a
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ : ธัญญนนท์ แสงภู่ (TakeSnap)
ตอนนี้ตลาดรถ Retro หรือรถ 90 นั้น คนกลุ่มหนึ่งกำลังฮิตรถในรูปแบบ Van, Wagon, Estate, Touring ที่เป็นรูปแบบ 5 ประตู ซึ่งมีความ “อเนกประสงค์” มากกว่าแบบซีดาน แถมยังมีรูปทรงที่ “เท่” ไม่ซ้ำใคร เพราะตัวรถมีน้อย ในสมัยก่อนคนจะมองว่ารถพวกนี้ คือ “รถบรรทุก” แถมยังมีการเปรียบเทียบให้เจ็บช้ำน้ำใจ ด้วยคำว่า “รถโกดัง” แต่ในยุโรปเอง รถแบบนี้ได้รับความนิยมสูงมาก ในบ้านเราก็เริ่มมีคนมองหารถแนวๆ นี้ ไว้ใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้ แถมยังมี Activity ที่ต้องบรรทุกอุปกรณ์ต่างๆ เช่น จักรยาน หรือ Camping อะไรต่างๆ ที่แจ่มกว่ารถซีดาน ในฉบับนี้ ผมจะพาไปชม “รถหายาก” ก็คือ COROLLA KE36 Van ซึ่งในบ้านเราจะเห็นแต่ 3 ประตู แต่คันนี้มา 5 ประตู ซึ่งดูโดดเด่น เพราะ “แปลก” ไม่ซ้ำใคร แถมยังจัด Fitment แหวกแนว ด้วยการนำล้อ 10 นิ้ว ยัดเข้าไปโดยที่พอดีตัวรถเลย ไม่ต้องเสริมโป่งอะไรทั้งสิ้น ผลงานจาก “เบนซ์ รถเก่า” ย่าน “เมเจอร์ ปากเกร็ด” ครับ…
- แม้จะเป็นอดีตม้าใช้ แต่ทำเรียบร้อย ก็กลับมาสวยมีสไตล์
- มุมมองด้านข้างของ Van 5 ประตู ที่เท่ไม่เหมือนใคร ปกติถ้าเป็น Van 3 ประตู จะต้องตีทะเบียน “น” เป็น “รถบรรทุกขนาดเล็ก” แต่ถ้าเป็น 5 ประตู จะเป็นหมวดปกติ
- เรียกว่ายังคงดูมีเสน่ห์เสมอ กับ KE36 ที่ปัจจุบันหาชมสภาพสวยๆ ได้ยาก เพราะรถมีน้อย โดยมากจะไปอยู่กับหน่วยงานราชการต่างๆ ไม่แน่อาจจะมี “ช้างเผือก” หากใคร “ดวงดี มีตังค์พร้อม” (ดวงดีเฉยๆ ไม่มีตังค์ก็อดนะจ๊ะ) ไปเจอมันเข้า
- ความเป็นอเนกประสงค์ และตัวรถที่มีโครงสร้างง่ายๆ ระบบพื้นๆ ทำให้สามารถทำมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันได้อีก ใช้ไปเหอะรถพวกนี้ มันไม่มีอะไรให้เสียง่ายหรอก เว้นแต่ต้องระวังอย่า “ตำ” เป็นห่วงเรื่องเดียว
ไปสู่ขอบฟ้าใหม่ ไปกับโตโยต้า โคโรลล่า
สโลแกนสำหรับ COROLLA ในตระกูล E3 ก็คือ Gen 3 ที่เกิดมาในปี 1976 หรือ พ.ศ. 2519 ซึ่งตัว E3 นี้ ก็จะขยับขนาดเนื้อตัวให้ “โอ่อ่า” ขึ้นกว่า E2 โดยเน้นความเป็น “ครอบครัว” มากขึ้น ซึ่งรุ่นก่อนนั้นก็จะเน้นว่าเป็น “หนุ่มสาว” ถ้าต้องการรถใหญ่กว่านั้นก็ต้องเป็น CORONA แต่ใน E3 นี้ ก็ขยับขยายเพื่อตอบสนองตลาดมากขึ้น แต่ก็ยังคงเน้นตลาดหนุ่มสาว “คู่ขวัญ” อยู่ ตาม Ad โฆษณาในนิตยสารกรังด์ปรีซ์ยุคนั้น