เรื่อง: วีระโชติ ดวงฤทัย ภาพ: สุภชัย รอดประจง
โรงจอดรถ Vintage Classic
ที่มีฝูงม้าป่าซ้อนอยู่กว่า 4,000 ตัว
บ้านคุณ P กรุงเทพฯ
เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในห้องชั้นใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นอย่างดีของคุณ P คุณจะเห็นบรรดารถซูเปอร์คาร์ รุ่นพิเศษ ที่จอดเรียงรายกันอยู่ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในความฝัน
ผมเองถือว่า เป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งเพราะตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเห็นโรงจอดรถมาแล้วหลายๆ รูปแบบ เวลาที่ออกไปสัมภาษณ์เจ้าของโรงจอดรถจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับเรื่อวราวที่ได้รับฟังทุกครั้ง และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมรู้สึกตกตะลึงไปกับโรงจอดรถของคุณ P ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่เงียบสงบชานเมืองกรุงเทพฯ ดูจากภายนอก เดาไม่ออกเลยว่าข้างในจะเป็นอย่างไร?
จากด้านนอก ไม่แตกต่างจากคฤหาสน์หรูที่เคยพบเห็น แต่ชั้นใต้ดินของคฤหาสน์หลังนี้ กลับมีซูเปอร์คาร์ จาก 4 ค่ายดัง อย่าง Ferrari Lamborghini Porsche และ McLaren แอบซ่อนอยู่ นับเป็นการรวมฝูงม้าป่าที่ต่างสายพันธุ์กันไว้มากกว่า 4,000 ตัวเลยทีเดียว
“อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการจากโรงจอดรถ?” ผมถามเขาด้วยคำถามนี้ เพราะคิดว่าคงมีประเด็นที่เขาใส่ใจมากมาย แต่คำตอบของคุณ P กลับง่าย ๆ
“ผมอยากทำพื้นที่ที่แป็นส่วนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของบ้าน ให้ทุกคนในบ้านสามารถมีความสุขด้วยกันได้ เพราะนอกจากโรงจอดรถแล้ว ยังมีห้องทำงานอดิเรก ห้องชมภาพยนตร์ ห้องเล่มเกม และห้องเก็บของสะสม อีกด้วย”
ดูเหมือนว่าภาพลักษณ์ของโรงจอดรถจะมีส่วนที่เป็นเหมือนบ้าน เพราะออกแบบโดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัวด้วย ดังนั้น เมื่ออยู่ในพื้นที่นี้ ทุกคนในบ้านสามารถทำสิ่งที่ตนชื่นชอบได้อย่างอิสระ จะนั่งเล่นพูดคุยบนโซฟาในโรงจอดรถ จะสนุกกับการเล่นตู้เกม เล่นพูล หรือเพลิดเพลินกับของสะสม ก็ทำได้ทันที สามารถเห็นภาพของบรรยากาศที่เชื่อมต่อกันอย่างที่ว่านี้ได้อย่างง่ายดาย
เขาเล่าว่า “หลังจากเลิกงาน ผมและครอบครัวจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่โรงจอดรถ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภรรยาผมเป็นคนเลือกเองทั้งหมด เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของแต่ละพื้นที่ อย่างโรงจอดรถที่ออกแนววินเทจ ของตกแต่งที่เธอเลือกจึงออกแนววินเทจ ไม่ว่าจะเป็นโซฟา หรือโต๊ะไม้ ส่วนเด็กๆ วันหยุด หรือหลังเลิกเรียนก็จะลงมาอยู่ที่นี้ ลูกชายชอบลงมาดูรถ ส่วนลูกสาวก็จะมาเล่นเกมหรือไปว่ายน้ำเล่นที่สระ ซึ่งผมก็จะมองเห็นพวกเขาได้จากโรงจอดรถด้วย”
เพราะชื่นชอบการแข่งขันรถยนต์
เลยเลือกรถที่เข้ากับไลฟ์สไตล์
