XO 263
เรื่อง : พงศ์พันธ์ รัมมะเกตุ
ภาพ : ธัญญนนท์ แสงภู่
ถ้าจะพูดถึงเรื่องของเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ที่อยู่ภายใต้ฝากระโปรงรถกระบะ ALL CHEVROLET COLORADO ก็คงจะมีผู้ที่ชื่นชอบในเครื่องยนต์ตัวนี้อยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าเรื่องของการปรับแต่งโมดิฟายจะค่อนข้างยากกว่าเพื่อนร่วมค่าย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูกกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เกินความสามารถช่างไทยครับ ที่จะคิดค้นหาจุดเด่นจุดด้อย ปรับปรุงพัฒนาจนประสบความสำเร็จได้ถึงทุกวันนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ “หนึ่งโชคทวี” นั่นเอง เห็นผลงานของเค้าได้ตามสนามแดร็กต่างๆ ที่จัดการแข่งขัน นิวเชฟแต่ละคันที่ผ่านมือ “หนึ่งโชคทวี” เป็นต้องเห็นเวลาสวยๆ อย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่นิวเชฟเท่านั้นที่เค้าประสบความสำเร็จ เครื่องยนต์ดีแมคซ์ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเค้า รุ่นนิยมอย่าง F55PRO หนึ่งโชคทวีก็ไม่มองข้ามที่จะลองผิดลองถูก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทำเวลาออกมาได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ทางทีมงานเราก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปเจาะลึกตัวแข่งในกระแสอย่างนิวเชฟรถบ้านและF55PRO ของทางหนึ่งโชคทวีมาให้ได้ชมกัน
- ล้อแม็ก ENKEI RPF-1 ขอบ 18 นิ้ว
NEW CHEV รถบ้าน TURBO ปาก 46 STEP DRAG
กระแสของตัวแข่งในสเต็ปรถบ้านในชั่วโมงนี้ต้องบอกเลยครับว่า ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในรุ่นของนิวเชฟ ไม่ว่าจะอู่ไหน สำนักไหน ต่างก็ซุ่มทำรถในสเต็ปนี้ออกมาตามหาเวลาที่เร็วที่สุดกันอย่างไม่ขาดสาย หนึ่งอู่ที่เชี่ยวชาญในเรื่องของเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์อย่าง หนึ่งโชคทวี ก็ไม่พลาดที่จะทำรถเพื่อตามหาเวลาที่ดีที่สุดกับเค้าเหมือนกัน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความเชี่ยวชาญในเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ใช้เวลาคิดค้นลองผิดลองถูกอยู่นานพอสมควร จนสามารถพัฒนาฝีมือตัวเอง ปรับแต่งโมดิฟายเจ้าเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ให้มีความแรงที่ไม่แพ้เพื่อนร่วมค่ายกันเลยทีเดียว สำหรับสเต็ปการปรับแต่งเครื่องยนต์ในรุ่นการแข่งขันนิวเชฟรถบ้านนั้น ต้องทำอะไรกันบ้าง รวมไปถึงเรื่องของระบบส่งกำลัง ไปจนถึงเรื่องของระบบช่วงล่าง ที่มีเวลา 60 ฟุตสวยๆ เข้าไปเจาะรายละเอียดกันเลยครับกั บการปรับแต่งในแบบฉบับของ “หนึ่งโชคทวีW
- จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด BOSCH 901
- DURAMAX UP STEP เป็นเครื่องซิ่ง 2,800 c.c.
