เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : วิวัฒน์ ภัยวิมุติ
ล้วงลึก คนบ้าเส้นขอบฟ้า
สำหรับรถสปอร์ตจากดินแดน “เจแปน” สุดยอดในฝันของใครหลายคน ก็จะต้องมี “เส้นขอบฟ้า” นั่งอยู่ในหัวใจคนส่วนมาก ด้วยสมรรถนะและสิ่งพิเศษที่มอบให้ ไม่แปลกที่ SKYLINE โดยเฉพาะตระกูล GT-R ไม่ว่าเก่าน้อย เก่ามาก ต่างก็ได้รับความนิยมตลอดกาล ในประเทศไทย เจ้าเส้นขอบฟ้าอาจจะไม่ได้มีมาให้เห็นกันบ่อยนัก เพราะรถที่นำเข้ามามีจำนวนจำกัด เลยกลายเป็นของหายากของนักสะสมรถญี่ปุ่น และหนึ่งในนั้นที่เข้าขั้น “คลั่ง” เส้นขอบฟ้า ก็คือ “อั๋น ATP” ซึ่งเป็นคนที่ชื่นชอบ SKYLINE มาก ๆ และมีผ่านมือมาแล้วหลายคัน ซื้อ โมดิฟาย ขายไป แต่ตอนนี้เขาได้กลับมาสะสมตระกูล GT-R ไว้ครบถ้วน ซึ่งเน้นรถสภาพเดิม โมดิฟายแบบขับสนุก ทนทาน แต่องค์รวมต้องมีความเป็น Original ของแต่ละรุ่นอยู่ โดยไล่ไปตั้งแต่ R32-R33-R34-R35 กันเลย…
HISTORY OF ATP & HIS GT-R
จากใจของ “อั๋น ATP” หรือ ธนสิทธิ์ ปัญญาทรานนท์ ที่อยู่ในวงการรถซิ่งมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ก็ได้เปิดใจกับ XO AUTOSPORT ว่า สาเหตุที่สะสม GT-R มันเป็นเพราะอะไร ก็ได้รับคำตอบว่า “จริง ๆ ความชอบส่วนตัวของผม ก็จะชอบ SKYLINE มานานตั้งแต่เด็กแล้ว เลยคิดว่าจะต้องมีขับให้ได้ พอมาทำงานตรงนี้ ก็มีโอกาสได้ทำตามฝันจริง ๆ รูปทรงมองแล้วถูกชะตากับเรา และเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง ปรับแต่งได้ง่าย ความนิยมมีมาก สามารถทำเป็นรถที่ขับขี่ได้จริง ไม่ว่าจะวิ่งใช้งานปกติทั่วไป หรือวิ่งทางไกล ๆ ด้วยความเร็วสูงระดับกว่า 200 กม./ชม. ขึ้นไปมาก ๆ ตระกูล SKYLINE ก็ตอบสนองได้ดี เพราะเป็นรถแบบ GT ที่เน้นเงื่อนไขนี้อยู่แล้ว เครื่องยนต์ RB26 มีความเร้าใจ ถ้าเข้าใจมัน ดูแลรักษาเป็น ก็ใช้ได้ดี ไม่มีปัญหาอะไรหนักใจ การทรงตัวดีเยี่ยม เป็นจุดดีของรถตระกูลนี้ พอทำเพิ่มก็ดีขึ้นไปอีก อีกเรื่องที่สำคัญคือ เราสามารถ Service และ Maintenance เองได้ สามารถสั่งอะไหล่เบิกตรงจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะชิ้นไหน เราก็สั่งได้เองหมด ไม่ต้องผ่านใครทั้งสิ้น เรามีทีมช่างเทคนิคที่เชี่ยวชาญรถตระกูลนี้อยู่ใกล้ตัวอีกด้วย จึงไม่มีปัญหาในการเซอร์วิสหรือโมดิฟาย สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง จึงไม่ต้องกลัวปัญหาใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น ถ้าเซอร์วิสถูกต้อง รถก็จะไม่มีปัญหา อันนี้ไม่เฉพาะ GT-R รถอะไรก็เหมือนกัน ถ้าเซอร์วิสไม่ดีก็พังทั้งนั้น แต่จะบอกว่า ผมไม่ใช่นักสะสม GT-R ตัวยง จริง ๆ สะสมแค่รุ่นที่เราพอใจ และคิดว่ามันสามารถรองรับการขับขี่ของเราได้ ทุกวันนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้ขับรถเหล่านี้บ่อยนัก เพราะถนนเมืองไทยไม่ค่อยเอื้ออำนวย แต่อย่างน้อย มันก็เป็นความสุขส่วนตัวของผมจริง ๆ เพียงแต่เห็นมันอยู่กับผม เท่านี้ก็มีความสุขสุด ๆ แล้วครับ” ก็เป็นเรื่องราวของ อั๋น ATP กับเหล่า GT-R ของเขา แต่ละคันจะมีอะไรบ้าง ขอเชิญชมครับ…