เอาหละ จะขอพูดถึงเรื่องที่เป็นประเด็นใหญ่ของโรงจอดรถนี้สักหน่อย อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า โรงจอดรถชั้นใต้ดินแห่งนี้มีซูเปอร์คาร์จอดอยู่ถึง 7 คัน ซึ่งใน 7 คันนั้นเป็นรุ่น lightweight 4 คัน ได้แก่ Ferrari 458 lightweight, Lamborghini Aventador LP750-4 SV, Porsche 911 GT3 RS และ McLaren 675 LT ส่วนอีก 3 คันที่จอดอยู่ด้านในมีทั้ง 911 Carrera RS, 911 Sport Classic และ Lamborghini Gallardo LP 570-4 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของ Gallardo
คุณ P เล่าว่า “ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบสะสมรถมาก โดยเฉพาะ Porsche Classic เมื่อก่อนมีเยอะมาก แต่ติดเรื่องที่จอดรถเลยต้องขายออกไปบ้าง ตอนนี้ที่เป็นรถซูเปอร์คาร์เหลืออยู่แค่ 12 คัน อีก 5 คันจอดคลุมผ้าอยู่ด้านนอก ถ้าถามว่าผมชอบคันไหนเป็นพิเศษ ผมคงตอบได้ยาก เพราะแต่ละคันมันก็มีสิ่งที่แตกต่างกัน แต่ถ้าให้เลือกผมชอบ Porsche มากกว่า
นอกจากสะสมรถแล้ว คุณ P ยังชื่นชอบในการแข่งขันรถยนต์อีกด้วย เขาเล่าว่า “ผมเริ่มแข่งรถมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ถึงปัจจุบันนี้ถ้ามีเวลาว่างก็จะไปลงแข่งขันบ้าง ตามสนามแข่งอย่าง พีระเซอร์กิต, บุรีรัมย์ เซอร์กิต หรือ งานบางแสน สตรีท เซอร์กิต ซึ่งถ้วยรางวัลจากการแข่งขันก็นำมาจัดโชว์ไว้ในโรงจอดรถนี้ด้วย
PLANNING DATA & MATERAILS
ประตูโรงจอดรถ Kongo รุ่น Commercial
เสริมบรรยากาศให้ดูโดดเด่น
รายละเอียดในการสร้างโรงจอดรถ คุณ P เล่าว่า “ส่วนใหญ่ผมจะบอกความต้องการของผมกับสถาปนิกที่ออกแบบ วัสดุทุกชิ้นผมเป็นคนเลือก อย่าง stained glass รูปโลโก้ค่ายรถที่อยู่ตรงผนังกระจกด้านข้าง ผมก็สั่งทำเป็นพิเศษ เพราะอยากให้มันดูแตกต่างจากโลโก้ทั่วๆ ไป ส่วนพื้นเดิมทีจะใช้เป็นพื้นไม้ แต่ติดปัญหาเรื่องของอายุการใช้งาน เลยเปลี่ยนเป็นพื้นกระเบื้องลายไม้แทน”
“สำหรับเพดานผมอยากให้มันออกมาดูแนวอินดัสตรี้ก็เลยไม่ติดฝ้าเพดาน ปล่อยเปลือยให้เห็นท่อเดินสายไฟให้มีความดิบนิดๆ เพื่อให้เข้ากับผนังที่เป็นอิฐก่อ”
ถัดจากพื้นที่จอดรถเข้าไปด้านใน ทางซ้ายมือเป็นห้องทำงาน ด้านหน้ามีชุดโซฟาไตล์วินเทจ ส่วนด้านขวาเป็นเคาร์เตอร์บาร์ ด้านหลังชุดโซฟามี Pool Table ผนังห้องด้านในเป็นตู้เก็บโมเดลรถที่เจ้าของสะสมไว้ นอกจากนั้น ภายในโรงจอดรถชั้นใต้ดินแห่งนี้ ยังมีห้องชมภาพยนตร์อยู่ด้านในอีกด้วย ซึ่งในแต่ละพื้นที่มีการกั้นด้วยประตูกระจก ที่สามารถเชื่อต่อกันได้อย่างลงตัว ขณะที่ระบบไฟส่องสว่างในโรงจอดรถนั้น คุณ P บอกว่า “เลือกใช้ระบบไฟสเปคเดียวกับที่ใช้ใน Porsche Museum ที่ Stuttgart”
สำหรับประตูโรงจอดรถ เป็นแบบ over door ของ Kongo รุ่น Commercial ซึ่งประตูรุ่นดังกล่าวตัวโครงเป็นอะลูมิเนียมมีน้ำหนักเบาและมีความทนทานสูง ตัวบานประตูเป็น Poly-carbonate ที่มีความใสอยู่ที่ 90% ที่สำคัญวัสดุทุกชิ้นนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น คุณ P บอกว่า “ส่วนตัวผมไม่ชอบประตูที่ปิดทึบ ชอบแบบโปร่งๆ ใสๆ มากกว่า เวลาเปิดไฟในโรงจอดรถ พอผมกลับมาบ้านในตอนค่ำจะเห็นว่ามันสวยมากเลย”
PLANNING DATA
เจ้าของ คุณ P
พื้นที่ทั้งหมด 2,000 ตร.ม.
