The Golden Era of Euro Classic “BMW E30” : ความร่วมสมัยที่ “ยังมา”
ขอสลับบรรยากาศจาก “ฝั่งปลาดิบ” มาเป็น “ฝั่งเบียร์” รสละมุนกันบ้าง แน่นอนว่า รถในฝันของใครหลายคน ย่อมมีบรรจุ BMW อนุกรม “E30” เอาไว้ ด้วยความที่มันเป็นรถที่ “จับต้องได้ไม่ยาก” เนื่องจากมีขายในประเทศไทย และได้รับความนิยมสูงในอดีต จึงมีรถเป็นจำนวนมาก สมัยนั้นราคาก็ถือว่า “แพง” อยู่เหมือนกัน สำหรับรถขนาดเล็ก แต่คนมีเงินก็ยอมซื้อ ตอนนี้ราคาไม่สูงเกินไปจนเอื้อมไม่ถึง ซึ่งยังพอจะหารถสภาพดีๆ ที่คนเก็บรักษาไว้มาทำต่อได้อยู่ จะซ่อมบำรุงให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เดิมๆ ก็สามารถใช้งานไปได้อีกนาน ส่วนใครจะ “เล่น” ก็มีของให้เล่นแบบ “หลากหลาย” ราคารับได้บ้าง แพงบ้าง แพงโคตรบ้าง ก็แล้วแต่จะเลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี ด้วยความที่อนุกรม E30 มีรถออกมาหลากหลายแบบ และมีการตกแต่งหลายสไตล์ หลายค่ายดังๆ จึงขอ “แบ่งไตรภาค” นะครับ ใน “ภาคแรก” นี้ จะพูดถึงข้อมูลพื้นฐานของ E30 และมีรถตัวอย่างที่เป็นรุ่นพื้นฐาน ก่อนจะไป “ภาคสอง” กันในรุ่น “แปลกประหลาด” จบที่ “ภาคสาม” จะเป็น “ตัวแต่งสำนักดังแบบครบชุด” จัดไปให้ครบ ส่วนข้อมูลที่น่าสนใจ ก็จะร่ายเป็นภาคๆ ไปตามความเหมาะสม งวดนี้ชมภาคแรกไปก่อนนะ…
- E30 โฉมแรกจริงๆ จะเป็น “คางหน้างุ้ม” แบบนี้ครับ ส่วนล้อติดรถจะเป็นแบบ “ฝาเบียร์” ยอดฮิต ขอบ 14 นิ้ว
Starting Line up
ปี 1978 BMW E30 ถูกสะบัดปากกา ดีไซน์รูปทรงขึ้นมาโดย “Mr. Claus Luthe” ชาวเยอรมัน ผู้ที่เคยออกแบบรูปทรงรถ NSU Ro 80 เครื่องยนต์โรตารี่อันโด่งดังในยุคนั้น เจตนาให้เป็นรถในรูปแบบ Compact Executive Car “รถขนาดเล็กที่หรูหรา” พร้อมกับมีความเป็นสปอร์ต มีคุณภาพยอดเยี่ยมในระดับสากล E30 เป็น 3 Series Generation 2 ที่ขึ้นมาทดแทน E21 “หน้าฉลาม” ในปี 1982 E30 ออกจำหน่ายครั้งแรก เป็นตัว “316” แบบ “2 ประตู คูเป้” และ “4 ประตู ซีดาน” (ซึ่งเป็นครั้งแรกของ 3 Series ที่ผลิตรถ 4 ประตู) สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของมันก็คือ “กันชนเล็ก” และ “ไฟท้ายสองชั้น” ซึ่งมีชุดแต่ง “M-TECHNIC I” เป็นชายต่อลงมาจากกันชนเล็ก ตรงชายล่างสุดจะปั๊มเป็น “3 เส้น” ส่วนตัวถัง ก็จะมีจุดสังเกตได้ง่ายๆ ด้านหน้าคือ “คางหน้างุ้ม” ส่วนด้านท้าย “ชายล่างสั้น” เมื่อมองจากด้านหลังจะเห็นซุ้มยางอะไหล่ห้อยลงมาครึ่งหนึ่ง ส่วนซุ้มล้อหลังจะ “สูง” เครื่องยนต์เป็น M10 ความจุ 1.8 ลิตร SOHC คาร์บูเรเตอร์ มีเรี่ยวแรงน่ารัก 90 PS เจตนาจะให้เป็นรถที่ราคาไม่สูง และเรียกความสนใจได้ดี เกียร์เป็นแบบธรรมดา 4 สปีด ของ Getrag รุ่น 220 ส่วนเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ของ Getrag รุ่น 240 ซึ่งเป็นอุปกรณ์สั่งพิเศษ (เป็นเกียร์ที่ใช้ร่วมกับ 320 i เครื่อง M20B20 แต่ส่วนของหัวหมูเกียร์ไม่เหมือนกัน) ส่วนเกียร์ออโต้ จะเป็นแบบ “3 สปีด” ของ ZF รุ่น 3 HP 22 ลากยาวจนถึงปี 1985…
