Post To The Past
เอสหน้า อาร์หลัง !!! ???
สูตรสำเร็จยำล้อ R32 ยุค 90’s
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี (P’ สี่ภาค)
ภาพประกอบ : Google
ขอคั่นเรื่องเครื่องพิเศษๆ หน่อยแล้วกัน พอดีเดินสะดุดหินแล้วนึกออก ณ ตอนนี้ กระแสรถในยุค “Golden Era” หรือ “ยุคทอง” ของรถซิ่ง ก็จะอยู่ในช่วงยุค 90’s ที่หลายคนยัง “หลงระเริง” ในความแรงของเหล่า “Japan Turbo” วางเครื่องติดหอย หรือจะเป็น “วาล์วตอแหลแว๊ดแหว๋” สาย H ก็ว่ากันไป ถ้ามาพูดถึงหนึ่งปัจจัยที่จะต้องเสียตังค์ก่อนเลยสำหรับคนแต่งรถ คือ “ล้อ” ถ้าเป็นพวก “ล้อซิ่ง” อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติ แต่จะมีเหล่าสาย “ล้อเดิมรถนอก” มาใส่กับ “รถในบ้านเรา” ก็จะดูแปลกตาไปอีกแบบ และล้อเดิมติดรถของเก่าเซียงกง พวกนี้จะ “ราคาน่าคบ” เพราะในยุคที่ไอ้รถพวกนี้มันยังมีเกลื่อน ล้อเดิมก็จะ “ไร้ค่า” ในทันที ก็เหมือนพวกเราแหละ ที่เปลี่ยนล้อใหม่ไฉไล ก็ไม่ใยดีล้อเดิม เรียกว่าล้อเดิมสปอร์ตญี่ปุ่นมากองๆ เกลื่อนกลาด เอาไปใส่รถบรรทุก รถกระบะ เรียกว่าใส่กันเพลินเลย และก็ไม่ค่อยรักษากันเท่าไร แต่พอเวลาผ่านไป พวกสปอร์ตในตำนานทั้งหลาย ล้อเดิมมีคุณค่าขึ้นมาทันที…
หนึ่งใน “ล้อตำนาน” ที่โคตรฮิตในยุคก่อนที่สุด คงหนีไม่พ้นล้อ SKYLINE R32 ทั้ง GT-S และ GT-R เรียกว่าใส่กันเกลื่อนจริงๆ แล้วเราจะรู้ได้ไง อันไหน S อันไหน R เพราะถ้าดูเผินๆ สองรุ่นนี้หน้าตามันแทบจะเหมือนกันเลย แต่จริงๆ มันมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งบางคนก็เคยโดน “แหกตา” เอาล้อ GT-S มาอำว่าเป็น GT-R อาจจะจากความไม่ซื่อของผู้ขาย หรือ ตัวผู้ขายเองก็ไม่รู้จริงๆ ว่ามันมีสองแบบ เอาเป็นว่า “ลองอ่านดู” ใครรู้แล้วก็ผ่านไปอย่ามาดราม่า ใครยังไม่รู้ก็รู้ซะจะได้ไม่โดนอำ…
R32 GT-S
หน้าตาของล้อก็จะเป็น 5 ก้าน แต่ตัวก้านจะ “ค่อนข้างโค้ง” ดูเหมือนดอกไม้ๆ หน่อย อ่อนช้อยงดงาม ถ้ามองตามรูปจะเห็นชัดเจน เหตุที่ทำก้านโค้ง ก็เพราะจะทำหลบ “คาลิเปอร์เบรกหน้าแบบ 4 Pot” เพราะล้อมันหน้ากว้างไม่มาก แถมออฟเซ็ตเป็น + เยอะ เลยต้องดีไซน์ก้านโค้งเพื่อหลบเบรก ส่วนตัวผมว่างั้นนะ แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องดูให้แน่ชัด คือ “ขนาดของล้อ” จะต้องเป็นล้อขนาด 16 นิ้ว หน้ากว้าง “6.5 นิ้ว” ดูที่ “ขอบล้อ” ด้านหน้าก็ได้ครับ จะมีบอกชัดเจนว่า “16 x 6 ½ JJ 40” ตัวเลข 40 จะหมายถึง “ออฟเซ็ต + 40” นะครับ อันนี้ชัวร์ว่าของ R32 GT-S แน่นวลลล สำหรับ “สี” ก็จะเป็น “สีเงินอมเขียวนิดๆ” เน้นว่านิดๆ นะ ไม่ได้เงินจ๋า ส่วนขนาดยางมาตรฐาน ก็คือ 205/55R16 ราคา ณ ตอนนี้ ประมาณ “7,000-8,000 บาท” ราคาไม่โดดเท่าไรเพราะไม่ค่อยนิยมกันนัก…
R32 GT-R
อันนี้แหละที่ตอนนี้ “ของมันขึ้น” สมัยก่อนใส่ทิ้งใส่ขว้างกันเกลื่อน ตอนนี้น่ะเหรอ “ดั่งทอง” ไปๆ มาๆ จะแพงกว่าล้อซิ่งมือสองซะอีก ลายล้อของ R32 GT-R ก็ยังคงเป็นแบบ 5 ก้าน เหมือนกัน แต่สิ่งที่เด็ดขาดกว่า ก็คือ “ก้านแบนตรง” ไม่โค้งเหมือน GT-S ทรงมันจะถึกๆ โหดๆ กว่า สำหรับขนาดล้อ ให้ดูที่ “ดุมกลาง” ได้เลยครับ จะต้องเป็น “16 x 8 JJ 30” ถอดรหัส คือ “ขอบ 16 นิ้ว หน้ากว้าง 8 นิ้ว ออฟเซ็ต + 30” อันนี้ของแท้ อันนี้ใส่กับรถขับหลังแล้วจะสวยเต็มพอดี เพราะล้อมันดีไซน์สำหรับ GT-R ที่บอดี้จะ “กว้าง” กว่า GT-S ก้านก็เลยทำแบนได้เพราะออฟเซ็ตบวกไม่มาก ทำให้ไม่ติดคาลิเปอร์เบรก สิ่งที่สำคัญที่สุด มันเป็นล้อ FORGED ที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา เรียกว่า NISSAN ใจดี จัดเต็มมาให้เลยในรถระดับ GT-R มันก็แหงอยู่แล้ว ส่วน “สี” ก็จะเป็น Gun Metallic เทาดำในตำนาน เรียกว่าเป็น “ตัวพ่อ” สำหรับการพ่นสีนี้กับล้อแทบทุกประเภท สำหรับขนาดยางมาตรฐานดั้งเดิม คือ 225/55R16 พูดถึงราคา อันนี้ก็มีหลายเกรด ถ้าสภาพพอสวย อาจจะมีการทำสีมาใหม่บ้าง ก็อยู่ประมาณ “13,000 บาท” มีบวกลบบ้างตามสภาพ มาพร้อมยางเก่านอก แต่ถ้า “เรี่ยมเร้เรไร” ประเภทกริ๊บสุดๆ สีเดิมไม่เคยทำ แถมฝากลางมีครบ ไม่มีรอย ก็อาจจะทะลุไปไกลหน่อย เพราะมันกลายเป็นของสะสมไปซะแล้ว…
สูตรสะเวิ้บ หน้า S หลัง R