SKYLINE GT-R (BNR32)
คันแรก เริ่มกันจาก BNR32 ซึ่งถือว่าเป็นการกลับมาของ GT-R อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปจากรุ่น KPGC110 ถึง 16 ปี (1973-1989) ถ้าจะนับกันในหมู่ของ GT-R เพียงอย่างเดียว BNR32 จะเป็นรุ่นที่ 3 เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 21 เดือนสิงหาคม ปี 1989 (เปิดตัวหลังจากที่ส่งตัว R32 ธรรมดา ออกจำหน่ายไปก่อนประมาณสามเดือน) ซึ่งเป็นการเปิดศักราชความ “ไฮเทค” ของรถสปอร์ตญี่ปุ่น โดยการนำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ “ไม่ตลอดเวลา” หรือ Part Time ก็คือระบบ ATTESSA ที่ปรับการส่งกำลังตามสภาวะการขับขี่ แถมด้วยระบบเลี้ยวสี่ล้อแบบ HI-CAS ที่ช่วยในการเลี้ยวให้คมยิ่งขึ้น นับว่าเป็นรถที่มีสิ่งที่ตอบสนองในด้านสมรรถนะได้สูง ระบบขับเคลื่อนแบบนี้ NISSAN ได้ต้นแบบมาจาก PORSCHE 959 ถ้าเทียบกับยุค 20 ปีก่อน รับรองว่า “ไม่ธรรมดา” กับขุมพลังรุนแรง RB26DETT ที่ Born to Circuit โดยเฉพาะ พื้นฐานดี โมดิฟายให้แรงหลุดโลกได้ตามกำลังเงิน วันที่ 11 มีนาคม 1990 ออกเป็น “NISMO Version” มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น ชุดพาร์ท กันชนหน้ามี “ช่องลม” หรือ “จมูก” ข้างทะเบียน ด้านหลังเป็นสปอยเลอร์สองชั้น ภายในลดน้ำหนัก เป็นแอร์ปุ่มสไลด์ธรรมดา ไม่ใช่ดิจิตอล วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1993 ออกรุ่น “V-SPEC” มา เปลี่ยนแปลงให้รองรับสมรรถนะสูงขึ้น ล้อ BBS ขอบ 17 นิ้ว ยาง 225/45R17 เจตนาก็เพื่อที่จะเพิ่มการยึดเกาะ และล้อ 16 นิ้ว ก็ไม่สามารถใส่เบรกใหญ่ได้ เลยต้องเปลี่ยนเป็น 17 นิ้ว พร้อมเบรก BREMBO ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1994 ก็ได้ออก “V-SPEC II” มา รายละเอียดเหมือน V-SPEC แต่ใช้ยางใหญ่ขึ้น เป็น 245/45R17 ในสนาม Nurburgring R32 ทำเวลาดีสุดต่อรอบ ไว้ในระดับ “8 วินาทีต้น” ซึ่งในยุคนั้น มันจัดอยู่ในระดับ “แนวหน้า” ของรถโปรดักชั่นที่แรงมาจากโรงงาน…
ATP Comment to BNR32
R32 ถือว่าเป็นรถในตำนาน ที่เริ่มต้นกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ฉลาด แทบจะเป็นรุ่นเดียวของญี่ปุ่นก็ว่าได้ ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบนี้ ถ้าเทียบกับยุคเมื่อ 20 ปีก่อน ก็ถือว่าทันสมัยที่สุดแล้ว จนเป็นการต่อยอดมาถึงรุ่นใหม่ เครื่องยนต์ RB26DETT ก็จัดว่ามีเทคโนโลยีสูง ฝาสูบดีมาก ให้กำลังสูง ก็นับว่าเป็นรถที่แทบไม่มีที่ติ แต่พอมาเทียบกับรุ่นใหม่ เป็นธรรมดาที่จะต้องเกิดข้อด้อย เช่น ระบบ ATTESSA ที่ยังใช้ “กลไก” ประมวลผล การตัดต่อกำลังยังช้า ไม่ค่อยเสถียร และต้องแก้ระบบหล่อเย็น ตอนจอดนาน ๆ ความร้อนขึ้นค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะสามารถปรับปรุงได้ไม่ยาก…