ปี 1984 จัดการออก “318i” ที่ใช้ระบบ “หัวฉีด” เป็นเครื่อง M10B18 พื้นฐานเดิม แต่เพิ่มหัวฉีด และปรับปรุงสมรรถนะให้ดีขึ้น มีเรี่ยวแรง “105 PS” เน้นในความ “ประหยัด” และ “ลดมลพิษ” และมีรุ่น “เครื่องใหญ่สุด” คือ 325e (ตัว e ย่อมาจาก Efficiency) ที่ใช้เครื่อง M20B27 6 สูบ 2.7 ลิตร !!! ที่เรียกกันว่า “eta” หรือ “อีต้า” เปิดตัวครั้งแรกใน BMW 528 e แต่อย่าเพิ่งตาโตไป เพราะเครื่องรุ่นนี้มีแรงม้าเพียง “129 PS” เท่านั้น อ้าว ??? เจตนาในการผลิตเครื่อง “อีต้า” ขึ้นมา ไม่ได้เน้นกำลัง แต่เน้น “ความต่อเนื่องและราบเรียบ” มากกว่า พื้นฐานเป็นเครื่องกำลังอัดสูง เน้นตอบสนองเร็ว แต่วาล์วกับท่อไอดีมีขนาดเล็ก ก็เป็นที่รู้กันว่า “ไม่ได้ทำแรง” แน่นอน รอบสูงสุดประมาณ 5,500 rpm เท่านั้นเอง สไตล์นี้เน้นเอาใจตลาด U.S. ที่ชอบเครื่องใหญ่ ตอบสนองเร็วตั้งแต่รอบต่ำ ปี 1985 พัฒนาใหม่บางจุด เช่น เกียร์ออโต้ เปลี่ยนจาก 3 สปีด เป็น “4 สปีด” แต่ยังให้ “ZF” บริษัทผลิตเกียร์เจ้าดังในเยอรมันทำให้เหมือนเดิม รุ่นเครื่องแรงที่สุดใน E30 ก็จะเป็น “323i” เครื่อง M20B23 6 สูบ 2.3 ลิตร และมีรุ่น Top of The Line ออกมา คือ “325es” ที่พัฒนาต่อจาก 325e เช่น มี ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ปรับเซตช่วงล่างใหม่ ให้ Handling ดีขึ้น ในช่วงปี 1986 จะเปลี่ยน “คาง” หน้า จากคางงุ้ม เป็น “คางตรง” ให้ดูเต็มสวยมากขึ้น…
- อันนี้รุ่น “คางตรง” ดูสวยเต็มขึ้นมาอีกหน่อย สังเกตรถนอกจะมี “หูลากหน้าสองหู” รถบ้านเราจะมี “หูเดียวด้านขวาของรถ” ซึ่ง E30 จะมีรุ่น 4 ประตู เป็นครั้งแรกของ 3 Series เพื่อตอบสนองผู้ใช้ในแบบครอบครัว
- ไม่ว่าจะ 2 ประตู หรือ 4 ประตู ก็มี Platform เดียวกัน ซึ่งเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามความต้องการของลูกค้าว่าอยากได้ “โฉบเฉี่ยว” Sporty Look หรือจะ “ภูมิฐาน” ในแบบ Sedan
- รุ่นกันชนเล็ก แต่งได้ 2 สไตล์ ถ้าเป็น Classic ก็ต้องเดิมๆ คลีนๆ ล้อแต่งตรงรุ่น กดเตี้ย ถ้าจะเอาทันสมัยขึ้นมาหน่อย ก็จัด M-TECHNIC I เข้าไป เป็นชิ้นต่อจากใต้กันชนลงมา ทำให้รถดูเตี้ยลง ปิดซุ้มยางอะไหล่ด้านหลังไป
- ภายในของรุ่นไฟท้ายสองชั้น ถ้าเทียบกับ 3 ชั้น ดูเผินๆ ก็จะเหมือนกัน แต่มีจุดต่างบ้างครับ ส่วนหลักๆ ก็จะดูกันที่ “สวิตช์” ยกตัวอย่าง “ก้านไฟหน้า ไฟเลี้ยว ปัดน้ำฝน” ตัวสัญลักษณ์จะเป็นแบบ “กัดร่อง ถมสีขาว” (รุ่นแรกๆ นะ) ตรงแผงสวิทช์แอร์ ที่เป็นตัวสไลด์ 3 อัน นั่นน่ะ จะเป็นแบบ “ลูกศร” ช่องแอร์ด้านข้าง จะเป็นสัญลักษณ์ “กลมกลวง กลมขาว” แสดงการเปิดปิดช่องแอร์นั่นเอง ถ้าเป็นตัวนอก (ก็คันนี้แหละ) นาฬิกาจะเป็นแบบดิจิตอล พร้อมปุ่มให้กดดูสถานะรอบคันต่างๆ (บ้านเราเป็นนาฬิกาเข็มขาว) ช่วงแผงคอนโซลกลางนี้ รถพวงมาลัยซ้ายและขวาไม่สามารถสลับใช้กันได้เหมือนจอเรือนไมล์ เพราะนาฬิกาและวิทยุจะอยู่สลับฝั่งกัน
