Photo / Story : StreetMetal
ถ้าพูดถึงรถแต่งที่ประเทศญี่ปุ่น ผมเชื่อว่าใครหลายๆ คนคงต้องนึกถึงภาพการวิ่งบนทางด่วน หรือการจอดรวมตัวกันตามจุดพักรถ แต่การที่จะไปแล้วได้เห็นดังภาพในอินเตอร์เน็ตนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพวกเขาก็ไม่ได้รวมตัวกันทุกวัน บางทีเขาก็จะนัดกันวิ่งเป็นกลุ่มของตัวเอง ต่างที่ต่างเวลากัน แน่นอนครับ ว่าตัวผมเองก็มีความหลงใหลในวัฒนธรรมของพวกเขาเหมือนกัน ครั้งนี้ผมจึงจะพาทุกคนไปดูสังคมเล็กๆ ของนักวิ่งทางด่วนของที่นี่กัน ในครั้งนี้ผมก็ได้ คุณเซคิเนะ เพื่อนของผมที่เป็นตากล้องประจำที่ญี่ปุ่นของ Narita dog fight เป็นผู้พาผมไปเที่ยวชมวิถีรถซิ่งบนทางด่วน ส่วนใหญ่พวกเขาจะรวมตัวกันบริเวณจุดพักรถต่างๆ แล้วแต่กลุ่มว่าจะนัดกันที่ไหน วันไหน จริงๆ แล้วที่พักรถในแต่ละที่ ก็ได้บ่งบอกถึงนิสัยคนที่ชอบวิ่งในแต่ละเส้นทาง อย่างเช่น จุดนี้ใกล้กับ wangan ก็มักจะมีรถสปอร์ตตัวแรงมานัดรวมตัวออกวิ่งกัน บางจุดอาจจะใกล้กับ C1 ก็จะมีรถที่เครื่องทำไม่โหดนักมาวิ่งกัน | ทริปในครั้งนี้เริ่มต้นที่จุดพักรถที่มีชื่อว่า Umihotaru Parking ซึ่งเป็นแหล่งรวมของคนที่หลงใหลในรถยนต์ใหญ่อันดับต้นๆ ที่นี่พิเศษกว่าที่อื่น นั่นก็คือ ที่นี่ได้สร้างอยู่กลางทะเล โดยมีอุโมงค์ยาวระหว่างทางที่มาถึงเกือบ 10 กิโลเมตร ต้องบอกเลยว่าอากาศที่นี่หนาวมากๆ เพราะอยู่กลางทะเล แต่พวกเขาก็ทนหนาวกัน เพื่ออยู่กับสิ่งที่รัก สถานที่ต่อไปคงเป็นสถานที่ที่พวกเราหลายๆ คนคงคุ้นเคยกันดี เพราะเห็นบ่อยตามภาพในอินเตอร์เน็ต นั่นก็คือ Daikoku Parking ที่นี่เป็นแหล่งรวมใหญ่ที่สุด ลานจอดรถที่กว้างขวาง สามารถจอดรถได้หลายร้อยคัน แถมยังสามารถออกไปวิ่งเส้น wangan ได้ง่ายที่สุด ที่นี่จะมีรถหลากหลายแนวมาจอดมีตติ้งกัน ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตำรวจเข้มงวดที่สุด และก็มาต่อกันอีกที่หนึ่งก็คือ Tatsumi Parking จุดพักรถลอยฟ้า ที่มีวิวสวยที่สุด และเป็นแหล่งรวมตัวของนักขับตัวจริง เพราะสามารถออกไปซัดรถบนเส้น C1 และวนกลับมาที่เดิมได้เลย รถสวนใหญ่ก็จะเป็นรถสปอร์ตสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงซูเปอร์คาร์ด้วย |
เหล่ารถสปอร์ตทั้งหลายที่มาจอดที่ลานจอดในอาคารของจุดพักรถ umihotaru