BNR32 Specification
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) : 4,545 x 1,755 x 1,340
ช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) : 2,615
ความกว้างฐานล้อหน้า/หลัง (มม.) : 1,480/1,480
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) : 1,430
เครื่องยนต์ : RB26DETT 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์ว
กำลังสูงสุด (PS/rpm) : 280/6,800
แรงบิดสูงสุด (kg-m/rpm) : 36.0/4,400
อัตราทดเกียร์ 1-5 : 3.214/1.925/1.302/1.000/0.752
อัตราทดเฟืองท้าย : 4.111
ขนาดยาง : 225/50 R16
SKYLINE GT-R (BCNR33)
ตำนานที่สืบต่อมาเป็นรุ่นที่ 4 ด้วยซีรีส์ของ “R33” หรือรหัสเต็มว่า BCNR33 สำหรับตัว GT-R รุ่นนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาไปเป็นอีกลุคหนึ่ง จะเน้นความเรียบ หรูหรา สไตล์รถผู้ใหญ่ หลายคนก็อาจจะว่ามันไม่ค่อยโหดร้ายสักเท่าไหร่ สู้ BNR32 ไม่ได้ ก็นานาจิตตังครับ (แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น) ออกจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1995 โดยมีรุ่น V-SPEC ออกมาคู่กัน สำหรับคนที่ชอบความสปอร์ตกว่า ระบบ ATTESSA E-TS พัฒนาใหม่ เพิ่มคำว่า PRO เข้ามา ใช้ “ไฟฟ้า” มาควบคุมโดยละเอียดขึ้นกว่ารุ่นก่อน พร้อมระบบ Active Limited slip ในรุ่น V-SPEC จะใช้ระบบ ABS แบบอิสระ 4 แชนเนล เครื่องยนต์ RB26DETT เหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนเดิมที่ “ข้อเหวี่ยง” R33 ตรงส่วนปลายที่เสียบเข้าปั๊มน้ำมันเครื่อง (Oil Pump Drive Collar) จะเสียบได้ “เต็ม” ส่วน R32 จะเสียบแค่ “ครึ่งเดียว” ทำให้ตอนรอบสูง ข้อเหวี่ยงสั่น มันจะไปงัดปั๊มแตก ใน R33 ถึงแก้จุดอ่อนนี้ ก็ทำให้ปั๊มแตกยากขึ้น แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 37.5 kg-m. ที่รอบเท่าเดิม ในช่วงปี 1996 ก็ได้เพิ่ม SRS Air Bag มาให้ รวมถึงออกตัว LM Limited ใส่พาร์ท NISMO ความแตกต่างอาจจะไม่ชัดนัก เพราะกันชนหน้าก็เจาะช่องลมเพิ่มตรงข้างป้ายทะเบียน กับลิ้นหน้าใหญ่ขึ้น แผ่นสปอยเลอร์หลังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ และตบท้ายด้วย “NISMO 400R” ที่นำมาทำพิเศษ เครื่องขยายความจุ 2.8 ลิตร ให้แรงม้า 400 PS เปลี่ยนชื่อเครื่องเป็น “RB-X GT2” ภายนอกมีสีแดง เหลือง พร้อมของแต่ง NISMO รอบคัน สำหรับ “เกียรติยศ” ของ R33 ก็คือ “เป็นรถโปรดักชั่นคันแรก ที่ทำเวลาต่ำกว่า 8 วินาที ใน Nurburgring” นับว่าเป็นรถญี่ปุ่นที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากมาย…