จัดทรงภายนอกกันใหม่กับรุ่นรถบ้าน นิวเชฟ
เรามาเริ่มต้นกันที่รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลยครับ กับตัวแข่งในรุ่นของรถบ้าน นิวเชฟ แน่นอนที่สุดครับ ตัวรถคันนี้เป็น ALL NEW CHEVROLET COLORADO เลือกใช้เป็นตัวแค็บ ตัวรถเป็นสีขาว สำหรับกติการการแข่งขันในรุ่นนี้ เรื่องของการไล่เบาก็คงจะไม่โหดเท่าพวก F55PRO เท่าไหร่นัก แต่ก็ทำได้พอประมาณ เพราะยังคงคอนเซปต์รถบ้านอยู่นั่นแหละครับ สิ่งที่จะสามารถลดน้ำหนักให้กับภายนอกได้นั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของชิ้นงานคาร์บอนเข้ามาแทนที่เหล็ก เริ่มกันที่ฝากระโปรงรถกันก่อนเลยครับ เปลี่ยนมาเป็นฝาคาร์บอนจาก MONZA SHOP จากนั้นตามด้วยประตูคู่หน้า และประตูแค็บ ก็เปลี่ยนมาเป็นชิ้นงานคาร์บอนอีกเช่นกัน เป็นผลงานจาก MONZA SHOP แต่เท่านี้ก็ยังเบาไม่พอ สิ่งที่ทำได้อันดับต่อไปก็คือกระจกทั้งสี่บาน เปลี่ยนมาเป็นอะคริลิก ซึ่งการใช้กระจกอะคริลิกนั้น ได้ประโยชน์ถึงสองเด้งด้วยกัน คือ ความเบาและความปลอดภัย ในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุนั้น ตัวอะคริลิกจะไม่ทำอันตรายกับผู้ขับขี่นั่นเองครับ จากนั้นเปลี่ยนกระจกมองข้างมาเป็นของ CRAFT SQUARE มาต่อกันที่ด้านท้ายกระบะ ติดตั้งชุดค้ำกระบะเป็นไทเทเนียม เพิ่มความแข็งแรงให้กับด้านท้ายกระบะ และนี่ก็เป็นเรื่องราวของภายนอกครับ
- INTERCOOLER หลอดเหลี่ยม วางไว้ด้านหน้ารถ
ภายในสไตล์รถบ้าน แอร์เย็น เพลงเพราะ เบาะครบ
เปิดประตูเข้ามาดูเรื่องของภายในห้องโดยสารกันบ้าง สำหรับรถคันนี้เป็นรถที่ใช้ในการแข่งขันรุ่นรถบ้าน ภายในจึงต้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอยู่ครบ ระบบปรับอากาศต้องใช้ได้ วิทยุต้องมี เบาะต้องอยู่ครบ สำหรับเบาะคู่หน้าเลือกใช้เป็นเบาะ KIRKEY ผ้าสีแดง เพิ่มความกระชับมั่นใจในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี พวงมาลัยเปลี่ยนมาเป็นของ NARDI มาพร้อมกับคอพวงมาลัยแบบพับได้ เพื่อความสะดวกเวลาขึ้น-ลง เลื่อนขึ้นไปดูที่ด้านบนคอนโซล เป็นที่อยู่ของชุดเกจ์วัดการทำงานของเครื่องยนต์จาก DEFI BF ถูกวางเรียงกันไว้ได้อย่างสวยงามลงตัว ด้านขวามือติดกับเสาเอ เป็นที่อยู่ของเกจ์วัดบูสต์หน้าน้ำมันจาก AUTO METER เป็นอีกหนึ่งของเล่นที่สายดีเซลต้องมี นี่แหละครับ ภายในของตัวแข่งในรุ่นรถบ้าน
- ภายในอุปกรณ์ครบ ในสเต็ปรถบ้าน
- MONSTER GAUGE + วัดบูสต์หน้าน้ำมัน
- เบาะคู่หน้าจาก KIRKEY
DURAMAX สเต็ปซิ่ง วิ่ง 11.xxx
มาถึงเรื่องราวของความแรงกันบ้าง กับเครื่องยนต์ DURAMAX ที่ถูกขยายความจุจาก 2,500 c.c. มาเป็น 2,800 c.c. ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรกันให้เสียเวลา มาดูขั้นตอนการขยับสเต็ปของเครื่องยนต์ตัวนี้กันเลยดีกว่าครับ เริ่มต้นกันที่ด้านบนก่อนเลย กับการปรับเปลี่ยนระบบวาล์วกันแบบยกชุด เนื่องจากชุดวาล์วเดิมเป็นแบบไฮดรอลิก ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่า ถ้าเครื่องยนต์มีการอัปเกรดให้มีความแรงเพิ่มมากขึ้น มันก็จะทำให้วาล์วเกิดอาการค้าง หรือที่เค้าเรียกกันว่าวาล์วลอยนั่นแหละครับ เมื่อวาล์วค้าง แน่นอนที่สุดครับ คือระบบการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มระบบ ส่งผลให้รถวิ่งไม่ได้ในที่สุด ทาง “หนึ่งโชคทวี” จึงได้จัดชุดวาล์วใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นชุดวาล์วที่ถูกคิดค้นขึ้นมาให้เหมาะกับเครื่องยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เสร็จจากเรื่องของระบบวาล์วแล้ว ก็มาต่อที่เรื่องของแคมชาฟต์กันบ้าง สำหรับคันนี้ได้ทำการเปลี่ยนแคมชาฟต์ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ตัวแคมชาฟต์ก็เป็นสูตรของทางหนึ่งโชคทวีอีกเช่นกัน มาถึงเรื่องของลูกสูบกันบ้าง เปลี่ยนมาเป็นลูกสูบของตัว 2800 พร้อมกับการปรับแต่งโมดิฟายตัวลูกสูบกันใหม่ตามสูตรของหนึ่งโชคทวี ตามด้วยก้านสูบ ซึ่งคันนี้เปลี่ยนมาเป็นก้านสูบซิ่ง เพิ่มความทนทานให้กับตัวเครื่องยนต์ สามารถรองรับแรงบูสต์ได้อย่างเหลือๆ ลงมาถึงเรื่องของข้อเหวี่ยงกันบ้าง แน่นอนที่สุดครับ เปลี่ยนมาเป็นข้อเหวี่ยง 2800 ทำการบาลานซ์ใหม่ เพื่อความนิ่งและแม่นยำมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเครื่องยนต์มีกำลังที่เพิ่มขึ้น เสร็จากภายในตัวเครื่องยนต์กันแล้ว มาดูรอบนอกกันบ้าง มาดูที่ระบบอัดอากาศกันก่อนเลย สำหรับคันนี้ใช้เทอร์โบที่จำกัดทางเข้า ขนาด 46 mm. หรือรู้จักกันในรุ่นของเทอร์โบปาก 46 นั่นเองครับ ปากทางเข้าตรงตามกติกา ส่วนที่เหลือก็จัดกันได้เต็มที่ สำหรับเทอร์โบลูกนี้ใช้บูสต์อยู่ที่ 55 psi มาดูเรื่องของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงกันบ้าง ในส่วนของตัวปั๊มน้ำ เปลี่ยนมาเป็นปั๊มดีแมคซ์ จัดการปรับเปลี่ยนไส้ในใหม่ มาเป็นไส้วีโก้ เพื่อแรงดันที่เพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด BOSCH 901 ส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยปั๊มติ๊ก BOSCH 125×2 ควบคุมแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเร็กกูเรต??? มาดูอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับเครื่องยนต์ DURAMAX นั่นก็คือการเปลี่ยนชุดไฟมาใช้ของดีแมคซ์ อธิบายกันแบบง่ายๆ ให้เห็นภาพ เหตุผลที่ต้องใช้ชุดไฟดีแมคซ์ก็คือ ลดการขี้ฟ้องของชุดไฟเดิมครับ เนื่องจากชุดไฟเดิมค่อนข้างจะอ่อนไหวต่อการโมดิฟาย ทำอะไรนิด อะไรหน่อย ก็ไฟโชว์เช็คเด้ง จึงตัดปัญหาด้วยการเปลี่ยนชุดไฟซะเลย เป็นอันจบปัญหา แถมยังง่ายต่อการโมดิฟายอีกด้วย ต่อกันด้วยระบบส่งกำลัง สำหรับคันนี้ถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ด้วยชุดคลัตช์จาก BK CLUTCH เป็นสเต็ปรถแข่ง ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 5 speed ปรับแต่งเพิ่มเติมที่ปลายเกียร์สี่ เพื่ออัตราทดที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ถ่ายทอดกำลังลงสู่พื้นด้วยเฟืองท้าย LSD MU อัตราทด 3.1 ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยการรีแมปกล่องหลักจาก TUNEPRO ตามด้วยกล่องพ่วงจาก iFRIT ปรับจูนโดย “หนึ่งโชคทวี”
