เถลิงศรีปีใหม่ Jap Sport Car พร้อมระเบิดพลัง
EPISODE II : Reborn of SUPRA MK V “A90” เกิดใหม่พลันทันกระแส
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
ภาพ + ข้อมูลบางส่วน : www.carscoops.com
ต้องขออภัยที่ให้รอนานไปสักหน่อย กับ New SUPRA Mark V หรือ “รุ่นที่ 5” ในรหัส A90 ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ณ บัดนาว เนื่องจากว่าเราต้องการหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งก่อน หลังจาก JZA80 ลาโรงไปตั้งแต่ปี 2002 ด้วยความอาลัยยิ่งสำหรับคนรัก “JAP Sport Car” ที่เป็นตำนานในใจของใครหลายๆ คน กับขุมพลังบันลือโลก 2JZ-GTE ที่ไม่ต้องพูดกันมากถึงความนิยม โดยเฉพาะสาย Drag Racing ย่อมรู้กันดี หลังจากนั้นรถสปอร์ตญี่ปุ่นแทบทุกค่ายก็หายไปจากวงการ ถึงมีก็ “ไม่ดัง” เหมือนกับที่เราคุ้นเคย อย่างที่บอกว่า “แนวทางการผลิตรถยนต์นั้นเปลี่ยนไป” ตามกระแสโลก กระแสธุรกิจ ที่จะเน้นการ Merging รวมกันเราอยู่ บางทีเราก็จะเห็นรถที่แชร์ Platform เดียวกันแบบ “ข้ามบริษัท” ก็ไม่แปลกเพราะธุรกิจก็ต้องดำเนินไปต่อ ตอนนี้ต่างคนต่างอยู่ก็คงจะไม่ได้เสียแล้ว เรียกว่าต้องดึงข้อดีของแต่ละค่ายมารวมหัวกันผลิตรถ เฉกเช่นเดียวกับ New SUPRA ที่เป็นการ “กระดก” กัน ระหว่าง “ปลาดิบหวานเด้ง” กับ “เบียร์สดรสนุ่ม” BMW Z4 ซึ่งเป็นการผสมผสานกันแบบชวนงงๆ แต่มันก็เป็นไปแล้ว แต่จะเป็นไปทางไหนต้องดูครับ…
มาเจอกันได้ยังไง
จริงๆ แล้วทาง “โตต้า” และ “บีเอ็ม” ได้ร่วมมือกันในการผลิต “แบตเตอรี่ ไอออน–ลิเธียม” สำหรับรถยนต์ไฮบริด ซึ่งทาง TOYOTA มีความถนัดมาอย่างยาวนาน ส่วน BMW เอง ก็มีความถนัดในการหารับประทานกับรถ “เครื่องหน้า ขับหลัง” มาโดยตลอด นับว่าเป็นจุดเด่นของค่ายนี้ที่คนเล่นรถรู้จักกันดี ทาง TOYOTA เลยตกลงร่วม “แชสซีส์” เดียวกันกับ New Z4 ที่ตามข่าวว่าจะออกมาโชว์โฉมในช่วง Summer ปีนี้ ก่อน New SUPRA ที่จะเปิดตัวในช่วงกลางปี โดย Z4 จะเป็นรถสไตล์ Roadster “แบ–กบาล” ส่วน SUPRA ก็จะเป็นแบบ Coupe หรือ Hard Top หลังคาแข็งครับ…
ในตอนแรก New SUPRA นั้น จะอยู่ในรูปแบบของ Concept Car นามว่า FT-1 ออกมาโชว์โฉมในปี 2012 แต่ตัวจริงวิ่งได้ มาปรากฏในปี 2018 ณ Geneva Motor Show ซึ่งได้ยืนยันว่า New SUPRA ไม่ใช่เป็นแค่ฝันแน่ๆ โดยจัดโชว์เจ้าตัวแข่ง GR SUPRA Racing Concept ซึ่งคำว่า GR ก็มาจาก Gazoo Racing ซึ่งเป็นแผนกที่ทำ “รถแข่ง” ซึ่งไปพัฒนาใน “เยอรมนี” และ “ยุโรป” มาอย่างยาวนาน โดยเป็นผู้ผลิตรถแข่งสำหรับรายการระดับโลก อาทิ Japan Super GT Series, FIA World Endurance และ World Rally Championship (WRC) และในงาน Goodwood เจ้า New GR SUPRA ที่เป็นเวอร์ชัน Road Car (แต่มีโลโก GR แปะตูด เพราะ R&D ด้วยกัน) ซึ่งเป็นตัวที่หน้าตาใกล้เคียงกับตัวที่จะจำหน่ายจริงแน่ๆ หลายคนก็บอกว่ามันเหมือน 2000 GT บางจุดก็เอาตัว JAZ80 มายำรวมกัน ก็อยู่ที่มุมมองแต่ละคน…