- ปี 1987 เป็นรุ่น “กันชน ECE” ที่เป็น “ยาง” ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ คิ้วโครเมียมที่กันชนแบบรุ่นไฟท้ายสองชั้นหายไป เข้าใจว่าคิ้วโครเมียมเป็นส่วนที่แข็งและแหลมคม จะไป “ทำร้าย” คนเมื่อเกิดการชน เลยถูกยกเลิกไป ส่วน “กรอบประตู” จะเป็นสีดำด้าน กระจังหน้ารุ่นนี้ จะมีส่วนต่างจากรุ่นก่อน ที่ “ด้านบนของรูไฟหน้า” รุ่นนี้จะเป็นแบบ “เต็ม” รุ่นก่อนจะมี “เว้า” ครับ
ปี 1987 เป็น “Major Update” หรือ “เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” คือ “ไฟท้ายสามชั้น” จะมีขนาดใหญ่กว่า 2 ชั้น ชายล่างด้านหลัง จะยาวลงมาปิดซุ้มยางอะไหล่ และซุ้มล้อหลังจะ “เตี้ย” กว่า เลยทำให้ไม่สามารถใส่ล้อใหญ่และ “กดเตี้ย” ได้เหมือนรุ่นไฟท้ายสองชั้น กันชนหลังก็ใช้กันไม่ได้เหมือนกัน เพราะแนวซุ้มล้อไม่เหมือน “กระจังหน้า” ช่วงที่อยู่บนไฟหน้า จะ “เต็ม” ไม่มีเว้าเหมือนรุ่นก่อน “โครเมียมรอบคันหายไป” เป็นคิ้วสีดำ สำหรับ “กันชน” ก็จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ “ECE” (อีซีอี) รูปทรงคล้ายของเดิม แต่เป็นยาง ไม่มีคิ้วโครเมียม ส่วนอีกแบบคือ “M-TECHNIC II” ก็ที่เห็นกันบ่อยๆ นั่นแหละครับ เป็นชายอูมๆ ลงมา บ้านเราก็มี แต่ส่วนมากก็ทำกันเองในนี้ ดูเส้นสายจะไม่คม ทรงลีบๆ ผอมๆ ไม่เหมือนของแท้ที่ดูดีกว่าเยอะ อันนี้ดูด้วยสายตาก็รู้ครับ รุ่นนี้ถ้าเป็น 318i ก็จะเปลี่ยนเครื่องเป็น “M40” แทน M10 ของเดิม และรุ่นแรงที่สุด คือ 325i” เครื่อง “M20B25” 2.5 ลิตร มีเรี่ยวแรงถึง “171 PS” เหลือๆ เลย และมีคน “ซน” ด้วยการเอาท่อนล่าง eta มา “สะเวิ้บ” กับฝาสูบรุ่นนี้ แต่ก็ต้องมีการ “ทำกำลังอัด” ให้เหมาะสม เท่าที่ทราบมา เครื่องตัวนี้จะแรงกว่าที่อยู่ใน 5 Series E34 เสียอีก อาจจะต้องการความเป็นสปอร์ตที่สุด อัตราทดเกียร์อะไรต่างๆ ก็จะจัดจ้านกว่า ปี 1990 มี “Air Bag” ด้วยนะ สำหรับ E30 ไฟสามชั้น ก็จะมีชีวิตลากยาวไปถึงปี “1994” ก่อนจะเปลี่ยนเป็น E36 นับว่า E30 มีอายุยืนยาวถึง “12 ปี” ด้วยกัน…
- นี่แหละครับ “ไฟท้ายสามชั้น” ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเดิม ตัวถังก็ไม่เหมือนกันครับ อย่างที่บอกไป ล้อ Accessories อันนี้ เป็นของ BBS ผลิตให้ เรียกว่ารุ่น Cross Spoke ขอบ 15 นิ้ว บางคนก็เรียกว่า “Basket weave” (ลายตะกร้าสาน) ส่วน “ตูดเป็ด” บนฝาท้าย ฝรั่งเรียกว่า “Deck lid Spoiler” ครับ
E30 in Thailand
แน่นอน ต้อง “ยนตรกิจ” ที่เป็นผู้แทนจำหน่าย BMW ในตอนนั้น ตัว E30 ก็เข้ามาในช่วงปี 1984 เป็นรุ่น 316 มาก่อน และต่อด้วย 318i ผมหาราคาปี 1986 เจอ ตัว 2 ประตู อยู่ที่ “519,000 บาท” ตัว 4 ประตู “549,000 บาท” (รุ่นไฟสองชั้น จะเป็น “เบาะหนังรู”) ส่วน 318i ถีบขึ้นไป “595,000 บาท” รถบ้านเราจะเป็น “กันชนบิ๊ก” เหมือนสเป็กอเมริกา แต่ถ้าไม่ชอบ จะเปลี่ยนเป็น “กันชนเล็ก” อยากหล่อก็สั่งพร้อมชุดแต่ง M-TECHNIC I ที่เป็นชายต่อใต้กันชนลงมา ดูง่ายๆ ครับ ถ้ารถใช้กันชนบิ๊ก แล้วเปลี่ยนกันชนเล็ก ให้มุดดู “รูกันชนที่ตัวถัง” ของกันชนบิ๊กจะ “รูใหญ่” เพราะขากันชนมันคือ “โช้คอัพ” ซับแรง ตามกฎหมายของอเมริกา ในช่วงปี 1986-1987 รุ่นไฟท้ายสามชั้น (เบาะจะเป็น “หนังเรียบ”) มันจะมี “รถนำเข้า” มาทั้งคัน เพราะ “ผลิตไม่ทันออเดอร์” จุดแตกต่างของรถนำเข้าคือ “หูลากหน้าจะมีสองฝั่ง” รถบ้านเราจะมี “ฝั่งเดียว” สำหรับตัวสุดท้ายที่ขายบ้านเรา ประมาณปี 1992 จะ “เทของ” เพื่อจะเปลี่ยนเป็น E36 ก็ใส่ชุด M-TECHNIC II มาให้ (เฉพาะพาร์ทนะ) ราคา “เก้าแสนกว่าบาท” ลดลงจาก “1,230,000 บาท” ซึ่งเป็นการปิดล็อตขาย E30 นั่นเอง…
Dress Up Tips
เริ่มกันจาก “ของตกแต่ง” ในรูปแบบต่างๆ จะเป็นของตัวนอก หรือ Accessories แปลกๆ ขอคัดเฉพาะ “ส่วนนิยม” แล้วกันครับ ถ้าจะให้เหมาหมดโลกนี่ ไม่ไหว เพราะสเป็กมันเยอะมากครับ…
- จริงๆ รถ BMW E30 มันมีจำหน่ายทั่วโลก ก็จะมีสเป็กต่างๆ เยอะมาก เช่น เยอรมัน ญี่ปุ่น อังกฤษ ที่นิยมเล่นกันในบ้านเรา ส่วน “สไตล์คนไทย” ส่วนใหญ่แล้วก็จะ “มีอะไรใส่หมด” เรียกว่าอะไรที่เป็นตัวนอก หาอะไรเจอก็ใส่กันเข้าไป บางทีอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้สำหรับเมืองไทย เช่น ปัดหิมะไฟหน้า ถ้าจะใส่ก็เน้น “สวย” ไว้ก่อน ใช้ได้หรือไม่ได้อีกเรื่อง อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบครับ ว่าอยากจะใส่อะไร…
- สำหรับตัว 2 ประตู “กันชนเล็ก” พูดถึง “ภายใน” กันก่อน อันที่ “ตัวจริง” นิยม ก็คือ “เบาะผ้า + ภายใน ลายสก็อต” สีเทาดำ ก็จะมีทั้ง “สก็อตเล็ก” และ “สก็อตใหญ่” ของพวกนี้ก็จะต้อง “มีตังค์และมีดวง” ด้วยนะครับ ถึงจะเจอแบบครบชุด เรียกว่าต้องจัดมาทั้งคันนั่นแหละ ครบเซตประมาณ “สี่หมื่น” นะครับ…
- สำหรับตัว “ไฟ 3 ชั้น” ภายในก็จะมีลายผ้าสองสี คือ สีเทาดำกับสีเทาอมฟ้า เบาะมีสองแบบ “ทรงโซฟา” และ “กึ่ง Bucket Seat” ตัวนี้จะมี “แถบพลาสติกสีดำ” (ตัวผม “พี สี่ภาค” คิดว่าทรงมันเหมือน “ปลิง”) ติดอยู่ที่พนักพิง พร้อมโลโก M-TECHNICS II ยกมาครบชุดจริงๆ ก็มีทะลุ “ห้าหมื่น” ขึ้นไป…
- สำหรับ “ของเด็ด” ที่ไม่มีในรถขายในเมืองไทยแน่นอน อันดับแรก คือ “Check Control” ติดตั้งแทนนาฬิกาแบบเข็มของเดิม อันนี้จะเป็น “ดิจิตอลสีส้ม” มีปุ่มกดเช็กว่าจุดไหนมีปัญหา เช่น ไฟท้ายขาด ไอ้นั่นไอ้นี่ไม่ติด โดยมีไฟเตือนที่ด้านบนกระจกมองหลัง…
- ถ้าจะให้เท่ ก็จะต้องมี “เท้าแขนกลางแบบเปิดได้” ที่เป็น Accessories เสริมขึ้นมา เหล็กแผ่นสองข้างทรงตัวยูคว่ำ ยึดกับคอนโซลเกียร์เดิมแบบซื่อๆ เลย อันนี้เป็นสเป็กญี่ปุ่น ส่วนของยุโรปก็มี ทรงจะคล้ายๆ กันนั่นแหละ แต่ของญี่ปุ่นจะนิยมกว่า “หายากมากครับ” ราคาล่าสุด “หมื่นแปด” เองครับ เอิ๊กกกกก ลมใส่…