- ค้ำกระบะ TITANIUM BY JEAB BAR ZING
ช่วงล่างสเต็ปรถบ้าน A-ARM แขนเดียวก็เอาอยู่
ตามลงมาดูเรื่องของระบบช่วงล่างกันบ้าง อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยให้จุดเริ่มต้นมีความสมบูรณ์แบบที่สุด ดูที่ระบบซับแรงกระแทกกันก่อนเลยครับ โช้คอัพด้านหน้า เลือกใช้โช้คอัพคุณภาพสูงจาก HOLINS และทางด้านของโช้คอัพหลังก็ใช้ของ OHLINS เช่นกัน ตามด้วยชุด A-ARM ข้างเดียวจาก MSR ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัวได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับการปรับแต่งโมดิฟายเจ้า ALL NEW CHEVROLET COLORADO ในสเต็ปตัวแข่งรุ่นรถบ้าน นิวเชฟ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอู่ที่มีการพัฒนาในเรื่องของการปรับแต่งเพิ่มความแรงกันแบบไม่หยุดนิ่ง เพื่อหาเวลาที่ดีที่สุด สำหรับใครที่อยากทำรถสเต็ปนี้ ก็สามารถปรึกษาได้ที่อู่หนึ่งโชคทวีครับ แรงและจบแน่นอน
F55 PRO เกียร์ H FULL STEPเครื่องซิ่ง วิ่งเลขตัวเดียว
มาถึงคิวของสเต็ปสุดฮิตของเหล่าบรรดากระบะซิ่งสิงห์ควันดำกันบ้าง ที่ไม่ว่าจะเดินไปอู่ไหน รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ เป็นต้องมีรถที่แข่งรุ่นนี้จอดประดับอู่อยู่ทุกที่เลยก็ว่าได้ ก็อย่างที่รู้กันดีอยู่นั่นแหละครับ กับรุ่น F55 PRO และนี่ก็เป็นตัวแข่งคันใหม่ล่าสุดของทาง “หนึ่งโชคทวี” ที่กำลังเดินหน้าหาเวลาที่ดีที่สุดมาไว้ประดับอู่ ถึงขนาดลงทุนเอารถของตัวเองมาจัดทรงใหม่ เพื่อใช้ในการแข่งขันกันเลยทีเดียว เนื่องจากต้องมีการลองผิดลองถูกเพื่อพัฒนาตัวเอง เรื่องของความแรงนั้น หนึ่งบอกว่าไม่ยากเท่าเรื่องของความทนทาน เพราะฉะนั้น ความแรงอาจจะไม่ต้องถึงขีดสุด แต่ทำยังไงก็ได้ ให้ทุกอย่างมันแมตช์กันให้ได้มากที่สุด แรงม้าที่เครื่องยนต์ทำได้ จับลงพื้นให้ได้มากที่สุด เพียงเท่านี้ก็ได้เห็นเวลาสวยๆ อย่างแน่นอน เรื่องของการถ่ายน้ำหนักจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของรถแดร็กในยุคนี้ จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นที่วางลงไปบนตัวรถ ล้วนแล้วแต่ต้องมีการคำนวณน้ำหนักกันทุกชิ้น ว่าแล้วก็เข้าไปดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าครับ
- 4JK UP STEP เครื่องซิ่ง MRX ทั้งตัว
- ปั๊มโยงดีแมคซ์ ไส้วีโก้
- จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด BOSCH 545
- TURBO F55 โมฯสุดตาราง
ถอย BODY เวทน้ำหนัก นี่แหละกระบะ DRAG ยุคนี้
ISUZU D-MAX 1.9 เป็นรถที่ “หนึ่งโชคทวี” เลือกใช้ในการแข่งขันรุ่น F55 PRO ตัวรถจัดการสาดสีใหม่มาเป็นสีเหลือง จากนั้นเริ่มทำการไล่เลาะด้วยการตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกให้หมด แชสซีก็ต้องทำการเลาะส่วนที่ไม่จำเป็นออกบ้าง เหลือไว้แค่จุดที่จะต้องใช้งานเพียงเท่านั้น ซึ่งในเรื่องของบอดี้ก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ จัดการถ่ายน้ำหนักกันซะหน่อย เพื่อตามหาเวลาสวยๆ เก็บไว้ดูให้ชื่นใจ ตำแหน่งของบอดี้จะถูกเลื่อนไปด้านหลังประมาณ 5-10 cm. สังเกตได้จากตำแหน่งของซุ้มล้อทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยเครื่องยนต์มีแรงม้าและแรงบิดที่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการถ่ายเทน้ำหนักให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อไม่ต้องมาถ่วงน้ำหนักก่อนการแข่งขัน เพราะจะทำให้น้ำหนักโดยรวมไม่บาลานซ์กัน เมื่อน้ำหนักถูกถ่ายเทไปที่ด้านหลังแล้ว สิ่งที่ได้มาก็คือการออกตัวที่ดีและสามารถควบคุมอาการรถได้อย่างไม่ยากนักในระยะ 402 m. ซึ่งถ้าการถ่ายน้ำหนักไม่บาลานซ์กัน รถจะเสียการควบคุมในขณะที่ใช้ความเร็วสูง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะต้องมีการบาลานซ์และถ่ายเทน้ำหนักของตัวรถ
- INTERCOOLER PWR ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- กล่อง STAND ALONE IFRIT
ภายในสไตล์ DRAG RACING
เปิดประตูเข้ามาดูที่ภายในห้องโดยสารกันบ้าง สำหรับคันนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการแข่งขันเท่านั้น อะไรที่ไม่จำเป็นถูกย้ายออกไปให้หมด และสิ่งที่คงเหลืออยู่ภายในห้องสารนั้นก็จะมีเพียงแค่เบาะ 1 ตัว โดยเลือกใช้ของ KIRKEY พวงมาลัย NARDI ก้านตรง ชุดคอนโซลรื้อออกทุกชิ้น ทางด้านซ้ายมือฝั่งคนนั่งเป็นที่อยู่ของชุดระบบน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการเซอร์วิส แผงสวิตช์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์อยู่ที่ตำแหน่งคอนโซลกลางด้านล่าง อยู่ในตำแหน่งที่สามารถจับต้องได้ง่าย จากนั้นเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวนักแข่งและเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวรถด้วยการตีโรลบาร์แบบเต็มคัน เพียงเท่านี้เป็นอันเสร็จเรื่องราวของภายใน
F55 GEAR “H” สเต็ปเครื่องชิ่งพิชิดเลข “9”
มาดูเรื่องของเครื่องยนต์กันก่อนเลย พื้นฐานเดิมเป็นเครื่องยนต์ รหัส 4JK1 ขนาดความจุ 2,500 c.c. เพื่อเพิ่มแรงม้าและแรงบิดให้เพิ่มมากขึ้น มันก็ต้องทำการขยายความจุกันซะหน่อย สำหรับสเต็ปนี้ทาง “หนึ่งโชคทวี” ได้ทำการขยายความจุกันแบบสุดตารางกันเลยทีเดียว โดยเลือกใช้ข้อเหวี่ยงในพิกัด 3,100 c.c.