โครงสร้าง คอนกรีตเสริมเหล็ก
สร้างเสร็จ ปลายปี 2559
รถยนต์คันโปรด Porsche 911 GT3 RS
Porsche 911 Carrera RS ปี 1992
Porsche 911 Sport Classic
Ferrari 458 lightweight
Lamborghini Aventador LP750-4 SV
Lamborghini Gallardo LP 570-4
McLaren 675 LT เป็นต้น
OWNER’S CHECK
สิ่งที่ชอบที่สุด : ถูกใจที่มีบรรยากาศเหมือนที่คิดไว้
สิ่งที่อยากปรับปรุง : เท่าที่ดูยังไม่มี
ความฝันครั้งต่อไป: คงเป็นเรื่องของการตกแต่งเพิ่มเติมมากกว่า
คำแนะนำถึงผู้อ่าน: คิดว่าสิ่งสำคัญคือต้องมีเป้าหมายการสร้างโรงจอดรถที่ชัดเจน
- ซูเปอร์คาร์ทั้ง 7 คัน ที่จอดอวดโฉมอยู่ในโรงจอดรถชั้นใต้ดินแห่งนี้ สำหรับคุณ P แล้ว นี่คือสถานที่ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเขาได้ดีที่สุด
- เจ้า Aventador LP750-4 SV เครื่องยนต์ V12 750 แรงม้า คันนี้ เป็นรุ่นมีที่แรงม้าสูงสุดที่ในโรงจอดรถแห่งนี้
- โชว์ความดิบแบบเท่ๆ ในแบบ industrial style ด้วยเพดานเพดานเปลือยให้เห็นคานปูนและท่อเดินสายไฟ
- ประตูโรงจอดรถจาก Kongo รุ่น Commercial ขนาด 7 เมตร ที่เข้ามาตอบโจทก์ความต้องการของคุณ P ได้อย่างลงตัว
- McLaren 675 LT ที่มาในสไตล์รถแข่ง เทคโนโลยี F1 ที่คุณ P บอกว่า มี handling และสมรรถนะที่ดี
- Stained glass รูปโลโก้ค่ายรถติดอยู่ตรงผนังกระจกด้านข้าง สั่งทำเป็นพิเศษ เพื่อให้ดูแตกต่าง
- แบ่งพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานสไลด์ พอเปิดทั้งหมดจะได้พื้นที่ที่เชื่อมต่อกันอย่างในภาพ
- ในภาพเป็นมุมที่ถ่ายจากในห้องทำงาน ที่ถูกจัดแบ่งไว้อย่างเป็นสัดส่วน
- สามคันนี้เป็นรุ่นพิเศษทั้งหมด ตั้งแต่ Gallardo รุ่นสุดท้าย Porsche 911 Sport Classic และ Porsche 911 Carrera RS ปี 1992
- ห้องเล่นเกม ที่มี Pool Table ตั้งอยู่ ผนังด้านข้างเป็นตู้โชว์โมเดลรถสะสม
- ด้านในสุดมีโต๊ะประชุมเล็ก ที่ใช้เป็นโต๊ะทำงานอดิเรก
- คอเล็กชั่นโมเดลรถ Porsche 911 ของสะสมสุดรักของเจ้าของ
- ด้านข้างโรงจอดรถมีเคาร์เตอร์บาร์ไว้รับรองเพื่อนๆ ที่แวะเวียนมาเยี่ยม โดยแยกออกจากตัวบ้านหลัก
- ในโรงจอดรถมีทั้งตู้เกม โต๊ะบอล ตั้งอยู่ด้วย ส่วนบรรดาถ้วยรางวัลที่ตั้งโชว์อยู่นั้น เป็นถ้วยรางวัลที่ได้รับมาจากการเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ที่คุณ P เคยเข้าร่วม
- ด้านข้างโรงจอดรถติดกับสระว่ายน้ำ ถึงจะเล่นสนุกอยู่กับลูกๆ ในสระก็ยังสามารถมองเห็นรถที่จอดอยู่ได้ด้วย ในภาพลูกสาวคุณ P กำลังสนุกกับการเล่นน้ำอยู่พอดี