การออกแบบก็เน้นความเรียบร้อยมากขึ้น เช่น ชุดสายไฟอยู่ในปลอกพลาสติกอย่างดี กันการเสียดสีจนเสียหายและ “ช็อต” คอพวงมาลัยมีประกับครอบ ดูเรียบร้อยขึ้น ส่วนอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรมาก ดูจากรูปทรงก็รู้ได้เอง ขุมพลัง 3K ที่ปรับปรุงใหม่จากรุ่น E2 เปลี่ยนท่อไอดีให้เล็กลง จาก 27 มม. เป็น 25 มม. เปลี่ยนปั๊มน้ำมันเครื่องให้ใหญ่ขึ้น เสริมความแข็งแรงของข้อเหวี่ยงเพิ่มขึ้น ตั้งรหัสใหม่เป็น 3K-H ความจุ 1,166 ซี.ซี. มีกำลังน่ารัก 55 แรงม้า (SAE-Net) ที่ 6,000 rpm แรงบิดสูงสุดจุ๋มจิ๋ม 8.4 กก.-ม. ที่ 3,800 rpm เน้นประหยัดและทนทาน…
สำหรับ E3 ที่ขายในบ้านเรา ก็จะมีตัวถังทั้งหมด 4 แบบ ที่ขายดีสุด ก็คือ Sedan 4 ประตู เปิดราคามา “แสนหนึ่งเก้า” รองลงมาก็ Sedan 2 ประตู ถ้าจะเปรี้ยวๆ เฉี่ยวๆ ก็ต้อง Hardtop 2 ประตู หรือ KE35 และ Van 3 ประตู ตัวแทนจำหน่ายในยุคนั้น ก็เห็นจะเป็น บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด ถนนสุริวงศ์ จำได้ว่าอยู่แถวๆ สามแยกที่จะเลี้ยวไปถนนนราธิวาสฯ แล้วก็มีแถวคลองตัน อีกที่ ส่วนอีกบริษัท จะเป็น บริษัท พาราวินเซอร์ จำกัด อยู่โซนปากน้ำ สมุทรปราการ…
- สีเขียวตรงรุ่น Hi-Deluxe และ Levin ซึ่งเหมือนเป็น Signature ของรุ่นนี้เลยทีเดียว
- รุ่น Hi-Deluxe และ Levin จะเป็น “หน้าโหนก” แบบนี้ จะหรูหราขึ้นกว่ารุ่นปกติมาก
- กดจมกับ SSR MK-III ขนาด 9 x 13 นิ้ว โดยที่ไม่ล้นซุ้มแต่อย่างใด
1400 Hi-Deluxe Replica
สำหรับรุ่น Van บ้านเราจะมีเพียงรุ่น 1200 เพียงอย่างเดียว แต่ในญี่ปุ่นเอง จะมีทั้งหมด 5 รุ่น ดังนี้…
< Standard 1200 : รุ่นพื้นฐานเหมือนรถบ้านเรา ล้อกระทะ 6 รู พร้อมฝาครอบดุมกลาง ไม่เต็มล้อ กระจังซี่นอนธรรมดา…
< Deluxe 1200 & 1400 : หรูขึ้นมาหน่อย หน้าตาเหมือนเดิม กระจังเป็น “ซี่ตั้ง” ดูสวยอ่อนช้อย งามแงะกว่า ในรุ่น 1400 จะเป็นรหัส “TE36V” V ก็คือ Van ถามว่าทำไมเป็น TE ไม่ใช่ KE เพราะว่าเป็นเครื่องยนต์บล็อก T ทีเดียวนี่แหละ แบบ OHV หรือ “ฝาขนมปัง” ความจุ 1.4 ลิตร มีแรงม้า 86 PS โดยเป็นเครื่องที่ออกแนว “สปอร์ต” หน่อยๆ แบบเดียวกับที่อยู่ใน CELICA TA22 1400 LT รุ่นแรกๆ นั่นแหละ…
