ปิติ ภิรมย์ภักดี นักขับชาวไทย และ คาร์โล แวน แดม เพื่อนร่วมทีมชาวเนเธอร์แลนด์ ของทีมเคซเซล เรซซิ่ง ทีพี 12 ส่งท้ายฤดูกาลด้วยการจบอันดับสองในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบจีที 3 ชิงแชมป์ยุโรป “บล็องค์แปง จีที ซีรีส์ สปรินท์คัพ” รอบเมนเรซที่นูร์เบิร์กริง ประเทศเยอรมนี เมื่อค่ำ 17 ก.ย.60 ที่ผ่านมา พร้อมคว้าอันดับสองประจำปีประเภทนักขับรุ่นโปรแอม เจ้าตัวพอใจผลงานฤดูกาลแรกในยุโรป
- ปิติ ภิรมย์ภักดี (ที่สองจากซ้าย) นักขับชาวไทย และ คาร์โล แวน แดม เพื่อนร่วมทีมชาวเนเธอร์แลนด์ ของทีมเคซเซล เรซซิ่ง ทีพี 12 ส่งท้ายฤดูกาลด้วยการจบอันดับสองในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบจีที 3 ชิงแชมป์ยุโรป “บล็องค์แปง จีที ซีรีส์ สปรินท์คัพ 2017” รอบเมนเรซ พร้อมสร้างสถิติขึ้นโพเดี้ยม 10 เรซติด ซิวที่สอง ถ้วยรวมนักขับรุ่นโปรแอม ทั้งๆที่แข่งในยุโรปเป็นปีแรก ที่สนามนูร์เบิร์กริง ประเทศเยอรมนี เมื่อค่ำ 17 ก.ย.60 ที่ผ่านมา
การแข่งขันบล็องค์แปง จีที ซีรีส์ สปรินท์คัพ รอบเมนเรซ ที่สนามนูร์เบิร์กริง แทร็คความยาว 5.137 กม. ของประเทศเยอรมนี เป็นเรซสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งในรุ่นโปรแอม ปิติ ภิรมย์ภักดี นักขับชาวไทย และ คาร์โล แวน แดม เพื่อนร่วมทีมชาวเนเธอร์แลนด์ ของทีมเคซเซล เรซซิ่ง ทีพี 12 ที่สร้างผลงานขึ้นโพเดี้ยมมาตลอดทั้ง 9 เรซที่ผ่านมายังรักษามาตรฐานตัวเองได้เป็นอย่างดี
ในเรซสุดท้ายของฤดูกาล ปิติ และ เพื่อนร่วมทีมช่วยกับพา เฟอร์รารี 488 จีที 3 หมายเลข 39 เข้าเส้นชัยในอันดับยี่สิบโอเวอร์ออลได้สำเร็จ แต่เป็นอันดับสองของรุ่นโปรแอม ตามหลังคู่ของ แดเนียล คีลวิลซ์ และ อเล็กซานเดอร์ แมทท์สชุล ในเฟอร์รารีหมายเลข 333 ของทีมรินัดลี้ เรซซิ่ง ที่คว้าชัยชนะในเมนเรซเป็นสนามที่สี่ของฤดูกาลหลังเข้าเส้นชัยอันดับสิบแปดโอเวอร์ออล พร้อมคว้าแชมป์ประเภทนักขับในรุ่นโปรแอมไปครองด้วยคะแนนสะสม 144 แต้ม
- เฟอร์รารี 488 จีที 3 หมายเลข 39 ของทีมเคซเซล เรซซิ่ง ทีพี 12 ขับโดย ปิติ ภิรมย์ภักดี นักขับชาวไทย และ คาร์โล แวน แดม เพื่อนร่วมทีมชาวเนเธอร์แลนด์ ส่งท้ายฤดูกาลด้วยการจบอันดับสองในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบจีที 3 ชิงแชมป์ยุโรป “บล็องค์แปง จีที ซีรีส์ สปรินท์คัพ 2017” รอบเมนเรซ พร้อมสร้างสถิติขึ้นโพเดี้ยม 10 เรซติด ซิวที่สอง ถ้วยรวมนักขับรุ่นโปรแอม ทั้งๆที่แข่งในยุโรปเป็นปีแรก ที่สนามนูร์เบิร์กริง ประเทศเยอรมนี เมื่อค่ำ 17 ก.ย.60 ที่ผ่านมา