- จอหน้าปัด ถ้าสุดก็ต้อง “เข็มส้ม” สไตล์ M Power หรือไม่ก็ต้องของ “K. Spec” ที่เป็นรถพวงมาลัยขวาเหมือนกับบ้านเรา แต่เรือนไมล์จะบอกทั้งหน่วย “mph” ที่วงนอก ส่วนวงใน จะเป็น “km/h” จะดูแปลกตาและสวยงามกว่าสเป็กอื่น (สเป็กเยอรมันเป็น km/h นะจ๊ะ ไม่ใช่ mph) จริงๆ U.S. Spec ก็เป็นเรือนไมล์แบบสองหน่วยนี่แหละ เพียงแต่ว่า มันเป็นของรถ “พวงมาลัยซ้าย” ถ้าจะให้ “ทรงฝั่งบ้านเรา” และ “เก๋า” จริงๆ ก็ต้องเป็น U.K. Spec นี่แหละ…
- “กระจกมองหลัง” จะต้องมี Light หรือ “ไฟส่องแผนที่” ซึ่งบ้านเราไม่มี…
- “ไฟหน้า” ถ้าเป็นรถบ้านเรา จะเป็น BOSCH แต่ถ้า “แจ๋ว” ต้องของ “HELLA” แต่ถ้าแจ๋วสุดๆ ในไลน์ของ “ไฟแต่ง” ก็ต้อง “HELLA Smoked Euro Ellipsoid” แบบ “รมดำ” คู่นึงประมาณ “สองหมื่น” ส่วน “ไฟท้าย” ก็จะเป็นแบบรมดำ และ “แดงทั้งโคม” นี่สุดยอด ราคา “28,000 บาท” ต่อคู่…
- ไหนๆ ไฟหน้ารมดำแล้ว ก็ต้องแต่ง Black look กันหน่อย “กระจังฟันหนู” ของแจ๋วสุดก็จะใช้ของเดิมนี่แหละ แต่ไป “ครอบเส้นพลาสติกดำ” ให้โครเมียมมันหายไป (แต่ระวังหน่อย เพราะหลุดง่ายมาก) ส่วนของเทียมก็ใช้ฉีดขึ้นรูปเอาเป็นสีดำมาเลย อันนั้นระดับกลางๆ…
- “เสาอากาศ” ของแต่งญี่ปุ่น จะเป็นเหมือนตุ่มเล็กๆ สั้นๆ เป็นพลาสติกโครเมียม อันนี้ก็ของหายากเหมือนกัน…
Garage & Shop
สำหรับอู่ที่รับทำ E30 จริงๆ อู่ BMW แบบเฉพาะทางที่ไหนก็สามารถรับซ่อมบำรุงได้ มีอยู่เยอะมาก แต่อาจจะมีแนวทางที่ต่างกันออกไป เช่น บางอู่เน้นทำใช้งานแบบทั่วไป บางอู่มีของแต่งหรือของหายากให้เสียตังค์เล่น อะไรประมาณนี้ หรือ Shop ที่ขายของ BMW ก็มีเยอะจริงๆ ในโลกออนไลน์ ดังนั้น เราขอ “ยกตัวอย่าง” ให้พอเป็น “ทางเลือก” ในจุดหลักๆ นะครับ…
- BMW ตี๋เล็ก เซอร์วิส: ตอนนี้กำลังมาแรง อยู่ถนนสามัคคีตัดใหม่ ทำหมดทุกอย่าง แถมรับสั่งอะไหล่ BMW จากต่างประเทศอีกด้วยนะครับ Contact: Tel. 08-7990-5225
- นันทวรรณ การาจ: รู้จักกันดีในนามของ “น้าตุ่ย” อาจารย์ใหญ่ E30 รายละเอียดเพียบ ทำทั้งรถ ขายทั้งอะไหล่ อยู่ย่านศรีนครินทร์ Contact: Tel. 08-1802-8989, Facebook/อะไหล่ E30 online
- BMW บางนา: ย่านบางนา 26 Contact: Tel. 0-2746-7202, Facebook/บริษัท บีเอ็มบางนา เซอร์วิส
- M-POWER: เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา Contact: Tel. 08-6077-2008
World Wide & Community
สำหรับ “สังคมออนไลน์” ของ E30 ก็มีหลายกลุ่ม หลากสไตล์ ก็แตกแขนงออกมากันเรื่อยๆ เรายกตัวอย่างไว้ละกันครับ เผื่อเป็นแนวทางในการเลือกเข้าไปพูดคุย…
- German Domestic Market (GDM): เป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นที่โชว์รูปรถ พูดคุย ขายของ ในกลุ่มรถเยอรมัน เน้นไปในทาง BMW ตามความนิยมของกระแสในขณะนี้ Contact: Facebook/GermanDomesticMarket
- BMW E30 THAILAND: กลุ่มเก่าแก่ดั้งเดิมที่เป็น E30 เฉพาะทาง มีหลากหลายสไตล์ เดิม แต่ง อะไรก็ว่ากันไป Contact: Facebook/E30THAILAND
- BMW E30 Classic Thailand: ชื่อก็บอกแล้วครับ เน้นไปในแนว “คลาสสิก ตรงยุค” แต่จริงๆ แล้ว ก็สำหรับคนที่ชื่นชอบ E30 นั่นแหละ Contact: Facebook/E30ClassicThailand