สำหรับ “ขนาด” ภายนอก ด้วยการที่ Z4 นั้น เป็นแบบ Roadster จึงไม่ทำรถมีความยาวมากนัก หัวยาวๆ ตูดกุดๆ หน่อย ก็เป็นสไตล์ของ 2000 GT ในอดีต ซึ่งขนาดเล็กลงกว่า JZA80 แน่นอน แต่เรื่องความแข็งแกร่งของตัวถังนั้นไม่ต้องห่วง เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นพัฒนาไปไกลในระดับโลกแล้ว การจะมามัวแต่ทำรถกระป๋องคงไม่ได้เกิดแน่แท้ ยิ่งมาพัฒนาร่วมกับ BMW อีกด้วย ทาง TOYOTA ก็ยืนยันว่าความแข็งแกร่งของ New SUPRA นั้นเทียบเคียงกับตัวโคตรเทพอย่าง LEXUS LF-A ได้เลยทีเดียวล่ะ ส่วนตำแหน่งการนั่ง ก็เป็นสไตล์ Roadster นั่งต่ำ ดึงหน้า ไม่ออกลูก GT Car แบบเดิมแน่ๆ…
วางหน้า ขับหลัง เครื่องสูบเรียงแน่นอน
จากความเกรียงไกรของ 2JZ-GTE นั้น ทำให้เราติดภาพเครื่อง 6 สูบ วางเรียง (In-Line 6) อย่างแน่นแฟ้น ไฉนเลยจะมาเปลี่ยนใจฉันได้ แม้ว่าในข่าวตอนแรกก็มีจะมีแนวโน้มว่าเป็นเครื่อง V6 ที่ LEXUS มีตัวแรงมากมาย แต่มันก็คงไม่ถึงอารมณ์เหมือนสิ่งที่คุ้นเคยหรอกจริงไหม เฉกเช่น SKYLINE GT-R คู่แข่งตลอดกาลกับเครื่อง RB26DETT พอมาเปลี่ยนเป็นเครื่อง V6 บล็อก VR38DETT อารมณ์ความชอบก็เปลี่ยนไป ซึ่ง New SUPRA เอง ก็ตัดสินใจ “อนุรักษ์นิยม” ว่ายังไงก็ขออารมณ์เดิมๆ ไว้ก็แล้วกัน ในรุ่น RZ ตัวท๊อป จึงได้แชร์เครื่องยนต์รหัส B58B30 จาก BMW Z4 M40i เป็นขนาด 3.0 ลิตร เท่าเดิม บวกด้วย “หอยเดี่ยวแปรผัน” ให้แรงม้าถึง 335 bhp หรือ 340 PS (อยู่ที่หน่วยการวัด) แรงบิดนี่เด็ดกว่า มหาศาลถึง 500 นิวตัน–เมตร ที่กระชากอัตราเร่ง 0-100 km/h ในเวลา 4.4 วินาที ซึ่งเร็วกว่า JZA80 อยู่ 0.2 วินาที ส่วนการ Balance น้ำหนัก ไม่ต้องห่วงครับ แม้จะเป็นเครื่อง 6 สูบเรียง ที่มีความยาวมาก ตอนนี้คนเลยนิยมเครื่อง V เพราะมันสั้นและกระจายน้ำหนักได้ง่ายกว่า แต่ TOYOTA กับ BMW ก็ทำโจทย์มาดี ให้น้ำหนักกระจาย 50 : 50 เท่ากันทั้งหน้าหลัง ทำให้มีความสมดุลย์สูง…
มี “น้องรอง” ให้เลือกดั่งในอดีต
ในอดีต SUPRA A70 Mark III ปี 1985 จะมีรุ่นท๊อป 3.0 Turbo ขุมพลัง 7M-GTE ในตำนาน รหัสตัวรถ MA70 ส่วนน้องรอง จะเป็นเครื่อง 2.0 Twin Turbo ขุมพลัง 1G-GTE เสียงหวานนุ่มหูนอกจากนี้ เรียกว่ามีให้เลือกสำหรับสาย “เน้นหล่อ ไม่เน้นแรง” เจ้า New SUPRA นั้น ก็มี Choice ให้เลือกเหมือน Z4 เป๊ะเลย ด้วยการมีเครื่องบล็อกเล็ก 4 สูบ 2.0 ลิตร รหัส B48B20 เทอร์โบ ให้พลัง 254 bhp ในรุ่น SZ-R และแรงน้อยสุด ในรุ่น SZ ที่มีพลังน่ารักอยู่ที่ 194 bhp ซึ่งตอนแรก TOYOTA เอง ก็ออกแนว “อ้อมแอ้ม” ไม่อยากเปิดเผยว่ามันจริงหรือไม่ ที่จะมีรุ่นเครื่อง 4 สูบ ด้วย แต่ความจริงปรากฏ ในงาน Goodwood เป็นคำยืนยันจาก Mr. Tetsuya Tada ตำแหน่ง Chief Engineer ของ New SUPRA ได้ยืนยันว่ามีจริง ซึ่งข้อดีของเครื่องเล็ก คือ น้ำหนักเบา มีการสมดุลย์ที่ดี ขับใช้งานได้ทั่วไปแบบรถบ้าน ซึ่ง Platform ก็เหมือนกับตัวเครื่อง 3.0 ลิตร ทุกประการ สามารถสลับกันได้เลยโดยไม่ต้องสร้างอะไรแตกต่างให้ยุ่งยาก หรือถ้ากระสันอยากจะแรงสุดๆ ก็ซื้อตัว SZ นี้มาแล้วจับ 2JZ-GTE ลงไปเลย อย่าท้านะ รอให้รถออกมาก่อนเถอะ เดี๋ยวรู้กัน…
Or The Lost of Manual Shift ???
อีกสิ่งหนึ่งที่แฟนๆ สปอร์ตเรียกร้องมาไม่ขาดสาย กับสิ่งที่ “หายไป” คือ “เกียร์ธรรมดา” พันธุ์แท้ ที่หลายคนถวิลหา เพราะรถปัจจุบันนี้ก็มีแต่เกียร์ออโต้ หรือ เกียร์ไฟฟ้า กันเสียหมดโลกไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้แฟนๆ New SUPRA ผิดหวัง เป็นที่ยืนยันแล้วว่า จะใช้เกียร์ออโต้ ZF แบบ 8 สปีด ทั้งสองรุ่นแน่นอน โดยไม่มีการพูดถึงเกียร์ธรรมดาเลย แต่ข่าวจาก Mr. Tada (ทาดะ บ่แม่น ธาดา เด้อ) ก็บอกว่าเราไม่ได้ตัดเกียร์ธรรมดาออกอย่างไร้เยื่อไย แต่มีพูดแทงกั๊กแบบให้ความหวังเล็กๆ ไว้ว่า “บางทีถ้ามีการเรียกร้องมากๆ จากลูกค้าที่ต้องการเกียร์ธรรมดา หากเป็นยอดการขายที่คุ้มทุน เราอาจจะมีให้เลือกเป็นอุปกรณ์พิเศษก็ได้นะ” แต่คงไม่ใช่ ณ ตอนนี้แน่ๆ เอาเป็นว่า เรายอมรับก่อนก็แล้วกันว่ามันจะมีเฉพาะเกียร์ออโต้เท่านั้น…
ช่วงล่างมีของเด็ด
ระบบช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นแบบ Double Joint Spring Strut (จะคล้ายๆ กับ Super Strut ในอดีตหรือเปล่านะ) ด้านหลังเป็นแบบ Multi-links พิมพ์นิยมรถแรง โดยเน้น Handling ที่เฉียบคม ขับง่าย พร้อมโหมด Normal และ Sport ซึ่งในโหมด Sport นั้น ฟิลลิ่งรถจะเปลี่ยนไป เฟืองท้ายมี Limited Slip แบบควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมแผ่นคลัตช์ปรับส่งกำลังแบบหลายแผ่นซ้อนกัน ปรับได้ “แปรผัน” ตามสภาวะการขับขี่ ไม่ว่าจะ เร่ง เบรก เลี้ยว ช่วยลดอาการ Understeer (หน้าไถ) และ Oversteer (ตูดออก) ให้ “เป็นกลาง” มากขึ้น ส่วน “เกิบ” จะเป็นล้อขอบ 19 นิ้ว พร้อมยาง MICHELIN PILOT SPORT ขนาด 255/35ZR19 และ 275/35R19 หน้าหลังตามลำดับ ส่วน “ห้ามล้อ” เป็นของ BREMBO 4 Pistons ที่ให้จานหน้าขนาด 348 มม. ติดรถมาด้วย…