< Hi-Deluxe 1200 & 1400 : หรูหราอาราเล่ที่สุด เปลี่ยนแปลง “ลุค” ให้แตกต่างโดยสิ้นเชิง เปลี่ยนหน้าเป็น “หน้าโหนก กระจังลึก” สี Signature คือ สีเขียวสังขยา ภายในมี “วัดรอบ” ส่วนเครื่องก็มีเหมือนกัน คือ 3K-H และ T ตามลำดับ ส่วน “เกียร์” ถ้าข้อมูลไม่ผิดนะ ก็จะมี “ออโต้” ที่ต้องสั่งพิเศษ เป็นเกียร์แบรนด์ ToyoGlide (โตโยไกลด์) แบบ 2 และ 3 สปีด ให้เลือกสำหรับคนที่รักความสบาย…
- SSR MK-III จัดหนักด้วย “ลึกสิบ” ในด้านหลัง ต้อง “ตัดย่นเพลาแคบ” เพื่อให้ล้อไม่ล้นออกมา ดึงยาง 185/60R15 แต่เอาจริงๆ นะ ในอดีตใส่ยาง “สลิค” หรือ “ยางฝน” กว้างๆ วิ่งถนนกันเลย
- โลโกมาครบ แผ่นมือเปิดตรงกลางยังสภาพดี เป็นตะกั่วหล่ออย่างหนา แข็งแรง ไม่หักง่าย
- ความมีเสน่ห์อีกอย่าง คือ “ช่องลม” บนเอวหลัง ที่ระบายแรงดันในห้องโดยสารออกมาด้านนอก ทำให้ปิดประตูได้ง่ายขึ้น ฝาถังน้ำมันเดิมแบบมีกุญแจไข ฝาแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของ KE30 พร้อมพี่น้องร่วมยุคอย่าง CORONA RT100 หรือ CELICA TA23
- โลโกและไฟท้ายตรงรุ่น Hi-Deluxe ซึ่งไฟท้ายจะต่างจากรุ่นปกติ คือ “เลนส์เป็นร่อง” แยกไฟออกเป็น 3 ชิ้น พร้อมกรอบเส้นโครเมียม ถ้ารุ่นปกติจะเป็นเลนส์เรียบธรรมดา
- เอกลักษณ์อีกอย่าง ของ Hi-Deluxe กับ Levin ก็คือ “ช่องลมฝากระโปรง” มีฝั่งเดียวแบบนี้
- อันนี้จากโรงงานนะครับ ไม่ใช่เจาะเอง มีเบ้าวางและจุดยึดครบถ้วน
พรหมลิขิตบันดาลชักพา
แน่นอนครับ การเล่นรถเก่าสักคันหนึ่ง มีเงินอย่างเดียวไม่พอ และ “คำว่ารักคงยังไม่พอ” เพราะรถพวกนี้ไม่ใช่กำเงินไว้แล้วจะซื้อได้เลย มันต้อง “พรหมลิขิตบันดาลชักพา” กันด้วย จังหวะได้ ดวงจะมา อย่างที่บอกว่า นี่แหละ คือ “สีสัน” ของคนหารถเก่า เพราะบางทีหาแทบตายก็ไม่เจอ จู่ๆ ก็เจอด้วยความบังเอิญแบบที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ คันนี้ “เบนซ์ รถเก่า” วัยรุ่นปากเกร็ด เคยไปเจอด้วยความบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน สืบถามพรรคพวกที่อยู่แถวนั้น บอกว่าเป็นของ “ป้า” ท่านหนึ่ง ที่จอดไว้ คันนี้เป็น “รถนำเข้า” มาด้วยสิทธิพิเศษบางอย่าง ตอนนั้นก็ยังไม่ขาย รออยู่หลายปี ก็บังเอิญไปเจอที่อู่สีของพรรคพวกกันอีก คันนี้มาจอดทำสีอยู่ แต่เหมือน “บุญพาวาสนาส่ง” รถคันนี้ไม่จบ Project เลยขอซื้อต่อมาทำ คันนี้เดิมทีเป็น 1200 Hi-Deluxe เพราะรหัสเป็น KE36 และยังเป็นเครื่องเดิม 3K-H แต่ “ทรงเครื่อง” เป็น Hi-Deluxe 1400 กระจังหน้า LEVIN 1600 รหัส TE35 แค่นี้ก็หล่อแล้ว…