ATP Comment to BCNR33
R33 คันนี้ผมเก็บเป็นแบบสแตนดาร์ดจริง ๆ เพราะได้รถมาสภาพดี ก็เลยลงมือทำการ Restoration ใหม่ทั้งหมด ด้วยอะไหล่ของแท้เบิกใหม่ทุกชิ้น จะทำให้มันกลับไปสู่ยุคที่มันเกิดอีกครั้ง สำหรับฟีลลิ่งของรุ่นนี้ ระบบขับเคลื่อนที่ใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาควบคุมมากขึ้น ทำให้มีความละเอียดในการทำงาน การขับขี่จึง “เนียน” กว่า R32 อย่างเห็นได้ชัด เครื่องยนต์แก้ปัญหาเรื่องข้อเหวี่ยงกับปั๊มน้ำมันเครื่องได้ดี ทนขึ้น ภายในกว้างขวาง นั่งสบายทั้ง 4 ที่นั่ง แต่ข้อเสียก็มี คือ ตัวรถมีน้ำหนักมากเกินไป และมีความยาวมากกว่า R32 อยู่พอควร ทำให้ขาดความคล่องตัวอยู่บ้าง…
BCNR33 Specification
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) : 4,675 x 1,780 x 1,360
ช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) : 2,720
ความกว้างฐานล้อหน้า/หลัง (มม.) : 1,480/1,490
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) : 1,530
เครื่องยนต์ : RB26DETT 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์ว
กำลังสูงสุด (PS/rpm) : 280/6,800
แรงบิดสูงสุด (kg-m/rpm) : 37.5/4,400
อัตราทดเกียร์ 1-5 : 3.214/1.925/1.302/1.000/0.752
อัตราทดเฟืองท้าย : 4.111
ขนาดยาง : 245/45R17
SKYLINE GT-R (BNR34)
สุดท้ายของ SKYLINE GT-R คือ BNR34 หลังจากนี้คำว่า SKYLINE จะหายไป กลายเป็นรถที่ทรงคุณค่า ทั้งในด้านที่เป็นตัวปิดท้ายตำนาน และสมรรถนะที่ถูกปรับปรุงมาจาก R32-R33 จนแทบจะหมดสิ้นจุดอ่อน เปิดตัวในเดือนมกราคม ปี 1999 โดยการเปลี่ยนทรงไปเป็นแบบ “มีเหลี่ยม” เหมือนเดิม ซึ่งเป็นการผสมผสานกันได้อย่างลงตัวที่สุด รุ่นนี้จะมี V-SPEC ออกมาขายคู่ไปกับรุ่นธรรมดา (ซึ่งรายละเอียดของ R34 อาจจะเคยพูดไปบ้างแล้วในเล่มก่อน ๆ ดังนั้น ขอสรุปอย่างย่อก็แล้วกัน) รุ่น V-SPEC จะใช้ช่วงล่างที่ “เฟิร์ม” กว่า เตี้ยกว่า 10 มม. ระบบ ATTESSA E-TS PRO (รุ่นธรรมดาไม่มี) เครื่องยนต์ RB26DETT รุ่นสุดท้าย ฝาวาล์วสี “Glossy red” พัฒนาระบบควบคุมเครื่องยนต์ใหม่ เดือนสิงหาคม ปี 2000 ออกรุ่น V-SPEC II มีรายละเอียดเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ฝากระโปรงหน้ามีช่องลมระบาย ไฟเลี้ยวขาว ช่วงล่างที่เฟิร์มขึ้นไปอีกระดับ เบรกหลังใหญ่ขึ้น เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2002 ออกรุ่น “Nur” มา ซึ่งมาจากชื่อสนามแข่งรถ Nurburgring ที่ SKYLINE GT-R ได้เอาไปวิ่งทดสอบและพัฒนามาตั้งแต่ R32 ซึ่งก็ทำสถิติเวลาต่อรอบได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีรุ่น M-SPEC Nur ที่เน้นความหรูหรา กับ V-SPEC II Nur ที่เน้นความเป็นสปอร์ตเต็มขั้น ตบท้ายด้วยสุดยอดในตำนาน “NISMO Z-TUNE” ที่นำ R34 มือสองสภาพเยี่ยม มาปรับปรุงพิเศษใหม่หมด ให้มีกำลัง 500 PS ซึ่งแรงม้าขนาดนี้ อาจจะดูไม่เยอะสำหรับบ้านเรา แต่ที่แน่ ๆ แรงม้า 500 PS จะต้อง “ผ่านกฎหมายมลพิษ” ด้วย พร้อมอื่น ๆ อีกมาก มีเพียง 20 คัน ทั่วโลก จึงเป็นรถที่มีคนมากมายอยากมีไว้ในครอบครอง…
