มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายสนธยา คุณปลื้ม อุปนายก 2 ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ใน พระบรมราชูปถัมภ์ – สมาคมกีฬา ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “Toyota Gazoo Racing Motorsport 2019” เมื่อวันอังคารที่ 23 เมษายน 2562 ณ Toyota ALIVE SPACE ไอคอนสยาม
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยให้การสนับสนุนตั้งแต่ระดับเยาวชนต่อเนื่องไปจนถึงนักแข่งในระดับอาชีพ เปิดโอกาสให้นักแข่งไทยได้มีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ จากความทุ่มเทในการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยกว่า 32 ปี ส่งผลให้โตโยต้าก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยอย่างแท้จริง
มร.ซึงาตะ กล่าวว่า “จากความเชื่อที่ว่าทุกหนทาง ย่อมมีทางที่ดีกว่าเสมอ ก่อเกิดเป็นวิสัยทัศน์ของ โตโยต้าในการสร้าง “ยนตรกรรมที่ ดียิ่งกว่า” ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า ซึ่งจากวิสัยทัศน์ดังกล่าวทำให้ คุณอากิโอะ โตโยดะ ในฐานะ Master Driver มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างยานยนต์ที่เขารักขึ้นมาเพื่อตอบสนองลูกค้าทุกท่าน หนึ่งในวิธีที่จะสร้างยนตรกรรม ที่ดียิ่งกว่านั้น คือ การที่เราเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับทั้งรถและคนที่สร้างรถเหล่านั้น เพื่อนำความรู้สึกที่ได้จากการขับ รวมถึงสมรรถนะของรถยนต์อันไร้ขีดจำกัดที่ได้จากการแข่งขันมาพัฒนารถยนต์ของโตโยต้า และทั้งหมดนั้นคือที่มาของ Toyota Gazoo Racing”
โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2019…Spirit to push the limits
จากแนวคิดของ Toyota Gazoo Racing ในการเข้าร่วมกีฬามอเตอร์สปอร์ต ที่เชื่อว่าการทดสอบขีดจำกัดของสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูงสุดของรถยนต์ จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถยนต์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราไม่สามารถเห็นได้ในการขับขี่แบบปกติในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดล้วนเป็นเป้าหมายที่ท้าทายในการพัฒนายนตรกรรม “ที่ดียิ่งกว่า” (Ever-Better Cars) ของโตโยต้า โดยกีฬามอเตอร์สปอร์ตนั้นได้เปิดมุมมองในการผลิตรถยนต์ในเชิงลึกมากขึ้น ซึ่งความคิดริเริ่มดังกล่าวได้รับการถ่ายทอด DNA ของมอเตอร์สปอร์ต เพื่อส่งต่อไปในการพัฒนารถยนต์รุ่นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น GR Series
ด้วยเหตุนี้ โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต 2019 ในประเทศไทย จึงได้รับการพัฒนาและยกระดับให้มีความสนุกสนาน ตื่นเต้นและเร้าใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งปรับภาพลักษณ์ให้สอดคล้องกับรูปแบบใหม่ ภายใต้ชื่อ Toyota Gazoo Racing Motorsport 2019 ซึ่งในปีนี้ถูกจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Spirit to push the limits” หรือ “ความกล้าที่จะข้ามขีดจำกัด” คือ ความกล้าที่จะเปิดทุกโสตประสาทสัมผัส ปลุกความกล้าที่จะก้าวข้ามทุกขีดจำกัดแห่งความท้าทายของผู้เข้าชมทุกท่าน ไปกับสมรรถนะการขับขี่อันดีเยี่ยมของรถโตโยต้าอย่างใกล้ชิด กับรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบวันเมคเรซ ทั้ง 4 รุ่น นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วยการแสดงโชว์สมรรถนะการขับขี่ของรถโตโยต้าที่ผ่านสนามแข่งขันระดับสากลมาแล้วนับไม่ถ้วน ตอกย้ำความโดดเด่นด้านความแข็งแกร่ง คล่องแคล่ว ปราดเปรียว และความสนุกในการขับขี่
(Fun-to-drive)
พิเศษสุดกับการจัดแสดงนิทรรศการ Toyota Gazoo Racing เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์รถแข่งระดับโลกของโตโยต้า พร้อมสัมผัสรถสปอร์ตในตำนานอย่าง “Toyota GR Supra” ที่ออกแบบภายใต้แนวคิดของการพัฒนา รถยนต์ “จากสนามแข่งสู่ท้องถนน” (From Circuit To Road) ซึ่งประสบความสำเร็จจากรายการแข่งขันที่สำคัญของโลก โดยผู้เข้าชมงานสามารถสัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่ อันร้อนแรง ทรงพลังของ Toyota Supra ได้จากเครื่องจำลองการขับขี่