- BMW E30 LOVER: อีกกลุ่มสำหรับแฟนๆ E30 ที่เป็นของเมืองไทยจัดตั้งขึ้นมา Contact: Facebook/E30LOVER
- E30 Info: หน้าตาเว็บไซต์ดูโบราณๆ ติสต์ๆ หน่อย แต่ก็มีรายละเอียดเชิงเปรียบเทียบ E30 แต่ละรุ่น แต่ติอย่าง “ตัวหนังสือเล็กไปหน่อย” ใครสายตาไม่ดีก็ต้อง Copy มา Paste อ่านใน Word จะดีกว่า Contact: e30info.com
- E30 Owners: อันนี้จะดูอลังการหน่อย มี Forum หลายอย่างให้เลือกเข้าไปสรรหา มี E30 เป็นหลัก ส่วน BMW รุ่นอื่นๆ ก็มีห้องแชตต่างหาก Contact: e30owners.com
Owner & Specialist Comment
“อาจารย์ตุ่ย” BMW E30 2 Doors with Rare Item
เหตุที่มาเล่น E30 ก็เพราะสมัยก่อนเห็นรถรุ่นนี้วิ่งอยู่หน้า “เดอะ พาเลซ” แล้วชอบ แต่ยังไม่มีเงินซื้อ รู้สึกว่ารถมันเท่ดี พอมีกำลังซื้อได้ ก็ “จัด” เลยครับ คันนี้เป็น 318i รุ่นกันชนเล็ก ที่เน้นความเรียบ Classic เดิมๆ แต่ใส่พวกของตัวนอก Accessories หายากต่างๆ ที่ไม่มีในรถบ้านเรา จะบอกว่าไปทางสำนักไหนก็คงตอบไม่ได้ แต่งตามความชอบ ไม่ได้ยึดติดแบรนด์ คือ “ชอบอะไรก็ใส่” เพียงแต่ว่า “แต่งให้ตรงยุคสมัยของมัน” และ “ดูกลมกลืน” จบด้วยการทำสภาพรถให้สวยก็โอเคแล้วครับ…
- เรียบๆ แต่ “ของเพียบ” นะจ๊ะ ไฟหน้า HELLA H4 แบบ “หน้าแบน” ตรงรุ่น หายาก ลิ้นหน้า Cabriolet กระจกรอบคันเปลี่ยนเป็นของตัวนอก ยี่ห้อ SIGLA แบบ Tint Glass (ย้อมสี)
- ล้อ ALPINA ตรงสเป็ก 4 รู 100 “ก้านยาว” ขนาด “หน้าเจ็ด หลังแปด ขอบสิบหก” ถูกสูตร E30 มี Mud Guard ของ ALPINA ติดไว้ หางหลัง FOHA สังเกตนะครับ ช่องว่างระหว่างฝาเติมน้ำมันกับแนว Fender จะ “ชิด” เพราะซุ้มล้อเว้าสูง
- พวงมาลัย ALPINA 4 ก้านเหล็ก ของแต่งตรงรุ่น หัวเกียร์ออโต้รุ่นนี้ ตัวยึดกับก้านจะเป็นปลอกขนาดเล็ก ส่วนก้านสวิตช์ เอาของ is มาใส่ มี Cruise Control
- เรือนไมล์แบบ mph จะมีทั้งสเป็ก U.K. และ U.S. คันนี้เป็นของ U.S. จะมี “ขีดแดงที่ 55 mph” หรือ 88 km/h ส่วนเกจ์วัดอัตราสิ้นเปลือง (Fuel Consumption) ใต้วัดรอบ จะเป็นหน่วย mpg หรือ “ไมล์ต่อแกลลอน” นะครับ
- เบาะ “สก็อตใหญ่” จาก M3 เบาะหน้าทรงกึ่ง Bucket Seat ส่วนเบาะหลังจะเป็นแบบ “หลุม” แยกสองฝั่ง (ไม่มี Belt กลาง) ถ้าเบาะตัว 2 ประตู จะต้องมี “คันโยกปรับพนักเบาะหน้าพับลง” เพื่อให้คนข้างหลังสามารถออกได้
- แผงปิดใต้ฝาท้ายแบบ “เต็ม” ปกติจะมีเฉพาะกล่องเครื่องมือเฉยๆ และมีของหายาก กล่องครอบแบตเตอรี่ ที่คันนี้ย้ายมาอยู่ด้านหลังตามแบบตัวนอก เพื่อป้องกันการ “ผุ” ใต้ฐานแบตฯ ในห้องเครื่องที่เจอกันบ่อยๆ มีกล่อง First Aid และอุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน
- ชุดเครื่องมือพร้อม และผ้า BMW อันนี้แหละไม่ธรรมดา คอ BMW ต้องมี ด้ามไขควงมี 3 สี จำหน่ายคนละประเทศ ถ้าเป็น “ด้ามเขียว” จะเป็นรถจำหน่ายแถบยุโรป “ด้ามแดง” U.S. Spec ส่วน “ด้ามฟ้า” เป็นแถบ South Africa เล่นกันถึงเพียงนี้