ATP Comment to BNR34
สำหรับ R34 ก็เป็นรุ่นสุดท้ายของ GT-R ในนามของ SKYLINE ที่เหมือนเป็นจุดสิ้นสุดก่อนเปลี่ยนยุค เป็นรถที่บอกได้เลยว่า Perfect เพราะได้แก้ไขปัญหาจนสมบูรณ์แบบแล้ว พัฒนาให้รถขับง่าย และเสถียรขึ้นมาก นิ่ง เครื่องยนต์พัฒนาให้มีแรงบิดสูงขึ้น อัตราเร่งดี เกียร์ 6 สปีด จึงเป็นอะไรที่สุดยอดในตระกูล คันที่ผมมี จะเป็นรุ่น M-SPEC Nur ที่มีคันเดียวในเมืองไทย โมดิฟายด้วยเครื่อง NISMO Fine Spec ที่มีข้อพิเศษ ทำให้รถคันนี้สมบูรณ์แบบที่สุด ข้อด้อยก็คงไม่มีอะไร เพราะเท่าที่ลองใช้มานาน ก็ไม่มีปัญหาอะไร หากมีการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง มันก็เหมือนรถบ้านคันหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ความแรงของมันก็ระดับซูเปอร์คาร์เลยทีเดียว…
BNR34 Specification
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) : 4,610 x 1,780 x 1,340
ช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) : 2,665
ความกว้างฐานล้อหน้า/หลัง (มม.) : 1,490/1,500
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) : 1,560 (รุ่น V-SPEC)
เครื่องยนต์ : RB26DETT 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์ว
กำลังสูงสุด (PS/rpm) : 280/6,800
แรงบิดสูงสุด (kg-m/rpm) : 40.0/4,400
อัตราทดเกียร์ 1-6 : 3.827/2.360/1.685/1.312/1.000/0.793
อัตราทดเฟืองท้าย : 3.545
ขนาดยาง : 245/40R18
GT-R (CBA-R35)
สิ้นสุดคำว่า SKYLINE GT-R คงเหลือเพียง SKYLINE ที่กลายเป็นรถสปอร์ตแบบหรูหราธรรมดา ความดุดันก้าวร้าวหายไป จนบังเกิด NISSAN GT-R ขึ้นมา เพื่อยกระดับเป็น Super Car อย่างเต็มขั้น ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงสุดของ NISSAN (NISSAN’S Technology Flagship) ที่ประดังใส่เข้าไปใน GT-R จนเรียกว่า “โคตรไฮเทค” ก็ว่าได้ จนเป็น Japanese Super Car ที่เข่นกับฝั่งเยอรมันและอิตาลีอย่างเมามันส์ การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้ จะออกสู่ชาวโลกในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2007 ในงาน Tokyo Motor Show และออกจำหน่ายจริงในเดือนธันวาคม ปี 2007 ถอดคราบ SKYLINE ออกหมด คงเหลือไว้แต่ “ไฟโดนัท” ไว้ ขุมพลังเปลี่ยนเป็น VR38DETT ที่เน้นสมรรถนะและการใช้งานทั่วไปได้แบบรถบ้าน ใคร ๆ ก็ขับได้ ด้วยอุปกรณ์ตัวช่วยแทบจะทุกจุด