จาก “MRX” ใส่เข้าไป เพื่อให้ตัวเครื่องยนต์มีกำลังแบบเหลือๆ จากนั้นเพิ่มความทนทานให้กับตัวเครื่องยนต์เพื่อที่จะสามารถทนบูสต์ได้แบบไม่มีปัญหา ก็รู้กันอยู่แล้วว่าสายดีเซลเค้าบ้าบูสต์กันขนาดไหน ถ้าก้านไม่เจ๋งจริง ไม่คด ก็อาจโผล่ออกมาทักทายชาวโลกกันบ้างแหละ สำหรับคันนี้เลือกใช้ก้าน “MRX” ในส่วนของลูกสูบก็ยังคงมั่นใจผลิตภัณฑ์จาก “MRX” อีกเช่นเคย เนื่องจากมีความทนทานต่อการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ได้สูง มาถึงในส่วนของระบบวาล์วกันบ้าง เพื่อการปิด-เปิด วาล์วได้อย่างแม่นยำ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ แม้กระทั่งในรอบสูง มั่นใจกับชุดวาล์วจาก “MRX” ในส่วนของแคมชาฟต์นั่นก็เป็นสูตรลับของทาง “หนึ่งโชคทวี” เค้าแหละครับ ทั้งทางฝั่งไอดีและไอเสีย ในเรื่องของระบบอัดอากาศก็ตามรุ่นในการแข่งขันนั่นแหละครับ ฝาหน้าก็ต้องยังคงเป็น F55V ส่วนเสื้อกลางนั้น เป็น TF07 สำหรับในรุ่นนี้ อะไรโมฯได้ มันก็ต้องโมฯกันให้สุด เมื่อเครื่องยนต์มีความทนทานแล้ว อันดับต่อไปมันก็ต้องทำให้เทอร์โบสามารถทำลมได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ไล่โข่งหลังและโข่งหน้าให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้โข่งหน้าทำลมได้ดีและโข่งหลังระบายความร้อนได้ไว ก็ตามหลักทฤษฎีนั่นแหละครับ กินง่าย ถ่ายสะดวก ไม่มีปัญหาแน่นอน มาถึงเรื่องของระบบส่งกำลังกันบ้าง ถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ด้วยคลัตช์จาก BK CLUTCH สเต็ป F55 PRO สามารถจับแรงม้าและแรงบิดที่เครื่องยนต์ทำได้ผ่านไปยังระบบส่งกำลัง เกียร์ VGS กระจ่ายแรงม้าลงสู่พื้นด้วยเฟืองท้ายอัตราทด 3.1 LIMITED SLIP
- ปั๊มติ๊ก BOSCH 044 x 2
- แผงควบคุมจาก HPD
ลดอุณหภูมิของอากาศ อินเตอร์น้ำช่วยได้
อุณหภูมิที่เย็นลงส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น อินเตอร์คูลเลอร์จึงเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ สำหรับคันนี้เลือกใช้อินเตอร์ฯที่มีการระบายความร้อนด้วยน้ำจาก PWR โดยเลือกวางตำแหน่งของอินเตอร์ฯเอาไว้ที่ตำแหน่งของคอนโซลหน้า ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อการเซอร์วิสที่สะดวก และที่สำคัญ คือ เรื่องของการถ่ายน้ำหนักนั่นเองครับ และในส่วนของการลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์ก็เป็นหน้าที่ของหม้อน้ำอะลูมิเนียมที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยย้ายตำแหน่งไปอยู่ที่ด้านท้ายกระบะ เพื่อที่จะได้ลดความแออัดในส่วนของห้องเครื่อง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกับตัวเครื่องยนต์จะได้ทำการเซอร์วิสได้อย่างสะดวกขึ้น
ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง หัวใจสำคัญของเครื่องยนต์ดีเซล
ตำแหน่งของถังน้ำมันเชื้อเพลิงถูกติดตั้งไว้ภายในห้องโดยสารฝั่งคนนั่ง ค่อนไปทางด้านหลัง ส่งผ่านน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยปั๊มติ๊ก BOSCH 044 2 ตัว ผ่านรางบาลานซ์ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันที่เที่ยงตรงและแม่นยำ ควบคุมแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเร็กกูเรตAEROMOTIVE ระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซลถือว่ามีความละเอียดอ่อนสูงมาก เครื่องยนต์ที่ถูกปรับแต่งขึ้นมาเพื่อการแข่งขันมีความต้องการแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น ตัวปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงจึงต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้แรงดันเพียงพอ ในส่วนของตัวปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงถูกปรับแต่งใหม่ทั้งหมด จาก “หนึ่งโชคทวี”โดยใช้ปั๊มสองลูก (ปั๊มโยง) รางหัวฉีดเปลี่ยนใหม่ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เพื่อที่จะรองรับกับแรงดันที่เพิ่มมากขึ้น จากนั้นจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ด้วยหัวฉีด BOSCH 545 เพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์อย่างแน่นอน
- หม้อน้ำใหญ่ + พัดลมไฟฟ้า ย้ายมาไว้ด้านหลัง
- ค้ำกระบะ TITANIUM จาก IRON BAR
- ถังใส่น้ำแข็งระบายความร้อนอินเตอร์ฯ จาก “เม้งซัง”
กล่อง ECU IFRIT STAND ALONE
มาต่อกันที่เรื่องของระบบ ECU กันบ้าง สำหรับคันนี้ทางหนึ่งโชคทวีเลือกใช้กล่อง STAND ALONE ของ IFRIT แน่นอนที่สุดครับ เมื่อเป็นรถแข่งอย่างเต็มตัวแล้ว การปรับจูนทุกอย่างก็ไม่ต้องอิงค่าเดิมโรงงานก็ได้ การใช้กล่อง STAND ALONE นั้น เราสามารถกำหนดค่าได้เองทุกอย่าง โดยที่ไม่ต้องมีพื้นฐานจากกล่องหลักมาเป็นตัวแปร เพราะฉะนั้น การปรับจูนกล่องในรูปแบบนี้นั้นต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูง เพราะถ้าใส่ค่าผิด ชีวิตเปลี่ยนแน่นอน แต่ข้อดีของกล่องประเภทนี้ก็คือ ความไร้ขีดจำกัดของตัวกล่องนั่นเองครับ
- ยาง HOOSIER 29.5×10.5
- โช้คอัพ PRO PLUS
- ล้อ WELD ของ 15 นิ้ว
60 ฟุต สวยๆ ด้วยช่วงล่าง “MSR”
ออกตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง “นักแข่งหลายๆ ท่านได้กล่าวไว้” หลังจากที่ชักคลัตช์ออกไปแล้ว ก็คงไม่ต้องแต่งตัวอะไรมากมาย ถ้าช่วงล่างเซตอัพไว้ได้อย่างลงตัว ในรถคันนี้เลือกใช้ช่วงล่างจาก “MSR” สเต็ป 3 มาพร้อมชุด ANTI ROLL BAR เพื่อให้ตำแหน่งโช้คอัพ (PRO PLUS) ตั้งฉากกับพื้น ทำให้การทำงานเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามด้วยชุด A- ARM คู่ด้านหลังยึดกับเพลา ด้านหน้าสร้างจุดยึดขึ้นมาใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้การถ่ายแรงม้าลงสู่พื้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ลดอาการเต้นของเฟืองท้าย ตัวรถไม่เสียอาการในช่วงออกตัว ช่วยให้แรงกระทำจากเครื่องยนต์กระจายน้ำหนักลงสู่ล้อได้มากที่สุด
ยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล จริงๆ ครับ เรื่องของการปรับแต่งโมดิฟายดัดแปลง ประดิษฐ์คิดค้นต้องยกให้ช่างไทยเลยครับ ไม่มีอะไรที่ช่างไทยทำไม่ได้ ในอนาคตข้างหน้าวงการรถกระบะแดร็กบ้านเราไปไกลอย่างแน่นอนครับ เรื่องของเวลาไม่แพ้เครื่องบล็อกใหญ่อย่างแน่นอน….