ส่วน ปิติ ภิรมย์ภักดี นักขับชาวไทยที่เป็นรุ๊คกี้ในเวทียุโรป และ คาร์โล แวน แดม จบฤดูกาลแรกของเขาในบล็องค์แปง จีที ซีรีส์ สปรินท์คัพ ด้วยการคว้าอันดับสองประเภทนักขับมาครองด้วยคะแนนสะสม 119 และอันดับสาม ฌอง-ลุค โบเบลิเก้ ของทีมเอเคเคเอ เอเอสพี ที่มี 87 คะแนน ขณะที่ประเภททีมแชมป์ในรุ่นโปรแอมเป็นของทีมรินัลดี้มี 150 คะแนน ตามมาด้วย เคซเซล เรซซิ่ง 130 คะแนน และอันดับสาม เอเคเคเอ เอเอสพี 99 คะแนน
หลังจบฤดูกาลแรกในเวทีระดับยุโรป ปิติ เปิดเผยผ่านสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊คว่า “สนามสุดท้ายจบลงด้วยตำแหน่งที่สองและได้รองแชมป์ประจำปี ถือเป็นความสำเร็จในปีแรกที่จบลงไปอย่างสวยงามมาก ได้ถ้วยมาทั้งหมด 10 ใบ 5 ใบจากควอลิฟายเรซ และอีก 5 ใบจากเมนเรซ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก แต่ยังต้องพัฒนาอีกมากถ้าต้องการอยู่จุดสูงสุด เป็นการตัดสินใจที่ถูกที่กล้าออกมาแข่งขันในยุโรป ได้ประสบการณ์มากมายจากหลากหลายสนามและได้ทำงานกับเรซเอ็นจิเนียร์หลายคน จนรู้ว่าคนไหนเหมาะกับวิธีการขับของเรามากที่สุด”
ผลงานของเคซเซล เรซซิ่ง ทีพี 12 ในบล็องค์แปง จีที ซีรีส์ สปรินท์คัพ 2017 พวกเขาออกสตาร์ทด้วยอันดับสองทั้งสองเรซในสนามแรกที่มิซาโน ประเทซอิตาลี ตามด้วยอันดับสามและสองที่แบรนด์ส แฮทช์ สหราชอาณาจักร ก่อนจะชนะควอลิฟายเรซที่โซลเดอร์ ประเทศเบลเยี่ยม และอันดับสองในเมนเรซ ส่วนที่ฮังกาโรริง ประเทศฮังการี จบอันดับสองทั้งสองเรซ และปิดท้ายฤดูกาลที่นูร์เบิร์กริง ด้วยอันดับสามและสองตามลำดับ
ส่วนในรุ่นใหญ่มีการพลิกล็อคเมื่อ โรบิน ฟรินส์ และ สจ๊วต เลียวนาร์ด ในรถออดี้ อาร์ 8 แอลเอ็มเอส หมายเลข 17 ของทีมดับเบิลยูอาร์ที ที่แซงคว้าชัยชนะในสนามนี้พร้อมคว้าแชมป์ประจำปีไปครองสำเร็จ ขณะที่ แฟร็งค์ เปไรร่า และ มักซี บุห์ค ในรถเมอร์เซเดซ เอเอ็มจี หมายเลข 84 ของทีมเอชทีพี มอเตอร์สปอร์ต และ ดรายส์ แวนธอร์ และ มาร์เซล ฟาสเลอร์ ในรถหมายเลข 5 ของทีมเบลเยี่ยม ออดี้ คลับ ดับเบิ้ลยูอาร์ที ที่แย่งแชมป์กันอยู่โชคร้ายเครื่องพังและเจอโทษไดร์ฟทรู ทำให้แชมป์สนามสุดท้ายเป็นของ ฟรินส์ และ เลียวนาร์ด ที่คว้าธงตราหมากรุกทิ้งห่างอันดับสอง มาร์คัส วินเคลฮ็อค และ วิล สตีเว่นส์ ในรถออดี้หมายเลข 2 ของทีมเบลเยี่ยม ออดี้ คลับ ดับเบิ้ลยูอาร์ที เกือบ 4 วินาที อันดับสามเป็นรถลัมโบกินี ฮูราคาน จีที 3 หมายเลข 19 ของทีมจีอาร์ที กราสเซอร์ เรซซิ่งทีม จากชัยชนะส่งผลให้ ฟรินส์ และ เลียวนาร์ด คว้าแชมป์ประเภทนักขับในบล็องค์แปล จีที ซีรีส์ สปรินท์คัพ ไปครอง ตามมาด้วยคู่ของ วิลเคลฮ็อค และ สตีเว่นส์ ขณะที่คู่ตัวเต็งอย่าง แฟร็งค์ เปไรร่า และ และ มักซี บุห์ค จบซีซั่นในอันดับสาม สำหรับประเภททีมเป็น เบลเยี่ยม ออดี้ คลับ ทีม ดับเบิ้ลยูอาร์ที ที่คว้าแชมป์เป็นปีที่ห้าติดต่อกัน