ซึ่งบางคนก็ว่า มันดูจะ “ง่าย” ไปหน่อย สำหรับคนที่ชอบฟีลลิ่งดิบ ๆ ในตอนนี้ มันก็ยังคงเป็นโปรดักชั่นคาร์ที่ทำเวลาใน Nurburgring ในอันดับต้น ๆ วันที่ 7 มกราคม ปี 2009 ก็ได้ออก “SpecV” มา เป็นความพิเศษขึ้นไปอีกขั้น ด้วยชุดแต่งคาร์บอนไฟเบอร์ลดน้ำหนัก ช่วงล่างแข็งขึ้นแบบ Racing ขุมพลังเดิม แต่มีฟังก์ชัน Overboost เอาไว้เป็นกำลังสำรองแบบชั่วคราว เรื่องราวของ GT-R ผมก็เคยว่าไปอย่างละเอียดแล้วประมาณสองครั้งด้วยกัน ก็ขอละไว้เท่านี้…
ATP Comment to CBA-R35
สำหรับ R35 ยอมรับอย่างแรกเลยเกี่ยวกับความไฮเทคของมัน อาจจะมากเกินกว่าความเป็นรถด้วยซ้ำ มันก็ช่วยให้รถขับง่าย เป็นกลาง เท่าที่ได้ลอง แน่นอนว่า เทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็ย่อมเหนือกว่าเดิมอย่างแน่นอน สมรรถนะสูง ใช้งานได้สบายแบบรถทั่วไป แม้จะมีราคาแพง แต่ก็คุ้มค่าที่ได้ขับมัน การบำรุงรักษาก็จะต้องเน้นหน่อย จริง ๆ ไม่มีอะไรหนักใจหรอก คือเน้นที่ “ของเหลว” ต่าง ๆ น้ำมันเครื่อง โดยเฉพาะน้ำมันเกียร์ ที่ควรจะใช้ของเกรดพิเศษโดยเฉพาะของ GT-R เพราะถ้าใช้น้ำมันไม่ดี เกียร์จะมีปัญหาจากความร้อน และระยะ Clearance ต่าง ๆ ส่วนเครื่องยนต์ ยอมรับว่าทำได้ดีมาก ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้พวกชุดแต่งเพิ่มแรงม้ามาก ๆ แบบต้องเปลี่ยนกันชุดใหญ่ อาจจะยังไม่มีจำหน่าย เพราะรถส่วนใหญ่ยังไม่หมด Warranty ในปีหน้า เมื่อรถเริ่มหมด Warranty ชุดแต่งพวกนี้ก็เริ่มออกมา ก็น่าจะมีการโมดิฟายที่รุนแรงมากขึ้น…
CBA-R35 Specification
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) : 4,655 x 1,895 x 1,095
ช่วงล้อหน้า-หลัง (มม.) : 2,780
ความกว้างฐานล้อหน้า/หลัง (มม.) : 1,590/1,600
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) : 1,740 (รุ่น V-SPEC)
เครื่องยนต์ : VR38DETT V6 สูบ DOHC 24 วาล์ว
กำลังสูงสุด (PS/rpm) : 480/6,400
แรงบิดสูงสุด (kg-m/rpm) : 60.0/3,200-5,200
อัตราทดเกียร์ 1-6 : 4.056/2.301/1.595/1.248/1.001/0.796
อัตราทดเฟืองท้าย : 3.700
ขนาดยาง : 255/40ZRF20 (หน้า) 285/35ZRF20 (หลัง)
X-TRA ORDINARY
ตระกูล SKYLINE นั้น ก็จะมีพวก “ตัวพิเศษ” (ที่ไม่ใช่ V-SPEC) อยู่ โดยเป็น AUTECH VERSION ที่นำรถรุ่นธรรมดา มาทำพิเศษไม่เหมือนใคร อย่าง R32 ก็นำรุ่น 4 ประตู มาทำ โดยการนำเครื่อง RB26DETT มาถอดเทอร์โบออก กลายเป็น RB26DE มีแรงม้า 220 PS เกียร์ออโต้ ขับเคลื่อนสี่ล้อ สีเขียวอมทองแบบพิเศษ ออกจำหน่ายในวันที่ 20 เมษายน 1992 แล้วก็มาถึง R33 ที่ทำเป็น GT-R 4 ประตู โดยเอาพื้นฐานรุ่นธรรมดามาทำ ก็ดูแปลกไปอีกแบบ แล้วก็ยังลามไปถึง STAGEA VERSION 260RS ที่เอา Power Train ของ GT-R ทั้งหมดไปใช้ กลายเป็น GT-R ในคราบรถ Station Wagon ไปซะอีก…