นอกจากที่กล่าวมา คุณเซกิเนะ ยังเป็นแกนนำในการจัดทริปวิ่งถ่ายรูปเล่นบนทางด่วนสาย K6 อีกด้วย ซึ่งเขาก็ไม่พลาดที่จะพาผมไปร่วมสนุกด้วย ทริปของเขาเริ่มต้นที่ตอนเช้ามืด และออกวิ่งยาวไปจนถึงฟ้าสว่าง วิ่งวนไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปบนทางด่วน รับแดดอุ่นๆ มันเป็นบรรยากาศที่แสนวิเศษจริงๆ | ผมเองคงจะพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ในชีวิตที่หาได้ยาก ถ้าไม่ออกมาลุยและเปิดโลกกว้างนี้ด้วยตัวเอง นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ผมคงไม่สามารถลืมไปได้จริงๆ ทริปของผมในญี่ปุ่นก็คงต้องจบเพียงเท่านี้ ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามการพาทัวร์สังคมรถซิ่งที่ญี่ปุ่นของ Streetmetal ครับ |
www.facebook.com/STREETMETAL2013
มี แต่เหล่าตัวแรงที่มาจอดรอ พร้อมออกไปวิ่งกันในอุโมงค์ที่มีความยาวของอุโมงค์เกือบ 10 กิโลเมตร
Z32 กับบรรยกาศท้องฟ้าที่ดูน่าสะพรึงกลัว ที่จุดพักรถ umihotaru
คุณเซคิเนะ กำลังเพลิดเพลินในการบังคับเจ้า Z32 ของเขา โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง
BNR32 ของคุณโมโทดะ กับชุดพาร์ท Nismo N1 บวกกับล้อ Te37 ขอบ 18×9.5 นำมาจัดฟิตเมนต์ล้อให้ลงตัว แค่นี้ก็ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในหมู่คนเล่นรถใน Daikoku Parking แล้ว
ภาพมุมสูงของจุดพักรถ Daikoku
ER34 ชุดแต่ง URAS ของคุณนากาตะ ณ จุด พักรถ Daikoku
STI คันนี้ไม่นิยมความแรง แต่นิยมใกล้ชิดพื้นโลก!
Daikoku เป็นสถานที่ที่มีรถซิ่งหมุนเวียนกันมาจอดมากที่สุด ส่วนใหญ่จะจอดเป็นกลุ่มๆ แต่หลังๆ มา เสาร์-อาทิตย์ จะลำบากนิดหน่อย เนื่องจากตำรวจค่อนข้างเข้มงวด
Tatsumi Parking ที่ได้อารมณ์ของการวิ่งมิดไนต์อย่างแท้จริง ทั้งวิวที่สวยงาม บวกกับการได้ยินเสียงรถที่ออกไปวิ่งกันอย่างชัดเจน
เนื่องจากเป็นจุดพักรถลอยฟ้า ทำให้ลมค่อนข้างแรง อาจจะหนาวสักนิด ถ้าคิดอยากจะไปแวะชมก็ควรใส่เสื้อผ้าหนาๆหน่อยนะครับ แต่แค่ได้ไปถ่ายรถซิ่งที่จอดกันอยู่ตามช่องจอด พร้อมกับฉากหลังที่เป็นตึกสูงก็ถือว่าคุ้มแล้วครับ
Tatsumi Parking ก็เป็นอีกที่ที่ผมชอบนำรถเพื่อนๆ ขึ้นไปถ่ายรูปเล่นกัน
Stance Z33 สีส้ม กับล้อ work durandal หน้า ขอบ 19×10,หลัง ขอบ 19×11 ที่มาเจอกันที่งานมีตติ้งของคุณเซคิเนะ ที่ Daikoku Parking
มีรถจากตระกูลต่างๆ มาเข้าร่วมวิ่งในครั้งนี้มากมาย การเดินทางในครั้งนี้ออกวิ่งกันตั้งแต่เช้ามืดกันจนถึงฟ้าสว่าง โดยเน้นวิ่งทางด่วนสาย Kangawa เป็นหลัก
Shuto express เป็นเครือข่ายทางด่วนขนาดใหญ่ในโตเกียวและได้ครอบคลุมทั้งจังหวัดโยโกฮาม่า, ชิบะ รวมถึง ไซตะมะด้วย แต่ก็จะมีการแบ่งกันเป็นหลายสายในหลายพื้นที่ แต่ในครั้งที่ได้ออกวิ่งกัน จะวิ่งวนกันเป็นวงกลม เริ่มต้นที่ Daikoku Parking ผ่านสาย K5, K1 และมุ่งสู่ K5 ก่อนที่จะกลับมาที่เดิมอีกครั้ง
หลังจากจบทริป ทุกคนก็ยังอยู่พบปะพูดคุยกันต่อที่ Daikoku กันต่อ
ก่อนจะกลับ ก็ขอพระเอกของงานนี้สักหน่อย