- ห้องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่สามารถใช้ได้ทั้งชมภาพยนตร์ หรือฟังเพลง ที่ถูฏเซ็ตระบบเคื่องเสียงมาเป็นอย่างดี
- บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Garage Life ทั้งฉบับภาษาไทย และญี่ปุ่น ขณะสัมภาษณ์ คุณ P เจ้าของบ้าน
- ระบบไฟส่องสว่างในโรงจอดรถ เป็นสเปคเดียวกับที่ใช้ใน Porsche Museum ที่ Stuttgart
- พื้นกระเบื้องลายไม้ ที่ทำให้บรรยากาศภายในโรงจอดรถดูอบอุ่น
- เพราะแสงสวยๆ แบบนี้นี่เอง คุณ P 57 ถึงเลือกใช้ประตูโรงจอดรถแบบใส
โรงจอดรถที่มีฝูงม้าป่าต่างสายพันธุ์รวมตัวกันอยู่
ผมเองอยู่ในหมู่บ้านนี้มาได้ 10 ปีแล้ว แต่บ้านหลังนี้ผมเพิ่งเข้ามาอยู่เมื่อประมาณต้นปี 2560 บ้านหลังนี้ผมใช้เวลาสร้างนานถึง 6 ปี
ซึ่งวางแผนว่าจะทำโรงจอดรถตั้งแต่ตอนนั้น โดยตั้งใจไว้ว่าจะให้แป็นส่วนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของบ้าน ซึ่งจะสังเกตุเห็นได้ว่า ภายในชั้นใต้ดินที่มีพื้นที่กว่า…. ตารางเมตรนี้ นอกจากพื้นที่ในส่วนของโรงจอดรถแล้ว ยังมีห้องทำงานอดิเรก ห้องชมมภาพยนตร์ และห้องเก็บของสะสม
การออกแบบ
กระจกสแตนกราส เป็นคนเดียวกับที่ทำสแตนกราสให้กับร้านไอสครีมซแว่นเซ่น
คนที่เล่นน้ำเวลาดำลงมาก็จะเห็นโรงจอดรถ
จริงๆ มันต้องเห็นมากกว่านี้ แต่ตอนสร้างสระว่ายน้ำ เขาเสริมฐานขึ้นมาเยอะเกินไปหน่อย
นอกจากนี้ยังตั้งใจให้แสงที่ผ่านจากสระน้ำส่องลงมายังโรงจอดรถนี้ได้ด้วย
รถซุเปอร์คาร์ทั้งหมด 12 คัน
ด้านนอกจะเป็นรุ่น light เวท ของแต่ละยี้ห้อ
ด้านในจะจอดรถปอร์เช่ และลัมโบกินี การาโด รุ่นสุดท้าย
พื้นผมเองอยากได้เป็นพื้นไม้ แต่มันก็จะไม่ทน ก็เลยเปลี่ยนมาใช้เป็นกระเบื้องลายไม้แทน
ผมคิดว่า การที่เราจะเลือกขับรถสปอร์ตเราก็อยากได้อะไรที่มันเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรา ผมเองเป็นคนชอบขับรถแข่งมาก จึงเลือกรถ lightweight ที่ให้อารมณ์และความรู้สึกในการขับอย่างที่เราต้องการ
อย่าง lightweight ของ Porsche อาจจะไม่แรง แต่พละกำลังที่ได้ก็พอดีกับสมรรถนะของตัวรถ
ส่วน Ferrari ก็จะมาในสไตล์รอบเร็วๆ เสียงดังๆ หน่อย
ถ้า Lamborghini aventador ก็จะแรงเลย เครื่องยนต์12 สูบ 750 แรงม้า
ส่วน McLaren ก็จะมาในสไตล์รถแข่ง เทคโนโลยี F1 ที่มี handing ดี
ประตูเลือกใช้ของ Kongo โดยเลือกแบบเป็นซีทูร เพราะเวลากลับมาบ้านตอนค่ำ