คนเราก็ชอบ “ผสมพันธุ์” กันไปเรื่อย ในสมัยก่อนจะมีกลุ่มรถขับหลังที่ใช้ดุม 5 รู อย่าง CEFIRO A31 เปลี่ยนดุมและเบรกเป็น SKYLINE หรือ “กระบะ Mighty-X” หรือ “ตู้ Hiace” ถ้าสาย “ยุโรปหัวใจยุ่น” อย่าง E30 วาง JZ เบรก SKYLONE หรืออะไรก็ตามแต่ ก็จะนิยมเอาล้อ GT-S มาใส่ด้านหน้า ส่วน GT-R ไปใส่ด้านหลัง บร๊ะเจ้า !!! มันช่างลงตัวจริงๆ นะสาวน้อย ก็จะกลายเป็น “หน้าแคบ หลังกว้าง” สมัยนั้นนิยมสูตร “หน้าเจ็ด หลังแปด” (นิ้ว) แต่นี่ “หน้าหกครึ่ง หลังแปด” ก็พออนุโลมได้ ส่วนยางก็ไม่มีปัญหาครับ ไซส์เดิมๆ ของมันทั้งสองรุ่นก็ลงตัวอีกเพราะ “สูงเท่ากัน” เข้าสูตรพอดี สมัยก่อนจะเล่นแบบนี้ก็ต้องมี “ลีลา” กันหน่อย เพราะต้อง “ซื้อล้อสองชุด” เพื่อมาสลับคู่หน้าหลังกัน แล้วก็ “หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์” แบ่งกันไป หารวงละเท่าไรก็ว่ากัน หรือไม่บางร้านก็อาจจะ “จับเศษล้อ” อย่างละคู่มาจับชุดก็มี แล้วแต่ตกลงกัน…
ณ ตอนนี้ แม้ว่าแฟชั่นล้อ หน้าเอส หลังอาร์ อาจจะไม่ค่อยฮิตกันแล้ว เพราะส่วนใหญ่ก็สรรหาล้อรุ่นใหม่ๆ สวยๆ ตามแฟชั่นใส่กันซะหมด อีกอย่าง คือ ล้อ 16 นิ้ว จะหายางสปอร์ตยากครับ หน้ากว้างเต็มที่ก็แค่ 225 (อันนี้ผมใช้อยู่เลยมีข้อมูล) ในสมัยก่อนก็ถือว่าโอเคนะ แค่ในสมัยนี้ดูเล็กไปหน่อย ราคายางก็โดด ไม่เหมือนขอบ 17 นิ้ว ที่ตัวเลือกมีเกลื่อน ขอบ 16 นิ้ว เลยหาคนเล่นได้ยาก แต่ถ้านิยม “ตรงยุค” ก็ได้อยู่นะ ไอ้ล้อ 5 ก้าน R32 มันแปลกอย่าง “ใส่รถในยุค 90’s อะไรก็สวย” อะไรดีล่ะ เก๋ง, กระบะ, ตู้, เตียง ฯลฯ ได้หมด นับเป็นล้อในตำนานอีกรุ่นที่ควรจะเก็บรักษาเอาไว้ครับ…
ตำนานรถเก่า เราคิดถึงเธอ… อินทรภูมิ์ แสงดี
#Posttothepast #xoautosport #skyliner32 #skylinegtr #r32gt #r32gtr #rb26 #nissanskyline
เวบไซต์สาระรถซิ่ง : xo-autosport.com
- SKYLINE R32 GT-R ที่ล้อของมันได้รับความนิยมมากในการนำมาใส่กับรถรุ่นอื่นที่เป็นแบบ 5 รู 3 มม. เหมือนกัน แม้แต่รถฝั่งยุโรปก็ยังเอาไปใส่ อาจจะเป็นผลจากการแปลงเบรกเป็นของมันด้วยก็ได้
- ล้อ R32 GT-S ถ้าดูมุมตรงๆ แบบนี้ ก็เหมือนกับ GT-R แต่ก้านจะเป็นทรงโค้งกว่า
- ถ้ามองมุมนี้ จะเห็นเลยว่าก้านจะโค้งเลยขอบล้อออกมานิดหน่อย ส่วนตัวถังของ GT-S ก็จะแคบกว่า GT-R อย่างเห็นได้ชัด
- ล้อ GT-R แบบ FORGED ก้านแบน ออฟเซ็ตไม่มาก ใส่แล้วยื่นเต็มซุ้มสวย เพราะ GT-R จะเป็นแบบ Wide Body มาจากโรงงานแล้ว