- ขุมพลัง จาก M10B18 มาเป็น M20B25 จาก 325i ตัวแรงสุดใน E30 (ไม่นับ M3) ครอบฝา ALPINA เครื่องรุ่นนี้เป็น “ปล่องแอร์โฟล์วเหล็ก” ตรงยุค ส่วนหม้อน้ำเป็นรุ่นไฟสามชั้น เพราะหาสภาพดีได้ง่ายกว่า เปลี่ยนท่อยางหม้อน้ำเพราะปากทางเข้ามันคนละทางกันก็จบ ค้ำโช้คของ MATTER ที่เป็นของหายากสำหรับ E30 อีกเช่นกัน
“โก้ หมูสู้มีด” BMW E30 2 Doors ECE Stance
จากหน้าผมเนี่ย คนก็รู้ว่าผมเล่นรถญี่ปุ่นมาทั้งชีวิต แต่ที่มาเล่นกับ E30 จริงๆ เป็นเพียงแค่ “อยากจะหารถใช้งานจริงๆ สักคัน ที่ขับแล้วดูดีหน่อย” ราคาไม่แพงมาก ก็เลยสนใจ E30 ตอนแรกก็จะซื้อ 4 ประตู แต่ “เฮีย” บก.บห. XO AUTOSPORT แนะว่า “ควรเล่น 2 ประตู” ก็เลยขายคันนี้ต่อมาให้ผม ยอมรับว่าซื้อราคาค่อนข้างสูง แต่ “ครบถ้วน” เลย “ยอมเจ็บหนักครั้งแรก” ได้มาก็ทำให้สมบูรณ์ โดยที่ใช้งานได้ทุกวันจริงๆ ส่วนของแต่งต่างๆ E30 มีเยอะมาก มันสนุกตรงนี้แหละ อีกอย่างเรามี Specialist และเพื่อนๆ พี่ๆ คอยดูแลและช่วยเหลือกัน เลยรู้สึกว่ามันน่าเล่นครับ…
- ไฟสามชั้น กันชน ECE คันนี้ลอกคราบ JDM มาทั้งคัน แต่งสไตล์ Stance ออกจะ “ผิดระเบียบคนอื่น แต่ถูกระเบียบใจเจ้าของ” (คนไม่ปกติ)
- กระจกหูช้างหลัง “กระดกได้” บ้านเรากระดกไม่ได้ ตูดเป็ด Deck Lid ล้อ PERFORMA JANT. ขนาด “เก้านิ้ว ขอบสิบหก” จาก “ตุรกี” ลายตามแบบ M-TECHNICA สไตล์ Turbo Fan ที่นิยมกันมากในรถแข่ง Group 5 และ Group C ยุค 80 ต้นๆ (พวก BMW M1 ตัวแข่งยุคนั้นก็ใส่กัน)
- ภายในเนี้ยบ เก็บรายละเอียดใหม่ พวงมาลัยสไตล์ “ขัดใจ” NARDI Classic หัวเกียร์ออโต้ของรุ่นไฟสามชั้น ปลอกที่สวมกับด้ามเกียร์จะมีขนาดใหญ่กว่า สำหรับสวิตช์แอร์ โลโกตรงปุ่มสไลด์จะเป็น “รูปคน” ส่วนข้างช่องแอร์จะเป็นสัญลักษณ์ “O I”
เกจ์น้ำมัน (Fuel) จะมีทั้งแบบ “บอกจำนวนน้ำมันเป็นลิตร” และ “บอกเป็นเศษส่วน” ส่วนเกจ์วัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง มีสองแบบครับ อันนี้เป็นแบบ “สเกลตัวเลขเยอะ” หน่วยเป็น “กิโลเมตรต่อลิตร” หรือ km/l ซึ่งตรงกับหน่วยบ้านเรา
- ภายในสเป็กญี่ปุ่น “สีเทาฟ้า” มาทั้งคัน ถ้าอยากสวยก็ต้องมาให้ครบ พรมพื้นใหญ่ก็ต้องสีเดียวกันด้วย
- มี “ม่านหลัง” ด้วยครับ เบาะหลังจะเป็นเข็มขัดนิรภัย 3 จุด เผื่อคนนั่งกลางด้วยตามกฎหมายของยุโรป
- M40B18 ที่มาแทน M10 รุ่นก่อน ถูกพัฒนาใหม่ ไม่ได้เอาแรง เน้น “สมบูรณ์” ก็ใช้งานได้ดีแล้ว ค้ำโช้คอัพ ULTRA RACING
“เฮียเกีย” BMW E30 4 Doors Big Bumper
ความประทับใจกับ E30 สมัยก่อนผมซื้อหนังสือ “กรังด์ปรีซ์” สมัยนู้นมาอ่าน เห็นรูป E30 หน้าตรง “เปิดไฟสี่ดวง” กำลัง “เหาะ” แบบ Rally มาเลย ก็เลยรู้สึกว่า “เออ ต้องไอ้นี่แหละ” เท่สุดๆ พอมีฐานะก็หาซื้อรถมา คันนี้เป็นรถจาก ยนตรกิจ แต่มาเอาของตัวนอกใส่ ขอแนวเรียบๆ ผู้ใหญ่ๆ เพราะเราขับใช้งานทุกวันด้วย ขนาดล้อยังเป็น 14 นิ้ว จะได้ไม่สะเทือนมาก ก็พยายามเก็บให้มันเดิมๆ และรักษาไว้นานๆ ครับ…
