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์ ขึ้นมา ซึ่งจะช่วยยกระดับทีมแข่งและนักขับไทยให้สามารถต่อสู้กับทีมแข่งทั่วโลกได้ โดยเฉพาะในการแข่งขัน ซูเปอร์จีที นั่นเอง”
ขณะเดียวกัน นายเนวิน กล่างทิ้งท้ายว่า “ผมขอประกาศตรงนี้เลยว่า เราจะเดินหน้าเต็มที่ให้มีการแข่งขันรายการ ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์ เกิดขึ้นภายในปี 2017 เพื่อพัฒนาทีมแข่งไทย, นักแข่งไทย และแสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของมอเตอร์สปอร์ต”