สำหรับ “จุดเด่น” อีกประการ คันนี้จะเน้นการจัด Fitment โดยการยัดล้อกว้าง 9 นิ้ว และ 10 นิ้ว ยัดไปในด้านหน้าและหลัง ตามลำดับ แต่ “ไม่มีการยื่นออกมานอกตัวรถใดๆ” เพราะต้องการให้ตัวถังนั้นเดิมที่สุด เพราะทรงมาสวยอยู่แล้ว ก็เสียดายที่จะไปตัดไปแหกมัน ด้านหลังจัดการ “ตัดเพลาให้แคบลง” เพื่อให้ล้อหุบเข้าไปด้านใน ส่วนแหนบก็ “ดัด” อาจจะมีฝืนๆ ใส่หน่อย เพราะติดล้อด้านใน ก็เป็นอีกแนวหนึ่งที่ต้องบ้าๆ หน่อย ถึงจะ “ขวางโลก” ทวนกระแสล้อล้นกับเขาได้…
- พวงมาลัยไม้ รุ่น Hardtop ภายในคันนี้ยังมีสภาพดี
- หน้าปัดรุ่น Top ของ E3 ทั้งหมดจะเป็น “สามหลุม” มีวัดรอบเพิ่มขึ้นมาตรงกลาง
- ชอบมากๆ ทรงวิทยุและของบนหน้าปัดแบบนี้ กระจุ๋มกระจิ๋มน่ารัก “แบบพอเพียง” จริงๆ คันเกียร์ออโต้ทรงตัว T น่าจะของ KE70 เพราะของ KE30 เดิมจริงๆ ทรงมันจะตุ่ยๆ เวลา “ปลดล็อก” เข้าเกียร์ R หรือ P จะใช้วิธี “เอามือกำแล้วบีมปุ่ม” ด้านล่าง ส่วนของที่ใช้อยู่อันนี้จะเป็นบีบปุ่มด้านข้างเหมือนรุ่นใหม่ทั่วไป ส่วน “แอร์” รุ่นท็อปมีให้จากโรงงาน
- เบาะนั่งลายตาแบบยุคเก่า ยังสวยงาม ปัจจุบันหาไม่ได้อีกแล้ว
- ด้านหลังพนักพิงเป็นเหล็ก พร้อมมือดึงสำหรับ “พับ” นอนราบ
- พอพับแล้วจะเป็น “กระบะขนาดเล็ก” ได้เลย หลังพนักพิงที่เป็นเหล็ก เพราะป้องกันการ “เสียหาย” เวลาบรรทุกของ
- ต้นกำลัง 4K 1.3 ลิตร ขอใหญ่ขึ้นอีกหน่อย โอเวอร์ฮอลใหม่ ยังใช้งานจริงได้อีกนาน เกียร์ออโต้เอาของ 7K 1.8 ลิตร มาใส่ ขอเท่ๆ แต่ขับสบาย ใช้งานได้จริงๆ
- เบื้องหลัง Rolling Shot กับ “ไอ้มืด ซังกะบ๊วยคุงทีม”
ขอขอบคุณ
เจ้าของรถ : เบนซ์ รถเก่า
ประสานงาน : Hand ISRP
ชี้เป้า : Frank Morris
X-TRA Ordinary
เล่า “ฟามหลัง” กันหน่อย จากประสบการณ์ที่ผมเคยได้ทำคอลัมน์ Return To Retro มา ตั้งแต่ปี 2004 ครั้งแรกเป็น 240Z ใน XO autosport มาก่อน แล้วก็ย้ายมา Tuned By… เล่มเล็ก รถที่ห่างหายไปนาน ก็คือ KE36 นี่แหละครับ ตอนแรกลง “คู่” เป็นสีน้ำเงิน เครื่อง 4S-FE ของ “คุณมด” และอีกคันที่เดิมสวยมากๆ ทะเบียนหมวด “น” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของ “คุณเต้ย Dog Tag” คันนี้ลง Retro Car Special Vol.2 ด้วย เป็นรถของที่บ้านเอาไว้ส่ง “ข้าวตู” ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ตอนใช้งานอยู่นี่ เบาะหลังไม่เคยยกขึ้นเลย และไม่เคยมีคนนั่งหลังเลย เอาไว้ส่งข้าวตูอย่างเดียว) หลังจากนั้นก็หายไป 10 กว่าปี จนมาลงอีกทีก็คันนี้แหละครับ…