(Toyota Supra’ s Simulator) พร้อมนำเสนอประสบการณ์เหนือระดับจากเทคโนโลยีล่าสุด ที่ทำให้ทุกชีวิตไปได้ไกลกว่ากับ 4 เทคโนโลยีล่าสุดที่ถือเป็นมาตรฐานของรถยนต์โตโยต้า เพื่อตอบสนองทุกรูปแบบของการใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัด เริ่มต้นด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ได้รับการพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ (Toyota New Global Architecture หรือ TNGA) ให้การขับขี่ที่ดีเยี่ยม ควบคุมได้ดั่งใจ มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกของโตโยต้า (Toyota Safety Sense หรือ TSS) มาตรฐานความปลอดภัยใหม่เพื่อความมั่นใจของทุกชีวิต และท้ายสุดกับ Toyota T-Connect Telematics ระบบที่เชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
พิสูจน์ที่สุดขุมพลังแห่งสมรรถนะของรถโตโยต้า กับการแข่งขัน วันเมคเรซ ทั้ง 4 รุ่น
รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบวันเมคเรซ บทพิสูจน์สมรรถนะอันดีเยี่ยมของรถโตโยต้า ซึ่งสามารถทำการแข่งขันบนสภาพถนนที่มีความท้าทายสูงได้เป็นอย่างดี ทั้งในรุ่น ไฮลักซ์ รีโว่ วันเมคเรซกับเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี บทพิสูจน์ของกระบะสายพันธุ์แกร่ง กับช่วงล่างที่หนึบและสมรรถนะที่แรงสุดขีด พร้อมด้วยการแข่งขันรุ่นโคโรลล่า อัลติส วันเมคเรซกับเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี ที่ผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง และระบบเบรค ช่วยให้นักแข่งควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ท้ายสุดกับรุ่น วีออส วันเมคเรซ และ รุ่นวีออส วันเมคเรซ เลดี้คัพ กับเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สมรรถนะการขับขี่ที่คล่องแคล่ว ปราดเปรียวสำหรับนักแข่งมือใหม่ โดยนักแข่งทุกคนจะต้องผ่านการอบรมจากโครงการ Toyota Racing School เพื่อเรียนรู้กฎ กติกา มารยาทที่ถูกต้องในการแข่ง ซึ่งเป็นการเตรียมพื้นฐานที่ดีสำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน
การโชว์สมรรถนะของรถโตโยต้า ที่มอบความสนุกในทุกรูปแบบการขับขี่ (Fun-to-drive)
กิจกรรมแห่งความสนุกโดนใจวัยมันส์
การสนับสนุนทีมแข่งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
Toyota C-HR กับการแข่งขัน 24 ชั่วโมง ที่สนามนูร์เบอร์กริง (Nürburgring) ประเทศเยอรมัน
ในปีนี้โตโยต้า มุ่งยกระดับกีฬามอเตอร์สปอร์ตสู่ระดับสากล กับการส่งรถยนต์ Toyota C-HR เข้าร่วมแข่งขัน ในรายการ ADAC 24 hrs Nürburgring ที่เมืองนูร์เบอร์กริง ประเทศเยอรมัน เป็นปีที่หกติดต่อกัน ภายใต้รูปแบบการแข่งขันที่เข้มข้นกับสนามแข่งขันระดับโลก ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสนามที่ท้าทายและอันตรายที่สุดสนามหนึ่งในโลก เพื่อพิสูจน์ถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์อันโดดเด่น ทนทาน และช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบเพื่อการขับขี่แบบสปอร์ต เกาะถนนดีเยี่ยม มีการควบคุมบังคับที่คล่องตัว ตลอดจนระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
“ในปีนี้เรายังคงสนับสนุนนักแข่งไทยไปร่วมการแข่งขันที่สนาม Nürburgring โดยใช้รถ Toyota C-HR เพื่อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ (Toyota New Global Architecture) และประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือระดับ ท้ายสุดนี้เรายังมุ่งมั่นที่จัดการแข่งรถการกุศลของคณะผู้บริหารโตโยต้า ด้วยความเชื่อที่ว่าเราจะนำประสบการณ์การขับขี่ในสนามแข่ง ซึ่งได้รับการทดสอบขีดจำกัดของสมรรถนะขั้นสูงสุดของรถยนต์มาพัฒนาการผลิตรถยนต์ของโตโยต้า ภายใต้แนวคิดที่ท้าทายในการพัฒนา “ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า” (Ever-Better Cars) ในอนาคต พร้อมกันนี้เราจะใช้โอกาสนี้ในการบริจาคสมทบทุนองค์กร “เมาไม่ขับ” เพื่อสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนให้กับแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตทุกคน” มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กล่าวในที่สุด
พบกับการแข่งขันรถโตโยต้าวันเมคเรซ
ทั้ง 5 สนาม ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
สนามที่ 1 วันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน จังหวัด ภูเก็ต
สนามที่ 2 วันที่ 28 – 30 มิถุนายน จังหวัด บุรีรัมย์
สนามที่ 3 วันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน จังหวัด ชลบุรี
สนามที่ 4 วันที่ 25 – 27 ตุลาคม จังหวัด บุรีรัมย์
สนามที่ 5 วันที่ 29 พฤจิกายน – 1 ธันวาคม จังหวัด เชียงใหม่