Feature
สำหรับหัวข้อรายละเอียดต่างๆ รวมถึงราคา ผมมาย่อยไว้ให้ตรงนี้แล้วกัน…
- ในด้าน “ราคา” ตัวท๊อป 3.0 Launch Edition ในอเมริกาเปิดมาที่ 55,250 เหรียญ หรือราวๆ “ล้านแปด” บาทไทย มาบ้านเราก็คงต้องเจอภาษีอีก ลองคิดเล่นๆ ว่ามันจะเท่าไร…
- การประกอบจะทำโรงงานชื่อว่า Magna Steyr ที่ Austria (ออสเตรีย นะครับ บ่แม่น ออสเตรเลีย) ที่เดียวกับ Z4…
- สำหรับ “จอ” ตัว 2.0 จะมีขนาด 6.5 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่ม Rotary ที่คอนโซลกลาง ส่วนรุ่น 3.0 Premium จะเป็นจอขนาด 8.8 นิ้ว พร้อม “Navigator” ส่วนปุ่ม Rotary เป็นแบบสัมผัส พร้อมระบบ SUPRA Connect Telematics, Wireless Apple CarPlay พร้อมลำโพง JBL ขนาด 12 นิ้ว และ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย…
- สำหรับตัวแข่งที่จะออกอาละวาดในรายการ SUPER GT นั้น ทาง Gazoo Racing สร้างออกมาเป็น Prototype ให้เราได้เห็นกันแล้ว สำหรับนักขับก็แน่นอนครับ เป็น “เฟอร์นานโด อลองโซ่” นักขับ F1 มาขยี้คันเร่ง จริงๆ พี่โซ่ เป็นนักขับในสังกัด TOYOTA Gazoo Racing แข่งในรายการ WEC หรือ World Endurance Championship อยู่แล้ว เลยโผล่มาปรากฏตัวในงานเปิดตัว New SUPRA เรียกแขกกันหน่อย…
ทำใจว่าทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง
ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะผิดหวังกับ New SUPRA ที่ความจริงน่าจะ “อลังการ” กว่านี้ เหมือนกับคู่แข่งอย่าง GT-R หรือ NSX ที่เป็นยอดรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นในอดีตเช่นเดียวกัน ปัจจุบันอัพเกรดไปในราคาที่สูง โดยเฉพาะ NSX นี่ไปไกลมาก ทาง TOYOTA วางให้ SUPRA ใช้พื้นฐานร่วมกันกับ Z4 นั้น ส่วนตัวผมเองคิดประเด็นที่มาจากการลดต้นทุน ถ้าออกแบบรถโดยที่เป็น “เอกเทศ” ขึ้นมาใหม่ทั้งคันเหมือนในอดีต จะต้องเสียเวลาและต้นทุนในการ R&D ใหม่ทั้งหมด ราคาก็จะ “บาน” ไปเหมือนพรรคพวก แต่การแชร์พื้นฐานร่วมกันนั้น ทำให้ราคาขายถูกลง สามารถ “เอื้อมถึงได้” ง่ายกว่า ผมว่า TOYOTA อาจจะ “คิดต่าง” ไปจากอดีตก็ได้ และแน่นอนว่า หากเป็นรถที่คนเอื้อมถึงได้ไม่ยากเย็นนัก มันก็คงได้รับความนิยมเหมือน 86 บ้านเราก็ต้อง “รอ” กันหน่อย แต่เชื่อเถอะเศรษฐีไทยไม่คิดมากหรอก…
https://www.carscoops.com/2019/01/2020-toyota-gr-supra-details-photos-videos/