- คนอาจจะไม่ค่อยนิยม 4 ประตู แต่มันก็สวยไปอีกแบบนะ คันนี้เป็น “ไฟสามชั้น กันชนบิ๊ก” ตามแบบที่ออกจากยนตรกิจ ที่เอากันชน U.S. Spec มาให้ ใส่ปัดหิมะไฟหน้าเพิ่มให้ดูเท่ๆ หน่อย
- ล้อ BBS Cross Spoke “Basket Weave” 14 นิ้ว มาครบชุด เน้นใช้งานไม่เน้นซิ่ง เรียบๆ คลีนๆ แค่นี้ก็พอแล้ว
- ภายใน “หนังเทาอมน้ำตาลอ่อน” ตัวนอก บ้านเรารุ่นนี้จะเป็น “หนังเทียม ดำเรียบ” พวงมาลัย หัวเกียร์ ของแต่ง BMW ตรงรุ่น
- เรือนไมล์ U.K. Spec จะไม่มีขีดแดงที่ 55 mph เหมือนของ U.S. Spec
- เบาะทรงโซฟา ที่เน้นนั่งสบายเป็นหลัก คอนโซลกลางมีที่ใส่ “ตลับเทปคาสเซต” เป็นจุดเด่นของ E30
- อันนี้ก็มี กล่องเก็บ First Aid Box และสีฟ้าๆ คือ กล่องเก็บ “สามเหลี่ยมสะท้อนแสง” รุ่นไฟสามชั้น จะเป็นวาง “แนวตั้ง” ส่วนรุ่นไฟสองชั้น จะวาง “แนวนอน
- M40B18 เกียร์ธรรมดา เน้นความเนี้ยบ กล่องฟิวส์ตรงรุ่นใสปิ๊ง แบตเตอรี่อยู่ตำแหน่งนี้ ต้องระวัง “น้ำขังจนผุ” เป็นเรื่องที่เจอกันบ่อยๆ
“บังแจ๊ค” BMW E30 2 Doors M-TECHNIC II
แต่เดิมครอบครัวผมก็ใช้ E30 มาอยู่แล้วครับ เลยได้สัมผัสมาตลอด จนมาเจอคันนี้ เป็นรถยนตรกิจ และใส่ชุดพาร์ท M-TECHNIC II มาแต่ดั้งเดิม ก็เลยหาอย่างอื่นมาใส่ให้ครบชุด ทำเก็บรักษาไว้เดิมๆ ครับ ใช้บ้างในบางโอกาส ส่วนเครื่องเปลี่ยนเป็น M42B18 จาก E30 ตัวท้ายสุด เน้นขับสนุกขึ้น ใส่ล้อ BBS ให้ดูเด่นขึ้น แต่เป็นล้อสเป็กรถญี่ปุ่น 5 รู 114.3 มม. เห็นว่าออฟเซตกับขนาดมันสวยดีเลยเอามาใส่ครับ…
- ไฟท้ายสามชั้น ทรงเครื่อง M-TECHNIC II ของแท้นะครับ วัสดุเป็นพลาสติก ABS ถ้าเป็นไฟเบอร์ก็ “ไม่ใช่” ความคมสันสวยงามของแท้ยังไงก็เหนือกว่า ส่วนกระจกหูช้างหลัง เปลี่ยนเป็นแบบเปิดได้ ของ SIGLA ส่วนบานอื่นๆ เป็นของบ้านเราเหมือนเดิม
- ชุดพาร์ทจะเป็นแบบ “แยกชิ้นได้” ทั้งหมด สปอยเลอร์หลังแบบ “2 ชั้น” พร้อมโลโก M-TECHNIC มุมขวามือ (คันนี้ยังอยู่) ล้อ BBS ขนาด “หน้าแปด หลังเก้า ขอบสิบหก” แต่เป็นสำหรับรถญี่ปุ่นขนาดใหญ่ พวก NISSAN CEDRIC หรือเทียบเท่า แม้จะไม่ตรงสาย BMW แต่ก็ถือว่าเป็น Rare Item เหมือนกัน เพราะ BBS จะผลิตสำหรับรถญี่ปุ่นไม่มากนัก
- พวงมาลัย “เปาใหญ่” ตรงรุ่น ภายในรักษาสภาพไว้ได้อย่างดี นาฬิกาเป็นแบบเข็มดั้งเดิม
- เบาะ M-TECHNIC มาครบชุด
- ชุด Check Control ที่ต้องมีสำหรับคนเล่นถึงๆ
- M42B18 ตรงรุ่น E30 จุดสังเกตหลักที่ต่างจาก M44B18 คือ ใช้ “แอร์โฟลว์มิเตอร์” พัดลมหม้อน้ำจะเป็นแบบ “ฟรีปั๊ม” ถ้าเป็น M44 จะเป็นแบบ MAP พัดลมหม้อน้ำจะเป็นแบบ “ไฟฟ้า”
Intaraphoom Special Thanks
“อาจารย์ตุ่ย” อะไหล่ E30 On Line & นันทวรรณ การาจ, “พี่เล็ก” BMW ตี๋เล็ก เซอร์วิส, “เฮียเกีย”, “บังแจ๊ค” และ “โก้ หมูสู้มีด” XO AUTOSPORT & GDM…
รูปประกอบบางส่วนจากเว็บไซต์: www.blogtired.co.uk, www.img.favcars.com, www.autoevolution.com, www.netcarshow.com, www.boldride.com, www.speeddoctor.net, www.topgear.com, www.carsbase.com, www.bmwblog.com